มาตรการรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกี่ยวข้องกับสุกร
รัฐบาลของประเทศทั่วโลกมีมาตรการรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยที่บางประเทศออกมาตรการซึ่งอาจผิดธรรมดาอย่างมากต่อสุกร ซึ่งได้รวมไปถึงการกำจัดสุกรภายในประเทศทั้งหมดในอียิปต์ และการลดจำนวนหมูป่าในสวนสัตว์แบกแดดในอิรัก การฆ่าหมูจำนวนมากเหล่านี้เกิดขึ้นในประเทศมุสลิม และมีการกล่าวอ้างว่าการจำกัดทางศาสนาต่อการบริโภคสุกรเป็นอิทธิพลต่อการตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว ประเทศอื่นหลายประเทศได้สั่งห้ามการค้าสุกรและผลิตภัณฑ์สุกรระหว่างประเทศ
องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าสุกรเป็นพาหะนำไวรัสไข้หวัดใหญ่มาสู่มนุษย์[1]
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม เหตุการณ์การค้นพบการเป็นพาหะไข้หวัดใหญ่จากมนุษย์สู่สุกรถูกค้นพในไร่ในอัลเบอร์ตา ที่ซึ่งมีการค้นพบสุกรที่ติดเชื้อ[2] เป็นที่น่าสงสัยว่าคนงานรับจ้างในไร่ดังกล่าวติดโรคซึ่งเพิ่งจะกลับมาจากเม็กซิโก ได้ส่งไวรัสไข้หวัดใหญ่ไปสู่สัตว์[3]
การตอบสนองโดยทั่วไป
[แก้]แหล่งที่มาของไวรัส
[แก้]ตามข้อมูลของนักวิจัยซึ่งอ้างโดย เดอะนิวยอร์กไทมส์ "เมื่อศึกษาโครงสร้างพันธุกรรมของมันแล้ว ไม่มีคำถามเลยว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นประเภทหนึ่งของไข้หวัดใหญ่ในสุกร ซึ่งมีกำเนิดมาจากสายพันธุ์ซึ่งอาศัยอยู่ในสุกร"[4] จุดกำเนิดดังกล่าวทำให้มีการตั้งชื่อว่า "ไข้หวัดหมู" ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันในสื่อมวลชนในช่วงแรกของการระบาด แต่ถึงแม้ว่าไวรัสจะกำเนิดมาจากสุกร แต่สายพันธุ์ของไวรัสในปัจจุบันก็ติดต่อจากคนสู่คนได้โดยไม่ต้องติดต่อกับสุกร[5]
ความปลอดภัยของอาหารและการสั่งห้ามการนำเข้า
[แก้]เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศจาก CDC, องค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การสาธารณสุขสัตว์โลก (OIE) และองค์การด้านอาหารอื่น ๆ ได้ยืนยันว่าเนื้อสุกรปลอดภัยต่อการบริโภค และไม่ควรกล่าวโทษสุกรว่าเป็นต้นเหตุของการระบาด อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 จีน รัสเซีย และอีกราว 12 ประเทศยังคงสั่งห้ามการนำเข้าเนื้อสุกรจากสหรัฐอเมริกา องค์การการค้าโลก (WTO) วางแผนจะหยิบยกเรื่องการสั่งห้ามสุกรในรายงานซึ่งกำลังมาถึงของลัทธิคุ้มครอง และกล่าวย้ำว่าเนื้อสุกรมิใช่ต้นเหตุของการระบาด และมีความปลอดภัยต่อการบริโภคหากเนื้อได้รับการเตรียมอย่างแหมาะสม[6] เจ้าหน้าที่สหรัฐบางส่วนพิจารณาว่าการสั่งห้ามดังกล่าวเป็น "เรื่องส่วนแบ่งการตลาดมากกว่าความกังวลด้านสาธารณสุข" และทำให้อุตสาหกรรมสุกรสูญเสียรายได้นับล้านดอลลาร์สหรัฐทุกสัปดาห์ แดฟ วอร์เนอร์ โฆษกสภาผู้ผลิตเนื้อสุกรแห่งชาติ ในวอชิงตัน ดี.ซี. ชี้ว่าความไม่ตกลงกันอันยาวนานกับจีนและรัสเซียอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง[7][8][9][10]
ผลที่ตามมาคือ ราวกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2552 เนื้อสุกรกลายมาเป็นการลงทุนด้านโภคภัณฑ์ที่เลวร้ายที่สุดเป็นอันดับสองในปี พ.ศ. 2552 ซึ่งการลงทุนอาจลดลงถึง 33 เปอร์เซนต์เมื่อถึงปลายปี การนำเข้าของสหรัฐตกลงอย่างฉับพลันถึง 20 เปอร์เซนต์ ในช่วงครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2552 และกำลังนำไปสู่การถดถอยในรอบปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ศ. 2533 บริษัทไทสันฟูดส์ ปิดกิจการโรงฆ่าสัตว์ และผู้เลี้ยงสุกรชาวอเมริกันไม่ได้รับผลตอบแทนที่ดีนักในปี พ.ศ. 2552 การนำเข้าจากสหรัฐลดลงถึง 38 เปอร์เซนต์ในรัสเซีย และ 73 เปอร์เซนต์ในจีน รวมทั้งฮ่องกง ตามข้อมูลของ USDA[11]
เมื่อถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 กลุ่มประเทศอาหรับสั่งจำกัดการนำเข้าเนื้อสุกรเหลือเพียงครึ่งเดียว[12]
การเฝ้าระวังประชากรสุกร
[แก้]ในช่วงต้นมิถุนายน พ.ศ. 2552 กระทรวงการเกษตรของสหรัฐกล่าวว่ากระทรวงจะออกโครงการเฝ้าระวังเพื่อสอดส่องหาสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสุกร ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับโลกได้ประเมินการความเสี่ยงว่าผู้เลี้ยงสุกรอาจเป็นแหล่งที่มาของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ต่ำเกินไป เลือกที่จะให้ความสำคัญกับภัยคุกคามจากไข้หวัดนก จนถึงปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้ดำเนินการเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ในสุกรน้อยมาก— ถึงแม้ว่าไวรัสจะพบได้ทั่วไปในสัตว์และสามารถติดต่อสู่คนได้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ยังมีหลักฐานว่าติดต่อจากสุกรสู่คนและจากคนสู่สุกร[13]
มาตรการรับมือเรียงตามประเทศ
[แก้]จากการรายงานของ Telegraph.co.uk สุกรเพียงตัวเดียวในอัฟกานิสถานถูกยกเลิกการจัดแสดงในสวนสัตว์กรุงคาบูล และ "กักกัน" เพื่อรับมือกับความกลัวของผู้เข้าเยี่ยมชมซึ่งอาจติดต่อไข้หวัดในสุกรได้[14]
รายงานของการติดต่อของไวรัสจากคนสู่สุกรถูกพบในจังหวัดบัวนอสไอเรสเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ฟาร์มสุกรซึ่งเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นได้รับคำสั่งห้าม[15]

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม รองประธานหน่วยงานตรวจตราอาหารแคนาดา ไบรอัน อีแวนส์ ประกาศว่าผู้รับจ้างทำงานในฟาร์มซึ่งติดเชื้อในอัลเบอร์ตา เพิ่งจะกลับมาจากเม็กซิโก และได้ส่งต่อไข้หวัดใหญ่ในฝูงสุกรเลี้ยงในการดูแลของเขา ถึงแม้ว่าสุกรจะถูกกักกัน อีแวนส์เน้นว่าการระบาดจะไม่คุกคามความปลอดภัยของอาหารและตัดสินความเป็นไปได้ในการที่สุกรติดเชื้อจะส่งไวรัสกลับสู่คนอีกครั้ง อีแวนส์กล่าวว่าการระบาดของฝูงสัตว์เป็นกรณีแรกของการติดต่อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 จากคนสู่สุกร[16]
ต้นเดือนมิถุนายน ผู้เลี้ยงสุกรในอัลเบอร์ตาซึ่งฝูงสุกรในการดูแลได้รับการติดต่อจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ต้องลดจำนวนสัตว์ทั้งหมด ในเดือนพฤษภาคม เขาได้ลดจำนวนสัตว์ในฝูงลงไปแล้ว 500 ตัว เจ้าของฟาร์มกล่าวว่าสัตว์ดังกล่าวไม่สามารถนำไปขายได้ เนื่องจากสุกรถูกกักกัน อีกทั้งเขากำลังเผชิญกับปัญหาสุกรแน่นเกินไปอยู่แล้ว[17]
การถ่ายทอดจากฝูงสุกรฝูงเดียวกันนี้กลับสู่คนได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม โดยเป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วัที่ 7 พฤษภาคม เมื่อมนุษย์ ผู้ตรวจการสุขภาพสัต์ กำลังเก็บตัวอย่างจากฝูงสัตว์ที่ติดเชื้อโดยที่มีมาตรการป้องกันตนเองไม่เพียงพอ[18]
สาธารณรัฐประชาชนจีนสั่งห้ามการนำเข้าสุกรอย่างเด็ดขาด[19]
เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2552 รัฐบาลอียิปต์ประกาศตัดสินใจฆ่าสุกรทุกตัวในประเทศ เป็นปริมาณกว่า 300,000 ตัว ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะขาดหลักฐานซึ่งแสดงว่าสุกรดังกล่าวติดหรือสงสัยว่าติดเชื้อไวรัส[20][21] การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เกิดความตึงเครียดทางศาสนาเนื่องจากเจ้าของสุกรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์นิกายคอปติกออร์โธด็อกซ์ ซึ่งเป็นประชากรส่วนน้อยของประเทศ (ราว 15-20% ของประชากรทั้งหมด) ในชาติซี่งมีประชากรอิสลามมากที่สุด ทนายความสิทธิมนุษยชนชาวอียิปต์ Nadia Tawfiq กล่าวอ้างว่าการสั่งฆ่าหมูเป็นรูปแบบหนึ่งของการโจมตีคริสเตียน[22] หนังสือพิมพ์ระหว่างประเทศให้เหตุผลของการกระทำดังกล่าวว่ามาจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสุกรในระดับโลก[23] ถึงแม้ว่าจะยังไม่พบรายงานการพบไข้หวัดใหญ่ในสุกรในประเทศเลยก็ตาม[21]
รัฐบาลเริ่มต้นการฆ่าเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552[1] ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันระหว่างเจ้าของสุกรกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในไคโร ในวันต่อมา ผู้อยู่อาศัยชาวคริสต์นิกายคอปติกออร์โธด็อกซ์ราว 300 คน ในอำเภอ Manshiyat Nasr ได้สร้างสิ่งกีดขวางบนถนนเพื่อพยายามป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในการริบสุกรของพวกเขา ซึ่งนำไปสู่การปะทะกับตำรวจอีกเช่นกัน Al-Ahram หนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายในอียิปต์ รายงานว่าเจ้าของสุกรจะได้รับเงิน 1,000 ปอนด์อียิปต์ (ราว 177.70 ดอลลาร์สหรัฐ) เป็นค่าชดเชยต่อสุกรหนึ่งตัวที่ถูกฆ่า[24] แต่รอยเตอร์รายงานว่าประเด็นดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา ซึ่งกล่าวโดยโฆษกคณะรัฐมนตรีอียิปต์[24]
กานาสั่งห้ามการนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์เนื้อสุกร[25]
ภายหลังการประชุมร่วมกันเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งระงับการนำเข้าสุกร และเริ่มการตรวจสอบสุกร 9 ล้านตัวในประเทศ[26]
Adel Salman Musa ผู้อำนวยการสวนสัตว์แบกแดดกล่าวว่า "ได้รับคำสั่งจากคณะกรรมการหลายกระทรวงโดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไข้หวัดใหญ่ในสุกร" ในการฆ่าหมูป่าสามตัวของแบกแดด[1] เขากล่าวว่าการฆ่าจะเป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวสวนสัตว์[1] โดยก่อนหน้านี้ จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงเป็นเวลาหลายวัน หมูป่าได้รับการทดสอบก่อนการฆ่า ซึ่งผลปรากฏว่าเป็นลบ[1] ผู้อำนวยการสวนสัตว์กล่าวว่าพวกมันถูกฆ่าอย่างเมตตา[1] ด้วยการใช้ยาสลบ[27] ซากของมันถูกฝังในภายหลัง[27]
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าการฆ่าสุกรไม่มีจุดประสงค์ในการป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ในสุกรในขณะที่ยังไม่มีกรณีที่รายงาน[28] Ehassan Jafar โฆษกกระทรวงการสาธารณสุขของประเทศ กล่าวว่า "มันไม่มีประโยชน์" นับตั้งแต่ไวรัสสามารถสามารถถ่ายทอดจากคนสู่คนได้[28]
กระทรวงการเกษตร การป่าไม้ และการประมงแห่งญี่ปุ่น ได้สั่งให้หน่วยงานกักกันสัตว์ทั่วประเทศตรวจสอบสุกรมีชีวิตที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันไม่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็ร 1[29] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรญี่ปุ่น Shigeru Ishiba ปรากฏตัวในโทรทัศน์เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่าการบริโภคเนื้อสุกรมีความปลอดภัยเพียงพอ[30] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทำนากล่าวว่ากระทรวงจะไม่เรียกร้องให้มีการจำกัดการนำเข้าเนื้อสุกร เนื่องจากไวรัสไม่ปรากฏในเนื้อสุกรบ่อยนัก และไวรัสจะถูกฆ่าเมื่อผ่านความร้อน[31]
รัฐบาลท้องถิ่นของเคิร์ดิสถานสั่งห้ามการล่าหมูป่า[1] ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรหมูป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก[1] ผู้ที่อยู่อาศัยได้รับการบอกเล่าให้หลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสุกร[1] นักเดินทางถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดสำหรับกิจกรรมของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นดังกล่าว[1]
เมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 รัฐบาลสาธารณรัฐมาซิโดเนียสั่งห้ามการส่งออกทั้งหมดและการนำเข้าสุกรมีชีวิต[32]
ไม่มีกฤษฎีกาของรัฐใด ๆ เกี่ยวกับมาตรการรับมือการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความปลอดภัยประชาชนโดยเริ่มการป้องกันการขายเนื้อสุกรแต่เพียงฝ่ายเดียว ในบางเมืองของประเทศ เนื้อสุกรเป็นสินค้าที่พบได้ยากมาก[33]
สุกร 500 ตัว ถูกฆ่าเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม หลังจากพบไข้หวัดใหญ่ในสุกรในฟาร์มแห่งหนึ่งเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ สุกรอีก 900 ตัว จากฟาร์มอีกแห่งหนึ่งได้ถูกฆ่าเช่นกัน[34][35]
ฟิลิปปินส์สั่งห้ามการนำเข้าสุกรจากประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ การสั่งห้ามดังกล่าวถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ยกเว้นการนำเข้าจากแคนาดา เนื่องจากรัฐบาลยังคงตรวจสอบความเป็นไปได้ของการถ่ายทอดไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จากคนสู่สุกร การนำเข้าสุกรจากแคนาดาถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม[36] [37]
สหพันธรัฐรัสเซียสั่งห้ามการนำเข้าสุกร[38]
การนำเข้าเนื้อสุกรและสุกรมีชีวิตจากประเทศซึ่งได้รับผลกระทบทั้งหมดถูกสั่งห้าม การสั่งห้ามดังกล่าวมีผลถึงผลิตภัณฑ์ซึ่งส่งมอบหลังวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2552[39]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 "Wild boars killed in Iraq over swine flu fears". CNN. 2009-04-03. สืบค้นเมื่อ 2009-05-04.
- ↑ Lauren Etter (3 May 2009). "Pigs in Canada Contract Flu Virus". Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 2009-05-03.
- ↑ "Canada farm worker 'infects pigs'". BBC News. 3 May 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-05-03.
- ↑ Martin Andrew, Krauss Clifford (28 April 2009). "Pork industry fights concerns over swine flu". The New York Times.
- ↑ "Swine Flu Might Have Come From Asia" New York Times, June 23, 2009
- ↑ "EXCLUSIVE-WTO protectionism report to feature swine flu bans" Reuters, June 12, 2009
- ↑ "US pork industry baffled by bans in China, Russia" เก็บถาวร 2009-06-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Associated Press, May 4, 2009
- ↑ Zampaglione Maria (8 May 2009). "OIE position on safety of international trade of pigs and products of pig origin" (Press release). World Organization for Animal Health. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-15. สืบค้นเมื่อ 2009-05-08.
- ↑ Kader Binsal Abdul (29 April 2009). "UAE bans import and sale of pork 'as a precaution against swine flu'". Gulf News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-22. สืบค้นเมื่อ 2010-05-01.
- ↑ Underwood Mitya, Kwong Matt (30 April 2009). "UAE bars pork imports". The National. Abu Dhabi.
- ↑ "Pork Drops 30% in Futures as Flu Cuts Chinese Imports" Bloomberg News, Aug. 17, 2009
- ↑ Flu to halt Arab countries import of pigs[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Pigs an underestimated source of flu: study" Reuters, June 4, 2009
- ↑ Last Updated: 11:51AM BST 07 May 2009 (2009-04-25). "Swine flu: Afghanistan's only pig quarantined". Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-13. สืบค้นเมื่อ 2009-05-08.
- ↑ MercoPress, "Human-To-Swine A/H1N1 Virus Contagion In Argentine Hog Farm", 26 June 2009, (accessed 27 June 2009)
- ↑ "Alberta pigs likely infected with flu from worker: CFIA official". CBC News. 3 May 2009. สืบค้นเมื่อ 2009-05-03.
- ↑ "3,000 Alberta hogs culled due to swine flu" Health Zone - Canada, June 7, 2009
- ↑ "Swine-flu inspectors in improper gear got virus". CBC News. 20 July 2009.
- ↑ http://article.wn.com/view/2009/05/04/China_expands_ban_on_pork_imports/
- ↑ Youssef Maamoun (29 April 2009). "Egypt orders slaughter of all pigs over swine flu". The Independent. The Associated Press. สืบค้นเมื่อ 2009-05-02.
- ↑ 21.0 21.1 "Clashes erupt over Egypt pig cull". BBC News. 2009-05-03. สืบค้นเมื่อ 2009-05-03.
- ↑ "Egypt: swine destruction threatens coptic-run industry". Compass Direct News. 2009-05-05. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-07-28. สืบค้นเมื่อ 2010-05-01.
- ↑ Youssef, Maamoun (2009-04-29). "Egypt orders slaughter of all pigs over swine flu". The Independent. The Associated Press. สืบค้นเมื่อ 2009-05-02.
- ↑ 24.0 24.1 Stewart, Phil (2009-04-29). "UN agency slams Egypt order to cull all pigs". Reuters.
- ↑ "Ghana bans importation of pork and pork products". Ghana Broadcasting Corporation. 2009-04-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-09. สืบค้นเมื่อ 2009-04-30.
- ↑ "Cegah flu babi, pemerintah gelar rapat koordinasi". Kompas newspaper. 2009-04-27.
- ↑ 27.0 27.1 "Iraqi zoo kills boars amid fear of A/H1N1 flu". Xinhua News Agency. 2009-04-03. สืบค้นเมื่อ 2009-05-04.
- ↑ 28.0 28.1 "Iraq culls three wild pigs at Baghdad zoo". Google. 2009-04-03. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-03-03. สืบค้นเมื่อ 2009-05-04.
- ↑ "Japan on high alert for swine flu after an outbreak in Mexico". Kyodo News. 2009-04-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-29. สืบค้นเมื่อ 2009-04-26.
- ↑ MOFA issues red travel alert for Mexico on swine flu เก็บถาวร 2009-04-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. CNA
- ↑ "FACTBOX-Asia moves to ward off new flu virus". Reuters. 2009-04-26.
- ↑ Deng Shasha (2009-04-29). "Macedonian senior officials monitored for possible swine flu".
- ↑ http://www.dailynk.com/english/read.php?cataId=nk01500&num=5604
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-03. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-19. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-24. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-07. สืบค้นเมื่อ 2010-05-02.
- ↑ http://www.reuters.com/article/GCA-SwineFlu/idUSTRE5431PB20090504
- ↑ The world response to flu crisis, BBC News, 2009-04-28. Retrieved on 2009-04-30.