ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์"
พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์มีเชื้อสายจีน ซึ่งรู้โดยทั่วกันโดยไม่ต้องใส่ให้รก |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 11: | บรรทัด 11: | ||
เกริกเกียรติเสียชีวิตเมื่อ[[วันเสาร์]]ที่ [[20 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2555]] ด้วย[[มะเร็ง|โรคมะเร็ง]][[มะเร็งปอด|ในปอด]] ที่[[โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์]] [[กรุงเทพมหานคร]] ขณะมีอายุ 63 ปี<ref name="dailynews">[http://www.dailynews.co.th/businesss/162046 มะเร็งคร่าชีวิต “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” ในวัย 63], 20 ตุลาคม 2555, [[เดลินิวส์]][http://www.dailynews.co.th ออนไลน์]</ref> |
เกริกเกียรติเสียชีวิตเมื่อ[[วันเสาร์]]ที่ [[20 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2555]] ด้วย[[มะเร็ง|โรคมะเร็ง]][[มะเร็งปอด|ในปอด]] ที่[[โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์]] [[กรุงเทพมหานคร]] ขณะมีอายุ 63 ปี<ref name="dailynews">[http://www.dailynews.co.th/businesss/162046 มะเร็งคร่าชีวิต “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” ในวัย 63], 20 ตุลาคม 2555, [[เดลินิวส์]][http://www.dailynews.co.th ออนไลน์]</ref> |
||
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ == |
|||
{{ต.ช.}} |
|||
{{ท.ม.}} |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:46, 8 ตุลาคม 2558
เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ชื่อเล่น ตั้ว อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ
ประวัติ
เกริกเกียรติเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2492[1] เป็นบุตรของนิธิพัฒน์ (บิดา) กับอินทิรา (มารดา; สกุลเดิม: อินทรทูต บุตรสาวพระพินิจชนคดี (พินิจ อินทรทูต) กับหม่อมหลวงอรุณ สนิทวงศ์[2]) จบการศึกษาระดับปริญญาโท ทางบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา
เกริกเกียรติเคยทำงานกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ภัทรธนกิจ ก่อนจะเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือหัวหน้าส่วนวิเคราะห์สถาบันการเงิน[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 เกริกเกียรติเข้าทำงานที่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวฝ่ายมารดา ในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการฝ่ายสาขา ก่อนจะรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ในเวลาต่อมา เกริกเกียรติขยายกิจการของธนาคารฯ โดยมุ่งเน้นสายงานวาณิชธนกิจ, บริหารการเงิน และการต่างประเทศ ภายใต้การดำเนินงานของราเกซ สักเสนา นักการเงินชาวอินเดีย ซึ่งขณะนั้นเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่[3]
ในช่วงปี พ.ศ. 2536-2538 ราเกซทำธุรกรรมทางการเงินแบบพิสดาร ในนามของธนาคารฯ[3] ทั้งการปล่อยกู้ให้กับนักลงทุน ที่ต้องการเทคโอเวอร์กิจการในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำไปขายทำกำไร โดยมีลูกค้าส่วนหนึ่ง เป็นนักการเมืองสังกัดกลุ่ม 16[4] (กลุ่มการเมืองที่นำโดย เนวิน ชิดชอบ, สุชาติ ตันเจริญ, ชูชีพ หาญสวัสดิ์, สรอรรถ กลิ่นประทุม) หรือการปล่อยสินเชื่อให้กับกิจการต่างชาติ โดยหารายได้จากค่าธรรมเนียมธุรกรรมการเงิน[3] จนกระทั่งเกิดหนี้เสีย และถูกควบคุมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2539 ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้ายึดและสั่งปิดกิจการ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชยการ พร้อมทั้งฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับเกริกเกียรติและราเกซ ว่ากระทำผิดตามกฎหมายธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และ กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกรวมทั้งสิ้น 17 คดี มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท[4] ต่อมา ศาลชั้นต้นมีคำตัดสินเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552 สั่งจำคุกเกริกเกียรติเป็นเวลา 20 ปี และปรับเป็นเงิน 3,100 ล้านบาท[5][6]
เกริกเกียรติเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ด้วยโรคมะเร็งในปอด ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพมหานคร ขณะมีอายุ 63 ปี[7]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
อ้างอิง
- ↑ แม้ร่ำรวยมีเงินเป็นหมื่น-พันล้าน ก็หมดตัวได้ ปิดตำนาน "โกง" บีบีซี (ตอน 1)
- ↑ สืบสาย "อินทรทูต" ใน 48 ปีแบงก์บีบีซี" นิตยสารผู้จัดการ, มกราคม 2536
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อวสาน "อินทรทูต" ภัทราวรรณ พูลทวีเกียรติ, นิตยสารผู้จัดการ, เมษายน 2539
- ↑ 4.0 4.1 'อัปเดต' คดี 'ฉ้อโกง'-บีบีซี เกริกเกียรติ 'อ่วม' จำคุก 110 ปี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2408 12 มี.ค. - 14 มี.ค. 2552
- ↑ Krirk-kiat sentenced to another 20 years in jail The Nation, March 11, 2009
- ↑ คุกอีก 20 ปี ปรับ 3 พันล้าน “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” โกงบีบีซี ผู้จัดการ, 11 มีนาคม 2552
- ↑ มะเร็งคร่าชีวิต “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” ในวัย 63, 20 ตุลาคม 2555, เดลินิวส์ออนไลน์