ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระราชินีมิเลนาแห่งมอนเตเนโกร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มิเลนา วูโกติช
พระสาทิสลักษณ์ เมื่อ ค.ศ. 1910
สมเด็จพระราชินีแห่งมอนเตเนโกร
ระหว่าง28 สิงหาคม ค.ศ. 1910 – 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918
เจ้าหญิงแห่งมอนเตเนโกร
ระหว่าง8 พฤศจิกายน ค.ศ. 1860 – 28 สิงหาคม ค.ศ. 1910
พระราชสมภพ4 พฤษภาคม 2391
ประเทศมอนเตเนโกร
สวรรคต16 มีนาคม พ.ศ. 2466 (74 พรรษา)
ฝรั่งเศส
พระราชสวามีพระเจ้านิกอลาที่ 1 แห่งมอนเตเนโกร
พระราชบุตรเจ้าหญิงซอร์กาแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงมิลิตซาแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงอนัสตาเซียแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงมาลิกาแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าชายดานิโล มกุฎราชกุมารแห่งมอนเตเนโกร
เอเลนาแห่งมอนเตเนโกร สมเด็จพระราชินีแห่งอิตาลี
เจ้าหญิงอันนาแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงโซเฟียแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าชายมิครอฟแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงซาเนียแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าหญิงวีเยราแห่งมอนเตเนโกร
เจ้าชายปีเตอร์แห่งมอนเตเนโกร
ราชวงศ์เปรโตวิช-เนจอร์จ
พระราชบิดาเปตรา วูโกติช
พระราชมารดาเยเลนา วูโกติช
ลายพระอภิไธย

สมเด็จพระราชินีมิเลนาแห่งมอนเตเนโกร (ซีริลลิกเซอร์เบีย: Милена Петровић-Његош) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2391 ณ มอนเตเนโกร เป็นธิดาของเปตรา วูโกติช และเยเลนา วูโกติช พระราชบิดาของพระองค์ทรงเป็นเศรษฐีที่ดินรายใหญ่ของประเทศ และยังเป็นสหายคนสนิทของมิครอฟ เปรโตวิช-เนจอร์จ พระราชบิดาในพระเจ้านิกอลาที่ 1 แห่งมอนเตเนโกรซึ่งเป็นทหารในยุค 2393 ในปี 2396 ขณะพระองค์มีพระชนมายุได้ 6 พรรษา ก็ได้หมั้นกับดานิโลที่ 1 เจ้าชายแห่งมอนเตเนโกรซึ่งเป็นพระปิตุลาในพระราชสวามี และเมื่อพระราชมารดาของพระองค์ถึงแก่กรรม การหมั้นนั้นก็ยุติลงเนื่องจากพระองค์และดานิโลที่ 1 เจ้าชายแห่งมอนเตเนโกรมิได้มีใจให้กันแต่อย่างใด พระองค์ทรงเติบโตมาในแบบของผู้ดีชั้นสูงของยุโรป เรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีของยุโรปจนชำนาญ แต่พระองค์ก็ยังทรงไม่สามารถอ่านหนังสือออก พระองค์ถูกส่งไปเรียนในตรีเยสเต พระองค์ทรงสามารถอ่านออกเขียนได้ในเวลาไม่นานก่อนจะย้ายไปปารีส

อภิเษกสมรส

[แก้]

มิเลนา วูโกติชทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับ พระเจ้านิกอลาที่ 1 แห่งมอนเตเนโกร ในเดือนพฤศจิกายน 2403 มิเลนา วูโกติซ รับพระราชทานพระอิสริยยศ เจ้าหญิงพระชายาแห่งมอนเตเนโกร จนกระทั่งพระราชสวามีขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ มิเลนา วูโกติซ จึงเป็น สมเด็จพระราชินีมิเลนาแห่งมเนเตเนโกร ทั้งคู่ มีพระราชบุตรถึง 12 พระองค์ ดังนี้

  1. เจ้าหญิงซอร์กาแห่งมอนเตเนโกร
  2. เจ้าหญิงมิลิตซาแห่งมอนเตเนโกร
  3. เจ้าหญิงอนัสตาเซียแห่งมอนเตเนโกร
  4. เจ้าหญิงมาลิกาแห่งมอนเตเนโกร
  5. เจ้าชายดานิโล มกุฎราชกุมารแห่งมอนเตเนโกร
  6. เอเลนาแห่งมอนเตเนโกร สมเด็จพระราชินีแห่งอิตาลี
  7. เจ้าหญิงอันนาแห่งมอนเตเนโกร
  8. เจ้าหญิงโซเฟียแห่งมอนเตเนโกร
  9. เจ้าชายมิครอฟแห่งมอนเตเนโกร
  10. เจ้าหญิงซาเนียแห่งมอนเตเนโกร
  11. เจ้าหญิงวีเยราแห่งมอนเตเนโกร
  12. เจ้าชายปีเตอร์แห่งมอนเตเนโกร

บั้นปลายพระชนม์ชีพ

[แก้]
สมเด็จพระราชินีมิเลนาแห่งมอนเตเนโกร เมื่อพระชนมายุย่างเข้าปีที่ 70

สมเด็จพระราชินีมิเลนา ทรงดำรงพระชนม์ชีพแบบเรียบง่าย ถึงแม้ประเทศนั้นกำลังต่อต้านราชวงศ์ จนเกิดการปฏิวัติมอนเตเนโกรเข้าสู่ระบอบประธานาธิบดี และพระองค์กับพระราชสวามี จึงเป็นพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระราชินีแห่งมอนเตเนโกรเพียง 2 พระองค์เท่านั้น พระองค์และพระราชสวามีเคยเสด็จพระราชดำเนินเยือนอิสตันบูล ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของ สุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 ในปี 2422 ซึ่งถือเป็นพระราชวงศ์ต่างประเทศเพียงไม่กี่พระองค์เท่านั้น ที่มีโอกาสได้เสด็จไปนครแห่งนี้ จนกระทั่งมอนเตเนโกรถูกผนวกเข้ากับเซอร์เบีย ในปี 2461 พระบรมวงศ่นุวงศ์แห่งมอนเตเนโกรต้องเสด็จพระราชดำเนิน/เสด็จออกจากประเทศซึ่งพระองค์แลพระราชสวามีเสด็จสวรรคตลงในประเทศฝรั่งเศส พระบรมศพของพระองค์และพระราชสวามีถูกฝังในซานโรเม เมืองทางตอนใต้ของอิตาลี

อ้างอิง

[แก้]
  • Houston, Marco, Nikola & Milena: King and Queen of the Black Mountain, Leppi publications, ISBN 0-9521644-4-2
  • Jelena Đurović; Milenija Vračar; Dragica Lompar (2010). Nikola I, gospodar i pjesnik. Centralna Narodna Biblioteka Crne Gore "Đurđe Crnojević". ISBN 978-86-7079-109-1.
  • Два Петровића Његоша, Владика Данило Петровић И Кнез Никола I. 1896.
  • Перо Вуковић (1910). Књаз Никола I као пјесник: написао Перо Вуковић,... Штампарија К. Ц. Министерства војног.
  • King Nikola--personality, work, and time. Crnogorska akademija nauka i umjetnosti. 1998.
  • Radoman Jovanović (1977). Politički odnosi Crne Gore i Srbije 1860-1878. Istorijski institut SR Crne Gore.
  • Novica Rakočević (1981). Politički odnosi Crne Gore i Srbije: 1903-1918. Istorijski institut SR Crne Gore u Titogradu.