เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกส
เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกส | |
---|---|
มารีอา ดา อาซุงเซา อนา ฮวนนา โจเซฟา ลุยซา กอนซากา ฟรานซิสกา เดอ อัซซิส ซาเวียร์ เดอ เปาลา โจวควินา อันโตเนีย เดอ ซาน ติอาโก เดอ บรากังซา อี บูร์บง เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกส | |
![]() | |
เจ้าหญิงแห่งโปรตุเกส | |
ราชวงศ์ | บรากังซา บูร์บง |
พระราชบิดา | พระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส |
พระราชมารดา | เจ้าหญิงการ์โลตา โคอากีนาแห่งสเปน |
ประสูติ | 25 มิถุนายน พ.ศ. 2348 ณ พระราชวังหลวงเกวลูซ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส |
สวรรคต | 7 มกราคม พ.ศ. 2377 ณ ซานตาเร็ม ประเทศโปรตุเกส (พระชนมายุ 28 พรรษา) |
เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกส หรือ เจ้าหญิงแห่งบรากังซา (25 มิถุนายน พ.ศ. 2348 - 7 มกราคม พ.ศ. 2377) ทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งโปรตุเกส และเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าโจเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกสกับเจ้าหญิงการ์โลตา โคอากีนาแห่งสเปน
พระประวัติ[แก้]
เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกส มีพระนามเต็มว่า มารีอา ดา อาซุงเซา อนา ฮวนนา โจเซฟา ลุยซา กอนซากา ฟรานซิสกา เดอ อัซซิส ซาเวียร์ เดอ เปาลา โจวควินา อันโตเนีย เดอ ซาน ติอาโก เดอ บรากังซา อี บูร์บง เจ้าหญิงประสูติในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2348 ณ พระราชวังหลวงเกวลูซ ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ทรงได้รับการบัฟติศมาในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2348 ในมหาวิหารหลวงโดยทรงได้รับจากเจ้าคณะบาทหลวง อันโตนิโอ ซาเวียร์ เดอ มิรันดา ผู้ซึ่งเป็นเจ้าคณะบาทหลวงแห่งลิสบอน
เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาแห่งโปรตุเกสทรงอยู่ในพระอิศริยยศ Great-Cross of the Order of Our Lady of Conception และคุณหญิงแห่งเครื่องราชอิศริยาภรณ์แห่งนักบุญอิซาเบล ท่ามกลางพระเชษฐา พระนางทรงสนิทสนมถึงขนาดทรงชื่นชอบกับเจ้าชายมิเกลพระเชษฐา และกลายเป็นความรักอย่างชัดเจนที่ซึ่งเป็นความหลงใหลในการเมืองในขณะนั้นที่ซึ่งไม่เสียผลประโยชน์ในเสียงเล่าลือถึงเรื่องที่น่าเสื่อมเสียชื่อเสียงเช่นนี้
เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาทรงอยู่ในลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ลำดับถัดจากเจ้าชายมิเกล พระนางทรงสนับสนุนเจ้าชายมิเกล เมื่อเจ้าชายได้กระทำการการถอดถอนสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2 แห่งโปรตุเกส ผู้เป็นพระนัดดาออกจากราชบัลลังก์และถอดถอนเจ้าหญิงอิซาเบล มาเรียแห่งโปรตุเกส พระเชษฐภคินีออกจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เจ้าชายมิเกลได้ครองราชย์เป็น พระเจ้ามิเกลแห่งโปรตุเกส มีการกล่าวกันมาว่า พระเจ้ามิเกลไม่มีพระราชประสงค์ในการควบคุมที่รุนแรงและนองเลือด พระเจ้ามิเกลทรงถูกทอดทิ้ง แต่ก็ไม่มีพระราชอำนาจหรืออิทธิพลเพียงพอที่จะนำพาให้ทุกคนเดินตามแนวทางของพระองค์ได้ เมื่อฝ่ายเสรีนิยมได้ชัยชนะในสงครามกลางเมืองที่เรียกว่า สงครามเสรีนิยม ผลที่ตามมาคือพระเจ้ามิเกลถูกเนรเทศออกจากประเทศอีกครั้ง และการครองราชบัลลังก์ครั้งที่สองของสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 2
เมื่อรัฐธรรมนูญได้ถูกจัดตั้งอีกครั้ง เจ้าหญิงมารีอา ดา อาซุงเซาได้ลี้ภัยออกจากกรุงลิสบอนและเสด็จไปยังซานตาเร็มด้วยกองทัพมิเกลลิสตา ที่ซึ่งพระนางได้สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคอหิวาตกโรคที่ซึ่งขณะนั้นเป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ในโปรตุเกส ในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2377 สิริพระชนมายุ 28 พรรษา พระนางไม่ทรงอภิเษกสมรส
พระศพของพระนางได้รับการฝังที่โบสถ์แห่งพระปาฏิหาริย์ในซานตาเร็ม จากนั้นพระศพได้รับการเคลื่อนย้ายไปฝังที่วิหารหลวงแห่งพระราชวงศ์บรากังซาในวิหารเซาวิเซนเต เดอ ฟลอรา ณ กรุงลิสบอน