ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โลมา"
ล ย้อนการแก้ไขของ 2001:44C8:4503:C0EF:3935:6398:D4D4:B582 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย 118.175.254.233 ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
วาฬนํ้าเงินก็มิใช่ปลา ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
โลมามีรูปร่างคล้ายปลาแต่มิใช่ปลา |
|||
{{Taxobox |
|||
| name = โลมา |
|||
| image = Bottlenose Dolphin KSC04pd0178.jpg |
|||
| fossil_range = {{Fossil range|10|0}}<small>[[Miocene|ไมโอซีน]] – [[ปัจจุบัน]]</small> |
|||
| image_width = 250px |
|||
| image_alt = |
|||
| image_caption = [[โลมาปากขวด]] |
|||
| regnum = [[Animalia]] |
|||
| phylum = [[Chordata]] |
|||
| classis = [[Mammalia]] |
|||
| ordo = [[Cetacea]] |
|||
| subordo = [[Odontoceti]] |
|||
| familia = *[[Delphinidae]] |
|||
*[[Iniidae]] |
|||
*†[[Lipotidae]] |
|||
*[[Platanistidae]] |
|||
*[[Pontoporiidae]] |
|||
|}} |
|||
'''โลมา''' เป็น[[สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม]]จำพวกหนึ่ง อาศัยอยู่ทั้งใน[[ทะเล]], [[น้ำจืด]] และ[[น้ำกร่อย]] มีรูปร่างคล้าย[[ปลา]] คือ มีครีบ มีหาง แต่โลมามิใช่ปลา เพราะเป็น[[eutheria|สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่มีรก]] จัดอยู่ใน[[อันดับวาฬและโลมา]] (Cetacea) ซึ่งประกอบไปด้วย [[วาฬ]]และโลมา ซึ่งโลมาจะมีขนาดเล็กกว่า[[วาฬ]]มาก และจัดอยู่ใน[[Odontoceti|กลุ่มวาฬมีฟัน]] (Odontoceti) เท่านั้น |
|||
โลมา เป็นสัตว์ที่รับรู้กันเป็นอย่างดีว่าเฉลียวฉลาด มีความเป็นมิตรกับมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะช่วยชีวิตมนุษย์เมื่อยามเรือแตก จนกลายเป็นตำนานหรือเรื่องเล่าขานทั่วไป มีอุปนิสัยอยู่รวมกันเป็นฝูง บางฝูงอาจมีจำนวนมากถึงหลักพันถึงหลายพันตัว ว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว รวมถึงสามารถกระโดดหมุนตัวขึ้นเหนือน้ำได้ ชอบว่ายน้ำขนาบข้างหรือว่ายแข่งไปกับเรือ<ref name="สัตว์">''วาฬและโลมา'' หน้า 37-42, "สัตว์สวยป่างาม" (ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล, สิงหาคม 2518)</ref> |
|||
==ศัพทมูลวิทยาและเทพปกรณัม== |
==ศัพทมูลวิทยาและเทพปกรณัม== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:14, 6 พฤศจิกายน 2562
โลมามีรูปร่างคล้ายปลาแต่มิใช่ปลา
ศัพทมูลวิทยาและเทพปกรณัม
คำว่า "Dolphin" ซึ่งเป็นชื่อสามัญในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกโลมา มาจากภาษากรีกโบราณคำว่า δελφίς "เดลฟิส" (Delphis) ในเทพปกรณัมกรีก ไดอะไนซัส เทพเจ้าแห่งไวน์และการเฉลิมฉลอง และหนึ่งในเทพโอลิมปัส ได้แปลงกายลงมาเป็นมนุษย์ ชื่อ เดลฟิส และได้โดยสารเรือข้ามจากเกาะอิคาเรียไปยังเกาะนาซอส ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ไดอะไนซัสนั้นแม้จะเป็นเทพ ทว่าไม่มีญาณหยั่งรู้ว่าเรือลำที่ตนโดยสารไปนั้นเป็นเรือโจร ลูกเรือจะปล้นผู้โดยสารทุกคนถ้วนหน้า เดลฟิสถูกลูกเรือปล้น และคิดจะจับไปขายเป็นทาส ด้วยเหตุนี้ เดลฟิสจำต้องแสดงตนเป็นเทพเจ้า และสาปให้เรือมีเถาองุ่นขึ้นเต็ม มีเสียงขลุ่ยดังขึ้น พวกลูกเรือตกใจและกระโดดน้ำหนีไปหมด และได้กลายร่างเป็นโลมา มาจนกระทั่งทุกวันนี้ เมื่อกลายเป็นโลมา นิสัยของลูกเรือก็เปลี่ยนไปกลายเป็นสัตว์ที่ใจดี มีเมตตา ทั้งยังเป็นผู้ช่วยของเทพเจ้าแห่งมหาสมุทร คือ โพไซดอน อีกด้วย ด้วยเหตุนี้โลมาจึงได้รับเกียรติจากโพไซดอน บันดาลให้เป็นกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า กลุ่มดาวโลมา (Delphinus)[1]
คำว่า "โลมา" ในภาษาไทย มีรากฐานมาจากคำว่า "ลูมบาลูมบา" (Lumba-lumba) ในภาษามลายู ในภาษาในทวีปเอเชียอื่น ๆ โลมามักมีการเปรียบเทียบกับหมู เช่น ในภาษาจีน โลมามีความหมายตรงตัวว่า "ลูกหมูทะเล" (海豚) และ ในภาษาเวียดนาม โลมามีความหมายตรงตัวว่า "ปลาหมู" (Cá heo)
ลักษณะ
โลมา อาศัยอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในมหาสมุทรโดยทั่วไป ลักษณะของโลมาที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ มีรูปร่างเพรียวยาวคล้ายตอร์ปิโดหรือกระสวย ส่วนใหญ่มีปลายปากยื่นแหลม แต่ก็มีบางชนิดที่มีส่วนหัวกลมมนคล้ายแตงโมหรือบาตรพระ มีหางแบนในแนวนอน ไม่ใช่แนวตั้งเหมือนปลา เพื่อช่วยในการพุ้ยน้ำในแนวขึ้น-ลง ไม่มีขนปกคลุมลำตัว ไม่มีเกล็ด รวมทั้งไม่มีเมือกด้วย[2]
นอกจากนี้แล้วยังมีอวัยวะต่าง ๆ ทุกส่วนเหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป หากแต่ละส่วนของอวัยวะจะปรับเปลี่ยนต่างไปจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั่วไป ดังนี้ จมูกของโลมามีไว้เพื่อหายใจ แต่จมูกนั้นต่างไปจากจมูกของสัตว์อื่น ๆ เพราะตั้งอยู่กลางกระหม่อมเป็นรูกลม เพื่อให้สะดวกต่อการเชิดหัวขึ้นหายใจเหนือน้ำ จากจมูกมีท่อหายใจต่อลงมาถึงปอดในตัว จึงไม่จำเป็นต้องให้น้ำผ่านเหงือกเข้าไปในปอดเพื่อช่วยหายใจเหมือนปลาหรือสัตว์น้ำอย่างอื่น และจมูกของโลมาตรงส่วนนี้ไม่สามารถใช้ในการรับกลิ่นได้เหมือนกับสัตว์อื่นทั่วไป ซึ่งในบรรดาวาฬมีฟันทุกชนิดต่างก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด[3] หูของโลมานั้นเป็นเพียงแค่รูขนาดเล็กติดอยู่ด้านข้างของหัวเท่านั้น มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถรับคลื่นเสียงใต้น้ำได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะโลมาเหมือนวาฬตรงที่เป็นสัตว์ที่ติดต่อสื่อสารกันด้วยคลื่นเสียงที่ปล่อยออกมา โดยเฉพาะกับภาษาที่โลมาสื่อสารกันด้วยเสียงที่มีคลื่นความถี่สูง โลมามีดวงตาไม่เล็กเหมือนอย่างวาฬ แววตาแจ่มใส เหมือนตาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมประเภทอื่น มีเปลือกตาปิดได้ และในเวลากลางคืนตาก็จะเป็นประกาย คล้ายตาแมว ตาของโลมาไม่มีเมือกหุ้มเหมือนตาปลา และมองเห็นได้ไกลถึง 50 ฟุต เมื่ออยู่ในอากาศ สีผิวของโลมาแต่ละชนิดจะแตกต่างกัน ส่วนมากจะออกไปในโทนสีเทา ตั้งแต่เข้มเกือบดำ จนกระทั่งถึงเกือบขาว แต่โดยทั่วไปโลมาจะมีสีผิวแบบ 2 สีตัดกัน ด้านบน เป็นสีเทาเข้ม ด้านล่างเป็นสีเกือบขาว เพื่อพรางตัวในทะเล ไม่ให้ศัตรูเห็น เพราะเมื่อมองจากด้านบน สีเข้มจะกลืนกับสีน้ำทะเล และถ้ามองจากด้านล่างขึ้นไป สีขาวก็จะกลืนเข้ากับแสงแดดเหนือผิวน้ำ
โลมาถือเป็นสัตว์ที่ว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว มีอัตราความเร็วในการว่ายน้ำประมาณ 55-58 กิโลเมตร/ชั่วโมง[4]
สติปัญญา
โลมานั้นเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดมาก เชื่อว่า ความฉลาดของโลมานั้นเทียบเท่าเด็กตัวเล็ก ๆ เลยทีเดียว หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะฉลาดกว่าชิมแปนซี ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดด้วยซ้ำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะโลมามีขนาดของสมองเมื่อเทียบกับลำตัวแล้วนับว่าใหญ่มาก แถมภายในสมองยังซับซ้อนอีกด้วย โดยเฉพาะโลมาปากขวดนั้นถึงกับมีขนาดของสมอง เมื่อเทียบกับลำตัวใหญ่แล้ว ถือเป็นสัตว์ที่มีขนาดสมองใหญ่เป็นที่สองรองจากมนุษย์[5] และสมองส่วนซีรีบรัม อันเป็นส่วนของความจำและการเรียนรู้ ก็มีขนาดใหญ่มาก เป็นศูนย์รวมของประสาทการรับกลิ่น, การมองเห็น และการได้ยิน จนอาจเชื่อได้ว่าแท้จริงแล้ว โลมาอาจมีความฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ก็เป็นได้ ซึ่งจากความฉลาดแสนรู้ของโลมา จึงทำให้เป็นที่นิยมนำมาฝึกแสดงโชว์ต่าง ๆ ตามสวนสัตว์และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ [6]
นอกจากนี้แล้ว โลมายังเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมชอบช่วยเหลือมนุษย์ยามเมื่อเรือแตกหรือใกล้จะจมน้ำ ทั้งนี้เพราะโลมาเป็นสัตว์ที่รักสนุกและขี้เล่น ที่โลมาช่วยชีวิตมนุษย์อาจเป็นเพราะต้องการเข้ามาเล่นสนุกเท่านั้น หรือไม่เช่นนั้นก็อาจเป็นสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่มักจะดุนลูกขึ้นไปหายใจบนผิวน้ำอยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าลูกโลมาเสียชีวิตระหว่างคลอด จะพบว่าแม่โลมาจะพยายามดุนศพลูกเอาไว้ให้ใกล้ผิวน้ำมากที่สุด[7] โดยปกติแล้ว เนื้อโลมาไม่ใช่อาหารหลักเหมือนสัตว์เศรษฐกิจทั่วไป แต่ก็มีบางประเทศ อาทิ ญี่ปุ่นนิยมบริโภคเนื้อโลมาและวาฬ เดิมญี่ปุ่นนั้นล่าวาฬเป็นหลัก แต่ต่อมาได้มีการอนุรักษ์และกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น จึงหันมาล่าโลมาแทน โดยเพิ่มปริมาณการล่าโลมาขึ้นเป็นสี่เท่า ทำให้โลมาในทะเลญี่ปุ่นลดน้อยลงเป็นอันมาก[1]
การจำแนก
โดยทั่วไปแล้ว โลมาจะถูกจัดให้อยู่ในวงศ์ Delphinidae ซึ่งจำแนกออกเป็นสกุลต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 17 สกุล ได้แก่[8]
- Cephalorhynchus
- Delphinus
- Feresa
- Grampus
- Lagenodelphis
- Lagenorhynchus
- Globicephala
- Lissodelphis
- Orcaella
- Orcinus
- Peponocephala
- Pseudorca
- Sotalia
- Sousa
- Stenella
- Steno
- Tursiops
โลมาแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ ได้ราว 40 ชนิด แต่ก็ยังมีโลมาบางประเภทที่ถูกจัดออกเป็นวงศ์ต่างออกไป ได้แก่
- Iniidae (โลมาแม่น้ำอเมซอน)
- Phocoenidae (พอร์พอยส์, โลมาขนาดเล็ก)
- Platanistidae (โลมาแม่น้ำอินเดีย)
- Pontoporiidae (โลมาแม่น้ำลา พลาตา)
- Lipotidae (โลมาแม่น้ำแยงซีเกียง)[9] [6]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 δελφίς, Henry George Liddell, Robert Scott, A Greek-English Lexicon, on Perseus Digital Library
- ↑ วาฬและโลมา
- ↑ "เปิดโลกสัตว์หรรษา". ไทยพีบีเอส. August 21, 2016. สืบค้นเมื่อ August 22, 2016.
- ↑ หน้า 104, ความสามารถพิเศษของสัตว์. "โลกเร้นลับของสิ่งมีชีวิต" แปลโดย ขวัญนุช คำเมือง (พิมพ์ครั้งที่ 5 กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์ มกราคม 2543) ISBN 974-472-262-2
- ↑ "โลมา"ฉลาดรองจากคน! จากข่าวสด
- ↑ 6.0 6.1 โลมา จากพจนานุกรมออนไลน์
- ↑ ภาพน้ำตาซึม!! แม่โลมาตะเกียกตะกายยื้อชีวิตลูกน้อย จากผู้จัดการออนไลน์
- ↑ "Delphinidae". ระบบข้อมูลการจำแนกพันธุ์แบบบูรณาการ.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อสัตว์