เบสซุส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เบสซุส
จักรพรรดิ
มหาราช
กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย
"กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ทรงประหารชีวิตยานุชยาร์และมาห์ยาร์ ผู้สังหารกษัตริย์ดาริอุส"
จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิอะคีเมนิด
ครองราชย์330–329 ปีก่อนคริสตกาล
ก่อนหน้าดาริอุสที่ 3
ถัดไปอเล็กซานเดอร์มหาราช (จักรวรรดิมาซิโดเนีย)
สวรรคต329 ปีก่อนคริสตกาล
เอคบาทานา
ราชวงศ์อะคีเมนิด
ศาสนาโซโรอัสเตอร์

เบสซุส หรือ เบสซอส (เปอร์เซียโบราณ: *Bayaçā; กรีก: Βήσσος) หรือที่รู้จักในพระนามเมื่อครองราชย์แล้วว่า อาร์ตาเซิร์กซีสที่ 5 (เปอร์เซียโบราณ: 𐎠𐎼𐎫𐎧𐏁𐏂𐎠 Artaxšaçāʰ; กรีก: Ἀρταξέρξης; เสด็จสวรรคตในช่วงฤดูร้อน เมื่อ 329 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นข้าหลวงในส่วนตะวันออกของจักรวรรดิอะคีเมนิดของแคว้นแบคเตรีย รวมถึงเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิอะคีเมนิดที่ทรงประกาศพระองค์เอง ตั้งแต่ระหว่าง 330 ถึง 329 ปีก่อนคริสตกาล

กษัตริย์เบสซุส ซึ่งสมาชิกพระองค์หนึ่งของราชวงศ์อะคีเมนิด ได้ทรงเข้ามามีอำนาจไม่นานหลังจากปลงพระชนม์กษัตริย์ดาริอุสที่ 3 ผู้ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ชอบด้วยกฎมณเฑียรบาล (ทรงครองราชย์ระหว่าง 336 – 330 ปีก่อนคริสตกาล) และต่อมากษัตริย์เบสซุส ก็ทรงพยายามที่จะยึดครองบริเวณตะวันออกของจักรวรรดิเพื่อต่อต้านกษัตริย์แห่งมาซิโดเนียพระนามว่า อเล็กซานเดอร์มหาราช (ทรงครองราชย์ระหว่าง 336 – 323 ปีก่อนคริสตกาล) แต่จักรวรรดิของพระองค์เริ่มแตกสลายอย่างรวดเร็ว รวมถึงแคว้นแบคเตรีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจหลัก พระองค์ทรงถูกจับกุมโดยขุนนางของพระองค์เอง ขณะที่ทรงหลบหนีเข้าไปในแคว้นซ็อกเดีย และส่งมอบตัวพระองค์ให้กับอเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งพระองค์จะทรงถูกสำเร็จโทษที่เอคบาทานาในเวลาต่อมา

กษัตริย์เบสซุสได้ปรากฏอยู่ในมหากาพย์ชอฮ์นอเมของเปอร์เซียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในชื่อ จานูซีปาร์/จานุสยาร์[1] ภายในเรื่องเมื่อเห็นว่าพระองค์ทรงอยู่ในตำแหน่งที่สิ้นหวัง ยานุซิพาร์จึงร่วมมือกับมาห์ยาร์ (นาบาร์ซาเนส) ปลงพระชนม์กษัตริย์ดาราที่ 2 (ดาริอุสที่ 3) จากนั้นจึงพยายามเจรจากับอิสกันดาร์ (อเล็กซานเดอร์) ซึ่งในที่สุดก็ได้พบกับพระองค์[2] หลังจากพิธีพระบรมศพของกษัตริย์ดารา กษัตริย์อิสกันดาร์จึงได้ประหารชีวิตจานูซีปาร์และมาห์ยาร์[3]

อ้างอิง[แก้]

  1. Briant 2015, p. 394.
  2. Briant 2015, pp. 384, 404.
  3. Briant 2015, p. 404.

บรรณานุกรม[แก้]

  • Briant, Pierre (2015), Darius in the Shadow of Alexander, Harvard University Press, ISBN 978-0674493094