เสือดำ (โจร)
นายดำ สะราคำ | |
|---|---|
ภาพวาดเหมือน นายดำ สะราคำ (เสือดำ) จากคำบอกเล่าของญาติและชาวบ้านที่ทันพบเห็น | |
| เกิด | พ.ศ. 2454 บ้านดอนมะเกลือ ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ประเทศไทย |
| เสียชีวิต | 30 มกราคม พ.ศ. 2492 (38 ปี) บ้านหนองโสน ตำบลหนองโสน อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย |
| สาเหตุเสียชีวิต | วิสามัญฆาตกรรม |
| สัญชาติ | ไทย |
| อาชีพ | ชาวนา, โจร |
| มีชื่อเสียงจาก | อาชญากร, ผู้มีอิทธิพล |
| คู่สมรส | นางสุข |
| คู่รัก | นางน้อม ฯลฯ |
| บุตร | ไม่ทราบจำนวนชัดเจน |
| บุพการี |
|
เสือดำ เป็นอาชญากรชาวไทย ที่ก่อเหตุและมีคดีความอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 7 - รัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ประวัติ
[แก้]ชีวประวัติของเสือดำมักคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากอิทธิพลของบทประพันธ์นวนิยายชุด เสือดำ โดย ป.อินทรปาลิต (นักเขียน) ส่งผลให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างอีกแบบหนึ่ง แต่จากบันทึกของทางราชการ หนังสือและคำบอกเล่าของผู้ร่วมเหตุการณ์ ระบุว่า
เสือดำ มีชื่อจริงว่า นายดำ นามสกุล สะราคำ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2454 ที่บ้านดอนมะเกลือ ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบาง (อำเภอเดิมบางนางบวชในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้อง 8 คน ในครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม (ทำนา) โดยบิดาชื่อ นายผา สะราคำ รับราชการเป็นกำนันตำบลป่าสะแก มารดาชื่อ นางห่วง สะราคำ
วัยเยาว์ เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดป่าสะแก จวบจนสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงช่วยครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยทำหน้าที่เลี้ยงโค กระบือ
เนื่องจากบิดาเป็นกำนัน จึงทำให้นายดำมีนิสัยไม่เกรงกลัวผู้ใด คบเพื่อนเกเร ชักชวนไปในทางทุจริตผิดกฎหมาย เช่น เกะกะระรานชาวบ้าน ลักเล็กขโมยน้อย
จวบจนอายุครบ 20 ปี บิดาจึงให้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดป่าสะแก ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบาง (อำเภอเดิมบางนางบวชในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนมะเกลือ ละแวกบ้าน เป็นระยะเวลา 1 พรรษา จึงลาสิกขาออกมา[1]
เป็นโจร
[แก้]แม้ผ่านการบวชเรียนมาแล้ว แต่นายดำก็ยังคงประพฤติตัวเช่นเดิม ชักชวนพรรคพวกไปสมัครเป็นสมาชิกชุมโจรเสือพรหม ที่บ้านหนองหญ้าปล้อง[1] (บ้านหนองปล้อง) อำเภอนางบวช (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอสามชุก และแยกเป็นอำเภอหนองหญ้าไซ) จังหวัดสุพรรณบุรี
บ้างก็เล่าว่าบ้านของนายดำถูกโจรปล้น พี่ชายของนายดำ คือ นายเวช สะราคำ จึงพาพรรคพวกออกตามล้างแค้นกลุ่มโจรที่มาปล้นบ้าน แล้วถูกกลุ่มโจรนั้นฆาตกรรม นายดำจึงโกรธแค้นแล้วชักชวนพรรคพวกไปล้างแค้นกลุ่มโจรนั้น เสร็จแล้วหลบหนีไปเป็นสมาชิกอยู่ชุมโจรเสือพรหม[2]
อยู่กับเสือพรหมได้ราว 3 ปี เสือพรหมออกปล้นแล้วถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมในเขตพื้นที่อำเภอศรีประจันต์ ส่วนเสือดำและพรรคพวกคนอื่นๆ หลบหนีไปได้[1] ชุมโจรเสือพรหมจึงขาดหัวหน้า สมาชิกแตกแยกออกเป็นกลุ่มเสือแบน เสือดำ เสือเว้า ไล่ฆ่ากันเองเพื่อชิงความเป็นใหญ่[3]
จังหวัดสุพรรณบุรีขณะนั้นมี 7 อำเภอ มีกลุ่มโจรหลายกลุ่ม แต่กลุ่มใหญ่ มี 4 กลุ่ม คือ ชุมเสือพล ชุมเสือแบน ชุมเสือดำ และชุมเสือฝ้าย แบ่งแยกอาณาเขต ดังนี้ พื้นที่อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง บางไทรและเลาขวัญต่อแดนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเขตอิทธิพลของเสือพล พื้นที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี อำเภอศรีประจันต์ ต่อแดนจังหวัดอ่างทอง และอำเภอเดิมบางนางบวชแถบตำบลเขาดิน เป็นเขตอิทธิพลของเสือแบน พื้นที่อำเภอสามชุก กับตะวันตกของอำเภอเดิมบางนางบวช แถบตำบลบ่อกรุ ตำบลป่าสะแก จนป่าใหญ่และโขดเขาติดต่อแดนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเขตอิทธิพลของเสือดำ ส่วนพื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวช ตั้งแต่ต่อแดนอำเภอหันคา ท่าโบสถ์ ปากน้ำ สองฝั่งแม่น้ำลงมาท่านางเริง นางบวช เป็นเขตอิทธิพลของเสือฝ้าย[4] แต่ละชุมโจรไม่ถูกกัน มีอาวุธทันสมัย และมีจำนวนสมาชิกไม่น้อย อิทธิพลครอบคลุมไปถึงจังหวัดเขตติดต่อ[3]
ชุมเสือดำมีเอกลักษณ์คือมักแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรือหมวกสีดำ ชุมโจรใหญ่ตั้งอยู่ที่ไร่อ้อย ใกล้วัดขวางเวฬุวัน ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นชุมโจรขนาดใหญ่ เป็นรองเพียงชุมโจรเสือฝ้ายเท่านั้น[3] มีจำนวนสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 คน[5] โดยปกติสมุนโจรอยู่ที่พักของตน จะรวมตัวกันก็ต่อเมื่อมีงานที่จะทำ (ปล้น)[5]
เสือดำมีลักษณะนิสัยใจคอเหี้ยมโหด ปล้นฆ่า ลักพาตัว เรียกค่าไถ่[4] เสพติดฝิ่น สุรา การพนัน ความครื้นเครง ทรัพย์สินที่ปล้นได้ส่วนใหญ่หมดไปกับอบายมุข[1] จนมีคำกล่าวของชาวบ้านว่า "ชื่อเสือดำ ตัวไม่ดำ แต่ใจดำสมชื่อ"
นางบัวผัน จันทร์ศรี (แม่เพลงพื้นบ้าน และศิลปินแห่งชาติ) เล่าถึงลักษณะเสือดำที่เคยพบเห็น เมื่อครั้งเสือดำจ้างคณะของตนไปทำการแสดงว่า เสือดำนั่งหลังช้างมาดูการแสดง รูปร่างเสือดำ "โอ้โห!...สวยอย่าบอกใครเลย ใส่พระสองเส้นเป็นสังวาล ทองคำพราวเลย ใส่หมวกใบใหญ่ ๆ เชียว สวยหาคนเปรียบยาก เสือดำชื่อดำแต่ว่าผิวขาว แล้วคิ้วก่งอย่างกับเขียนเลย สวยจริง ๆ นะ สวยเหลือเกิน" และยังเล่าอีกว่า "แต่สตางค์เขาจ่ายน่าดูนะ เขาจ่ายไม่อั้น สมัยก่อนนี่พันหนึ่งก็เท่ากับเงินแสนสมัยนี้นะ"[6]
เสียชีวิต
[แก้]พ.ศ. 2489 - 2490 กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายปราบปรามโจร (เสือ) ใช้วิธีโจรปราบโจร ขั้นแรกเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวต่อสู้คดี หากไม่สำเร็จจึงใช้วิธีปราบปรามโดยเด็ดขาด ผลการเจรจาปรากฏว่าเสือฝ้าย เสือมเหศวร เสือแพรว และโจรส่วนใหญ่ยินดีปฏิบัติตาม ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปราบปรามกลุ่มโจรต่าง ๆ แต่เสือดำและลูกน้องไม่ยินยอม[7] เนื่องจากไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่[8] เสือฝ้าย และเสือต่าง ๆ จึงร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กวาดล้างชุมโจรเสือดำที่ป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เสือดำและลูกน้องตกเป็นรองทั้งด้านอาวุธและกำลังพล สู้ไม่ได้จึงต้องหลบหนีไป
เสือดำขณะนั้นมีอาวุธปืนกลเบาแบบติดท้ายเครื่องบินญี่ปุ่น 1 กระบอก เป็นปืนกลเบามีจานกระสุนบรรจุได้ 75 นัด กับปืนทอมป์สัน (ปืนกลมือทอมป์สัน) ปืนสเตน (Sten) ชนิดละ 2 - 3 กระบอก ส่วนลูกน้องประมาณ 40 คน ส่วนมากมีอาวุธปืนเล็กยาวแบบญี่ปุ่น[8]
ต่อมาเจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับเสือดำและลูกน้องที่หัวเขานกจอด (เขานกกระจอก) ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอศรีประจันต์ (ปัจจุบันเป็นเขตตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์) จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ก็ยังปราบปรามเสือดำและลูกน้องไม่สำเร็จ เนื่องจากเสือดำและลูกน้องหลบหนีไปได้ แต่เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลให้กลุ่มโจรเสือดำแตกกลุ่มกระจัดกระจาย เหลือลูกน้องที่อยู่กับเสือดำเพียงไม่กี่คน[6][8]
พ.ต.ต.เลื่อน ปัณฑรนนทกะ (ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี) นำเจ้าหน้าที่ไปสืบข่าวเสือดำอยู่ที่บ้านกกม่วง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี กระทั่งมีลูกน้องเสือดำคนหนึ่งเข้ามอบตัว จึงทราบว่าเสือดำมีลูกและภรรยาอีกคนอยู่ที่บ้านหนองโสน[2] อำเภอพนมทวน (ต่อมาแยกเป็นอำเภอเลาขวัญ) จังหวัดกาญจนบุรี และมักไปพักพิงอยู่กับเพื่อน คือ นายแผน ดอกมะลิป่า ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านที่หมู่บ้านนั้น พ.ต.ต.เลื่อน ปัณฑรนนทกะ จึงแอบติดต่อกับนายแผนแล้วขอให้ร่วมมือปราบปรามเสือดำ มิเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย[8]
วันหนึ่งขณะเสือดำและลูกน้องซึ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจพักพิงอยู่ในป่าที่บ้านหนองโสน นายแผนจึงออกอุบายจัดงานเลี้ยงกลางลานหมู่บ้าน โดยมีข้อห้ามพกพาอาวุธทุกชนิดเข้าร่วมงาน อ้างว่าเวลาเมาจะได้ไม่ก่อเหตุยิงหรือแทงกันในงาน ด้วยความไว้วางใจนายแผนและชาวบ้าน เสือดำและลูกน้องจึงยอมปฏิบัติตาม กระทั่งเวลาค่ำขณะทุกคนกำลังนั่งล้อมวงสังสรรค์ มึนเมาได้ชั่วขณะ โดยมีนายแผนนั่งอยู่ใกล้เสือดำ ลูกน้องนายแผนชื่อว่านายบุญ (เป็นพรานป่า) กับอีกจำนวนหนึ่งได้ใช้ไม้พลองหามหมูหันเข้ามากลางวง เมื่อวางหมูหันเสร็จแล้วจึงชักไม้พลองออก แล้วเดินออกไปพอคล้อยหลังหน่อยเดียวเท่านั้น นายบุญก็เอาไม้พลองฟาดลงที่ทัดดอกไม้และต้นคอของเสือดำจนฟุบลงคาที่ และทันใดนั้นนายแผนและชาวบ้านก็ช่วยกันรุมวิสามัญฆาตกรรมเสือดำและลูกน้องด้วยอาวุธต่าง ๆ จนถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2492 มีเพียงบางคนเท่านั้นที่หลบหนีไปได้[3][1][6][8]
ภายหลังนายแผนได้รับแต่งตั้งเป็นกำนันตำบลหนองโสน แล้วนำลูกของเสือดำซึ่งเกิดกับนางน้อม (ภรรยาในหมู่บ้านนี้)[6] มาเลี้ยงดูเฉกเช่นลูกของตัวเอง ส่งเสียเล่าเรียนจนกระทั่งสำเร็จการศึกษา ประกอบอาชีพรับราชการเป็นครูโรงเรียนประชาบาล[3]
เสือดำในวัฒนธรรมร่วมสมัย
[แก้]เสือดำ ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่าง ๆ ในอดีต แล้วเป็นที่สนใจของสังคม จึงถูกนำมาสร้างเป็นวัฒนธรรมร่วมสมัย ดังนี้
นวนิยาย
[แก้]เสือดำ ที่ปรากฏในนวนิยายประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต (นักเขียน) เป็นตัวละครซึ่งถูกประพันธ์ขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวของเสือดำ (ดำ สะราคำ) ที่ปรากฏในสื่อวิทยุและหนังสือพิมพ์ โดยนวนิยายชุดเสือดำ เล่มที่ 3 ตอนล้างแค้นกับลบลายเสือ วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2492 หลังเสือดำ (ดำ สะราคำ) เสียชีวิตแล้ว มีการตีพิมพ์อ้างว่าเป็นสำเนาจดหมายของเสือดำ จำนวน 2 หน้า[9] ระบุว่า
"สุพรรณบุรี
วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2491
คุณ ป.อินทรปาลิต ที่รักและนับถือ
ถึงแม้ผมจะอยู่ในป่าดงห่างไกลจากตัวเมืองและการคมนาคม ผมกับบริวารของผมก็ได้มีโอกาสอ่านหนังสือพิมพ์ 'ปิยะมิตร' ของคุณเสมอ พวกเราทุกคนพอใจเรื่อง 'เสือใบ' มาก ถึงแม้เป็นเรื่องที่คุณประดิษฐ์ขึ้นเอง คุณก็แต่งได้ดีใกล้เคียงกับความเป็นจริง โดยฉะเพาะคุณได้วางตัว 'เสือใบ' ให้เป็นหัวหน้าโจรที่น่าเคารพรักอย่างยิ่ง ผมยินดีบอกกับคุณว่า 'เสือใบ' คนนี้เองช่วยให้ผมหายจากเลือดร้อนมุทะลุกลายเป็นคนมีอารมณ์เย็นเหมือน 'เสือใบ'
ผมรู้สึกเสียดายมากที่เรื่อง 'เสือใบ' ได้จบลง ถึงแม้คุณจะเขียนเรื่อง 'หน้ากากดำ' ขึ้นมายังสู้ 'เสือใบ' ผู้เป็นพี่ไม่ได้ ผมคิดว่าชีวิตของผมเองก็ได้ผะจญภัยมามากต่อมาก เป็นโจรที่ลือชื่ออยู่ทุกวันนี้ ถ้าหากว่าคุณนำชีวะประวัติของผมร้อยกรองขึ้นเป็นบทประพันธ์ ก็จะทำให้ใคร ๆ รู้จักและเข้าใจในตัวผมดีขึ้น ดังนั้น ผมจึงใช้เวลาว่างเขียนเรื่องย่อ ๆ อันเป็นประวัติย่อของผมส่งมาให้คุณรวม 5 หน้ากระดาษฟุลสแก๊ปพร้อมกับจดหมายนี้ เพื่อขอร้องให้คุณเขียนเรื่องของผมออกเสนอประชาชน ใคร ๆ จะได้รู้พฤติการณ์ของผมอย่างละเอียด ถ้าคุณทำได้ผมจะขอบคุณมาก.
อนึ่ง ผมกับบริวารของผมใคร่จะเชิญคุณไปเที่ยวสุพรรณสักครั้ง เราจะต้อนรับคุณอย่างเต็มที่ทีเดียว หากคุณมีเวลาว่างจะไปได้เมื่อไรแล้ว โปรดลงในหน้าศูนย์รวมข่าวของคุณแจ้งให้ผมทราบกำหนดวันเดินทางล่วงหน้าสัก 10 วัน ผมจะส่งคนมาคอยรับคุณที่สถานีงิ้วราย คุณจะได้รับความสุขและความสดวกสบายทุกประการตลอดเวลาที่คุณเป็นแขกของผม.
ในที่สุดนี้ผมขออวยพรให้กิจการของคุณจงเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ.
รักและนับถือ
เสือดำ."
เสือดำที่ ป.อินทรปาลิต นำมาประพันธ์เป็นตัวละครในนวนิยาย พบว่ามีชีวประวัติแทบทั้งหมดไม่ตรงกับชีวิตจริงของเสือดำ (ดำ สะราคำ) โดยตีพิมพ์เป็นนวนิยาย ดังนี้
- นวนิยายชุด เสือดำ ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2492 ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต
- นวนิยายชุด ลูกดาวโจร ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2493 ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต
- นวนิยายชุด หน้ากากดำ ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2495 ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต
- นวนิยายชุด ผดุงศึกษา ฉบับกระเป๋า ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2498 ประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต
ภาพยนตร์
[แก้]เสือดำ ที่ปรากฏในภาพยนตร์ เป็นเรื่องราวของเสือดำซึ่งถูกประพันธ์ขึ้น อาจมีทั้งตรงและไม่ตรงกับชีวิตจริง เพียงแต่ได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวของเสือดำ (ดำ สะราคำ) ที่ปรากฏในอดีต บางเรื่องสร้างหรือดัดแปลงจากนวนิยายประพันธ์โดย ป.อินทรปาลิต
- ภาพยนตร์เรื่อง สามเสือสุพรรณ ฉายเมื่อ พ.ศ. 2493 บทของเสือดำ แสดงโดย พันธ์จันทร์[10]
- ภาพยนตร์เรื่อง เสือดำ ฉายเมื่อ พ.ศ.2494 บทของเสือดำ แสดงโดย สุรสิทธิ์ สัตยวงศ์[11]
- ภาพยนตร์เรื่อง สามเสือสุพรรณ ฉายเมื่อ พ.ศ.2524 บทของเสือดำ แสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี[12]
- ภาพยนตร์เรื่อง ฟ้าทะลายโจร ฉายเมื่อ พ.ศ.2543 บทของเสือดำ แสดงโดย ชาติชาย งามสรรพ์[13]
- ภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ 3 ฉายเมื่อ พ.ศ.2566 บทของเสือดำ แสดงโดย ภาคิน คำวิลัยศักดิ์[14]
- ภาพยนตร์เรื่อง เสือ ฉายเมื่อ พ.ศ.2568 บทของเสือดำ แสดงโดย ภาคิน คำวิลัยศักดิ์[15]
รายการโทรทัศน์
[แก้]- รายการโทรทัศน์ The Masterpiece เวทีบันลือโลก | EP.06 | เสือดำ | ออกอากาศเมื่อ พ.ศ.2566 บทของเสือดำ แสดงโดย ยุกต์ ส่งไพศาล[16]
ข้อวิจารณ์
[แก้]เกิดข้อวิจารณ์ในสังคมไทย ถึงเรื่องพฤติกรรมโจร (เสือ) ต่าง ๆ ที่ถูกหยิบยกมาสร้างเป็นวรรณกรรม ละคร ภาพยนตร์ ฯลฯ ถึงเรื่องการต่อเติมเสริมแต่ง การสร้างภาพลักษณ์ตัวละครที่อาจไม่ตรงความเป็นจริง การสร้างทัศนคติที่เกิดขึ้นจากมุมมองด้านเดียวของผู้ก่อเหตุ โดยที่ไม่ได้มองอีกด้านซึ่งเป็นฝ่ายผู้เสียหายบ้างเลย
ในช่วงกระแสจตุคามรามเทพกำลังได้รับความนิยม พ.ศ. 2549 - 2551 เสือใบ (นายใบ สะอาดดี) เสือมเหศวร (นายสวน เภรีวงษ์) และพระครูสุนทรธรรมวิมล (ทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร) ออกเดินสายร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลจตุคามรามเทพยังวัดต่างๆ ในประเทศไทย และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมการกล่าวอ้างถึงขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) เสือฝ้าย (ฝ้าย เพ็ชนะ) และเสือดำ (ดำ สะราคำ) ที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ตรงกับความเป็นจริง และแสวงหาผลประโยชน์
ต่อมาเกิดความขัดแย้งกันเรื่องเงิน[17] ภายหลังจึงมีคลิปวิดีโอสัมภาษณ์เสือใบ (นายใบ สะอาดดี) กับเสือมเหศวร (นายสวน เภรีวงษ์) เปิดเผยว่าเสือดำตัวจริงเสียชีวิตไปนานแล้ว ส่วนพระครูสุนทรธรรมวิมล (ทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร) หรือหลวงพ่อเสือดำนั้น เป็นคนละคนกับเสือดำที่เป็นโจรร่วมสมัยกับตน[18][19]
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- 1 2 3 4 5 สำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย. (2528). ประวัติเสือดำ. ใน ประวัติมหาดไทยส่วนภูมิภาค จังหวัดสุพรรณบุรี. หน้า 391 - 394. สุพรรณบุรี: มนัสการพิมพ์.
- 1 2 ตามรอย Studio (2023-05-10), เรื่องนี้ต้องรู้ Ep.2 : เปิดตำนาน“จอมโจรเสือดำ” ตัวจริง (ตอนที่ 1), สืบค้นเมื่อ 2025-10-16
- 1 2 3 4 5 มนัส โอภากุล. (2540, พฤษภาคม). สุพรรณเป็นเมืองโจร เมืองคนดุจริงหรือ?. ศิลปวัฒนธรรม. 18(7): 90 - 101.
- 1 2 นายฉันทนา (นามแฝง). (2489). เสือฝ้าย 10 ทิศ. พระนคร: โรงพิมพ์ไทยพานิช.
- 1 2 สวัสดิ์ มีเพียร. (2537). อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายสวัสดิ์ มีเพียร. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สัมพันธ์พาณิชย์.
- 1 2 3 4 เอนก นาวิกมูล. (2549). เพลงพื้นบ้านภาคกลาง จากแม่บัวผัน จันทร์ศรี ศิลปินแห่งชาติ. กรุงเทพฯ: บริษัท ฟิลสไตล์ จำกัด.
- ↑ สวัสดิ์ มีเพียร. (2537). อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ นายสวัสดิ์ มีเพียร. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.สัมพันธ์พาณิชย์.
- 1 2 3 4 5 เจริญ ตันมหาพราน. (2553). สิ้นลายเสือ. กรุงเทพฯ: บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด.
- ↑ ป. อินทรปาลิต (นามแฝง). (2492). เสือดำ ล้างแค้นกับลบลายเสือ. พระนคร: อักษรประเสริฐ.
- ↑ "สามเสือสุพรรณ (2493)". ไทยบันเทิง. สืบค้นเมื่อ 2025-10-09.
- ↑ "เสือดำ (2494)". ไทยบันเทิง.
- ↑ "สามเสือสุพรรณ (2524)". ไทยบันเทิง.
- ↑ "ฟ้าทะลายโจร (2543)". ไทยบันเทิง.
- ↑ "ขุนพันธ์ 3 (2566)". ไทยบันเทิง.
- ↑ "5 เหตุผล ทำไมต้องดู ภาพยนตร์เสือ - เปิด "จักรวาลขุนพันธ์" บทใหม่ มีอะไรน่าจับตามอง". springnews. 2025-09-30. สืบค้นเมื่อ 2025-10-09.
- ↑ WorkpointOfficial (2023-02-15), The Masterpiece เวทีบันลือโลก | EP.06 | เสือดำ, โหมโรง | 15 ก.พ.66 Full EP, สืบค้นเมื่อ 2024-05-29
- ↑ หนุ่มคงกระพัน official (2023-06-30), Big Story | มหาโจรพันเสือ UNCUT, สืบค้นเมื่อ 2025-10-27
- ↑ CHU CHOK #ชูชก# (2017-12-13), คลิปลับ เสือใบแฉ หลวงพ่อทวีศักดิ์ คือ เสือดำตัวปลอม, สืบค้นเมื่อ 2025-10-27
- ↑ เล่าเรื่อง (2017-12-14), เสือมเหศวร ยืนยันว่า หลวงพ่อทวีศักดิ์ หรือหลวงพ่อเสือดำ คนนี้ ของปลอม!!, สืบค้นเมื่อ 2025-10-27