ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เสาชิงช้า"
หน้าตา
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม) ลไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: ถูกแทน ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
||
บรรทัด 22: | บรรทัด 22: | ||
| ne_next = ด้านหลัง[[กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)|ศาลาว่าการ กทม.]] |
| ne_next = ด้านหลัง[[กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)|ศาลาว่าการ กทม.]] |
||
}} |
}} |
||
'''เสาชิงช้า''' เป็น [[สถาปัตยกรรม]] ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประกอบพิธีโล้ชิงช้า ใน [[พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย]] ของ [[ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู]] โดยทั่วไปหมายถึงเสาชิงช้าที่ตั้งอยู่หน้า [[วัดสุทัศน์เทพวราราม]] และลานหน้า [[กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)|ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร]] (ลานคนเมือง) ใกล้กับ [[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]] ในพื้นที่แขวงเสาชิงช้าและแขวงวัดราชบพิธ [[เขตพระนคร]] [[กรุงเทพมหานคร]] ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ [[กรุงเทพมหานคร]] แม้พิธีโล้ชิงช้าได้เลิกไปแล้วตั้งแต่สมัย [[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 7 ก็ตาม |
|||
นอกจากนี้ ใน [[ประเทศไทย]] ยังมีเสาชิงช้าอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ หน้าหอพระอิศวร [[เทศบาลนครนครศรีธรรมราช|เมืองนครศรีธรรมราช]] ซึ่งมีการประกอบพิธีโล้ชิงช้ามาแต่โบราณเช่นกัน แต่ได้เลิกไปก่อนที่จะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ในภายหลัง โดยจำลองแบบมาจากเสาชิงช้าที่ [[กรุงเทพมหานคร]] |
|||
เสาชิงช้าที่ [[กรุงเทพมหานคร]] แห่งนี้ มีลักษณะเป็นเสาชิงช้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่ สูง 21.15 ม. เส้นผ่านศูนย์กลาง ฐานกลมประมาณ 10.50 ม. ฐานกลมก่อเป็นฐานปัทม์ทำด้วยหินล้างสีขาว พื้นบนปูกระเบื้องดินเผาสีแดง มีบันได 2 ขั้น ทั้ง 2 ด้าน ตามแนวโค้งของฐานติดแผ่นจารึกประวัติเสาชิงช้า เสาไม้แกนกลางคู่และเสาตะเกียบ 2 คู่ เป็นเสาหัวเม็ด ล้วนทำด้วยไม้สักกลึงกลม โครงยึดหัวเสาทั้งคู่แกะสลักอย่างสวยงาม กระจังและหูช้างไม้เป็นลวดลายไทย ทั้งหมดทา [[สีแดง|สีแดงชาด]] ติด [[สายล่อฟ้า]] จากลวดลายกระจังด้านบนลงดิน |
|||
[[กรมศิลปากร]] ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเสาชิงช้าเป็น [[โบราณสถาน]] สำคัญของชาติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 นับตั้งแต่สร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2327 จนถึงการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งล่าสุดซึ่งเสาชิงช้าคู่เดิมถูกถอดเปลี่ยนเมื่อปี พ.ศ. 2549 เสาชิงช้ามีอายุรวมประมาณ 222 ปี |
|||
== การก่อสร้าง == |
|||
จดหมายเหตุกรุงรัตนโกสินทร์บันทึกไว้ว่าพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาจักรีบรมนาถ หรือ[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]] รัชกาลที่ 1 โปรดให้สร้างเสาชิงช้าในพระนครขึ้นตรงหน้า[[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]] เมื่อวันพุธ เดือน 5 แรม 4 ค่ำ ปีมะโรง <ref group=note>ในความเป็นจริง วันแรม 4 ค่ำ เดือน 5 ปีมะโรง ที่บันทึกไว้ตรงกับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2327 ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดีไม่ใช่วันพุธ; ดังนั้น วันพุธตามปฏิทินที่ถูกต้องอาจเป็นวันพุธ เดือน 5 แรม 3 ค่ำ หรือวันพุธ เดือน 5 ขึ้น 4 ค่ำ อย่างใดอย่างหนึ่ง{{อ้างอิง}}</ref> บริเวณลานด้านเหนือของ[[วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร]] ต่อมาย้ายมาสร้างใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบันบริเวณหน้าวัดสุทัศน์ในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เนื่องจากข้อจำกัดด้านสถานที่ |
|||
== พิธีโล้ชิงช้า == |
|||
[[ไฟล์:พิธีโล้ชิงช้า.jpg|250px|thumb|ขณะทำพิธีโล้ชิงช้า ตึกทางซ้ายมือเป็นตึกตลาดเสาชิงช้าที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้รื้อหมดแล้ว กลายเป็นลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน]] |
|||
[[ไฟล์:เสาชิงช้า เมืองนครศรีธรรมราช.jpg|250px|thumb|เสาชิงช้า เมืองนครศรีธรรมราช หน้าหอพระอิศวร]] |
|||
พิธีโล้ชิงช้า เป็นส่วนหนึ่งของ[[พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย]] เป็นการต้อนรับ[[พระอิศวร]]ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทพเจ้าของ[[ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู]] เชื่อกันว่าพระอิศวรจะเสด็จลงสู่โลกในวันขึ้นเจ็ดค่ำเดือนยี่ วันนั้นจะมีการแห่พระเป็นเจ้าไปถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว |
|||
เมื่อพระเป็นเจ้าเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์ก็ได้เชิญเทวดาองค์อื่นๆ มาเฝ้าและมาร่วมพิธีด้วย ได้แก่ [[พระอาทิตย์]] [[พระจันทร์]] [[พระแม่คงคา|พระคงคา]] และ[[พระแม่ธรณี|พระธรณี]] พราหมณ์จะแกะรูปสัญลักษณ์ของเทวดาแต่ละองค์เป็นเทวรูปลงในไม้กระดานสามแผ่นเพื่อทำการบูชาในเทวสถาน แล้วจากนั้นจะนำไปปักในหลุมหน้าโรงพิธีนั่งดูโล้ชิงช้า หันหน้ากระดานเข้าหาตำแหน่งที่มีพระยายืนชิงช้านั่ง เรียกว่ากระดานลงหลุม ในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือนยี่ |
|||
พระราชพิธีตรียัมปวายนี้จะกระทำในเทวสถานสำหรับพระนคร 3 เทวสถาน คือ เทวสถานพระอิศวร เทวสถานพระมหาวิฆเนศวร และเทวสถานพระนารายณ์ โลกบาลทั้งสี่ (พระยายืนชิงช้า และนาลิวัน) จึงต้องโล้ชิงช้าถวายและรับน้ำเทพมนตร์ด้วย |
|||
แต่เดิมนั้นพระราชพิธีตรียัมปวายจะจัดในเดือนอ้าย (ประมาณเดือนธันวาคม) ครั้นล่วงเข้าสู่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์จึงได้เปลี่ยนมาจัดในเดือนยี่ (ประมาณเดือนมกราคม) พิธีนี้ถือเป็นพิธีขึ้นปีใหม่ของพราหมณ์ซึ่งในหนึ่งปีพระอิศวรจะเสด็จมาเยี่ยมโลก 10 วัน พราหมณ์จะประชุมที่เทวสถานพระอิศวร แล้วผูกพรตชำระกายสระเกล้าเตรียมรับเสด็จพระอิศวร |
|||
ตำนานพระราชพิธีตรียัมปวาย |
|||
พิธีโล้ชิงช้ามีที่มาจาก[[คัมภีร์เฉลิมไตรภพ]]กล่าวไว้ว่า[[พระอุมา|พระอุมาเทวี]]ทรงมีความปริวิตกว่าโลกจะถึงกาลวิบัติ พระนางจึงทรงพนันกับ[[พระอิศวร]] โดยให้[[พญานาค]]ขึงตนระหว่างต้น[[พุทรา]]ที่แม่น้ำ แล้วให้พญานาคแกว่งไกวตัวโดยพระอิศวรทรงยืนขาเดียวในลักษณะไขว่ห้าง เมื่อพญานาคไกวตัว เท้าพระอิศวรไม่ตกลงแสดงว่าโลกที่ทรงสร้างนั้นมั่นคงแข็งแรง พระอิศวรจึงทรงชนะพนัน |
|||
ดังนั้นพิธีโล้ชิงช้าจึงเปรียบเสาชิงช้าเป็น "ต้นพุทรา" ช่วงระหว่างเสาคือ "แม่น้ำ" นาลิวันผู้โล้ชิงช้าคือ "พญานาค" โดยมีพระยายืนชิงช้านั่งไขว่ห้างอยู่บนไม้เบญจมาศ |
|||
พิธีโล้ชิงช้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีได้ยกเลิกไปในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 7 ปัจจุบันการประกอบพระราชพิธีนี้จะกระทำเป็นการภายในเทวสถานเท่านั้น |
|||
== การบูรณปฏิสังขรณ์ == |
|||
[[ไฟล์:Bangkok Sao Ching Cha.jpg|250px|thumb|เสาชิงช้าต้นเดิมก่อนบูรณะ]] |
|||
[[ไฟล์:Giant Swing Bangkok 9-11-2007-P3200200.jpg|250px|thumb|เสาชิงช้าต้นปัจจุบันในยามค่ำคืน]] |
|||
ล่วงสู่สมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 6 บริษัทหลุยส์ ที.เลียวโนเวนส์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าไม้ได้มอบ[[ซุง]]ไม้สักสำหรับสร้างเสาชิงช้าใหม่ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2463 นับเป็นการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรก และบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่อีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2502 ครั้งนั้นเสาชิงช้ามีส่วนสูงทั้งสิ้น 21.15 เมตร |
|||
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2490 เกิดไฟไหม้เสาชิงช้าเนื่องจากมีผู้จุดธูปกราบไหว้ ไฟจากธูปตกลงในรอยแตกและลามจนไหม้ จึงต้องบูรณปฏิสังขรณ์ชั่วคราว จนถึง พ.ศ. 2513 เสาชิงช้าชำรุดทรุดโทรมมากต้องเปลี่ยนเสาใหม่ โดยการบูรณะได้พยายามรักษาลักษณะเดิมไว้ทุกประการ |
|||
กระทั่งวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2539 มีการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งโดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ใช้สายเหล็กรัดเป็นโครงเหล็กประกับ คล้ายลักษณะเข้าเฝือกไม้ยึดโครงสร้างหลัก |
|||
ล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 พบว่าเสาชิงช้ามีความชำรุดทรุดโทรมมาก ปรากฏรอยผุแตกเป็นร่องลึกตลอดแนวยาว โดยเฉพาะรอยต่อเสากลาง กทม. จึงได้ทำหนังสือขออนุญาต[[กรมศิลปากร]] เพื่อดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ด้วยการเปลี่ยนเป็นเสาใหม่ทั้งหมด เน้นการแก้ไขการผุกร่อนในระยะยาว เนื่องจากสาเหตุที่เสาชิงช้าผุกร่อนได้ง่ายนั้น เป็นเพราะเสาหลักทั้งสองต้นใช้ไม้ยาวท่อนละประมาณ 7 เมตร ทำสลักเดือยต่อกันถึง 3 ท่อน ทำให้น้ำซึมเข้าในรอยต่อจนไม้ผุได้ง่าย ทางกทม. ตั้งเป้าไว้ว่าเสาชิงช้าใหม่ หากได้รับการดูแลบำรุงรักษาอย่างดีจะมีความมั่นคง แข็งแรงต่อไปได้ถึง 100 ปี เมื่อเทียบกับการบูรณะครั้งก่อนหน้าที่ทำให้เสาชิงช้ามีอายุการใช้งานเพียงมากกว่า 35 ปี |
|||
== ความสำคัญทางโบราณคดี == |
|||
การรื้อถอนเสาชิงช้าคู่เดิมเมื่อปี พ.ศ. 2549 เป็นโอกาสที่ทำให้มีการศึกษาทางโบราณคดีของเสาชิงช้ามากขึ้น โดยเฉพาะร่องรอยแนวถนนและท่อน้ำเดิม เนื่องจากการรื้อถอนหรือก่อสร้างโบราณสถานในเขตเมืองพระนครต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมศิลปากรในการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่นั้นๆ |
|||
นักโบราณคดีได้ทำการขุดแต่งในระดับแนวพื้นเดิมที่ยังเหลือร่องรอย และแต่งด้านหน้าติดกันด้านทิศใต้ (ด้านวัดสุทัศน์) และทิศเหนือ (ด้านศาลาว่าการ กทม.) ในการตรวจสอบชั้นดินเบื้องต้น ได้เชิญนายชาติชาย ร่มสน ผู้เชี่ยวชาญชั้นดินทางวัฒนธรรมมาช่วยในการวิเคราะห์ สรุปรายละเอียดเบื้องต้นได้ดังนี้ |
|||
* ชั้นดินด้านทิศใต้ (ด้านวัดสุทัศน์) ปรากฏลักษณะร่องรอยกิจกรรม 3 สมัย กล่าวคือ |
|||
** สมัยที่ 1 เป็นชั้นแนวอิฐขนาดใหญ่ เรียงสลับตามแนวนอน ก่อซ้อนกันประมาณ 3 ชั้น และมีการก่ออิฐในแนวตั้งยกเป็นขอบ ใต้ชั้นแนวอิฐเป็นชั้นดินเหนียว |
|||
** สมัยที่ 2 เป็นชั้นพื้นปรากฏเป็นแนวในแกนตะวันออก-ตะวันตก ลักษณะเป็นหินกรวดหลายขนาดผสมปูนขาว เทปูเป็นพื้น ใต้ลงไปเป็นชั้นอิฐบดวางทับอยู่บนชั้นดินเหนียว |
|||
** สมัยที่ 3 เป็นท่อน้ำเหล็กที่วางอยู่ในชั้นอิฐสมัยที่ 1 เป็นลักษณะเจาะชั้นอิฐลงไปเพื่อวางท่อเหล็ก |
|||
* ชั้นดินด้านทิศเหนือ(ด้านศาลาว่าการ กทม.) ปรากฏร่องรอยกิจกรรม 2 สมัย คือ |
|||
** สมัยที่ 1 (ตรงกับสมัยที่สองของชั้นดินด้านทิศเหนือ) เป็นชั้นพื้น ลักษณะการเรียงตัวของชั้นดิน คล้ายสมัยที่สองด้านเหนือ คือชั้นบนสุดเป็นหินกรวดผสมปูนรองลงไปเป็นชั้นปูนขาว ใต้ชั้นปูนขาวเป็นอิฐก่อสอปูนวางแนวเหนือ-ใต้ ประมาณ 9-11 ชั้น |
|||
** สมัยที่ 2 (ตรงกับสมัยที่สามของชั้นดินด้านทิศเหนือ) เป็นส่วนของท่อน้ำเหล็ก ปรากฏลักษณะการตัดเป็นช่องสี่เหลี่ยมลงไปในชั้นดินสมัยที่หนึ่ง เพื่อวางท่อน้ำ |
|||
ในรายงานดังกล่าวตั้งข้อสังเกตด้วยว่าพบแนวอิฐด้านนอกวางตัวในแนวตะวันออก-ตะวันตก 1 แผ่น โดยแนวดังกล่าวจะเว้นช่องว่าง จากนั้นจึงก่อแนวอิฐอีก 1 ชั้น วางตัวในลักษณะเดียวกัน โดยชั้นบนสุดจะใช้อิฐก่อตะแคงปิดด้านบนของช่องดังกล่าว |
|||
สรุปชั้นดินเบื้องต้นได้ว่าแนวอิฐในสมัยที่ 1 (ด้านวัดสุทัศน์) น่าจะเป็นแนวถนนเดิมที่มีมาก่อนสมัย [[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|รัชกาลที่ 4]] ส่วนแนวพื้นสมัยที่ 2 (ด้านวัดสุทัศน์) น่าจะเป็นแนวถนนที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีรางระบายน้ำอยู่ขอบถนน อาจมีการปรับพื้นที่ด้วยการอัดดินเหนียวเพื่อให้ได้ระดับแล้วจึงเทชั้นถนน ส่วนท่อเหล็กสมัยที่สามน่าจะเป็นท่อประปาที่สร้างขึ้นในสมัยหลังคือสมัย [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว|รัชกาลที่ 5]] สร้างขึ้นหลังจากมีการสร้างถนนแล้ว |
|||
ช่วงท้ายของรายงานชี้แจงว่าได้มีการบันทึกภาพถ่ายพร้อมทั้งรายละเอียดทุกขั้นตอน นอกจากนี้ยังได้ทำแผนผังหลุม แผนผังชั้นดิน ลายเส้นแนวอิฐ รวมถึงเก็บตัวอย่างดินในแต่ละชั้นและอิฐ เพื่อนำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ หลังจากนั้นจึงจะนำผลวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการมาวิเคราะห์ร่วมกับหลักฐานอื่น เช่น เอกสาร แผนผังและรูปถ่ายโบราณ เพื่อจะประมวลเป็นรายงานเบื้องต้นต่อไป |
|||
การค้นพบร่องรอยแนวถนนโบราณก่อนสมัยรัชกาลที่ 4 และท่อน้ำเหล็กสมัยรัชกาลที่ 5 อันเนื่องมาจากการรื้อถอนเสาชิงช้าเมื่อปี พ.ศ. 2549 จึงเป็นผลดีสำหรับการเพิ่มเติมข้อมูลวิชาการโบราณคดีเมือง และหากเป็นไปตามเป้าประสงค์ของ กทม. โอกาสที่ผืนดินนี้จะถูกขุดแต่งทางโบราณคดีอีกครั้งก็น่าจะเป็นเวลากว่า 1 ศตวรรษข้างหน้า |
|||
== ภูมิทัศน์โดยรอบเสาชิงช้า == |
|||
พื้นผิวการจราจรบริเวณเสาชิงช้าในปัจจุบันเป็นทางแยกบนถนนบำรุงเมืองที่ต่อเนื่องกัน 2 แยก ได้แก่ทางแยกด้านทิศตะวันตก เป็นจุดบรรจบระหว่าง[[ถนนบำรุงเมือง]], [[ถนนตีทอง]] และ[[ถนนดินสอ]] และด้านทิศตะวันออก เป็นจุดบรรจบระหว่าง[[ถนนบำรุงเมือง]], [[ถนนอุณากรรณ]] และ[[ถนนศิริพงษ์]] โดยมีฐานเสาชิงช้าทำหน้าที่คล้ายวงเวียนขนาดเล็กตั้งอยู่ระหว่างทางแยกทั้งสอง ตรงกับด้านหน้าวัดสุทัศนเทพวรารามและลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หรือลานคนเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งกว้างสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ด้านล่างมีที่จอดรถใต้ดินของ กทม. บนลานคนเมืองด้านที่ติดกับเสาชิงช้ามีประติมากรรมและป้ายแสดงชื่อเต็มของกรุงเทพมหานคร จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลอง 220 ปี [[กรุงรัตนโกสินทร์]] เมื่อปี พ.ศ. 2545 |
|||
บริเวณย่านเสาชิงช้าเป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่จำนวนมากโดยเฉพาะอาคารพาณิชย์สองฝั่งถนนบำรุงเมืองรอบเสาชิงช้า ระหว่าง[[แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า]]และ[[แยกสำราญราษฎร์]] ถือเป็นย่านจำหน่าย[[สังฆภัณฑ์]]ที่สำคัญของกรุงเทพฯ |
|||
นอกจากนี้ โดยรอบยังมี[[เทวสถาน|ศาสนสถาน]] ที่สำคัญใน[[ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู]]อยู่หลายแห่ง ได้แก่[[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]], [[สมาคมฮินดูสมาช (วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า)|วัดเทพมณเฑียร]] และ[[ศาลพระนารายณ์(เสาชิงช้า)|ศาลพระนารายณ์]] ซึ่งสร้างขึ้นภายหลังบริเวณเกาะกลางถนนอุณากรรณ-ถนนศิริพงษ์ ข้าง[[วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร|วัดสุทัศน์]] |
|||
== สถานที่สำคัญใกล้เคียง == |
|||
* [[วัดสุทัศนเทพวราราม]] |
|||
* ลานคนเมือง และ[[กรุงเทพมหานคร (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)|ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร]] |
|||
* [[เทวสถานโบสถ์พราหมณ์]] |
|||
* [[โรงเรียนเบญจมราชาลัย]] |
|||
* [[สมาคมฮินดูสมาช(วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า)|วัดเทพมณเฑียร สมาคมฮินดูสมาช]] และโรงเรียนภารตวิทยาลัย |
|||
*ศาลเจ้าพ่อเสือ |
|||
== รถประจำทางเข้าสู่เสาชิงช้า == |
|||
* สาย 12 เส้นทางห้วยขวาง - ปากคลองตลาด |
|||
* สาย 35 เส้นทางท่าน้ำพระประแดง - สาธุประดิษฐ์ - สายใต้ใหม่ |
|||
* สาย 42 เส้นทางวงกลมเสาชิงช้า - ท่าพระ |
|||
* สาย 508 เส้นทางปากน้ำ-ท่าราชวรดิษฐ์ |
|||
== เชิงอรรถ == |
|||
<references group=note/> |
|||
== อ้างอิง == |
|||
* หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549{{ต้องการอ้างอิงเต็ม}} |
|||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
|||
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Giant Swing|เสาชิงช้า}} |
|||
{{geolinks-bldg|13.751776|100.501267}} |
|||
{{ทางแยกในกรุงเทพมหานคร}} |
|||
{{เขตพระนคร}} |
|||
[[หมวดหมู่:เขตพระนคร|สเชิงช้า]] |
[[หมวดหมู่:เขตพระนคร|สเชิงช้า]] |
||
[[หมวดหมู่:ทางแยก|เสาชิงช้า]] |
[[หมวดหมู่:ทางแยก|เสาชิงช้า]] |
||
{{สร้างปี|2327}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:29, 4 ธันวาคม 2564
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ชื่ออักษรโรมัน | Sao Chingcha |
---|---|
รหัสทางแยก | N091, N160 |
ที่ตั้ง | แขวงวัดราชบพิธ, แขวงเสาชิงช้า และแขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร |
ทิศทางการจราจร | |
↑ | ถนนดินสอ » อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย |
↗ | ถนนศิริพงษ์ » ด้านหลังศาลาว่าการ กทม. |
→ | ถนนบำรุงเมือง » แยกสำราญราษฎร์ |
↘ | ถนนอุณากรรณ, ถนนศิริพงษ์ » แยกอุณากรรณ |
↙ | ถนนตีทอง » แยกเฉลิมกรุง |
← | ถนนบำรุงเมือง » แยกสี่กั๊กเสาชิงช้า |