อิลราชคำฉันท์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
อิลราชคำฉันท์ | |
---|---|
ชื่ออื่น | - |
กวี | มหาเสวกตรี พระยาศรีสุนทรโวหาร (ผัน สาลักษณ) |
ประเภท | นิทาน |
คำประพันธ์ | คำฉันท์ |
ความยาว | 329 บท |
ยุค | รัตนโกสินทร์ |
ปีที่แต่ง | พ.ศ. 2456 |
ลิขสิทธิ์ | - |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมวรรณศิลป์ |
อิลราชคำฉันท์[1] เป็น วรรณคดี คำฉันท์ที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี มีความไพเราะ และนิยมใช้เป็นแบบอย่างในการแต่งคำฉันท์มาช้านาน แม้จะมีความยาวเพียง 329 บท ตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเล็กเพียง 36 หน้ากระดาษเท่านั้น นับเป็นคำฉันท์อีกเรื่องหนึ่งที่นักศึกษาวรรณคดีเอ่ยถึงเสมอ
ผู้ประพันธ์อิลราชคำฉันท์คือ มหาเสวกตรี พระยาศรีสุนทรโวหาร (ผัน สาลักษณ) แต่งเมื่อครั้งยังมีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสารประเสริฐ
ประวัติ[แก้]
ในสมัยรัชกาลที่ 6 นับว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีไทยอีกยุคหนึ่ง ด้วยองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นกวี ขณะเดียวกันการศึกษาในประเทศก็กว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งยังมีนักเรียนไทยได้รับทุนการศึกษาไปเรียนในต่างประเทศ วงการวรรณกรรมจึงมีความคึกคักและเปลี่ยนไหวมากเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นห่วงว่า ธรรมเนียมการแต่งคำประพันธ์อันงดงามแบบเดิมนั้น กำลังจะเลือนหายไป เพราะผู้คนจำนวนมากมองว่าเก่าคร่ำครึ ล้าสมัย จึงทรงแนะนำให้หลวงสารประเสริฐ (ในเวลานั้น) ได้แต่งหนังสือตามธรรมเนียมดั้งเดิมไว้บ้าง เพื่อเพิ่มพูนและผดุงรักษาวรรณศิลป์อย่างเดิมเอาไว้
หลวงสารประเสริฐยังไม่ได้แต่งหนังสือตามรับสั่ง เพราะยังหาเรื่องไม่ได้ แต่ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง "บ่อเกิดรามเกียรติ์" หลวงสารประเสริฐได้อ่าน นิทานเรื่องอิลราช ในอุตตรกัณฑ์แห่งรามายณะ ก็ชอบใจ และเอามาเป็นเนื้อหาที่จะแต่งหนังสือตามรับสั่งดังกล่าว
เนื้อเรื่อง[แก้]
ในนครพลหิกา มีกษัตริย์ครองนคร ทรงพระนามว่า ท้าวอิลราช เป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม วันหนึ่งในวสันตฤดู ทรงออกป่าล่าสัตว์พร้อมบริวาร จนถึงตำบลที่กำเนิดของพระขันทกุมาร ในเวลานั้น พระอิศวรกำลังล้อเล่นกับพระอุมา ชายา ทรงจำแลงกายเป็นสตรี และบันดาลให้ทุกสิ่งในนั้นเป็นสตรีทั้งหมด ครั้นเมื่อท้าวอิลราชและข้าราชบริพารผ่านเข้าไปในป่าดังกล่าว ก็กลายเป็นสตรีไปทั้งหมด
ครั้นเมื่อท้าวอิลราชกลายเป็นสตรี ก็ตกใจ ทูลขออภัยจากพระอิศวร พระอิศวรไม่ทรงยอม แต่พระอุมาเทวีประทานพรให้กึ่งหนึ่ง คือเป็นบุรุษและสตรีสลับกันไปเดือนละเพศ เมื่อเป็นบุรุษ ชื่อ อิลราช เมื่อเป็นสตรี ชื่อนางอิลา
เมื่อถึงเดือนที่เป็นสตรี นางอิลาและบริวารสตรีพากันไปเที่ยวเล่นในป่า และเผอิญพบกับพระพุธ ที่กำลังบำเพ็ญตนในป่า นางอิลาได้อยู่เป็นชายาของพระพุธ จนครบเดือน เมื่อเป็นบุรุษ ก็ลืมความเป็นไปในภาคสตรีเพศ และเป็นเช่นนี้กระทั่งเก้าเดือน นางอิลาก็ให้ประสูติกุมารองค์หนึ่ง พระพุธให้นามว่า ปุรุรพ
เมื่อท้าวอิลราชคืนมาเป็นบุรุษ พระพุธเห็นใจ จึงประชุมมหาฤษีเพื่อหาทางแก้ไขคำสาปให้แก่ท้าวอิลราช ในที่สุดที่ประชุมตกลงทำพิธีอัศวเมธ ทำให้ท้าวอิลราชคืนมาเป็นเพศบุรุษอีกครั้ง
คำประพันธ์[แก้]
อิลราชคำฉันท์ แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ประกอบด้วยฉันท์ชนิดต่าง ๆ 15 ชนิด เป็นกาพย์ 2 ชนิด คือ;
ส่วนฉันท์ในเรื่องนี้ ได้แก่;
- กมลฉันท์
- โตฏกฉันท์
- ภุชงคประยาตฉันท์
- มาณวกฉันท์
- มาลินีฉันท์
- วสันตดิลกฉันท์
- สัททุลวิกกีฬิตฉันท์
- สัทธราฉันท์
- สาลินีฉันท์
- อินทรวิเชียรฉันท์
- อินทวงศ์ฉันท์
- อีทิสังฉันท์
- อุปชาติฉันท์
- อุปัฏฐิตาฉันท์
- อุเปนทรวิเชียรฉันท์
บางตอนจากอิลราชคำฉันท์[แก้]
วสันตดิลก
เรืองรองพระมนทิรพิจิตร | กลพิศพิมานบน | |
ก่องแก้วและกาญจนระคน | รุจิเรขอลงกรณ์ |
ช่อฟ้าก็เฟื้อยกลจะฟัด | ดลฟากทิฆัมพร | |
บราลีพิไลพิศบวร | นภศูลสล้างลอย |
เชิงบัทม์พระบัญชรเขบ็จ | มุขเด็จก็พราวพลอย | |
เพดานก็ดารกพะพรอย | พิศเพียงนภาพพลาม |
สิงหาสน์จรูญจตุรมุข | บมิแผกพิมานงาม | |
พื้นภาพอำพนพิพิธตาม | ตะละเนื่องพนังนอง |
ฉบัง
คล่ำคล่ำส่ำรถอลง- | กตแก้วกำกง | |
ประกอบกนกแนมงอน |
ริ้วริ้วทิวธงสลอน | ลิ่วลิ่วเล็งงอน | |
ก็เงื้อมสง่าโง้งงาม |
ครึกครื้นตื้นไพรไต่ตาม | พ้นพนาราม | |
บรรลุณแหล่งพลหินท์ |