เจ้าหญิงอิซาเบล พระราชกุมารีแห่งบราซิล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อิซาเบลแห่งบราซิล
  • พระราชกุมารีแห่งบราซิล
  • เคาน์เตสแห่งอูว์
พระฉายาลักษณ์โดยอินสลีย์ ปาเชโก ป. 1870
ประมุขพระราชวงศ์บราซิล
ระหว่าง5 ธันวาคม ค.ศ. 1891 – 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1921
ก่อนหน้าจักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล
ถัดไปเจ้าชายเปดรู เอ็งริกึ แห่งออร์เลอองส์-บรากังซา
ประสูติ29 กรกฎาคม ค.ศ. 1846(1846-07-29)
ริโอเดจาเนโร บราซิล
สิ้นพระชนม์14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1921(1921-11-14) (75 ปี)
ฝรั่งเศส
คู่อภิเษกเจ้าชายแกสตง เคานต์แห่งอูว์ (สมรส 1864)
พระราชบุตร
พระนามเต็ม
โปรตุเกส: อิซาเบล กริสตินา เลโอโปดินา เอากุสตา มิกาเอลา กาบริเอลา ราฟาเอลา กงซากา
ราชวงศ์บรากังซา
พระราชบิดาจักรพรรดิเปดรูที่ 2 แห่งบราซิล
พระราชมารดาเตเรซา คริสตินาแห่งซิซิลีทั้งสอง
ศาสนาโรมันคาทอลิก
ลายพระอภิไธยCursive signature in ink

เจ้าหญิงอิซาเบล พระราชกุมารีแห่งบราซิล (29 กรกฎาคม ค.ศ. 1846 – 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1921) หรือพระสมัญญา "พระนางผู้มาไถ่" (the Redemptress)[1] ทรงเป็นพระราชกุมารี (Princess Imperial ; รัชทายาทโดยสันนิษฐาน) แห่งจักรวรรดิบราซิล และทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ถึง 3 ครั้ง เจ้าหญิงอิซาเบลประสูติ ณ เมืองริโอเดจาเนโร เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในจักรพรรดิเปดรูที่ 2 กับ เตเรซา คริสตินาแห่งซิซิลีทั้งสอง จักรพรรดินีแห่งบราซิล เจ้าหญิงทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์บรากังซา สาขาบราซิล ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระเชษฐาและพระอนุชาของพระองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงจึงได้ทรงกลายเป็น รัชทายาทโดยสันนิษฐาน ที่จะสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา ทรงเสกสมรสกับ เจ้าชายแกสตง เคานต์แห่งอูว์ มีพระโอรสด้วยกัน 3 พระองค์

ในระหว่างที่พระบิดาเสด็จพระราชดำเนินไปต่างประเทศ เจ้าหญิงทรงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในการดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ครั้งที่สามซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย พระองค์ทรงลงพระนามาภิไธยในกฎหมายชื่อ Lei Áurea หรือกฎหมายทองคำ เพื่อปลดปล่อยทาสทั้งหมดในบราซิล แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้ทรงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง แต่ก็มีการต่อต้านอย่างรุนแรงต่อการสิทธิในการสืบราชสมบัติของพระองค์ ความเชื่อของคาทอลิกที่เหนียวแน่น และการเสกสมรสกับเจ้าต่างชาติถูกมองว่าเป็นอุปสรรคต่อของพระองค์ในการสืบราชสมบัติ รวมทั้งการปลดปล่อยทาสเองสร้างความไม่ชอบในหมู่ชาวสวนชาวไร่ที่มีอำนาจ กระทั่งในปี 1889 พระราชวงศ์บราซิลถูกรัฐประหาร เจ้าหญิงเสด็จลี้ภัยไปยังฝรั่งเศสและใช้เวลาทั้งพระชนม์ชีพที่เหลืออยู่ประทับอยู่ที่ฝรั่งเศสและไม่ได้เสด็จหวนกลับมาตุภูมิอีกเลย

  1. Barman 2002, p. 1.