รายชื่อตัวละครในอาณาจักรแห่งกาลเวลา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

วีรบุรุษแห่งบ้าน (Heroes)[แก้]

อาเธอร์ เพนฮาลิกอน (Arthur Penhaligon)[แก้]

อาเธอร์ เป็นเด็กชายอายุสิบสองปีจากโลก เป็นลูกที่ถูกรับมาเลี้ยง พ่อบุญธรรมของเขาเป็นอดีตนักดนตรีชื่อดังชื่อ "บ็อบ" ส่วนแม่บุญธรรมของเขาก็เป็นหมอที่เก่งมากคนหนึ่งของประเทศชื่อ "เอมิลี่" และเป็นเพื่อนกับพ่อแม่แท้ๆ ของอาเธอร์ แต่ทั้งสองกลับเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หลังจากอาเธอร์เกิดได้หนึ่งสัปดาห์ แต่บ็อบและเอมิลี่สามารถทำเรื่องรับอาเธอร์เป็นลูกบุญธรรมได้สำเร็จ เพราะโรคที่คร่าพ่อแม่ของเขาเองที่ทำให้อาเธอร์เป็นโรคหอบหืดถาวรตลอดมา

อยู่มาวันหนึ่ง เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น ในขณะที่เขากำลังจะตาย คุณวันจันทร์ก็ปรากฏตัวขึ้น และมอบเข็มนาฬิกาให้แก่เขา ซึ่งจริงๆ แล้วคือครึ่งหนึ่งของกุญแจสู่อาณาจักรทั้งเจ็ด ทำให้เขารอดตาย แต่พอคุณวันจันทร์ทราบว่าเป็นกลลวง ก็ส่งเหล่าเฟทเชอร์ หรือคนหน้าสุนัขเข้ามาบนโลก ทำให้เกิดโรคไข้หลับระบาดไปทั่วเมือง และยังถูกยามเที่ยงของวันจันทร์ตามล่าในห้องสมุดอีก มันเป็นความผิดของเขา อาเธอร์จึงเข้าไปในบ้าน และออกตามหาพินัยกรรมเพื่อไปสู่แหนพิชิตคุณวันจันทร์และรักษาโรคระบาด หลังจากนั้นอาเธอร์จึงจำต้องต่อสู้แย่งชิงกุญแจทั้งหมดเพื่อความสงบสุขของจักรวาล

เมื่ออาเธอร์รวบรวมกุญแจครบเจ็ดดอกแล้ว เขาพบว่าตนเองถูกลิขิตมาให้เป็นมหาสถาปนิกคนใหม่ ผู้ที่จะมาดูแลจักรวาลต่อจากมหาสถาปนิกคนเดิม เขาจึงสร้างตัวเขาเองขึ้นมาอีกคนและส่งกลับโลกพร้อมกับลีฟ โดยหายจากโรคหืดอย่างสิ้นเชิงพร้อมที่จะเริ่มชีวิตใหม่ [1]

ซูซี่ บลูเทอร์คอยซ์ (Suzy Turquise Blue)[แก้]

ซูซี่คือเด็กของคนเป่าปี่ เดิมมีหน้าที่เป็นคนเติมหมึกขั้นที่หก เธอได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งยามสายของวันจันทร์ เป็นหนึ่งในผู้ช่วยเหลือที่ดีที่สุดของอาเธอร์ และเธอก็มักจะมีเรื่องกับคุณหญิงพรีมัสเสมอ ซูซี่เป็นนักผจญภัย และไม่ชอบการถูกกีดกันจากเหตุการณ์ต่างๆ เธอยังชอบแหกกฎเสมอ เธอถูกบรรยายว่าเป็นคนแต่งตัวสกปรก ทำตัวปึงปังและใช้คำตลาดอังกฤษ ชื่อจริงของเธอคือ ซูซานน่า ไดเออร์ (Suzanna Dyer) เธอเกิดและเติบโตในประเทศอังกฤษระหว่างช่วงกาฬโรคระบาดครั้งใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ผู้ใกล้ชิดของเธอตายทั้งหมดระหว่างโรคระบาดครั้งนั้น

ซูซี่เป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาเธอร์ เธอเป็นคนกล้าหาญ และช่วยเหลือมิตรสหายเสมอ แต่บางครั้งเธอก็ยังคงทำตัวเป็นเด็ก แม้ว่าจะมีอายุมาหลายศตวรรษก็ตาม แต่ก็ยังอ่อนต่อโลกอยู่ดี เธอยังมีตำแหน่งเป็นสิบโทพลตระเวนชายแดนในกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก เธอเคยอยู่ในกองหนุนของกองทัพ ซึ่งสามารถเข้ามาช่วยรบในวงกตยิ่งใหญ่ได้

ในตอนท้ายของ พฤหัสเจ้าศาสตรา คนเป่าปี่ได้ควบคุมตัวเธอ เฟรด และเด็กของคนเป่าปี่อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งถูกส่งผ่านบันไดไม่ควรเป็นเพื่อทำลายเดือย เธอกลับมาอีกครั้งในศุกร์รัตติกาล พร้อมกับเฟรดและเบนเนอเรท อูแกมซึ่งเป็นทหารของคนเป่าปี่ (นิทลิ่งใหม่) ซึ่งได้รับคำสั่งให้เฝ้าดูเธอ ซึ่งเธอก็สามารถช่วยให้อาเธอร์ให้สามารถพิชิตบ้านเบื้องกลางได้สำเร็จ

ใน เสาร์มนตรา เธอเลื่อนขั้นตนเองเป็น 'พลเอก" โดยอ้างต่อคุณหญิงพรีมัสว่าอาเธอร์เป็นคนแต่งตั้งให้ เพื่อลดอิทธิพลของเธอในการมีอำนาจเหนือตนเอง เธอยังก่อตั้ง "หน่วยลอบตี" ของตนเองอันประกอบด้วยเด็กของคนเป่าปี่หลายคน หลังจากนั้นเธอเข้าร่วมผจญภัยกับอาเธอร์ในบ้านเบื้องบน แต่ระหว่างช่วยเหลือพินัยกรรมเธอก็ถูกจับตัวไปคุมขังในกรงแขวน เขตลงทัณฑ์บนหอคอยวันเสาร์ แต่ใน อาทิตย์สิ้นสูญ เธอหนีออกมาได้ โดยความช่วยเหลือของนักเวทสำรองชื่อกิแอค และไปสมทบกับคุณหญิงพรีมัสที่วงกตยิ่งใหญ่

หลังจากชัยชนะของอาเธอร์ เธอกลายเป็นหญิงสาว มีความปรารถนาจะเป็นท่านหญิงวันอาทิตย์ และดูแลจักรวาลร่วมกับอาเธอร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา [2]

เฟรด ทองเลขนำ (Fred Initial Numbers Gold)[แก้]

เฟรดเป็นเด็กของคนเป่าปี่ และเป็นทหารใหม่รุ่นเดียวกับอาเธอร์ ผมสีดำ สีผิวค่อนข้างคล้ำ เป็นมิตร มีน้ำใจ เรียนรู้เร็ว ช่างพูด เคยทำงานอยู่ที่บ้านเบื้องกลาง ทำหน้าที่ปิดทองต้นฉบับหนังสืออยู่ที่อาคารกิจกรรมนักวาดอักษรฯ มาอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลงก่อนอาเธอร์วันเดียว แต่ก็รู้เรื่องนายทหารต่างๆ ในกองทัพแต่ละหน่วยหมดแล้ว เขาเป็นคนเดียวที่อาเธอร์ไว้วางใจขณะอยู่ที่ค่ายเปลี่ยนแปลง และถูกเรียกไปป้อมกลางพร้อมกับอาเธอร์ด้วย หลังจากอาสาเป็นหน่วยเข้าตีของเซอร์พฤหัสบดี เขาถูกจับไปเป็นทหารของคนเป่าปี่ เขากลับมาอีกครั้งใน ศุกร์รัตติกาล พร้อมกับซูซี่และอูแกม เขาเคยแอบอ่านตำราของผู้รับใช้มีปีกแห่งรัตติกาล จึงชำนาญในการแปลสัญลักษณ์ของผู้รับใช้

ลีฟ (Leaf)[แก้]

เป็นเพื่อนของอาเธอร์ที่โรงเรียน ปรากฏตัวในตอน จันทร์มหันตภัย และสามารถช่วยเหลืออาเธอร์จากอาการโรคหืดกำเริบได้ ทั้งเธอและพี่ชายของเธอ เอ็ด สามารถมองเห็นเฟทเชอร์ได้ เธอปรากฏตัวอีกครั้งใน อังคารอหังการ และสามารถช่วยให้เขารอดพ้นจาก สเกาเชอร์

ในตอน พุธเพชฌฆาต เธอได้เข้ามาพบอาเธอร์ในโรงพยาบาล แต่ในระหว่างนั้นก็มีน้ำทะเลเข้าท่วมห้อง และมีเรือฟลายอิ้ง แมนทิส ซึ่งได้รับมอบหมายให้พาตัวอาเธอร์ขึ้นเรือไป แต่พวกเขาพลาด และนำลีฟขึ้นเรือไปแทน เธอถูกตั้งข้อหาลักลอบขึ้นเรือ แต่พลเรือจัตวามองค์ตันสามารถแก้ต่างให้เธอได้ แต่เธอต้องเป็นเด็กชายประจำเรือฟลายอิ้ง แมนทิส หลังจากนั้น เรือฟลายอิ้ง แมนทิสก็ถูกโจมตีโดยกัปตันฟีเวอร์ฟิว เธอจึงถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อที่จะให้บอกข้อมูลเกี่ยวกับอาเธอร์ และเธอก็ยังมีส่วนในการสังหารฟีเวอร์ฟิวโดยการเตะหัวของเขาลงในทะเลสาบสุญญะด้วย

ในตอน พฤหัสเจ้าศาสตรา เธอจำเป็นต้องกลับเข้ามาในโลก เนื่องจากเด็กชายไร้หนัง เข้าแทนที่อาเธอร์ภายในโลก เธอยังสามารถนำกระเป๋าเสื้อนักเรียนของอาเธอร์ไปมอบให้แก่ซูซี่ ซึ่งจะสามารถทำลายเด็กชายไร้หนังได้ อาเธอร์สามารถกลับบ้านได้แล้ว เธอยังเป็นคนแรกที่พบท่านหญิงวันศุกร์บนโลก

ในตอน ศุกร์รัตติกาล ลีฟได้ตามกลุ่มผู้รู้ตายไปยังสถานปลีกวิเวกของท่านหญิงวันศุกร์ ซึ่งระหว่างนั้น เธอพยายามวางแผนจะช่วยเหลือป้ามะม่วง และหาโทรศัพท์ เธอได้เรียกลูกทะเลเป็นครั้งที่สอง ซึ่งก็มาช่วยเธอได้ในตอนท้าย

พินัยกรรม (The Will)[แก้]

พินัยกรรมคือเอกสารสำคัญซึ่งมหาสถาปนิกได้ทิ้งเอาไว้เมื่อเธอจากไป เพื่อให้การจัดการภายในบ้านดำเนินต่อไป มหาสถาปนิกเขียนพินัยกรรมขึ้นและปิดทองมันด้วยตนเองเมื่อหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีก่อน อย่างไรก็ตาม คณะผู้ดูแลทั้งเจ็ดได้ทำการฉีกพินัยกรรมออกเป็น 7 ส่วน และนำไปซ่อนในเขตแดนที่แตกต่างกันภายในบ้านและอาณาจักรชั้นที่สอง หนึ่งหมื่นปีหลังจากที่มหาสถาปนิกจากไป พินัยกรรมกลายเป็นสิ่งที่นึกคิดได้ และทำการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเอง พินัยกรรมส่วนแรกได้หนีออกมาจากการคุมขังได้ และพยายามค้นหาทายาทผู้ทรงสิทธิ์ และได้มอบหมายงานให้ ในที่สุด มันก็มาพบกับอาเธอร์ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในบ้าน

พินัยกรรมส่วนที่หนึ่ง[แก้]

ประกอบด้วยย่อหน้า 3-7 ถูกยึดครองโดยคุณวันจันทร์และเก็บรักษาไว้บนดาวดับ อยู่ในรูปของกบ ภายหลังหนึ่งหมื่นปีที่มหาสถาปนิกจากไป ย่ำค่ำของวันจันทร์ (ซึ่งตอนนี้ได้เป็นยามเที่ยง) ได้ปลดปล่อยเอามันออกมาโดยให้กล่องยานัตถุ์วิเศษแก่ผู้ตรวจการ แล้วเมื่อผู้ตรวจการสูดเข้าไปในจมูกแล้วจามออกมา มันก็หนีออกมาได้แล้วไปเข้าสิงพ่อบ้านของวันจันทร์ สนีซเชอร์ และพยายามโน้มน้าวให้วันจันทร์มอบกุญแจนาที (กุญแจน้อย) ให้แก่อาเธอร์ในฐานะของทายาทผู้ทรงสิทธิ์ หลังจากนั้นพินัยกรรมส่วนแรกก็ออกจากร่างของสนีซเชอร์และอยู่ในรูปของกบหยก ซึ่งอาศัยอยู่ในคอของซูซี่ และพยายามให้เธอร่วมมือกับอาเธอร์ในการเอาชนะคุณวันจันทร์และปกครองบ้านเบื้องล่าง

หลังจากที่อาเธอร์มอบหมายให้เธอเป็นรักษาการณ์แทน เธอก็เปลี่ยนเป็น คุณหญิงพรีมัส ซึ่งเป็นผู้หญิงสง่าร่างสูง เธอมักจะแก้ไขความเสียหายต่างๆ ภายในบ้าน เธอยังตัวสูงขึ้น แข็งแกร่ง และมีความรู้มากขึ้นเมื่อเธอรวมเข้ากับพินัยกรรมส่วนอื่นๆ

พินัยกรรมส่วนแรกนี้เป็นตัวแทนของความอดทน (ซึ่งใช้แก้บาป โทสะ)

พินัยกรรมส่วนที่สอง[แก้]

ประกอบด้วยย่อหน้าที่ 8-13 ถูกซ่อนโดยอังคารเคร่งภายในดวงอาทิตย์ ส่วนหนึ่งของอาณาจักรชั้นที่สอง ซึ่งอยู่ในภายในขวดโลกใบเล็กของลูกทะเลอีกที มันอยู่ในรูปของหมีตะวัน(Sun Bear) ลูกทะเลได้ให้ความช่วยเหลือแก่อาเธอร์ในการนำพินัยกรรมมันออกมา ซึ่งเกิดจากความไม่รอบคอบของอังคารเคร่งที่ไม่ออกคำสั่งลูกทะเลรัดกุมพอ คือสั่งให้ลูกทะเลพาวันหนึ่งๆ เข้าไปดูพินัยกรรมได้ ซึ่งอาเธอร์ผู้พิชิตคุณวันจันทร์ได้เป็นวันจันทร์แล้ว ลูกทะเลจึงพาอาเธอร์เข้าไปช่วยพินัยกรรมได้ ต่างจากพินัยกรรมส่วนแรก มันกลับไม่ยอมรับความเป็นนายแห่งบ้านเบื้องล่างและพยายามทำให้เกิดการประลองกันเพื่อชิงความเป็นเจ้าของผืนดินไกล

พินัยกรรมส่วนนี้เป็นตัวแทนของความรอบคอบ

พินัยกรรมส่วนที่สาม[แก้]

พินัยกรรมส่วนที่สามในร่างของปลาคาร์พ ซึ่งถูกซ่อนอยู่ในท่าเรือลับของฟีเวอร์ฟิว ท่านหญิงวันพุธเคยคิดที่จะปลดปล่อยมันออกมา แต่แผนการก็ล้มเหลวเมื่อเธอถูกหักหลังโดยวันเสาร์เลอเลิศ มีความมุ่งมั่นในเรื่องของศรัทธา คาร์พได้ช่วยทาสของฟิเวอร์ฟิวชุดแรก จนทาสยอมเป็นสาวกของท่านเพราะคาร์พสอนให้พวกเขามีศรัทธาแล้วทุกๆ อย่างจะเป็นไปด้วยดี และให้ศรัทธาว่าสักวันหนึ่งทายาทผู้ทรงสิทธิ์จะมาช่วยพวกเขา เมื่อสาวกเพิ่มมากขึ้น คาร์พจึงขยายขนาดให้สาวกยำเกรง คาร์พและสาวกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาฟันในเกาะลับของฟิเวอร์ฟิวโดยคาร์พเป็นผู้ปกป้องไม่ให้โจรสลัดบุกมาจับตัว พินัยกรรมส่วนนี้จึงเป็นตัวแทนของความ มีศรัทธา นั่นเอง

พินัยกรรมส่วนที่สี่[แก้]

อยู่ในรูปของงูที่พันรอบกุญแจดอกที่สี่ พินัยกรรมส่วนนี้มีความพิเศษตรงที่ว่ามันสามารถปลดปล่อยตัวเองได้ แต่ต้องให้ความสนใจของเซอร์พฤหัสบดีเบี่ยงเบนไปมากพอ (ยั่วให้เขาโกรธเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด) หลังจากมันถูกปลดปล่อยมันก็ได้เสนอให้เกิดการไต่สวนความผิดของเซอร์พฤหัสบดี แต่ก็ถูกอาเธอร์ขัดขวาง มันยังลงไปพบคนเป่าปี่พร้อมกับอาเธอร์ และได้พ่นพิษ (กรด) ใส่ปากของคนเป่าปี่ ทำให้เกิดการรบในตอนท้ายของพฤหัสเจ้าศาสตรา อาเธอร์ไม่อยากเห็นหน้ามันอีก มันจึงได้เลื้อยหนีออกจากแขนของอาเธอร์ไปรวมตัวกับคุณหญิงพรีมัส พินัยกรรมส่วนนี้เป็นตัวแทนของความยุติธรรม

พินัยกรรมส่วนที่ห้า[แก้]

อยู่ในรูปของสัตว์ประหลาดกึ่งมังกรกึ่งค้างคาว หรือไวเวิร์น ตั้งแต่เอวขึ้นไปดูเหมือนสุนัขจิ้งจอก มีขนสีน้ำตาล มีฟันแหลมๆ หลายซี่ ตั้งแต่เอวลงมาเป็นมังกรมีเกล็ดสีน้ำเงิน ปีกบางเหมือนกระดาษ ถูกเคารพยำเกรงโดยผู้รับใช้มีปีกแห่งรัตติกาลของบ้านเบื้องกลาง อาเธอร์พบว่ามันถูกจำขังโดยท่านหญิงวันศุกร์ภายใน "ความมืดด้านใน" ของระบบถ้ำ ซึ่งเป็นที่อยู่ของผู้รับใช้ บนที่ราบสูงบนสุดของบ้านเบื้องกลาง มันอาศัยอยู่ในความมืดมานานจึงไม่ชอบแสง ถูกขนานนามโดยผู้รับใช้เหล่านั้นว่าเป็น "สัตว์ร้าย" แต่แท้จริงแล้วมันกลับเป็นสัตว์ที่น่าพอใจและอ่อนโยน มันยอมช่วยเหลืออาเธอร์ในทันทีที่เขาปลดปล่อยมัน เป็นตัวแทนของความพอประมาณ มันกล่าวขอโทษอาเธอร์และบอกว่าที่คุณหญิงพรีมัสมีความรุนแรงก็เนื่องจากไม่มีตัวมันรวมอยู่ด้วย มันมีลักษณะคล้ายสุนัข ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบาปริษยา

พินัยกรรมส่วนที่หก[แก้]

อยู่ในรูปของนกกาเหว่า เป็นตัวแทนของความกรุณา เป็นพินัยกรรมที่ใจดีและมีไหวพริบเฉียบแหลม วันเสาร์ได้ซ่อนพินัยกรรมไว้ในเม็ดฝนเพื่อให้หายากขึ้น โดยแต่ละเม็ดจะมีตัวอักษรของมันอยู่ อาเธอร์จึงต้องไปที่แท็งค์น้ำประจำหอคอยกลางในหอคอยวันเสาร์เพื่อรองรับน้ำฝน จากนั้นจึงเรียกพินัยกรรมจากใจของเขา พินัยกรรมจึงปรากฏตัวออกมาแล้วทำการช่วยเหลืออาเธอร์ มันได้บอกความลับสุดยอดของบ้านแก่อาเธอร์ ถึงจะฉลาด แต่วางแผนไม่เก่งเลย[3] อย่างไรก็ตามความรู้ที่มันมีก็พอช่วยให้อาเธอร์คิดแผนการเอง

หลังจากคลาดกับอาเธอร์หลังร่วงหล่นจากรูที่เส้ากระทุ้งเจาะพื้นสวนไร้ที่เปรียบ พินัยกรรมจึงบินไปช่วยซูซี่ที่ถูกขังอยู่ในกรงแขวนตามคำขอของอาเธอร์ [4] และร่วมมือกับกิแอค นักเวทสำรอง ในการเปิดลิฟต์เพื่อลงไปสมทบกับคุณหญิงพรีมัสที่ป้อมกลาง [5] หลังจากนั้นพินัยกรรมจึงรวมตัวกับส่วนที่ใหญ่กว่าของมัน ส่วนที่หกนี้จึงเป็นส่วนเดียวที่มีบทบาทในหนังสือมากกว่าหนึ่งเล่ม

พินัยกรรมส่วนที่เจ็ด[แก้]

พินัยกรรมส่วนที่เจ็ดเป็นตัวแทนของความหวัง พินัยกรรมส่วนนี้แตกต่างจากหกส่วนแรก ตรงที่มันอยู่ในรูปของต้นแอปเปิ้ลต้นเล็ก เป็นต้นไม้แทนที่จะอยู่ในรูปของสัตว์ ลอร์ดวันอาทิตย์จัดการขังมันไว้ในกรงชุบทองที่ผู้ใดแตะแล้วต้องตาย ตั้งไว้กลางสวนไร้ที่เปรียบ มีเพียงกุญแจดอกที่เจ็ดและฉมวกของลูกทะเลเท่านั้นที่สามารถเปิดกรงได้ อาเธอร์จึงเรียกลูกทะเลมาช่วย แต่นั่นก็ทำให้เขาหมดพละกำลังและตายลงในที่สุด หลังจากอาเธอร์ปลดปล่อยมันแล้ว วันอาทิตย์พยายามหยุดยั้งเขา แต่พินัยกรรมก็ใช้กิ่งก้านและรากของมันเกี่ยวแขนของวันอาทิตย์ อาเธอร์จึงอ้างสิทธิกุญแจดอกที่เจ็ดได้สำเร็จ [6] เมื่อคุณหญิงพรีมัสมาถึงอีลีเซียม เธอกัดแอปเปิ้ลผลเดียว พินัยกรรมก็รวมตัวกัน [7]

พินัยกรรมฉบับสมบูรณ์: คุณหญิงพรีมัส[แก้]

พินัยกรรมแต่ละส่วนแท้จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของมหาสถาปนิก มีจุดประสงค์เพื่อส่งมอบอำนาจสู่ทายาทผู้ทรงสิทธิ์ให้สร้างจักรวาลขึ้นมาใหม่หลังมหาสถาปนิกทำลายจักรวาลเดิมทิ้ง เนื่องจากมหาสถาปนิกปรารถนาจะกลับสู่สุญญะ แต่นางไม่สามารถทำได้เพราะส่วนหนึ่งของเธอ ผู้ชรา ยังถูกจองจำอยู่ ทางเดียวที่จะปลดปล่อยผู้ชราได้จะต้องทำลายสิ่งสร้างของเธอทั้งหมดเสีย ดังนั้นเธอจึงสร้างพินัยกรรม

ตามคำบอกเล่าของวันอาทิตย์ ผู้ดูแลเชื่อว่าพินัยกรรมมีจุดประสงค์เพื่อสังหารพวกเขา เนื่องจากผู้ดูแลทุกคนต่างรู้จุดประสงค์ของมันที่จะทำลายจักรวาล พวกเขายอมรับเรื่องนี้ไม่ได้จึงฉีกมันออกเป็นส่วน ๆ ตามความเห็นชอบของวันอาทิตย์[8] เมื่อพินัยกรรมรวมร่างได้มากขึ้น ๆ จึงจัดการผู้ดูแลทิ้งทีละคน ตามจุดมุ่งหมายของมัน นอกจากนี้ยังเป็นการปิดปากพวกเขาไม่ให้บอกความจริงกับอาเธอร์ด้วย โดยอ้างว่าเป็นฝีมือของผู้ดูแลคนอื่นที่ส่งผู้สังหารมา ให้อาเธอร์กลัว จะได้เชื่อฟังมัน และเป็นสื่อกลางให้มันในการทำลายจักรวาล

คณะผู้ดูแล (The Seven Trustees)[แก้]

คณะผู้ดูแลทั้งเจ็ดได้ชื่อต่ามวันทั้งเจ็ดวันของสัปดาห์ พวกเขาทั้งหมดได้ทรยศต่อมหาสถาปนิกและเลือกที่จะครอบครองดินแดนภายในบ้านและกุญแจสู่อาณาจักรไว้เอง แทนที่จะส่งมอบต่อให้กับทายาทผู้ทรงสิทธิ์อย่างถูกต้อง พวกเขาได้ฉีกพินัยกรรมออกเป็น 7 ส่วน แยกมันออกจากกันและจำขังมันไว้ ท่านหญิงวันพุธเป็นผู้ดูแลเพียงคนเดียวที่พยายามจะปลดปล่อยพินัยกรรมส่วนของตนออกจากการคุมขัง แต่ก็ถูกขัดขวางโดยผู้ดูแลคนอื่นๆ ด้วยพลังของกุญแจสู่อาณาจักรทั้งเจ็ด พวกเขาจึงแข็งแรงและมีความสำคัญกว่าพลเมืองทั่วไป อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่เป็นอมตะ ในตอนพฤหัสเจ้าศาสตรา คุณวันจันทร์ อังคารเคร่งและวันพุธจมตาย ก็เสียชีวิตลงโดยสาเหตุที่แตกต่างกัน

คุณวันจันทร์ (Mister Monday)[แก้]

คุณวันจันทร์คือผู้ปกครองบ้านเบื้องล่าง และควบคุมการจำขังของพินัยกรรมส่วนที่หนึ่ง ด้วยบาปเกียจคร้าน เขาจึงไร้สมรรถภาพการทำงาน และได้มอบอำนาจการปกครองบ้านเบื้องล่างให้แก่ ย่ำรุ่ง ยามเที่ยงและย่ำค่ำของวันจันทร์แทน ภายหลังจากการต่อสู้และอาเธอร์ได้กุญแจสู่อาณาจักรดอกแรกแล้ว อาเธอร์ได้ทำการดูแลรักษาเขาทั้งร่างกายและจิตใจ วันจันทร์ได้เปลี่ยนไปนับถืออาเธอร์เหมือนกับเจ้านาย รู้สึกขอบคุณที่มอบชีวิตใหม่ให้แก่เขา ในตอนพฤหัสเจ้าศาสตรา เขาถูกมือสังหารนิรนามแทงเขาที่หัวและหัวใจด้วยใบมีดเวทมนตร์

อังคารเคร่ง (Grim Tuesday)[แก้]

อังคารเคร่งคือผู้ดูแลผืนดินไกล เขาได้รับบาป โลภะ เนื่องจากมีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะสร้างวัตถุและค้าขายมันออกไป เขาได้ค้นพบน้ำพุซึ่งปล่อยเอาสุญญะออกมา ด้วยความไม่รู้จักพอของเขา เขาจึงสั่งให้ขุดเจาะทางเข้าเข้าไปในนั้นจนมันเป็นโพรง และเมื่อเวลาผ่านไป มันจึงกลายเป็นหลุมลึก ซึ่งเขาได้รับพลเมืองจากวันอื่นๆ เข้ามาทำงานในเหมืองสุญญะของตน เขายังสะสมสมบัติที่ขโมยมาจากอาณาจักรชั้นที่สองไว้ในหอสมบัติของเขา ถึงแม้ว่าอังคารเคร่งจะเป็นผู้สร้าง แต่ก็เป็นเพียงแค่การเลียนแบบเท่านั้น อังคารเคร่งจึงแพ้การทดสอบของพินัยกรรมเพื่อชิงตำแหน่งของเจ้าผินดินไกลคนใหม่ ในตอนพฤหัสเจ้าศาสตรา คุณหญิงพรีมัสแจ้งว่าอังคารเคร่งถูกโยนลงไปในหลุมลึกจากระดับบนสุด ตกลงไปในสุญญะ ซึ่งทำให้เขาเสียชีวิต เขาได้รับบาปโลภะ

ท่านหญิงวันพุธ (Duchess Wednesday)[แก้]

เป็นผู้ดูแลทะเลกั้นอาณาเขต หรือรู้จักกันในนาม "วันพุธจมตาย" "วันพุธปลาวาฬ" "ท่านหญิงวันพุธ" "ดัชเชสวันพุธ" เดิมเธอเคยมีรูปร่างสวยงาม แต่ทันทีที่วันพุธรับชิ้นส่วนของพินัยกรรม เธอก็เกิดอาการหิวโหยอย่างที่พลเมืองไม่เคยเป็นมาก่อน วันพุธรับประทานอาหารเป็นตันๆ ต่อวันเป็นเวลาถึงสองพันปี ต่อมาวันพุธต้องการปลดปล่อยพินัยกรรมจึงไปบอกวันเสาร์แต่ถูกหักหลังด้วยการสาป เมื่อวันพุธโดดลงน้ำเธอกลายเป็นปลาวาฬยักษ์มหึมาขนาดเท่าเมืองใหญ่ๆ ปริมาตรของเธอเข้าแทนที่น้ำมหาศาลจนเกิดน้ำท่วมผืนดิน ภายหลังจากที่อาเธอร์สามารถปลดปล่ยพินัยกรรมส่วนที่สามออกมาได้ และวันพุธได้มอบกุญแจสู่อาณาจักรดอกที่สามแก่อาเธอร์แล้ว เธอก็จบชีวิตเพราะพิษของสุญญะในท้องที่ละลายออกมาจากโลกที่ใส่ท่าเรือลับของฟีเวอร์ฟิว เธอเป็นผู้ดูแลที่น่าสงสารที่สุด และเป็นตัวแทนของบาปตะกละ

เซอร์พฤหัสบดี (Sir Thursday)[แก้]

เซอร์พฤหัสบดีเป็นผู้ดูแลวงกตยิ่งใหญ่และผู้บัญชาการกองทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิก เขามักจะแต่งตัวด้วยชุดพลทหารประจำกรม เขาเป็นพลเมืองที่มีอำนาจมาก เขาได้รับบาป โทสะ อันเกิดจากอารมณ์ที่แปรปรวนของเขา และการโจมตีของนิทลิ่งใหม่ต่อวงกตยิ่งใหญ่ เซอร์พฤหัสบดีมิได้เป็นพลเมืองที่ตัวสูงหรือรูปหล่อเหมือนพลเมืองชั้นสูงอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของเขา เขายังเคยระเบิดโทสะออกมาใส่จอมพลย่ำรุ่ง จอมพลยามเที่ยงและจอมพลย่ำค่ำ และระหว่างการทำลายเดือยของคนเป่าปี่ เขาก็ได้สังหารเด็กของคนเป่าปี่ไปสองนาย ภายหลังจากที่อาเธอร์สามารถชิงความเป็นเจ้าแห่งวงกตยิ่งใหญ่แล้ว เขาก็ได้สั่งให้ควบคุมตัวเซอร์พฤหัสบดีและมีการเฝ้าระวังอย่างหนาแน่นเพื่อป้องกันการลอบสังหาร แต่มือสังหารสามารถฆ่ายามเฝ้าระวังทั้งหมดและจัดการวันพฤหัสบดี ละลายเขาด้วยสุญญะ เหลือเพียงชิ้นส่วนของเท้าที่ติดอยู่ในรองเท้าบู๊ต [9]

ท่านหญิงวันศุกร์ (Lady Friday)[แก้]

ท่านหญิงวันศุกร์คือผู้ปกครองบ้านเบื้องกลาง ผู้ดูแลพินัยกรรมส่วนที่ห้าและกุญแจสู่อาณาจักรดอกที่ห้า เธอได้รับบาปราคะ เธอมีความปรารถนาที่จะมีประสบการณ์แบบผู้รู้ตาย ด้วยการปฏิบัติคล้ายกับผีดิบดูดเลือดในการดูดเอาประสบการณ์ทางอารมณ์ของเหล่าผู้รู้ตาย เธอยังปลอมแปลงเป็นหมอสาวสวยบนโลก คุณหมอวันศุกร์ ซึ่งทำงานเฉพาะในวันศุกร์เท่านั้น ในตอนท้ายของพฤหัสเจ้าศาสตรา เธอได้ใช้เครื่องบังหน้านี้ในการลักพาตัวผู้รู้ตายจากโลก ในตอนศุกร์รัตติกาล เธอได้ส่งข้อเสนอยอมแพ้ของเธอไปยังอาเธอร์ คนเป่าปี่และวันเสาร์เลอเลิศ กล่าวว่าเธอถอนตัวออกจากการปกครองบ้านเบื้องกลาง และทิ้งกุญแจ (ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นของปลอม) ไว้ในหออาลักษณ์ ซึ่งเธอวางกับดักเอาไว้ และให้ศัตรูทั้งสามเข่นฆ่ากันเอง แต่อาเธอร์ก็สามารถรอดจากกับดับมาได้ พิชิตเธอแล้วนำตัวไปกักขังไว้ในป้อมกลาง ภายหลังวงกตยิ่งใหญ่มีภัย เธอจึงถูกคุมตัวไปยังบ้านเบื้องกลาง[10] เธอถูกฆ่าหรือไม่หนังสือไม่ระบุไว้ แต่วันอาทิตย์เชื่อว่าเธอตายแล้ว

วันเสาร์เลอเลิศ (Superior Saturday)[แก้]

วันเสาร์เลอเลิศคือผู้ปกครองและนักเวทชั้นสูงสุดบ้านเบื้องบน ได้รับบาปริษยา เป็นผู้ดูแลพินัยกรรมส่วนที่หกและกุญแจสู่อาณาจักรดอกที่หก เธอได้ทำการต่อต้านอาเธอร์อย่างแข็งขัน และบางทีอาจจะเป็นผู้ที่ออกคำสั่งให้ลงมือสังหารคุณวันจันทร์และอังคารเคร่ง ซึ่งคุณหญิงพรีมัสได้ให้ความเห็นว่าเพื่อเป็นการป้องกันการแบ่งปันข้อมูลระหว่างอาเธอร์กับอดีตผู้ดูแล ในตอน พุธเพชฌฆาต พวกหนูเติบโตที่อาเธอร์พบได้บอกว่า วันเสาร์เลอเลิศเป็นผู้หญิง เธอเป็นผู้หญิงร่างสูงแสนสวย ขาได้รูป มีผมสีน้ำเงินและคาดรัดเกล้าสีทอง

ในตอน พฤหัสเจ้าศาสตรา เป็นที่รู้กันว่าเธอเป็นผู้ทำการแทนลอร์ดวันอาทิตย์ และเซอร์พฤหัสบดีก็เชื่อฟังเธอ เธอยังถูกตั้งข้อสงสัยจากคุณหญิงพรีมัสด้วยว่า เธออาจจะนำพาบ้านทั้งหลังลงสู่สุญญะ โดยที่อาจมีวิธีการบางอย่างที่สามารถทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการกระทำเช่นนั้น ยามเที่ยงและย่ำค่ำของเธอได้ทำงานต่างๆ ที่ขัดกับกฎดั้งเดิมของบ้าน หรืออาจจะทำในสิ่งเลวร้ายต่างๆ พวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในการลอบสังหารอดีตคุณวันจันทร์และอดีตอังคารเคร่ง พวกเขายังมีเรื่องกับร้อยโทผู้รักษาประตูเป็นบางครั้งด้วย

วันเสาร์ยังอยู่เบื้องหลังในการสร้างเด็กชายไร้หนัง ในตอนศุกร์รัตติกาล เธอได้ออกคำสั่งให้ปิดลิฟต์ ประตูหน้าและโทรศัพท์ของบ้าน เธอยังได้ส่งกองกำลังของเธอเข้าไปแทรกแซงในบ้านเบื้องกลาง (รวมทั้งสั่งห้ามการ "รับประสบการณ์") แต่ก็ไม่ได้รับความสนับสนุน แถมยังต้องสู้รบกับผู้รับใช้มีปีกแห่งรัตติกาลและกลุ่มยุวชนเกราะทองอีกด้วย

วันเสาร์เลอเลิศคือพลเมืองคนแรกที่มหาสถาปนิกสร้างขึ้น และเป็นผู้ริเริ่มให้ล้างระหว่างหูเด็กของคนเป่าปี่ เธอไม่พอใจลอร์ดวันอาทิตย์ที่เกิดทีหลังแต่ได้อยู่สูงกว่าเธอ เธอต้องการทำลายรากแก้วของต้นดราซิลซึ่งเป็นเสาค้ำของบ้านที่ลอร์ดวันอาทิตย์ใช้ประโยชน์จากกุญแจดอกที่เจ็ดในการเหน็บแนมเธอ ด้วยวิธีการทำลายส่วนต่างๆ ของบ้านที่อยู่ต่ำกว่าบ้านเบื้องบน โดยเชื่อว่ามีเพียงสวนไร้ที่เปรียบจะอยู่รอด ในที่สุดเธอทำสำเร็จแต่อาเธอร์ก็ตามมาชิงกุญแจจากเธอไปในตอนจบของเสาร์มนตรา

เมื่อไร้กุญแจ เธอก็ขาดกำลังใจที่จะสู้กับวันอาทิตย์ และเข้าร่วมกับฝ่ายคนเป่าปี่[11] เธอพบจุดจบด้วยใบมีดมนตราของคนเป่าปี่ หลังจากรู้ว่าเป็นวันเสาร์ที่ผลักเขาลงไปในสุญญะ[12]

ลอร์ดวันอาทิตย์ (Lord Sunday)[แก้]

ลอร์ดวันอาทิตย์คือผู้ปกครองสวนไร้ที่เปรียบ และได้รับบาปอัตตา เขาเป็นบุตรชายคนโตของมหาสถาปนิกกับผู้ชรา เขาเป็นผู้ดูแลรักษาพินัยกรรมส่วนที่เจ็ด และเป็นผู้ถือกุญแจดอกที่เจ็ดซึ่งมีอำนาจเต็มเปี่ยมในบ้านและอาณาจักรชั้นที่สองทุกแห่ง เซอร์พฤหัสบดีเชื่อว่าเขาเป็นจอมทัพอันเกรียงไกรแห่งมหาสถาปนิกโดยส่งมอบอำนาจบัญชาการให้เขา และมอบอำนาจการปกครองบ้านประจำวันให้แก่วันเสาร์เลอเลิศ ย่ำรุ่งของวันพุธบอกว่าที่เขาทำเช่นนั้นก็เพื่อ "ใคร่ครวญหรือตรึกตรองถึงสิ่งที่สูงส่งกว่า อันมิใช่สิ่งที่ผู้ต้อยต่ำกว่าพึงรู้" เขายังเป็นผู้ดูแลคนเดียวที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ที่จะหยุดยั้งการทำงานของอาเธอร์ จากบทนำในเสาร์มนตรา เขานั้นได้เหน็บแนมวันเสาร์เลอเลิศโดยการให้เธอมองเห็นพื้นที่ซึ่งเธอปรารถนาจะครอบครอง

ในอาทิตย์สิ้นสูญ เขานั่นเองที่เป็นผู้ลักพาตัวแม่ของอาเธอร์เพื่อต่อรองให้อาเธอร์สละตำแหน่งทายาท โดยย้ายบ้านของอาเธอร์มาไว้ในสวนไร้ที่เปรียบ และกักขังเอมิลี่ไว้ในห้วงเวลา เมื่ออาเธอร์ปรากฏตัวที่บ้านหลังนี้ วันอาทิตย์แปลงกายเป็นเด็กของคนเป่าปี่ และลวงอาเธอร์ออกมาให้ถูกจับ หลังจากนั้นจึงพาเขาไปจองจำบนนาฬิกาแบบเดียวกับที่ใช้กับผู้ชราเพื่อบีบบังคับเขา แต่ด้วยความประมาทของเขา อาเธอร์หนีออกมาได้ ปลดปล่อยพินัยกรรม และกลับมาเอาชนะเขาในที่สุด วันอาทิตย์เป็นผู้ชอบประเมินความสามารถของผู้อื่นต่ำเกินไปเสมอ จนนำมาสู่จุดจบของตนเองในตอนท้าย

คณะมนตรีของแต่ละวัน[แก้]

คณะผู้ดูแลทุกๆ คนมีผู้ช่วยอยู่ 3 คน คือย่ำรุ่ง ยามเที่ยง และย่ำค่ำ ตั้งชื่อตามช่วงเวลาหลักๆ ของวัน โดยส่วนมากแล้วย่ำรุ่งมักจะเป็นผู้หญิง ส่วนยามเที่ยงและย่ำค่ำเป็นผู้ชาย และมักเป็นพี่น้องกัน โดยสันนิษฐานว่าแต่ละคนสามารถอยู่ในอาณาจักรชั้นที่สองได้เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น และต้องอยู่ในช่วงเวลาตามชื่อของตน

การ์ธ นิกซ์ได้กำหนดให้ย่ำรุ่งเป็นผู้หญิง เพื่อให้เหมือนกับเทพีประจำยามรุ่งอรุณนาม อีออส หรือออโรร่า แต่ย่ำรุ่งของวันศุกร์เป็นผู้ชาย

ผู้แทนตัววันจันทร์[แก้]

คุณวันจันทร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง หญิงสาวที่มีเสน่ห์ มีลิ้นสีทอง แต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีชมพูและสีของย่ำรุ่ง และมีปีกสีทอง เป็นผู้ควบคุมกองทัพผู้ตรวจการ
  • ยามเที่ยง ผู้ภักดีต่อวันจันทร์ ซึ่งเข้าโจมตีอาเธอร์เมื่อมีโอกาส ลักษณะเด่นของเขา คือ ลิ้นสีเงิน เขาถูกบรรยายว่ามีอายุในราวๆ 30 ปี และถือดาบของไฟเชิงสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นอาวุธที่สามารถฆ่าพลเมืองได้ เขามีปีกสีขาวเปื้อนเลือด ได้รับอำนาจในการทำงานในอาณาจักรชั้นที่สอง สามารถควบคุมเฟทเชอร์และผู้ตรวจการได้ เป็นผู้ควบคุมนายตรวจ ซึ่งเป็น "พวกอันธพาล" ที่ซูซี่พูดถึง นอกจากนั้นยังมีคนขับลิฟท์ พวกลงตรายางและประทับครั่ง และอื่นๆ อีกมากมาย
  • ย่ำค่ำ เขาเป็นผู้ที่ช่วยเหลืออาเธอร์ให้รอดพ้นจากอันตราย มีลิ้นสีดำ มีผมสั้นสีดำ เสื้อสีดำเหมือนชุดงานศพ ปีกที่ทำจากไม้แข็งสีดำ (Ebony) และดาบสีดำ ซึ่งทำมาจากแสงจันทร์แช่แข็ง เขาเป็นผู้ภักดีต่อสถาปนิก พินัยกรรม และอาเธอร์ บังคับบัญชาอาคันตุกะเที่ยงคืน (Midnight Visitors)

ลอร์ดอาเธอร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง ตำแหน่งคงเดิม
  • ยามสาย ซูซี่ ฟ้า เทอร์คอยซ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อาเธอร์เพิ่งจะแต่งตั้งขึ้นมา โดยเป็นผู้ช่วยเหลือและฝึกหัดของยามเที่ยงของวันจันทร์ ซึ่งคุณหญิงพรีมัสเรียกเธอว่า "ซูซานน่า ยามสายของวันจันทร์"
  • ยามเที่ยง เดิมเป็นย่ำค่ำของวันจันทร์ แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนไปใส่เครื่องแบบของยามเที่ยง บังคับบัญชานายตรวจ และเจ้าหน้าที่ต่างๆ
  • ย่ำค่ำ เดิมเป็นยามเที่ยงของวันจันทร์ แต่ในปัจจุบันเปลี่ยนไปใส่เครื่องแบบของย่ำค่ำ บังคับบัญชาอาคันตุกะเที่ยงคืน

ผู้แทนตัววันอังคาร[แก้]

อังคารเคร่ง[แก้]

  • ตัวพิลึกพิลั่นทั้งเจ็ด (The Grotesques) เกิดจากการใช้สุญญะหลอมเอาย่ำรุ่ง ยามเที่ยง และย่ำค่ำเข้าไว้ด้วยกัน มียาน ทาน เทเธอร่า เมเธอร่า พิทซ์ เซเธอร่าและเอเซอร์ เนื่องจากหลุมลึกมีพนักงานในการขุดเป็นจำนวนมากจึงต้องมีผู้ควบคุมดูแลอย่างทั่วถึง พวกพิลึกพิลั่นมีนิสัยปนเปไปอย่างน่ารังเกียจ เนื่องจากการสร้างอย่างไม่สมบูรณ์แบบของอังคารเคร่ง และยังมีความสามารถในการลบความทรงจำและฆ่าได้ด้วยลมหายใจของมัน ในตอนท้ายของเรื่อง พวกมันทั้งหมดถูกฆ่าเนื่องจากถูกย่ำค่ำของวันเสาร์แทงยาน และเนื่องจากพวกมันทั้งหมดถูกเชื่อมเข้าไว้ด้วยกัน พวกมันจึงตายทั้งหมดแม้ว่ายานจะตายเพียงตัวเดียวก็ตาม

ลอร์ดอาเธอร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง ยังไม่มีการแต่งตั้ง
  • ยามเที่ยง ยังไม่มีการแต่งตั้ง
  • ย่ำค่ำ ยังไม่มีการแต่งตั้ง

ผู้แทนตัววันพุธ[แก้]

ท่านหญิงวันพุธ[แก้]

  • ย่ำรุ่ง เป็นผู้หญิงผู้มีผมสีฟางอยู่ในที่ยึดผมกับตะข่ายสีเงิน มีสไตล์การแต่งตัวไม่เหมือนกัน จากใส่ชุดสีม่วงแดงกับกระดุมทับทิม สามารถเป็นชุดสีเขียว และเครื่องแบบทหารเรือ ถือแส้ขี่ม้าซึ่งทำมาจากหางของจระเข้ตีนเป็ด (Alligator) เธอสามารถบินได้ และสามารถว่ายน้ำได้โดยต้องอยู่ในรูปของฉลามมีปีกสีทอง เธอรู้สึกขอบคุณท่านหญิงวันพุธเนืองจากว่าเธอมิต้องประสบชะตากรรมเดียวกับยามเที่ยงและย่ำค่ำ เธอมีความจงรักภักดีอย่างมากกับท่านหญิงวันพุธ แต่ก็กลัวว่าเธอจะถูกกินโดยความตะกละอย่างไม่จำกัดของท่านหญิง เธอจึงติดต่อกับท่านหญิงวันพุธได้โดยการใช้รหัสดวงตาจากระยะไกลจึงไม่จำเป็นที่จะเข้าใกล้เธอมากเกินไป
  • ยามเที่ยง ถูกกินโดยท่านหญิงวันพุธ
  • ย่ำค่ำ ถูกกินโดยท่านหญิงวันพุธ

ลอร์ดอาเธอร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง ตำแหน่งคงเดิม
  • ยามเที่ยง เดิมชื่อ ซันสกอร์ช
  • ย่ำค่ำ เดิมชื่อ ดอกเตอร์สคาแมนดรอส เป็นนักเวทของบ้านเบื้องบนเพียงคนเดียวในบ้านเบื้องล่าง ผืนดินไกลและทะเลกั้นอาณาเขต

ผู้แทนตัววันพฤหัสบดี[แก้]

เซอร์พฤหัสบดี[แก้]

  • ย่ำรุ่ง (จอมพลย่ำรุ่ง) หญิงที่ประจำในหน่วยพลตระเวนชายแดน ใส่ชุดสีเขียว เธอถูกทำร้ายหลายครั้งเนื่องจากขัดคำสั่งของเซอร์พฤหัสบดี
  • ยามเที่ยง (จอมพลยามเที่ยง) ชายร่างสูงมีผมแดง แต่งกายด้วยชุดจอมพลประจำกรม เขาเป็นผู้ที่ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่งของเซอร์พฤหัสบดี เขาถูกทำร้ายจนแขนหัก มีห้องทำงานขนาดเล็กอยู่ที่ส่วนบนของป้อมดวงดาว
  • ย่ำค่ำ (จอมพลย่ำค่ำ) ชายในชุดทหารสีเทา และช่วยเหลืออาเธอร์ เขาเป็นผู้ที่ต่อต้านคำสั่งของเซอร์พฤหัสบดี

ลอร์ดอาเธอร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง (จอมพลย่ำรุ่ง) ตำแหน่งคงเดิม
  • ยามเที่ยง (จอมพลยามเที่ยง) ตำแหน่งคงเดิม
  • ย่ำค่ำ (จอมพลย่ำค่ำ) ตำแหน่งคงเดิม

ผู้แทนตัววันศุกร์[แก้]

ท่านหญิงวันศุกร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง เป็นชายร่างสูง สวมเกราะทอง เสียงแหบต่ำ เขาเป็นหัวหน้าสมาคมปิดทองฯ ดูแลเขตทุ่งราบ และออกคำสั่งยุวชนเกราะทอง ซึ่งเป็นเด็กของคนเป่าปี่ เขาไม่พอใจต่อการกระทำของท่านหญิงวันศุกร์ และเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังสถานปลีกวิเวกของนางในขณะที่ยามเที่ยงกับย่ำค่ำทำได้ เขาจึงไม่มีความจงรักภักดีต่อนางอย่างแท้จริง และสาบานกับตนเองว่าจะสวามิภักดิ์กับอาเธอร์ในทันทีที่เขาขึ้นมาถึงทุ่งราบสูงบนสุด ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมแพ้ต่อวันเสาร์เลอเลิศ ท้ายสุดเขาจึงได้รับอำนาจเดิมของตนคืน เขาเป็นย่ำรุ่งของวันทั้งเจ็ดเพียงคนเดียวซึ่งเป็นเพศชายในเนื้อเรื่อง
  • ยามเที่ยง ชายรูปหล่อ ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า สวมแว่นตาข้างเดียว เขา วันศุกร์ และย่ำค่ำได้สัมผัสผู้รู้ตายร่วมกัน เขาเป็นคนจับลีฟได้หลังจากเธอแอบเข้าไปใช้โทรศัพท์ในห้องทำงานของเขา ในตอนท้าย เขาพยายามหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษโดยการรับประสบการณ์ของผู้รู้ตาย
  • ย่ำค่ำ ไม่ได้บรรยายลักษณะ แต่ว่าเขาบัญชาการผู้รับใช้มีปีกแห่งรัตติกาลของบ้านเบื้องกลาง เขาพยายามหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษโดยการรับประสบการณ์ของผู้รู้ตาย

ลอร์ดอาเธอร์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง เขาได้เป็นผู้ดูแลที่ราบสูงบนสุด และผู้ปกป้องบ้านเบื้องกลางทั้งมวล
  • ยามเที่ยง ยังไม่มีการแต่งตั้ง
  • ย่ำค่ำ ยังไม่มีการแต่งตั้ง

ผู้แทนตัววันเสาร์[แก้]

วันเสาร์เลอเลิศ[แก้]

  • ย่ำรุ่ง ยังไม่ได้บรรยายลักษณะ แต่เขาหรือเธอเป็นผู้บังคับบัญชาผู้เฉื่อยคร้านมากเล่ห์
  • ยามเที่ยง ชายหน้าตาหล่อเหลา มีลิ้นสีเงิน สวมชุดยุควิกตอเรียน ถือดาบไม้เท้า บังคับบัญชานักเวทสำรอง ปรากฏตัวครั้งแรกใน พฤหัสเจ้าศาสตรา เขาได้ปรากฏตัวต่อหน้าซูซี่และสะกดจิตเธอให้ส่งกระเป๋าเวทมนตร์แก่เขา แต่ก็ถูกร้อยโทผู้รักษาประตูหน้าขัดขวางและต่อสู้กัน มาปรากฏตัวอีกครั้งใน เสาร์มนตรา แต่มีบทบาทน้อยนิด
  • ย่ำค่ำ เป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ตรวจสอบบัญชีภายใน มีลักษณะภายนอกคล้ายกับยามเที่ยง มีลิ้นสีดำ เขานั้นมีเลือดสีทอง ซึ่งแตกต่างจากพลเมือง เช่น วันพุธจมตายและท่านหญิงวันศุกร์ด้วยซ้ำ เขาเป็นผู้สังหารยานในหลุมลึกด้วยดาบไม้เท้า ทำให้พวกพิลึกพิลั่นตายหมด ในที่สุดเขาก็ถูกคนเป่าปี่สังหารในตอนศุกร์รัตติกาล วันเสาร์เลอเลิศจึงต้องแต่งตั้งย่ำค่ำคนใหม่ผู้เป็นน้องชายขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน
  • ย่ำค่ำคนใหม่ เป็นน้องชายที่ "ออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน" ของย่ำค่ำคนก่อน [13] ปรากฏตัวเพื่อรับตำแหน่งและแจ้งข่าวแก่วันเสาร์ ถูกบรรยายว่ามีท่าทางเย่อหยิ่ง สวมเสื้อนอกชายยาวสีเงิน กางเกงสีดำราตรี รองเท้าบูตเงาวาว และในขณะปฏิบัติหน้าที่จะใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่สีเทามีระบายกันฝนได้ [14]

(หมายเหตุ: ในศุกร์รัตติกาล ย่ำค่ำในเรื่องมีเลือดสีฟ้า จึงเป็นที่สงสัยว่าผู้ที่สังหารยานใช่ย่ำค่ำของวันเสาร์จริงหรือไม่[15][16] และยังเป็นที่สับสน เพราะมีการกล่าวว่าผู้พาผู้ตรวจสอบฯ ขึ้นไปยังหออาลักษณ์ เป็นยามเที่ยงอยู่หลายครั้ง ซึ่งคาดว่าอาจเป็นความผิดพลาดในการพิมพ์ของสำนักพิมพ์หรืออาจเป็นที่ตัวผู้ประพันธ์เอง)

ผู้แทนตัววันอาทิตย์[แก้]

ลอร์ดวันอาทิตย์[แก้]

  • ย่ำรุ่ง เรียกตัวเองว่า "ผู้หว่าน (The Sower)" ตัวสีเขียว เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ที่ช่วยวันอาทิตย์จับกุมอาเธอร์
  • ยามเที่ยง เรียกตัวเองว่า "ผู้เลี้ยง (The Grower)" ตัวสีเขียว เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ที่ช่วยวันอาทิตย์จับกุมอาเธอร์
  • ย่ำค่ำ เรียกตัวเองว่า "ผู้เกี่ยว (The Reaper)" ผู้รับใช้ตัวสีเขียวถือเคียวอันใหญ่ ขี่ต้นสัตว์ร้าย - เดซี่เป็นพาหนะ เขาบุกไปจับลีฟที่โลกแล้วนำตัวไปให้วันอาทิตย์เผื่อจะเป็นเครื่องต่อรองอาเธอร์ได้ แต่ระหว่างผ่านประตูหน้าที่มีนิทลิ่ง ร้อยโทคนเก่าเกิดตายลงและลีฟกลายเป็นร้อยโทผู้รักษาประตูหน้าเสียเอง ทำให้เขาต้องปล่อยเธอไป ผู้เกี่ยวปรากฏตัวอีกครั้งใกล้กับกรงซึ่งขังพินัยกรรม และพยายามถ่วงเวลาอาเธอร์เพื่อรอวันอาทิตย์มาจับ แต่ก็พ่ายแพ้ ทั้งนี้เขารู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีวันชนะแน่นอน ก่อนตายเขาชี้ไปที่รูตรงอกซ้าย และพูดว่า "ข้าไม่มีกะจิตกะใจที่จะต่อสู้กับเจ้าตอนนี้" [17]

มนุษย์บนโลก[แก้]

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนจันทร์มหันตภัย[แก้]

  • บ็อบ เพนฮาลิกอน (Bob Penhaligon) พ่อบุญธรรมของอาเธอร์ เคยเป็นมือกีตาร์ของวงเดอะแรทซ์ (The RATZ) จึงได้รับชื่อเล่นว่าเพลกแรทซ์ (Plague Ratz) ซึ่งแปลว่า หนูโรคระบาด ขณะนี้ เขากำลังเขียนเพลงและออกแสดงทัวร์เนื่องจากครอบครัวเพนฮาลิกอนประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักด้วยแผนการของอังคารเคร่ง
  • ดอกเตอร์ เอมิลี่ เพนฮาลิกอน (Dr Emily Penhaligon) แม่บุญธรรมของอาเธอร์ เป็นนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ชะตากรรมของเธอยังไม่อาจทราบได้ โดยได้รับคำอธิบายจากบุรุษพยาบาลในพฤหัสเจ้าศาสตรา
  • อีราซมุส เพนฮาลิกอน (Erazmuz Penhaligon) พี่ชายคนโตที่สุดของอาเธอร์ โดยเป็นพันตรีในกองทัพบก แต่งงานและมีลูกแล้ว อาเธอร์พยายามใช้ความรู้ทางทหารที่ได้มาจากเขาในขณะที่เขาอยู่ในค่ายเปลี่ยนแปลง เขามีบทบาทอีกครั้งในเล่มหก เขาโทร. เข้ามาทางโทรศัพท์ที่จู่ๆ ก็มาปรากฏอยู่ในกระเป๋าเสื้อของอาเธอร์ว่าโรงพยาบาลอีสต์แอเรียจะถูกทำลาย
  • สตาเรีย เพนฮาลิกอน (Staria Penhaligon) พี่สาวคนที่สองของอาเธอร์ เป็นนักแสดงละครเวที
  • แพทริก เพนฮาลิกอน (Patrick Penhaligon) พี่ชายคนที่สามของอาเธอร์ เป็นนักดนตรีผู้ประสบความสำเร็จ เดิมชื่อ อีไมเนอร์ (Eminor)
  • ซูซานน์ เพนฮาลิกอน (Suzanne Penhaligon) พี่สาวคนที่สี่ของอาเธอร์ เป็นนักศึกษาวิทยาลัยอยู่ในตอนนี้
  • มิเคลลี่ เพนฮาลิกอน (Michaeli Penhaligon) พี่สาวคนที่ห้าของอาเธอร์ นักศึกษาของวิทยาลัยใกล้บ้าน เคยแสดงละครเวทีเรื่อง "โรบินฮู้ด" และมีความสามารถในการเล่นเทควันโด้ด้วย เธอพบกับซูซี่และลีฟในตอนพฤหัสเจ้าศาสตรา
  • อีริค เพนฮาลิกอน (Eric Penhaligon) พี่ชายคนที่หกของอาเธอร์ เรียนอยู่ในปีสุดท้ายที่โรงเรียน เขาเป็นดาวของโรงเรียนในทีมบาสเก็ตบอล เขาช่วยอาเธอร์ให้รอดพ้นจากอันตรายหลายครั้ง อาเธอร์จึงมีความรู้สึกใกล้ชิดกับอีริคมากกว่าพี่ชายพี่สาวคนอื่นๆ เขามักจะมองดูเขาและให้ความรู้สึกชื่นชมประทับใจเสมอ
  • เอ็ด (Ed) พี่ชายของลีฟ ชื่อจริงของเขาคือ บรานช์ (Branch) เขามักจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ลีฟเล่าออกมา เขาไม่ปรากฏตัวตั้งแต่จันทร์มหันตภัย หลังจากเป็นโรคไข้หลับ และในพฤหัสเจ้าศาสตรา ก็ยังคงพักฟื้นอยู่
  • ครูเวทแมน (Mister Weightman) ครูวิชาพลศึกษาของอาเธอร์ที่โรงเรียน
  • ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ดอยล์ (Assistant Principal Doyle) ผู้ช่วยครูใหญ่ที่โรงเรียนของอาเธอร์ และมักจะยึดของของนักเรียนเสมอ จึงได้รับฉายาที่เหมาะกับพฤติกรรมการริบของของเขาว่า ปลาหมึกยักษ์ (The Octopus)
  • ริค (Rick) หนึ่งในดาวกีฬาของโรงเรียน เป็นพวกเก่งกีฬาที่ครูเวทแมนชอบ
  • พยาบาลโทมัส (Nurse Thomas) พยาบาลที่ทำการฉีดยาให้อาเธอร์ เขาถามถึงลีฟกับเอ็ดและได้คำตอบว่าไม่รู้จัก
  • สิบเอกหู (Sergeant Hu) นายตำรวจที่อาเธอร์ต้องไปรายงานตัว แต่เขาก็เอาตัวรอดด้วยการหลอกว่าอาการหืดกำเริบ
  • คุณนายแบนเบอร์ (Mrs Banber) บรรณารักษ์ห้องสมุดโรงเรียน เธอช่วยเหลืออาเธอร์โดยให้เขาไปซ่อนหลังชั้นหนังสือสัตววิทยา และพยายามขวางยามเที่ยงของวันจันทร์เอาไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอได้รับความช่วยเหลือจากนักผจญเพลิงและถูกส่งตัวไปรักษา ไม่มีใครทราบชะตากรรมของเธอ

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนอังคารอหังการ[แก้]

  • ปู่จาร์เร็ทท์ (Granpa Jarreth) เป็นปู่ของอาเธอร์ (ปู่บุญธรรม) ลุงของบ็อบ อายุ 94 ปี ทำงานการรถไฟมาตลอดชีวิต ชอบสอนให้หลานๆ ของเขารู้จักศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับรถไฟ และยังมีเทปบันทึกเสียงเครื่องจักรไอน้ำแบบต่างๆ อีกด้วย
  • หมอแจ็ค (Dr Jack) หมอที่ทำการรักษาอาเธอร์จากอาการหืดกำเริบและขาหัก

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนพุธเพชฌฆาต[แก้]

  • คุณนายแฮสเคล (Mrs Haskell) เป็นเพื่อนบ้านของครอบครัวเพนฮาลิกอนที่เกือบจะต้องขายบ้านไปแล้ว
  • คนที่ขายรถให้พ่อของลีฟ เขาขายรถแย่ๆ ให้กับพ่อของลีฟ

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนพฤหัสเจ้าศาสตรา[แก้]

  • ทรี (Tree) พ่อของลีฟและเอ็ด เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อยู่ในการกักกันของโรงพยาบาลอีสต์แอเรีย
  • ซิลวี (Sylvie) เภสัชกรเกษียณอายุที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว เธอได้ช่วยเหลือลีฟที่เพิ่งหนีมาจากโรงพยาบาลอีสต์แอเรียได้ ต่อมาเธอช่วยลีฟเดินทางไปยังบ้านของอาเธอร์ได้ โดยการแกล้งติดจุดเทาแล้วยึดรถพยาบาลของรอนกับจูลส์
  • หมอไนแฮน (Dr Nihan) เป็นหมอที่ถูกเด็กชายไร้หนังสังหารและโยนเข้าตู้เสื้อผ้า
  • อาจารย์อาร์เดน (Professor Arden) อาจารย์คนที่หมอไนแฮนกล่าวถึง
  • พยาบาลอาวุโส อดัม จาแมล (Senior Nurse Adam Jamale) เป็นบุรุษพยาบาลที่บอกลีฟว่าเอมิลี่ แม่ของอาเธอร์ถูกทำร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ
  • รอน (Ron) กับ จูลส์ (Jules) เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพที่มาช่วยซิลวีจากอาการติดจุดเทาปลอม ไม่ทราบชื่อเต็ม

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนศุกร์รัตติกาล[แก้]

  • ป้ามะม่วง (Aunt Mango) เธอเป็นป้าของลีฟ เป็นพี่สาวของแม่ลีฟ อาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอมานาน ในหนังสือบรรยายไว้ว่าเธอแทบจะเป็นแม่คนที่สองของเธอกับเอ็ด เธออยู่เคียงข้างลีฟมาตลอด คอยเล่าเรื่องต่างๆ ให้เธอฟัง คอยให้คำแนะนำ คำปรึกษา รับฟังปัญหา และให้กำลังใจลีฟอยู่เสมอ แต่เธอมีความผิดปกติทางสมองเล็กน้อย ทำอะไรไม่ค่อยถูก จึงต้องมีคนคอยดูแลเสมอ เธอเป็นหนึ่งในผู้หลับใหล ซึ่งตกเป็นเหยื่อของวันศุกร์ เธอใช้ชื่อ "มะม่วง" เพื่อเป็นการสะท้อนถึงธรรมชาติตามธรรมเนียมของครอบครัวลีฟ
  • แฮริสัน (Harrison) เป็นชายแก่ผู้รู้ตายจากโลก ถูกลักพาตัวมา 14 ปีแล้ว ทำงานเป็นคนพลิกเตียงในโรงพยาบาลของคุณหมอวันศุกร์ งานของเขาคือ พลิกตัวบรรดาผู้หลับใหลให้นอนหงาย และเตรียมบรรดาผู้หลับใหลทั้งหลายให้พร้อมสำหรับการ "สัมผัส" ของท่านหญิงวันศุกร์ เขากลัวท่านหญิงวันศุกร์มาก แต่เขาก็คอยช่วยเหลือลีฟ
  • มาร์ทีน (Martine) เป็นผู้รู้ตายที่อยู่เป็นคนพลิกเตียงมานานกว่าแฮริสัน (30 ปี) เธอทำหน้าที่พาผู้รู้ตายที่โดดดูดประสบการณ์กลับหอนอน แฮริสันบอกว่าเธอบ้ามากๆ แต่ความจริงแล้วเธอกลัวท่านหญิงวันศุกร์และพวกพลเมือง ในเสาร์มนตรา เธอช่วยลีฟขนย้ายผู้ป่วยก่อนการระเบิดจะเริ่ม
  • เวส (Vess) เป็นผู้ทำหน้าที่ถูพื้นบนทางล่วงหน้าขบวนของท่านหญิงวันศุกร์ เธอเป็นคนแรกที่เห็นว่าลีฟตื่นแล้วสั่งให้เธอนอนเหมือนคนอื่นๆ เพราะเธอกลัวที่จะเห็นท่านหญิงใช้กุญแจดูดเอาสิ่งที่เธอคิดว่าเป็น "พลังชีวิต" ไปจากลีฟ เธอนั้นเคยเจอมาแล้วและไม่อยากเจออีก เธอยังอธิบายถึงความน่าสะพรึงกลัวของวันศุกร์ และสระว่ายน้ำลึกลับ ก่อนที่จะถูพื้นจากไป

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนอาทิตย์สิ้นสูญ[แก้]

  • สิบเอกเฉิน (Sergent Chen) ทหารหญิงที่ทำช่วยพันตรีเพนฮาลิกอนดูแลการแจกจ่ายอุปกรณ์ยังชีพหลังจากนิวเคลียร์ลง เธอสูงและบึกบึนกว่าพันตรีเล็กน้อย ลีฟขอความช่วยเหลือจากเธอและพันตรีโดยตรงเพื่อไปช่วยเหลือคนชราที่โรงพยาบาลเอกชนวันศุกร์ แต่เมื่อไปถึงก็ถูกต้นสัตว์ร้ายของผู้เกี่ยวโจมตี
  • เอลเลน (Ellen) ทหารหญิงที่ช่วยลีฟทำความสะอาดสารปนเปื้อนรังสี

หนูเติบโต[แก้]

หนูเติบโต (Raised Rat) เป็นหนูผู้รู้ตายที่ถูกนำเข้ามาในบ้านโดยคนเป่าปี่ พวกมันขณะนี้อาศัยอยู่ในทะเลกั้นอาณาเขตและบ้านเบื้องบน[18] พวกที่อาศัยอยู่ในทะเลกั้นอาณาเขตจะอาศัยเรือไอน้ำเป็นพาหนะ วันพุธจมตายเคยสั่งห้ามมิให้หนูเติบโตมาอาศัยอยู่ในทะเลกั้นอาณาเขต แต่ในทางการเมือง เธอไม่สามารถออกคำสั่งและลงโทษหนูเติบโตเหล่านี้ได้เนื่องจากมหาสถาปนิกเป็นผู้อนุญาตให้ผู้รู้ตายสามารถไปไหนมาไหนก็ได้ในบ้าน พวกมันเป็นมิตรที่ดีของเด็กของคนเป่าปี่ทุกคน แต่จะไม่ยอมแบ่งปันความลับ พวกมันมีอำนาจในการต่อต้านการล้างระหว่างหู บางตัวก็เป็นมิตร เชื่อว่าพวกมันยังติดต่อกับคนเป่าปี่อยู่ ทำให้คนเป่าปี่ทราบถึงเรื่องราวของอาเธอร์

ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนพุธเพชฌฆาต[แก้]

  • พลเรือจัตวามองค์ตัน (Commodoure Monckton)

เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลหนูเติบโตที่อยู่ในทะเลกั้นอาณาเขตทั้งหมด เขาเป็นผู้ที่เชื่อถือได้และมีเกียรติยศมาก มองค์ตันได้ช่วยเหลือโดยการแก้ต่างให้ลีฟในคดีที่จัดขึ้นเนื่องจากพบว่าลีฟแอบลักลอบขึ้นเรือ เขายังได้ช่วยเหลืออาเธอร์ในการเอาพินัยกรรมส่วนที่สาม เขามีขนปุกปุยสีน้ำตาล และเคราแหลมสีขาว มักจะสวมชุดพลเรือจัตวาเสมอ

  • เรือโทลองเทล (Lieutenant Longtayle)

เรือโทลองเทลเป็นหนูเติบโตซึ่งมีอำนาจเป็นถึงกัปตันในการบังคับการเรือรัตตุส นาวิสที่ 4 และรวมไปถึงบาลาเอนา ซึ่งใช้เป็นเรือดำน้ำสำหรับแอบเข้าไปในโลกใบเล็กของฟีเวอร์ฟิว เขามีขนปุกปุยสีดำ และแต่งตัวคล้ายกับพลเรือจัตวามองค์ตัน เขามีส่วนในการช่วยอาเธอร์ในการเอาพินัยกรรมส่วนที่สามออกมา ชื่อของเขาคล้ายกับคำว่า long tail (แปลว่า หางยาว)

  • คุณยองทิน (Mister Yongtin)

แพทย์ประจำเรือรัตตุส นาวิสที่สี่ สวมผ้ากันเปื้อนผืนยาวทับเสื้อนอก มักจะหิ้วเครื่องมือไปด้วยเวลามีคนหรือหนูบาดเจ็บ

  • ผู้ช่วยนายปืนวัทคิงเกิล (Gunner's Mate First Watkingle)

เป็นหนูเติบโตยศน้อยที่ปรากฏตัวขึ้นมาบ่อยๆ ในเรื่อง คติประจำใจของเขาคือ จงอาสาเสมอ เพราะเขาอาสาเกือบทุกหน้าที่ อย่างเช่นเฝ้าห้องอาเธอร์และพาอาเธอร์ออกจากเรือทางห้องนิรภัย

พลเมืองชั้นสูง[แก้]

รวมรายชื่อของพลเมืองชั้นสูง ยกเว้นลอร์ดวันอาทิตย์ซึ่งกล่าวไปแล้ว

มหาสถาปนิก (The Architect)[แก้]

มหาสถาปนิก คือผู้สร้างบ้านและอาณาจักรชั้นที่สองทั้งมวล มหาสถาปนิกมีศักดิ์สูงสุด สามารถปกครองได้ทั้งแปดอาณาจักร มหาสถาปนิกเป็นผู้กำหนดจุดเริ่มต้นของเวลา มหาสถาปนิกสร้างบ้าน พลเมือง และเทหวัตถุต่าง ๆ มหาสถาปนิกได้ทดลองเรื่องการมีลูกร่วมกับ "ผู้ชรา" ผ่านการเข้าสิงผู้รู้ตายคนหนึ่งซึ่งก็ได้ลูกมา 2 คน ซึ่งต่อมาคือลอร์ดวันอาทิตย์และคนเป่าปี่ และมีลูกบุญธรรม 1 คนซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า ลูกทะเล

มหาสถาปนิกนั้นตอนแรกเกิดขึ้นจากสุญญะ ผู้ชรากับมหาสถาปนิกนั้นมีเรื่องขัดแย้งกันเนื่องจากผู้ชราไปกระทำความผิดบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับอาณาจักรชั้นที่สอง จากนั้นจึงจับเขาลงทัณฑ์และล่ามโซ่ไว้ในเหมืองถ่านหินของบ้านเบื้องล่าง

มหาสถาปนิกได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ฉบับใหญ่ เพื่อให้แน่ใจว่า งานทุกอย่างของนางจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และนางก็จากไป และทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ให้คณะผู้ดูแลทั้งเจ็ดซึ่งนางได้แต่งตั้งขึ้น เพื่อรอการมาเยือนของทายาทผู้ทรงสิทธิ์ แต่คณะผู้ดูแลเหล่านั้นกลับทรยศฉีกพินัยกรรมออกเป็นเจ็ดส่วน และนำไปซุกซ่อนและยืดบ้านปกครอง นำโดยลอร์ดวันอาทิตย์

ความจริงถูกเปิดเผยในอาทิตย์สิ้นสูญ ว่ามหาสถาปนิกต้องการกลับสู่สุญญะ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะผู้ชรา ส่วนหนึ่งของนางยังถูกจองจำอยู่ ตราบที่งานของนางยังอยู่ ผู้ชราจะถูกพันธนาการชั่วนิรันดร์ นางจึงสร้างพินัยกรรมเพื่อนำมาสู่การทำลายนี้ แต่ผู้ดูแลไม่เห็นด้วยจึงฉีกมันทิ้ง ซึ่งการทำลายมันก็ไปกระตุ้นใจของผู้ดูแลให้ไปในทางไม่พึงปรารถนา (บาปทั้งเจ็ด) นำไปสู่การมุ่งทำลายกันและกันซึ่งจะทำให้บ้านตกสู่สุญญะเร็วขึ้น ในตอนท้าย ผู้ชราหลุดจากการจองจำและรวมตัวกับพินัยกรรม ที่สุดแล้วบ้านจึงถูกทำลาย เหลือรอดเพียงอาเธอร์ ระหว่างนั้นมหาสถาปนิกปรากฏตัวเพื่อบอกความจริงทั้งหมด ก่อนกลับสู่สุญญะอันเป็นจุดจบที่นางหวังมานานแสนนาน

ผู้ชรา (The Old One)[แก้]

ผู้ชราเป็นคนที่สองที่ถูกสร้างขึ้นจากสุญญะ มีลักษณะเป็นชายร่างยักษ์ สูงแปดฟุต มีกล้ามเนื้อใหญ่โตอยู่ตามแขนและขา ผิวหนังเหี่ยวย่นใสจนเห็นเส้นเลือด เขาใส่แต่ผ้าเตี่ยว ผมถูกโกนจนเหลือแต่ตอ เปลือกตาสีแดงช้ำด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ผู้ชราถือกำเนิดจากสุญญะตามหลังมหาสถาปนิกมา ทั้งสองให้กำเนิดพลเมืองชั้นสูงสามคน คือลอร์ดวันอาทิตย์ ลูกทะเลและคนเป่าปี่ ผู้ชราพยายามสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ แต่ก็ถูกนางปฏิเสธทุกครั้ง เมื่อผู้ชราจึงออกไปยังอาณาจักรชั้นที่สองโดยไม่ได้รับอนุญาต มหาสถาปนิกจึงจำขังผู้ชราให้อยู่ในห้องถ่านหินใต้ดิน ข้อมือทั้งสองข้างถูกล่ามโซ่และมัดไว้กับเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดที่เรืองแสงสีฟ้าระยิบระยับ ถึงแม้จะใช้กุญแจทั้งเจ็ดดอกก็ไม่สามารถปลดปล่อยผู้ชราได้

ผู้ชรายังสามารถขยับตัวได้อยู่บ้าง แต่ไม่สามารถดึงโซ่ให้หลุดได้ เมื่อถึงเวลาสิบสองนาฬิกา ผู้ชราจะถูกตรึงไว้กับเข็มนาฬิกา และผู้ก้าวบนนาฬิกาสองตัวจะออกมาจากประตูที่อยู่ตรงเลขสามและเลขเก้าเข้ามาควักตาของผู้ชราออกมาทุกสิบสองชั่วโมง มีครั้งหนึ่งอาจจะควักอย่างอื่น ผู้ก้าวบนนาฬิกาตัวแรกเป็นหุ่นล้อเลียนของคนตัดไม้ที่สูงเกือบเท่าเด็กโตๆ ชายร่างเล็กในชุดสีเขียว มีขนนกอยู่บนหมวก ถือขวานที่สูงเกือบตัวของมันเอง มับสับขยับไปมาเมื่อชายตัดไม้ขยับ ส่วนตัวที่สองเป็นผู้หญิงอ้วนเตี้ยผูกผ้ากันเปื้อนสวมหมวกที่มีจีบระบาย ถือเกลียวเปิดจุกขวดอันใหญ่ที่ยาวเกือบสองฟุตไว้ด้านหน้า มันหมุนไปมาเมื่อผู้หญิงคนนั้นขยับตัว เมื่อควักตาผู้ชราหรือพลเมืองที่โดนลูกหลงได้สักคน มันจึงจะกลับเข้าประตูไป

เมื่อเจ็ดร้อยปีก่อน ผู้ชราเกือบได้รับการปลดปล่อยโดยบุตรชายคนเล็กของเขา คนเป่าปี่ แต่เขาก็ไม่ได้รับความเห็นชอบจากพี่ชายของเขาเอง ลอร์ดวันอาทิตย์ จึงถูกโยนเข้าไปในสุญญะ (แต่ว่าในหนังสือเล่มที่หกปรากฏว่าคนที่โยนคนเป่าปี่เข้าไปในสุญญะนั้นคือวันเสาร์เลอเลิศ)

ลูกทะเล, กัปตันทอม เชลว็อค (The Mariner, Captain Tom Shelvocke)[แก้]

เป็นบุตรบุญธรรมของมหาสถาปนิกและผู้ชรา สูง 6 ฟุต 6 นิ้ว มีอาวุธคือฉมวก สร้างโดยมหาสถาปนิก คุณแม่ของเขา ซึ่งเมื่อใช้มันแล้วจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้รู้ตายและเด็กของคนเป่าปี่ ถูกจับโดยอังคารเคร่งเข้ามาเป็นผู้เฝ้าสมบัติและหนึ่งในสมบัติของเขา อย่างไรก็ตาม เขาได้ให้ความช่วยเหลือแก่อาเธอร์ได้การพาไปหาพินัยกรรมเนื่องจากเขาได้รับตำแหน่งวันจันทร์และนายแห่งบ้านเบื้องล่าง

ภายหลังจากที่ลูกทะเลเป็นอิสระจากอังคารเคร่ง เขาก็ได้มอบเหรียญมิตรภาพ ซึ่งทำจากกระดูกปลาวาฬให้กับอาเธอร์ ซึ่งสามารถขอความช่วยเหลือแกลูกทะเลได้สามครั้ง โดยเพียงแต่เรียกลงไปในเหรียญนั้น ลูกทะเลก็จะมา ในเรื่อง อาเธอร์ได้เรียกลูกทะเลไปแล้ว 2 ครั้งในตอนพุธเพชฌฆาต และตอนศุกร์รัตติกาล ลีฟได้ขอความช่วยเหลือจากเขาอีกครั้ง โดยที่เมื่ออาเธอร์เรียกลูกทะเลครบสามครั้งไปแล้ว เขาก็ไม่มีสิทธิ์เรียกลูกทะเลให้มาช่วยเขาได้ [19] ยกเว้นที่ว่าลูกทะเลจะสมัครใจมาช่วยด้วยตัวเอง [20]

ในอาทิตย์สิ้นสูญ อาเธอร์พยายามขอความช่วยเหลือให้ลูกทะเลช่วยปลดปล่อยเขาจากนาฬิกาจองจำ แต่ช้างหากุญแจที่วันอาทิตย์ชิงไปได้ก่อน ต่อมาจึงขอให้เขาเปิดกรงที่ขังพินัยกรรมส่วนที่เจ็ด ซึ่งทำให้เขาหมดแรงและเสียชีวิตลง

คนเป่าปี่ (The Piper)[แก้]

ลูกชายคนที่สามและเป็นลูกคนสุดท้องของมหาสถาปนิกและผู้ชรา เขาอ้างว่าถูกโยนเข้าไปในสุญญะโดยพี่ชายของเขา ลอร์ดวันอาทิตย์ เมื่อเขาพยายามที่จะปลดปล่อยผู้ชรา เขายังเป็นผู้ที่นำเด็กของคนเป่าปี่และหนูเติบโตเข้ามาในบ้าน และยังมีอำนาจในการบังคับพวกเขาผ่านทางปี่ของเขา ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายกุญแจ หรือแม้แต่น้ำเสียงอันลึกลับของเขา แม้แต่ยุวชนเกราะทองก็ไม่อาจทนพลังอำนาจของเขาได้ เขายังใช้อำนาจของเขาให้การก่อสร้างกองทัพนิทลิ่งใหม่ อันมีความฉลาดกว่านิทลิ่งทั่วไป เขาตั้งใจว่าจะใช้พวกมันเพื่อยึดครองบ้าน และกำจัดลอร์ดวันอาทิตย์ที่ทรยศต่อเขา แต่ส่วนที่สี่ของพินัยกรรมก็เถียงคนเป่าปี่ ว่าเขาเป็นผู้ที่ตั้งใจว่าจะปลดปล่อยผู้ชรา

เขาได้ทำการรุกรานวงกตยิ่งใหญ่ และได้ถอยทัพกลับเมื่อกองทัพของอาเธอร์และคุณหญิงพรีมัสได้ทำการตีโต้กลับไป เขาได้ยืนยันว่าเขาเป็นทายาทผู้ทรงสิทธิ์และเขาก็เหมือนกับมารดาของเขามาก คือมหาสถาปนิก ทว่าพินัยกรรมก็ปฏิเสธเขาและบอกเขาว่า ถ้ามหาสถาปนิกเลือกทายาทตามสายเลือด เธอจะต้องเลือกลอร์ดวันอาทิตย์อย่างแน่นอน และเป็นที่แน่นอนว่า ในพินัยกรรมได้กล่าวว่ามีเพียงผู้รู้ตายเท่านั้นที่ได้เป็นทายาทผู้ทรงสิทธิ์

ในศุกร์รัตติกาล เมื่อได้รับคำเชิญจากท่านหญิงวันศุกร์ให้มาชิงกุญแจในบ้านเบื้องกลาง เขาจึงพาเด็กของคนเป่าปี่ทั้งหมดที่ลักพาตัวมาได้ไปยังหออาลักษณ์ เขาเป็นผู้สังหารย่ำค่ำและสมุนทั้งหมด อีกทั้งยังเอาเหล่ายุวชนที่มากับอาเธอร์ให้มาเป็นพวก[21] สุดท้ายเมื่อรู้ว่าถูกหลอก ก็ทิ้งเด็กๆ และหลบหนีไป โดยใช้ปี่ของเขาวาดบันไดไม่ควรเป็น [22] ในเสาร์มนตรา เขาพยายามบุกบ้านเบื้องบนโดยความร่วมมือของหนูเติบโต พาเข้าสู่แหล่งน้ำใต้พื้นบ้านเบื้องบน ขึ้นหอคอยเข้าสู่สวนไร้ที่เปรียบสำเร็จ แต่หลังจากอาเธอร์ชิงกุญแจจากวันอาทิตย์ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ เขาจัดการวันเสาร์ และทิ้งร่างซึ่งปรากฏว่าเป็นเพียงร่างเลือนๆ คล้ายผีไป

นวมหาสถาปนิก (The New Architect)[แก้]

นวมหาสถาปนิก คืออาเธอร์ที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยกุญแจทั้งเจ็ดไปแล้ว ทำให้เขากลายเป็นพลเมืองชั้นสูงเทียบเท่ามหาสถาปนิก เขาเป็นเพียงผู้เดียวที่อยู่รอดจากการทำลายจักรวาล และรับมอบเจตจำนงของมหาสถาปนิกต่อจากนางในการสร้างจักรวาลขึ้นมาใหม่ โดยอาศัยข้อมูลจากแผนที่ซึ่งบันทึกภาพของจักรวาลก่อนการทำลายล้างไม่กี่นาที การสร้างของเขาคือการใช้ความคิดเพื่อปั้นสุญญะให้เป็นรูปเป็นร่าง เขาสร้างอาเธอร์ในวัยสิบสองปีขึ้นมา โดยมีความทรงจำครบถ้วนและไม่ป่วยอีก สร้างลีฟ และสร้างหน้าปัดทั้งเจ็ดเพื่อส่งพวกเขากลับสู่โลกที่กำลังก่อตัวขึ้น หลังจากนั้นเขาจึงสร้างซูซี่ ซึ่งกลายเป็นหญิงสาว และลงมือสร้างบ้าน ซึ่งจะมีเพียงอีลีเซียม สร้างจักรวาลและคนอื่นๆ กลับมาต่อไป

อ้างอิง[แก้]

  1. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 243
  2. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 245-246
  3. เสาร์มนตรา หน้า 184
  4. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 23
  5. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 60-68
  6. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 217-220
  7. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 232
  8. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 130-133
  9. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 93
  10. อาทิตย์สิ้นสูญ หน้า 94
  11. อาทิตย์สิ้นสูญ 209
  12. อาทิตย์สิ้นสูญ 217-218
  13. เสาร์มนตรา หน้า 8
  14. เสาร์มนตรา หน้า 196-197
  15. ศุกร์รัตติกาล หน้า 212
  16. http://www.garthnix.co.uk/members_forumcomments?&fti=98880e2e-a611-b734-d95a-a9021c395d14[ลิงก์เสีย]
  17. อาทิตย์สิ้นสูญ 207
  18. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-09-30. สืบค้นเมื่อ 2008-09-25.
  19. ศุกร์รัตติกาล หน้า 227
  20. ศุกร์รัตติกาล หน้า 238
  21. ศุกร์รัตติกาล หน้า 213
  22. ศุกร์รัตติกาล หน้า 215