เรโวลูชัน X
เรโวลูชัน X | |
---|---|
![]() ใบปลิวเวอร์ชันอาร์เคดของทวีปอเมริกาเหนือ | |
ผู้พัฒนา | มิดเวย์ (อาร์เคด) เรจซอฟต์แวร์ (พอร์ต) ซอฟต์แวร์ครีเอชันส์ (พอร์ต) |
ผู้จัดจำหน่าย | มิดเวย์ (อาร์เคด) อะเคลม (พอร์ต) |
ออกแบบ | จอร์จ เปโตร แจ็ก เฮเกอร์ |
แต่งเพลง | คริส แกรนเนอร์ วินเซ ปอนตาเรลลิ (เดี่ยวกีตาร์) แอโรสมิธ |
เครื่องเล่น | อาร์เคด, ซูเปอร์นินเท็นโดเอนเตอร์เทนเมนต์ซิสเตม, เจเนซิส, เอ็มเอส-ดอส, แซตเทิร์น, เพลย์สเตชัน |
วางจำหน่าย | 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 (โปรโต 5.0) 16 มิถุนายน ค.ศ. 1994 (การแก้ไข 1.0, ปัจจุบัน) |
แนว | สนามยิงปืน |
รูปแบบ | ผู้เล่นสูงสุด 3 คน ผู้เล่น 2 คนในระบบคอนโซล |
ระบบอาร์เคด | มิดเวย์ เอกซ์ ยูนิต |
เรโวลูชัน X (อังกฤษ: Revolution X) เป็นวิดีโอเกมยิงปืนที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัทมิดเวย์และเปิดตัวในระบบอาร์เคดเมื่อ ค.ศ. 1994 โดยมีรูปแบบการเล่นคล้ายกับเกมเทอร์มิเนเตอร์ 2: จัดจ์เมนต์เดย์ แต่มีธีมเกี่ยวกับวงแอโรสมิธ โดยเป็นเรื่องราวของระบอบการปกครองนิวออร์เดอร์เนชันที่กดขี่ และผู้นำชื่อเฮลกาได้ลักพาตัวแอโรสมิธ โดยผู้เล่นต้องใช้ปืนติดตั้งเพื่อควบคุมเส้นกากบาทบนหน้าจอและยิงศัตรู สมาชิกของแอโรสมิธได้ซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่งระหว่างประเทศของเกม และต้องหาให้พบเพื่อได้มาซึ่งฉากจบที่แท้จริงของเกม
เกมอาร์เคดประสบความสำเร็จอย่างมากเกี่ยวกับการวิจารณ์และในเชิงพาณิชย์ แต่พอร์ตทั้งหมดกลับได้รับการตอบรับในทางลบ
โครงเรื่อง
[แก้]ในเรื่องราวชาวดิสโทเปียใน ค.ศ. 1996 พันธมิตรของรัฐบาลที่ทุจริตและกองกำลังทหารขององค์การได้เข้าควบคุมโลกภายใต้หน้ากากของ "นิวออร์เดอร์เนชัน" (NON)[1] นิวออร์เดอร์เนชันพร้อมด้วยผู้บัญชาการซึ่งลวงด้วยเสน่ห์ที่ชื่อเฮลกา (แสดงโดยเคอร์รี ฮอสกินส์)[2] ได้ประกาศสงครามกับวัฒนธรรมของเยาวชน (ผู้ใดก็ตามที่มีอายุระหว่าง 13 ถึง 30 ปี) รวมทั้งได้สั่งห้ามดนตรี, โทรทัศน์, นิตยสาร และวิดีโอเกมทุกรูปแบบ ส่วนผู้เล่นเดินทางไปที่ "คลับ X" ในลอสแอนเจลิสเพื่อดูการแสดงสดของแอโรสมิธ แต่วงนี้ได้ถูกกองทหารของนิวออร์เดอร์เนชันจับตัวไว้ และผลักไล่ออกจากเวทีไประหว่างการแสดง หลังจากหนีออกจากคลับ ผู้เล่นได้ขโมยเฮลิคอปเตอร์และบินไปทั่วเมืองเพื่อค้นหารถของวงดนตรีดังกล่าว จากที่นี่ ผู้เล่นจะต้องทำลายการเข้าประจำตำแหน่งของนิวออร์เดอร์เนชันในตะวันออกกลาง, ป่าแอมะซอน และขอบแปซิฟิก จากนั้นเดินทางไปลอนดอนเพื่อเอาชนะเฮลกา และกองกำลังที่เหลือของเธอที่สนามกีฬาเวมบลีย์[3]
รูปแบบการเล่น
[แก้]เรโวลูชัน X เป็นเกมยิงที่ไม่ต้องเดินที่ผู้เล่นจะต้องยิงเป้าหมายรวมถึงทหารนิวออร์เดอร์เนชันและยานพาหนะ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการช่วยเหลือวงดนตรีดังกล่าว ผู้เล่นเริ่มเกมที่คลับ X ในลอสแอนเจลิส โดยขั้นแรกต้องต่อสู้กับกองทหานิวออร์เดอร์เนชัน จากนั้น จึงขโมยเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินข้ามเมือง และค้นหารถของแอโรสมิธ โดยถัดมา พวกเขาจะต้องทำลายโครงสร้างของนิวออร์เดอร์เนชันสามแห่งในป่าแอมะซอน, ตะวันออกกลาง และขอบแปซิฟิก ซึ่งสามด่านนี้สามารถเล่นได้ในลำดับใดก็ได้ อย่างไรก็ตาม การไม่ผ่านด่านตะวันออกกลางให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดจะส่งผู้เล่นกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเพื่อพยายามอีกครั้ง ในที่สุด ผู้เล่นจะได้เข้าสู่สนามกีฬาเวมบลีย์เพื่อการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองกำลังนิวออร์เดอร์เนชัน และหัวหน้านายหญิงที่ชื่อเฮลกา ตลอดทั้งเกม ผู้เล่นสามารถยิงวัตถุที่อาจเผยให้เห็นถึงเพาเวอร์-อัป เช่น เชคเติมพลังชีวิต, ซีดี, เลเซอร์ดิสก์อันทรงพลัง และซูเปอร์กัน, ระเบิดหัวกะโหลก รวมถึงโล่ ผู้เล่นยังสามารถหาตัวประกันและปลดปล่อยพวกเธอ เพื่อรับคะแนนพิเศษตลอดทั้งเกม[4]
ในตอนท้ายของแต่ละด่าน ผู้เล่นจะได้รับคะแนนโบนัสตามจำนวนศัตรูที่ถูกฆ่าและตัวประกันที่ได้รับการช่วยเหลือ รวมถึงจำนวนความเสียหายที่ได้ทำ ส่วนสมาชิกทั้งห้าของแอโรสมิธได้ซ่อนอยู่ในสถานที่ลับตลอดทั้งเกม เมื่อพบ สมาชิกแต่ละคนจะมอบชุดปีกของแอโรสมิธแก่ผู้เล่น ซึ่งจะเพิ่มโบนัสเมื่อจบด่าน ผู้เล่นต้องหาสมาชิกทุกคนให้ได้เพื่อปลดล็อกฉากจบและระดับโบนัสที่ดีที่สุด ซึ่งผู้เล่นจะกลับไปหลังเวทีหลังจากถล่มเฮลกา และสามารถเก็บแมมมีอะวอดส์ที่มีมูลค่าสูง รวมทั้งปาร์ตีกับวงดนตรีดังกล่าวได้
การพัฒนาและการตลาด
[แก้]มอร์ทัลคอมแบต II ได้นำเสนอโฆษณาที่มีเครื่องหมายเรโวลูชัน X แบบเก่าที่ผู้ควบคุมเกมอาร์เคดสามารถเปิดและปิดได้[5] และบางโอกาส หลังจากการระเบิดขนาดใหญ่ในเกม จะสามารถได้ยินสตีเวน ไทเลอร์ พูดว่า "โทสตี!" ด้วยเสียงแหลมสูงในการอ้างอิงถึงสื่อไข่อีสเตอร์ในเกมมอร์ทัลคอมแบต II ทั้งนี้ แรกเริ่มเดิมที เกมนี้ได้รับการพัฒนาในฐานะเกมที่อิงจากภาพยนตร์จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทเซกาได้รับสิทธิ์ดังกล่าวแทน และในที่สุดก็เปิดตัวเกมอาร์เคดตามภาพยนตร์ของตัวเอง จากนั้น บริษัทมิดเวย์จึงได้ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ให้ไปยังแอโรสมิธแทน[6]
ทั้งนี้ รุ่นแรกที่มีป้ายกำกับโพรโต 5.0 (23 พฤษภาคม ค.ศ. 1994) ขาดตัวอย่างคำพูดหลายตัวอย่างที่พูดโดยสมาชิกของแอโรสมิธ ซึ่งสามารถได้ยินได้หลังจากรวบรวมเพาเวอร์-อัป และมีด่านขอบแปซิฟิกที่สั้นกว่า ส่วนการแก้ไข 1.0 (16 มิถุนายน ต.ศ. 1994) ได้กู้คืนตัวอย่างคำพูดที่หายไป และมีด่านขอบแปซิฟิกที่สมบูรณ์ ตลอดจนมีเส้นกากบาทในผู้เล่นคนที่ 2 และผู้เล่นคนที่ 3 โดยเรโวลูชัน X เปิดตัวในรูปแบบผู้เล่นสองคนแบบอาร์เคดตั้งตรง และแบบหรูหราสำหรับผู้เล่นสามคน รวมถึงเป็นชุดแปลงสำหรับเกมปืนที่มีอยู่ เช่น เทอร์มิเนเตอร์ 2: ดิอาร์เคดเกม[7]
เรโวลูชัน X อีกรายการที่มีพับลิกเอเนมีของกลุ่มฮิปฮอปได้รับการพิจารณา แต่มีรายงานว่าถูกยกเลิกหลังจากได้รับการตอบรับเชิงลบที่เรโวลูชัน X รุ่นดั้งเดิมได้รับ[6]
ซาวด์แทร็ก
[แก้]ซาวด์แทร็กประกอบด้วยเพลงของแอโรสมิธหลายเพลงที่วนซ้ำอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ "อีตเดอะริช", "สวีตอีโมชัน", "ทอยส์อินดิแอตติก" และ"วอล์กดีสเวย์"[7] ส่วนเวอร์ชันดนตรีในลิฟต์ของ "เลิฟอินแอนอลิเวเตอร์" บรรเลงในส่วนลิฟต์ของด่านป่าแอมะซอน ซาวด์แทร็กดังกล่าวได้รับการนำเสนอในข้อเสนอซีดีหลังจากเล่น หรือระหว่างโหมดดึงดูดความสนใจ
เวอร์ชันคอนโซลประกอบด้วยลูปเพลง "แร็กดอล" สำหรับหน้าจอดึงดูดความสนใจ, เมนูหลัก และคะแนน ส่วนเพลง "ฟีเวอร์" สำหรับด่านตะวันออกกลาง และเพลง "ดู้ด (ลุกส์ไลก์อะเลดี)" สำหรับตอนจบ
พอร์ต
[แก้]เกมดังกล่าวได้รับการพอร์ตโดยบริษัทเรจซอฟต์แวร์ และบริษัทซอฟต์แวร์ครีเอชันส์ รวมทั้งได้รับการเผยแพร่โดยบริษัทอะเคลมสำหรับคอมพิวเตอร์เอ็มเอส-ดอส, ซูเปอร์นินเท็นโดเอนเตอร์เทนเมนต์ซิสเตม, เมกาไดรฟ์, เพลย์สเตชัน และเซกา แซตเทิร์น[8] นอกจากนี้ ได้มีการเสนอเวอร์ชัน 32เอกซ์ ที่อิเล็กทรอนิกเอ็นเตอร์เทนเมนต์เอ็กซ์โป ค.ศ. 1995[9] แต่ไม่เคยมีการเผยแพร่และอาจไม่เสร็จสมบูรณ์ ส่วนการแปลงของอาตาริ จากัวร์ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและมีกำหนดจะเผยแพร่ประมาณไตรมาสที่สี่ของ ค.ศ. 1995[10] แต่ก็ไม่เคยเปิดตัวออกมา
ไม่มีเวอร์ชันที่บ้านใดที่เข้ากันได้กับไลต์กัน พอร์ตซูเปอร์นินเทนโดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ซิสเตมและเมกาไดรฟ์ได้ลดระดับเลือด รวมทั้งเหล่านักเต้นยั่วยวน (สวมบทโดยแคร์รี ฮอสกินส์) ที่กำลังอวดกางเกงชั้นในของพวกเธอได้รับการพลิกกลับเพื่อให้พวกเธอหันหน้าเข้าหาหน้าจอ ส่วนเวอร์ชันเครื่องเล่นซีดีมีเลือดมากกว่า แต่เหล่านักเต้นยังคงหันหน้าเข้าหาหน้าจอ
การตอบรับ
[แก้]การตอบรับ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ในทวีปอเมริกาเหนือ นิตยสารรีเพลย์รายงานว่าเรโวลูชัน X เป็นเกมอาร์เคดตั้งตรงที่ได้รับความนิยมสูงสุดอันดับห้าในขณะนั้น[20] ส่วนนิตยสารเพลย์มิเตอร์ยังระบุว่าเกมนี้เป็นเกมอาร์เคดที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับสองในขณะนั้น[21] ขณะที่นิตยสารเกมโปรได้ให้คะแนนเวอร์ชันอาร์เคดอย่างล้นหลาม โดยยกย่องความสามารถในการเลือกจากหลายเส้นทาง, ไอเทมลับจำนวนมาก, กราฟิกที่คมชัด และซาวด์แทร็กของแอโรสมิธ พวกเขาสรุปว่า "เรโวลูชัน X ไม่ใช่การปฏิวัติในเกมปืน แต่เป็นเกมที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน"[22] และในบทวิเคราะห์ย้อนหลังของออลเกม ได้กล่าวว่า "ค่อนข้างสนุก" โดยอ้างถึงความโง่เขลาและความสามารถในการเลือกเส้นทางของตัวเองในบางจุด[3]
อย่างไรก็ตาม เกมเวอร์ชันสำหรับใช้ในบ้านได้ถูกตำหนิอย่างเต็มที่จากนักวิจารณ์ ซึ่งนักวิจารณ์ทั้งสี่รายของนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์เกมมิงมันทลียกย่องเสียงพูดและดนตรีดิจิทัลของเวอร์ชันซูเปอร์นินเทนโดเอ็นเตอร์เทนเมนต์ซิสเตมอย่างสูง โดยมีสองคนนที่พูดได้เต็มปากว่าดีที่สุดที่พวกเขาเคยได้ยินบนคอนโซล 16-บิตใด ๆ แต่ถึงกระนั้นก็สรุปว่าเป็นการแปลงใหม่ที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาสังเกตเห็นว่าไม่มีรายละเอียดกราฟิกจำนวนมากจากเวอร์ชันอาร์เคด รวมถึงการเคลื่อนไหวของเคอร์เซอร์ควบคุมที่เชื่องช้าและเอื่อยเฉื่อย[12] ส่วนดิแอกซ์ไกรน์เดอร์จากนิตยสารเกมโปรยังติเตียนกราฟิกและส่วนควบคุมโดยกล่าวว่า "การย้ายเป้าหมายของคุณเป็นเรื่องง่าย แต่การระบุเป้าหมายขนาดเล็กอย่างแม่นยำนั้นยาก" เขาไม่เห็นด้วยกับอิเล็กทรอนิกส์เกมมิงมันทลีในเรื่องเสียง โดยอธิบายว่าดนตรีนั้นทื่อ รวมถึงเอฟเฟกต์เสียงนั้นมีไม่บ่อยนักและไม่ออกเสียง[23] และในฉบับเดียวกัน แอร์ เฮนดริกซ์ ได้พบปัญหาการกำหนดเป้าหมายแบบเดียวกันในเวอร์ชันเจเนซิส และกล่าวว่า "มีความต้องการอย่างมาก" ต่อการสนับสนุนไลต์กัน นอกจากนี้ เขายังพบว่ากราฟิกมีความหยาบ รวมถึงขาด ๆ หาย ๆ ตลอดจนเสียงที่ไม่กระฉับกระเฉง[24] ขณะที่นักวิจารณ์สำหรับนิตยสารเนกซ์เจเนอเรชันได้เย้ยหยัน "กราฟิกที่น่าหัวเราะ, เสียงดิจิทัลที่แยกไม่ออก และดนตรีที่แย่มาก" รวมทั้งเสริมว่าเกมนี้ซ้ำซากและไม่สนุก[14][15]
สเครี แลร์รี แห่งนิตยสารเกมโปรได้วิจารณ์เวอร์ชันเพลย์สเตชันอย่างรุนแรง เมื่อกล่าวถึงการลดความเร็วอย่างเด่นชัด, กราฟิกปานกลาง และซาวด์แทร็กที่ไร้อารมณ์ เขาประเมินว่า "ด้วยการยิงมาตรฐานที่ไม่ตรงตามเกมอาร์เคด เรโวลูชัน X ดูเหมือนเกมเก่าที่ส่งเสียงหายใจลำบากผ่านชื่อเสียงในอดีต"[25] ส่วนนิตยสารเนกซ์เจเนอเรชันให้ความเห็นว่า "เกมยิงนี้ ... เป็นที่นิยมในเกมอาร์เคด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้แย่มาก"[16] และเว็บไซต์ไอจีเอ็นให้คะแนนเวอร์ชันเพลย์สเตชันด้วยคะแนน 1 เต็ม 10 พวกเขาบ่นเรื่องการควบคุมที่ช้าและกราฟิกที่ไม่ดี และสรุปว่า "เรโวลูชัน X ไม่ใช่เกมที่แย่ที่สุดที่เคยมีมา แต่มันก็ใกล้เตียงอย่างแน่นอน"[8]
ส่วนการสะท้อนการประเมินสเครี แลร์รี เวอร์ชันเพลย์สเตชัน บรูซด์ ลี จากนิตยสารเกมโปร ได้แสดงความคิดเห็นว่า "บริษัทอะเคลมได้รับเกมอาร์เคดยอดเยี่ยมของบริษัทมิดเวย์ และเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเกมที่พลาดไม่ได้สำหรับแซตเทิร์น" แต่เขาบ่นเรื่องกราฟิกที่เป็นก้อนเหลี้ยม, ฉากหลังมัว, รูปแบบการเล่นซ้ำ ๆ, การแสดงผลช้าลงมาก และเอฟเฟกต์เสียงแย่[26] ขณะที่นิตยสารเซกา แซตเทิร์น แมกกาซีน สรุปว่า "เป็นเกมที่จืดชืดและซ้ำซากจำเจอย่างเหลือเชื่อ ที่เข้ากับความธรรมดาและความน่าเบื่อของวงดนตรีเท่านั้นที่รับรอง" โดยอ้างถึงการต่อสู้ของบอสที่ยาวนาน และขาดการออกแบบที่ชาญฉลาดในจุดที่ศัตรูปรากฏ[19]
ด้านฌอนเบบีแห่งนิตยสารอิเล็กทรอนิกเกมมิงมันทลีได้จัดให้เวอร์ชันซูเปอร์นินเท็นโดเอนเตอร์เทนเมนต์ซิสเตมอยู่ในอันดับที่ 10 ในสารคดีพิเศษ "20 เกมที่แย่ที่สุดตลอดกาล" ของเขา[27]
ในทางกลับกัน นิตยสารซูเปร์ฆูเอโกสของสเปนให้คะแนนเวอร์ชันซูเปอร์นินเท็นโดเอนเตอร์เทนเมนต์ซิสเตมที่ 91 คะแนน เกี่ยวกับการปรับขนาดให้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของเกม 16 บิต รวมถึงซาวด์แทร็กในฐานะหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของเครื่องเล่นดังกล่าว[28] นิตยสารนี้ยังชื่นชมเวอร์ชันเพลย์สเตชันและเซกา แซตเทิร์น ซึ่งให้คะแนนทั้งคู่ที่ 92 ตะแนน เกี่ยวกับการปรับขนาดที่สังเกตได้ดีที่สุดในเครื่องเล่น[29]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Barnholt, Ray. "Aerosmith Can't Catch a Break". 1up. IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-03-02. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ Covert, Colin (1996-02-09). "She's no mere Mortal; Fridley native Kerri Hoskins puts edge on 'Sonya Blade'". Star Tribune. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-25. สืบค้นเมื่อ 2008-09-29.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 Cook, Brad. "Revolution X – Review". Allgame. Rovi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-15. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ Weiss, Brett Alan. "Revolution X – Overview". Allgame. Rovi. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-15. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ "YouTube: Mortal Kombat II 1 credit clear run". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-03. สืบค้นเมื่อ 2017-09-11.
- ↑ 6.0 6.1 Ungerleider, Neal (November 15, 2007). "The Rocky History of Rockers in Videogames". Wired. Condé Nast. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ 7.0 7.1 เรโวลูชัน X ที่ Killer List of Videogames . Accessed March 5, 2013.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 "Revolution X". November 25, 1996. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-08. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ "32X-Pectations". GamePro. IDG (83): 38. August 1995.
- ↑ "Feature - XT Generation Report - Atari Jaguar". MAN!AC (ภาษาเยอรมัน). No. 20. Cybermedia. June 1995. p. 40.
- ↑ Weiss, Brett Alan. "Revolution X – Review". Allgame. Rovi. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 16, 2014. สืบค้นเมื่อ March 5, 2013.
- ↑ 12.0 12.1 "Review Crew: Revolution X". Electronic Gaming Monthly. No. 78. Sendai Publishing. January 1996. p. 26.
- ↑ Wildgoose, David (March 1996). "Revolution X". Hyper. No. 29. pp. 40–41. สืบค้นเมื่อ May 22, 2021.
- ↑ 14.0 14.1 "Revolution X". Next Generation. No. 14. Imagine Media. February 1996. p. 175.
- ↑ 15.0 15.1 "Don't Walk This Way". Next Generation. No. 15. Imagine Media. March 1996. p. 96.
- ↑ 16.0 16.1 "Every PlayStation Game Played, Reviewed, and Rated". Next Generation. No. 25. Imagine Media. January 1997. p. 59.
- ↑ "Every Sega Saturn Game Played, Reviewed, and Rated". Next Generation. No. 25. Imagine Media. January 1997. p. 65.
- ↑ Revolution X game review, Official UK PlayStation Magazine, Future Publishing issue 6
- ↑ 19.0 19.1 Allsetter, Rob (May 1996). "Review: Revolution X". Sega Saturn Magazine. No. 7. Emap International Limited. pp. 78–79.
- ↑ "Player's Choice - Top Games Now in Operation, Based on Earnings-Opinion Poll of Operators: Best Upright Videos". RePlay. Vol. 19 no. 10. RePlay Publishing, Inc. July 1994. p. 6.
- ↑ "Equipment Poll - Video & Pinball Combined". Play Meter. Vol. 20 no. 9. Skybird Publishing. August 1994. p. 10.
- ↑ "Hot at the Arcades". GamePro. No. 62. IDG. September 1994. p. 24.
- ↑ "ProReview: Revolution X". GamePro. No. 89. IDG. February 1996. p. 74.
- ↑ "ProReview: Revolution X". GamePro. No. 89. IDG. February 1996. p. 70.
- ↑ "ProReview: Revolution X". GamePro. No. 91. IDG. April 1996. p. 72.
- ↑ "ProReview: Revolution X". GamePro. No. 91. IDG. April 1996. p. 81.
- ↑ "Seanbaby's EGM's Crapstravaganza - #10: Revolution X (SNES)". Seanbaby.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2006-07-07. สืบค้นเมื่อ 2019-01-05.
- ↑ "Superjuegos 046".
- ↑ "Superjuegos 048".
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Revolution X at arcade-history
- เรโวลูชัน X ที่ MobyGames