ข้ามไปเนื้อหา

หรงลู่

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กวาเอ่อร์เจีย หรงลู่
Guwalgiya Ronglu
瓜爾佳榮祿
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด( 1836-04-06)6 เมษายน 1836
เสียชีวิต11 เมษายน ค.ศ. 1903(1903-04-11) (67 ปี)
ญาติ
อาชีพข้าราชการ

กวาเอ่อร์เจีย หรงลู่ (จีน: 瓜爾佳榮祿; อักษรโรมัน: Guwalgiya Ronglu หรือ Guwalgiya Jung-lu; 6 เมษายน ค.ศ. 1836 – 11 เมษายน ค.ศ. 1903) เป็นขุนนางและรัฐบุรุษชาวจีนแห่งปลายราชวงศ์ชิง กำเนิดในสกุลกวาเอ่อร์เจียซึ่งทรงอิทธิพลอยู่ในกองธงขาวพิสุทธิ์ (正白旗) แห่งแปดกองธง (八旗) ทั้งยังเป็นญาติกับพระพันปีฉือสี่ (慈禧太后)[1]

ชีวิต

[แก้]

ครอบครัว

[แก้]

หรงลู่เกิดเมื่อวันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1836 เป็นบุตรของกวาเอ่อร์เจีย ฉางโช่ว (瓜爾佳長壽) และเป็นหลานของกวาเอ่อร์เจีย ถาซือฮา (瓜爾佳塔斯哈) ขุนนางเมืองคาฉือ (喀什)

หรงลู่ยังเป็นญาติกับพระพันปีฉือสี่ นอกจากนี้ ร่ำลือกันว่า ก่อนพระนางเข้าวังเป็นสนมนั้น พระนางรักอยู่กับหรงลู่ด้วย[2] ครั้นพระนางได้สำเร็จราชการแผ่นดินจีนทั้งปวงแล้ว หรงลู่ก็ได้เป็นผู้นำกลุ่มการเมืองหัวโบราณในราชสำนักซึ่งคัดค้านการปฏิรูปร้อยวันของคัง โหย่วเหวย์ (康有为) ใน ค.ศ. 1898 และสนับสนุนพระพันปีฉือสี่เสมอมา ฉะนั้น พระนางจึงรำลึกถึงเขาอยู่เป็นนิตย์ และประทานบำเหน็จแก่เขาโดยให้โย่วหลัน (幼兰) ธิดาคนเดียวของเขา ได้สมรสกับองค์ชายไจ้เฟิง (載灃)

โย่วหลันกับองค์ชายไจ้เฟิงมีบุตรด้วยกัน คือ ผู่อี๋ (溥儀) จักรพรรดิจีนพระองค์สุดท้าย ฉะนั้น หรงลู่จึงเป็นตาของผู่อี๋ด้วย

ราชการ

[แก้]

ใน ค.ศ. 1894 หลังเกิดสงครามจีนญี่ปุ่นครั้งแรก หรงลู่ได้รับแต่งตั้งเป็นปู้จฺวินถงหลิ่ง (步军统领; "ผู้บัญชาการทหารราบ") ครั้นปีถัดมา ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกจ๋งหลี่หยาเหมิน (總理衙門) ซึ่งกำหนดนโยบายต่างประเทศ และเป็นปิงปู้ช่างชู (兵部尚書) ซึ่งเป็นเจ้ากระทรวงยุทธนาการ ต่อมาเมื่อเกิดกบฏนักมวย เขาจึงได้บัญชาการอู่เว่ย์จฺวิน (武衛軍; "กองทหารพิทักษ์") ซึ่งรักษาพระนคร

ใน ค.ศ. 1898 หรงลู่ได้เป็นต้าเซฺว่ชื่อ (大学士; "ปราชญ์มหาสำนัก") ซึ่งเป็นสมาชิกของเน่ย์เก๋อ (內閣; "ศาลาใน") หน่วยงานชั้นสูงในราชการ ทั้งยังได้เป็นจื๋อลี่จ่งตู (直隸總督) ซึ่งสำเร็จราชการมณฑลจื๋อลี่ จึงได้บัญชาการเป่ย์หยาง (北洋; "คาบสมุทรอุดร") โดยตำแหน่ง ต่อมา เขาได้เป็นสมาชิกแห่งจฺวินจีชู่ (軍機處; "สภาความลับทหาร") ซึ่งกำหนดนโยบายกิจการภายในประเทศ ทำหน้าที่ประสานงานระหว่างหน่วยรบของต่ง ฝูเสียง (董福祥), เนี่ย ชื่อเฉิง (聶士成), และยฺเหวียน ชื่อไข่ (袁世凱) ครั้นพันธมิตรแปดชาติยาตราเข้าพระนคร พระพันปีฉือสี่ลี้ภัยไปยังซีอาน (西安) รับสั่งให้หรงลู่อยู่รักษาพระนครเป่ย์จิง (北京)[3][4]

กบฏนักมวย

[แก้]

เมื่อเกิดกบฏนักมวย (義和團起義) ขึ้นในระหว่าง ค.ศ. 1899–1901 พระพันปีฉือสี่รับสั่งให้หรงลู่บัญชาราชองครักษ์หลายหน่วยด้วยกัน ตลอดทั้งเฉินจีหยิง (神機營; "ค่ายเทพยนต์), หู่เฉินหยิง (虎神营; "ค่ายพยัคฆ์เทวา"), และเหล่าทหารม้าในการปราบปรามกบฏ นอกจากนี้ ยังรับสั่งให้เขาส่งกำลังไปรักษาอาคารทางทูตทั้งหลายในพระนครด้วย ใน ค.ศ. 1899 พระนางยังเห็นชอบให้หรงลู่จัดตั้งกองทหารที่ทันสมัยขึ้นเป็นครั้งแรก[5]

ครั้นสงครามกับพันธมิตรแปดชาติปะทุขึ้น หน่วยรักษาพระนคร ซึ่งหรงลู่, ต่ง ฝูเสียง, และเนี่ย ชื่อเฉิง บังคับบัญชาอยู่นั้น ถูกโจมตียับเยิบอย่างยิ่ง ถึงขั้นต้องยุบหน่วยนั้นทิ้งไปในที่สุด

แม้จะแสดงออกว่าปกป้องชาวต่างชาติ แต่พระพันปีฉือสี่นั้นคอยสนับสนุนอย่างลับ ๆ ให้กบฏนักมวยเข่นฆ่าชาวต่างชาติเนือง ๆ ฝ่ายหรงลู่เองไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ แต่ก็ไม่ประสงค์จะบาดหมางกับพระนาง ครั้นต่ง ฝูเสียง นำทหารมุสลิมเข้าโจมตีคณะทูตต่างชาติ และองค์ชายไจ่อี (載漪) ซึ่งชิงชังต่างชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น ประสงค์จะนำปืนใหญ่เข้าช่วยต่ง ฝูเสียง รบต่างชาติ หรงลู่จึงออกขวางการลำเลียงอาวุธดังกล่าว เพื่อมิให้นำไปโจมตีต่างชาติ[6][7] แต่ก็ไม่สำเร็จ ถึงกระนั้น การกระทำของหรงลู่ก็ช่วยให้ไม่อาจขนถ่ายอาวุธไปรบต่างชาติได้เต็มอัตรา[8]

นอกจากนี้ พระพันปีฉือสี่มีรับสั่งถึงเนี่ย ชื่อเฉิง ให้เนี่ย ชื่อเฉิง หยุดรบกับพวกนักมวย เพื่อที่เหล่านักมวยจะได้ฆ่าชาวต่างชาติต่อไป หรงลู่ก็เอารับสั่งนั้นซ่อนเสีย และบัญชาให้เนี่ย ชื่อเฉิง ถ่ายกำลังไปพิทักษ์ชาวต่างชาติและรักษาทางรถไฟมิให้ถูกกบฏนักมวยคุกคาม ฉะนั้น กองทัพของเนี่ย ชื่อเฉิง จึงรบราติดพันอยู่กับกบฏนักมวยในเวลาที่กองทัพพันธมิตรแปดชาติยกมาถึงประเทศจีน ปรากฏว่า ทหารเนี่ย ชื่อเฉิง สังหารนักมวยล้มตายลงเป็นอันมาก และช่วยชีวิตทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเอาไว้ได้[9] แต่ก็เป็นที่ระคายเคืองของพระพันปีฉือสี่ เมื่อเสร็จศึกโดยที่กบฏนักมวยถูกปราบราบคาบ พระนางก็ไม่โปรดปรานหรงลู่อีกต่อไป ทำให้หรงลู่สะเทือนใจอย่างยิ่ง ครั้นพระนางเจรจากับพันธมิตรแปดชาติแล้ว พันธมิตรเหล่านั้นเรียกร้องให้พระนางลงโทษแม่ทัพนายกองทั้งหลายที่ช่วยเหลือเหล่านักมวยทำร้ายคนต่างประเทศ แต่มิได้ขอให้ลงโทษหรงลู่ด้วย[10]

อนิจกรรม

[แก้]

หลังจากนั้นไม่นาน หรงลู่ก็ถึงอนิจกรรมเมื่อวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1903 และได้รับราชทินนามพร้อมบรรดาศักดิ์ว่า "เหวินจงอีเติ่งหนันเจฺว๋" (文忠,一等男爵; "เหวินจง (ผู้เป็น) หนันเจว๋ชั้นหนึ่ง")

ตำแหน่ง

[แก้]

หรงลู่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในราชสำนัก เช่น[11]

อ้างอิง

[แก้]
  • Hummel, Arthur William, ed. Eminent Chinese of the Ch'ing Period (1644–1912). 2 vols. Washington: United States Government Printing Office, 1943.
  1. Woo, X.L. Empress Dowager Cixi: China's Last Dynasty and The Long Reign of a Formidable Concubine. p. 17
  2. Old Buddha, Princess der Ling.
  3. http://www.qingchao.net/lishi/ronglu-dongnanhubao/荣禄与东南互保%5Bลิงก์เสีย%5D
  4. http://www.qingchao.net/lishi/ronglu-2/ เก็บถาวร 2012-03-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 论晚清重臣荣禄
  5. http://en.wikisource.org/wiki/Imperial_Decree_on_Day_Nineteen_of_May(lunar_calendar)#Decree_3Imperial
  6. Paul A. Cohen (1997). story in three keys: the boxers as event, experience, and myth.
  7. X. L. Woo (2002).
  8. Stephen G. Haw (2007).
  9. Lanxin Xiang (2003).
  10. Peter Fleming (1990).
  11. Woo, X.L. Empress Dowager Cixi: China's Last Dynasty and The Long Reign of a Formidable Concubine. p. 17