ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ (BB-62)

	ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ ในเดือนมกราคม 1985
ประวัติ
สหรัฐอเมริกา
ชื่อ	ไทย : ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์; อังกฤษ : USS New Jersey;
ตั้งชื่อตาม	รัฐนิวเจอร์ซีย์
Ordered	1 กรกฎาคม 1939
อู่เรือ	อู่ทหารเรือฟิลาเดลเฟีย
ปล่อยเรือ	16 กันยายน 1940
เดินเรือแรก	7 ธันวาคม 1942
สนับสนุนโดย	แคโรลิน เอดิสัน
เข้าประจำการ	23 พฤษภาคม 1943
ปลดระวาง	30 กรกฎาคม 1948
นำกลับมาประจำการใหม่	21 พฤศจิกายน 1950
ปลดระวาง	21 สิงหาคม 1957
นำกลับมาประจำการใหม่	6 เมษายน 1968
ปลดระวาง	17 ธันวาคม 1969
นำกลับมาประจำการใหม่	28 ธันวาคม 1982
ปลดระวาง	8 กมภาพันธ์ 1991
Stricken	4 มกราคม 1999
รหัสระบุ	BB-62
คำขวัญ	"พลังยิงเพื่ออิสรภาพ"
ชื่อเล่น	"บิกเจ" "มังกรดำ"
เกียรติยศ	19 ดาวยุทธการ
สถานะ	จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์สถานเรือประจัญบานนิวเจอร์ซีย์ แคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2001
หมายเหตุ	เป็นเรือประจัญบานที่ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์กองทัพเรือสหรัฐ
สัญลักษณ์
ลักษณะเฉพาะ
ชั้น:	ไอโอวา
ขนาด (ระวางขับน้ำ):	มาตรฐาน: 49,657 ลองตัน (50,454 ตัน) (1943); เต็มที่: 58,132 ลองตัน (59,065 ลองตัน) (1943); เต็มที่: 60,000 ลองตัน (61,000 ตัน) (1968);
ความยาว:	887 ฟุต 7 นิ้ว (270.54 เมตร)
ความกว้าง:	108 ฟุต 1.375 นิ้ว (32.95333 เมตร)
กินน้ำลึก:	37 ฟุต 9 นิ้ว (11.51 เมตร)
ระบบขับเคลื่อน:	4 x เครื่องกังหัน กำลัง 53,000 แรงม้า 8 x หม้อไอน้ำ M-type แรงดัน 650 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
ความเร็ว:	33 นอต (61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
อัตราเต็มที่:	1,921 คน
ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:	เรดาร์ค้นหาทางอากาศ AN/SPS-49; เรดาร์ค้นหาพื้นน้ำ AN/SPS-67; เรดาร์ควบคุมการยิงพื้นน้ำ AN/SPQ-9;
สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง:	ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ AN/SLQ-32; ระบบเป้าลวงตอร์ปิโด AN/SLQ-25 Nixie; 8 × ระบบเป้าลวง Mark 36 SRBOC;
ยุทโธปกรณ์:	1943:; 9 × ปืนหลัก 16 นิ้ว (410 มม.)/50 คาลิเบอร์ Mark 7; 20 × ปืนรอง 5 นิ้ว (130 มม.)/38 คาลิเบอร์ Mark 12; 80 × ปืนต่อสู้อากาศยาน 1.6 นิ้ว (40 มม.)/56 คาลิเบอร์ Bofors L/60; 49 × ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน 0.79 นิ้ว (20 มม.)/70 คาลิเบอร์ Oerlikon; 1968:; 9 × ปืนหลัก 16 นิ้ว (410 มม.)/50 คาลิเบอร์ Mark 7; 20 × ปืนรอง 5 นิ้ว (130 มม.)/38 คาลิเบอร์ Mark 12; 1982:; 9 × ปืนหลัก 16 นิ้ว (410 มม.)/50 คาลิเบอร์ Mark 7; 12 × ปืนรอง 5 นิ้ว (130 มม.)/38 คาลิเบอร์ Mark 12; 32 × ขีปนาวุธครูซ บีจีเอ็ม-109 โทมาฮอว์ก; 16 × ขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ อาร์จีเอ็ม-84 ฮาร์พูน; 4 × 20 มม./76 คาลิเบอร์ Phalanx CIWS;
เกราะ:	ข้างตัวเรือ: 12.1 นิ้ว (307 มม.); ผนังกั้นน้ำ: 11.3 นิ้ว (287 มม.); ฐานป้อม: 11.6–17.3 นิ้ว (295–439 มม.); ป้อมปืน: 19.5 นิ้ว (495 มม.); ดาดฟ้า:; ชั้นหลัก 1.5 นิ้ว (38 มม.); ชั้นรอง 6.0 นิ้ว (152 มม.);
อากาศยาน:	1943:; 2 เครื่องดีดส่ง; 3 เครื่องบินทุ่นลอยน้ำ วอท โอเอส2ยู คิงฟิชเชอร์; 1950s:; ซิคอร์สกี เอช-5; 1968–1969:; โดรน ไจโรไดน์ คิวเอช-50 แดช; 1982:; รองรับเฮลิคอปเตอร์สูงสุด 4 ลำ แต่แทนที่ด้วย อากาศยานไร้คนขับ อาร์คิว-2 ไพโอเนียร์ 1 ลำ;

ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ (BB-62) (อังกฤษ: USS New Jersey) เป็นเรือประจัญบานลำที่สองในชั้นไอโอวา และเป็นเรือลำที่สองของกองทัพเรือสหรัฐที่ใช้ชื่อตามรัฐนิวเจอร์ซีย์ เรือได้รับฉายาที่น่ารักว่า "บิกเจ" (Big J) นิวเจอร์ซีย์ได้รับดาวยุทธการ (battle star) มากกว่าเรือในชั้นไอโอวาอีก 3 ลำ และเป็นเรือประจัญบานของสหรัฐเพียงลำเดียวที่ทำหน้าที่สนับสนุนการยิงปืนใหญ่ในช่วงสงครามเวียดนาม

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ ได้ปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายบนเกาะกวมและโอกินาวะ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่คุ้มกันเรือบรรทุกเครื่องบินที่ดำเนินการโจมตีหมู่เกาะมาร์แชลล์ ในช่วงสงครามเกาหลี เรือยังเข้าร่วมในการโจมตีชายฝั่งของเกาหลีเหนือ จากนั้นจึงปลดประจำการและเข้าประจำการในกองเรือสำรองของกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "กองเรือมอทบอล" (mothball fleet) ในปี 1968 นิวเจอร์ซีย์ ถูกนำกลับมาใช้งานอีกครั้งและส่งไปประจำการที่เวียดนามเพื่อสนับสนุนกองกำลังสหรัฐ ต่อมาในปี 1969 ก็ได้ปลดประจำการเป็นครั้งที่สอง จากนั้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 เรือได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยตามโครงการ "กองทัพเรือ 600 ลำ" (600-ship Navy program) โดยติดตั้งขีปนาวุธและนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง ในปี 1983 ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการของสหรัฐในช่วงสงครามกลางเมืองเลบานอน

ยูเอสเอส นิวเจอร์ซีย์ ปลดประจำการเป็นครั้งสุดท้ายในปี 1991 หลังจากรับใช้กองทัพเรือสหรัฐมานานถึง 21 ปี ในช่วงเวลานั้น เรือได้รับประกาศนียบัตรยกย่องชมเชย (Navy Unit Commendation) สำหรับภารกิจในเวียดนาม และ 19 ดาวยุทธการสำหรับการปฏิบัติภารกิจรบในสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามกลางเมืองเลบานอน และภารกิจในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากปลดประจำการ เรือได้ถูกเก็บรักษาไว้ในกองเรือสำรองเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะถูกบริจาคให้กับองค์กร Home Port Alliance ในเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์อย่างถาวรตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2001

อ้างอิง[แก้]

↑ ^1.0 ^1.1 "An Act providing for the issuance of Battleship U.S.S. New Jersey license plates ..." (PDF). NJ state library. 1995-09-12.
↑ "USS New Jersey (BB 62) of the US Navy - American Battleship of the Iowa class - Allied Warships of WWII - uboat.net". uboat.net. สืบค้นเมื่อ 2021-06-09.
↑ "Battleship New Jersey: Frequently Asked Questions". Battleship New Jersey. Battleship New Jersey Museum and Memorial. 2014-10-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2014-10-27.
↑ Garzke and Dunlin pp. 145–148
↑ ^5.0 ^5.1 RADM Joseph Snyder Jr, USN (ret) p. 2, Retrieved 10 June 2019

บทความนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล

หมายเหตุ: ขอแนะนำให้จัดหมวดหมู่โครงให้เข้ากับเนื้อหาของบทความ (ดูเพิ่มที่ วิกิพีเดีย:โครงการจัดหมวดหมู่โครงที่ยังไม่สมบูรณ์)

[PL199S-1] 1.0 ^1.1 "An Act providing for the issuance of Battleship U.S.S. New Jersey license plates ..." (PDF). NJ state library. 1995-09-12.

[2] "USS New Jersey (BB 62) of the US Navy - American Battleship of the Iowa class - Allied Warships of WWII - uboat.net". uboat.net. สืบค้นเมื่อ 2021-06-09.

[3] "Battleship New Jersey: Frequently Asked Questions". Battleship New Jersey. Battleship New Jersey Museum and Memorial. 2014-10-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2014. สืบค้นเมื่อ 2014-10-27.

[4] Garzke and Dunlin pp. 145–148

[RADM_Joseph_Snyder_Jr,_USN_ret-5] 5.0 ^5.1 RADM Joseph Snyder Jr, USN (ret) p. 2, Retrieved 10 June 2019

[1]

[3]

[2]

[4]

[5]