ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สนธิสัญญาคานางาวะ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "โยะโกะฮะมะ" → "โยโกฮามะ" ด้วยสจห.
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 40: บรรทัด 40:
[[หมวดหมู่:สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา]]
[[หมวดหมู่:สนธิสัญญาเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา]]
[[หมวดหมู่:สนธิสัญญาในคริสต์ศตวรรษที่ 19]]
[[หมวดหมู่:สนธิสัญญาในคริสต์ศตวรรษที่ 19]]
[[หมวดหมู่:ยุคเอะโดะ]]
[[หมวดหมู่:ยุคเอโดะ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:30, 15 กรกฎาคม 2562

ข้อตกลงคานางาวะ
สนธิสัญญาสันติภาพและไมตรีญี่ปุ่น-สหรัฐ
วันลงนาม31 มีนาคม ค.ศ. 1854
ที่ลงนามโยโกฮามะ
วันตรา21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1855
โดยจักรพรรดิโคเม
วันมีผล31 กันยายน ค.ศ. 1855
เงื่อนไขโดยได้รับสัตยาบันจากรัฐสภาสหรัฐและมีลายพระนามจักรพรรดิญี่ปุ่น
ผู้ลงนามสหรัฐ แมทธิว ซี. เพอร์รี
ฮะยะชิ อะกิระ
ภาคีสหรัฐ สหรัฐอเมริกา
รัฐบาลเอโดะ
ภาษาจีน · ญี่ปุ่น · อังกฤษ · ดัตช์
:en:Treaty of Kanagawa ที่ วิกิซอร์ซ

สนธิสัญญาคานางาวะ (ญี่ปุ่น: 神奈川条約โรมาจิคานางาวะ โจยะกุ) หรือ ข้อตกลงคานางาวะ (ญี่ปุ่น: 日米和親条約โรมาจินิชิเบ วะชิน โจยะกุทับศัพท์: "สนธิสัญญาสัมพันธไมตรีและมิตรภาพญี่ปุ่น-สหรัฐอเมริกา") เป็นสนธิสัญญาที่ได้ทำขึ้นระหว่างพลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รี แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลเอโดะ สนธิสัญญาดังกล่าวมีผลให้ญี่ปุ่นต้องเปิดเมืองท่าชิโมดะและฮาโกดาเตะให้ค้าขายกับสหรัฐอเมริกาและรับประกันความปลอดภัยของกะลาสีเรือแตกชาวอเมริกัน อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาดังกล่าวมิได้สร้างพื้นฐานสำหรับการตั้งถิ่นฐานถาวรในบริเวณดังกล่าว[1] สนธิสัญญาได้วางรากฐานสำหรับสหรัฐในการรักษากงสุลถาวรในชิโมดะ การมาถึงของกองเรือของเพอร์รีนำมาซึ่งการสิ้นสุดของนโยบายตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นเวลา 200 ปีของญี่ปุ่น (ซาโกกุ)[2]

เพอร์รีปฏิเสธที่จะเจรจากับเจ้าหน้าที่ทางการของญี่ปุ่นและต้องการเจรจากับประมุขแห่งรัฐของญี่ปุ่นโดยตรง ในเวลานั้น โชกุน โทกูงาวะ อิเอโยชิ เป็นผู้ปกครองโดยพฤตินัยของญี่ปุ่น และไม่เคยมีธรรมเนียมที่จักรพรรดิจะทรงมีพระราชปฏิสัณฐารกับชาวต่างชาติโดยตรง เพอร์รีจึงเจรจาความกับ ฮิระชิ อะกิระ ผู้ถืออำนาจเต็มแทนโชกุน และจึงถวายหนังสือสัญญาให้จักรพรรดิโคเมทรงลงพระนามรับรอง[3]

สนธิสัญญาคานางาวะ ตามมาด้วยสนธิสัญญาสัมพันธไมตรีและการค้า หรือ "สนธิสัญญาแฮริส" ใน ค.ศ. 1858 ซึ่งอนุญาตให้สัมปทานแก่ชาวต่างประเทศ การมอบสิทธิสภาพนอกอาณาเขตให้แก่ชาวต่างประเทศ และการจำกัดภาษีขาเข้าของสินค้าต่างประเทศ ญี่ปุ่นในเวลาต่อมาจะอยู่ภายใต้ "ระบบสนธิสัญญาอันไม่เป็นธรรม" อันเป็นลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างชาติเอเชียและชาติตะวันตกในยุคสมัยดังกล่าว[4]

เชิงอรรถ

  1. "From Washington; The Japanese Treaty-Its Advantages and Disadvantages-The President and Col. Rinney, &c.," New York Times. October 18, 1855.
  2. Perry, Matthew Calbraith. (1856). Narrative of the expedition of an American Squadron to the China Seas and Japan, 1856.
  3. Cullen, Louis M. (2003). A History of Japan, 1582-1941: Internal and External Worlds, p. 173-185.
  4. Bert Edström, Bert. (2000). The Japanese and Europe: Images and Perceptions, p. 101.

แหล่งข้อมูลอื่น