ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหล็ก"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Danusorn2541 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
เหล็ก เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทกับการนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยเหล็กจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือเหล็ก (iron) และ เหล็กกล้า (steel) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ มีคุณสมบัติที่ต่างกันหลายประการ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะถูกเรียกอย่างเหมารวมกันว่า “เหล็ก” นั่นเอง
{{Elementbox_header | number=26 | symbol=Fe | name=เหล็ก | left=[[แมงกานีส]] | right=[[โคบอลต์]] | above=- | below=[[รูทีเนียม|Ru]] | color1=#ffc0c0 | color2=black }}

{{Elementbox_series | [[โลหะทรานซิชัน]] }}
ลักษณะทั่วไปของเหล็กและเหล็กกล้า
{{Elementbox_groupperiodblock | group=8 | period=4 | block=d }}
เหล็ก จะมีสัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์ คือ Fe มักพบได้มากในธรรมชาติ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสีแดงอมน้ำตาล เมื่อนำเข้าใกล้กับแม่เหล็ก จะดูดติดกัน ส่วนพื้นที่ที่ค้นพบเหล็กได้มากที่สุด ก็คือ ตามชั้นหินใต้ดินที่อยู่บริเวณที่ราบสูงและภูเขา โดยจะอยู่ในรูปของสินแร่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ต้องใช้วิธีถลุงออกมา เพื่อให้ได้เป็นแร่เหล็กบริสุทธิ์และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
{{Elementbox_appearance_img | Iron electrolytic and 1cm3 cube| แวววาวลักษณะโลหะ และมีสีเทา }}

{{Elementbox_atomicmass_gpm | [[1 E-26 kg|55.845(2)]] }}
เหล็กกล้า เป็นโลหะผสม ที่มีการผสมระหว่าง เหล็ก ซิลิคอน แมงกานีส คาร์บอนและธาตุอื่นๆ อีกเล็กน้อย ทำให้มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นสูง ทั้งมีความทนทาน แข็งแรง และสามารถต้านทานต่อแรงกระแทกและภาวะทางธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญคือเหล็กกล้าไม่สามารถค้นพบได้ตามธรรมชาติเหมือนกับเหล็ก เนื่องจากเป็นเหล็กที่สร้างขึ้นมาโดยการประยุกต์ของมนุษย์ แต่ในปัจจุบันก็มีการนำเหล็กกล้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะมีต้นทุนต่ำ จึงช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่แพ้เหล็ก
{{Elementbox_econfig | &#91;[[อาร์กอน|Ar]]&#93; 3d<sup>6</sup> 4s<sup>2</sup> }}
{{Elementbox_epershell | 2, 8, 14, 2 }}
{{Elementbox_section_physicalprop | color1=#ffc0c0 | color2=black }}
{{Elementbox_phase | [[ของแข็ง]] }}
{{Elementbox_density_gpcm3nrt | 7.86 }}
{{Elementbox_densityliq_gpcm3mp | 6.98 }}
{{Elementbox_meltingpoint | k=1811 | c=1538 | f=2800 }}
{{Elementbox_boilingpoint | k=3134 | c=2861 | f=5182 }}
{{Elementbox_heatfusion_kjpmol | 13.81 }}
{{Elementbox_heatvaporiz_kjpmol | 340 }}
{{Elementbox_heatcapacity_jpmolkat25 | 25.10 }}
{{Elementbox_vaporpressure_katpa | 1728 | 1890 | 2091 | 2346 | 2679 | 3132 | comment= }}
{{Elementbox_section_atomicprop | color1=#ffc0c0 | color2=black }}
{{Elementbox_crystalstruct | ทรงลูกบาศก์รวมศูนย์ }}
{{Elementbox_oxistates | 2, '''3''', 4, 6<br />([[amphoteric]] oxide) }}
{{Elementbox_electroneg_pauling | 1.83 }}
{{Elementbox_ionizationenergies4 | 762.5 | 1561.9 | 2957 }}
{{Elementbox_atomicradius_pm | [[1 E-10 m|140]] }}
{{Elementbox_atomicradiuscalc_pm | [[1 E-10 m|156]] }}
{{Elementbox_covalentradius_pm | [[1 E-10 m|125]] }}
{{Elementbox_section_miscellaneous | color1=#ffc0c0 | color2=black }}
{{Elementbox_magnetic | [[ferromagnetism|ferromagnetic]] }}
{{Elementbox_eresist_ohmmat20 | 96.1 n}}
{{Elementbox_thermalcond_wpmkat300k | 80.4 }}
{{Elementbox_thermalexpansion_umpmkat25 | 11.8 }}
{{Elementbox_speedofsound_rodmpsatrt | (electrolytic)<br />5120 }}
{{Elementbox_youngsmodulus_gpa | 211 }}
{{Elementbox_shearmodulus_gpa | 82 }}
{{Elementbox_bulkmodulus_Mpa | 170 }}
{{Elementbox_poissonratio | 0.29 }}
{{Elementbox_mohshardness | 4.0 }}
{{Elementbox_vickershardness_mpa | 608 }}
{{Elementbox_brinellhardness_mpa | 490 }}
{{Elementbox_cas_number | 7439-89-6 }}
{{Elementbox_isotopes_begin | isotopesof=เหล็ก | color1=#ffc0c0 | color2=black }}
{{Elementbox_isotopes_decay | mn=54 | sym=Fe | na=5.8% | hl=>3.1E22 y | dm=2ε capture |de=? | pn=54 | ps=[[โครเมียม|Cr]] }}
{{Elementbox_isotopes_decay | mn=55 | sym=Fe | na=[[synthetic radioisotope|syn]] | hl=2.73 y | dm=ε capture | de=0.231 | pn=55 | ps=[[แมงกานีส|Mn]] }}
{{Elementbox_isotopes_stable | mn=56 | sym=Fe | na=91.72% | n=30 }}
{{Elementbox_isotopes_stable | mn=57 | sym=Fe | na=2.2% | n=31 }}
{{Elementbox_isotopes_stable | mn=58 | sym=Fe | na=0.28% | n=32 }}
{{Elementbox_isotopes_decay | mn=59 | sym=Fe | na=[[synthetic radioisotope|syn]] | hl=44.503 d | dm=[[Beta decay|β]] | de=1.565 | pn=59 | ps=[[โคบอลต์|Co]] }}
{{Elementbox_isotopes_decay | mn=60 | sym=Fe | na=[[synthetic radioisotope|syn]] | hl=1.5E6 y | dm=[[Beta decay|β]]<sup>-</sup> | de=3.978 | pn=60 | ps=[[โคบอลต์|Co]] }}
{{Elementbox_isotopes_end}}
{{Elementbox_footer | color1=#ffc0c0 | color2=black }}
'''เหล็ก''' ({{lang-en|Iron}} ออกเสียงว่า ''ไอเอิร์น'' /ˈaɪ.ərn/) เป็น[[ธาตุเคมี]]ใน[[ตารางธาตุ]] มีสัญลักษณ์ธาตุ '''Fe''' และ[[หมายเลขอะตอม]] 26 เหล็กเป็นธาตุ[[โลหะทรานซิชัน]][[ธาตุหมู่ 8|หมู่ 8]] และ[[ธาตุคาบ 4|คาบ 4]] สัญลักษณ์ Fe ย่อมาจาก ''ferrum'' ในภาษา[[ภาษาละติน|ละติน]]


==ประโยชน์==
==ประโยชน์==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:08, 18 กุมภาพันธ์ 2562

เหล็ก เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทกับการนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยเหล็กจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือเหล็ก (iron) และ เหล็กกล้า (steel) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ มีคุณสมบัติที่ต่างกันหลายประการ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะถูกเรียกอย่างเหมารวมกันว่า “เหล็ก” นั่นเอง

ลักษณะทั่วไปของเหล็กและเหล็กกล้า เหล็ก จะมีสัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์ คือ Fe มักพบได้มากในธรรมชาติ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสีแดงอมน้ำตาล เมื่อนำเข้าใกล้กับแม่เหล็ก จะดูดติดกัน ส่วนพื้นที่ที่ค้นพบเหล็กได้มากที่สุด ก็คือ ตามชั้นหินใต้ดินที่อยู่บริเวณที่ราบสูงและภูเขา โดยจะอยู่ในรูปของสินแร่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็ต้องใช้วิธีถลุงออกมา เพื่อให้ได้เป็นแร่เหล็กบริสุทธิ์และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

เหล็กกล้า เป็นโลหะผสม ที่มีการผสมระหว่าง เหล็ก ซิลิคอน แมงกานีส คาร์บอนและธาตุอื่นๆ อีกเล็กน้อย ทำให้มีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นสูง ทั้งมีความทนทาน แข็งแรง และสามารถต้านทานต่อแรงกระแทกและภาวะทางธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญคือเหล็กกล้าไม่สามารถค้นพบได้ตามธรรมชาติเหมือนกับเหล็ก เนื่องจากเป็นเหล็กที่สร้างขึ้นมาโดยการประยุกต์ของมนุษย์ แต่ในปัจจุบันก็มีการนำเหล็กกล้ามาใช้งานอย่างแพร่หลาย เพราะมีต้นทุนต่ำ จึงช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างมาก และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นไม่แพ้เหล็ก

ประโยชน์

ธาตุเหล็กนั้นมีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ fe เหล็กนั้นมีประโยชน์อย่างมากในปัจจุบันเป็นธาตุที่พบเห็นได้ในทุกวัน โดยเฉพาะในการก่อสร้าง ในโรงงานอุตสาหกรรมอีกทั้งยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในการสร้างบ้าน อาคาร ต่างๆ เหล็กจึงเป็นธาตุที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วยังใช้ในการทำเป็นวัสดุต่างๆ ทำเป็นชิ้นส่วนของเครื่องจักร และอื่นๆอีกมากมาย

ผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสามารถแบ่งออกได้ หลายหมวดหมู่ (1) ยานยนต์ (2) การก่อสร้าง (3) ภาชนะบรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง (4) เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม (5) การขนส่งทางรถไฟ (6) อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (7) อุปกรณ์ไฟฟ้า (8) เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัว [1]

การค้นพบ

ไฟล์:613757247.jpg
ค้นพบมาตั้งแต่โบราณ

ธาตุเหล็กของเรานับว่ามีความสำคัญมากในการใช้งานในปัจจุบัน ซึ่งธาตุนี้ มีการใช้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ที่รองลงมาจากอะลูมิเนียม และซึ่งได้ค้นพบจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ มีการใช้งานมาอย่างน้อย 8000 ปี ซึ่งมีหลักฐานยืนยัน ในช่วง คริสต์ศักราช 1000 -2000 นั้น เป็นช่วงที่มนุษย์นำธาตุเหล็กมาจากอุกาบาตที่ตกหรือสะเก็ดดาว และช่วงนี้จะหาธาตุเหล็กได้ยาก หลังจาก คริสต์ศักราช 1000-2000 เป็นต้นมา ได้มีการถลุงเหล็ก จากธาตุเหล็กที่ได้จากธรรมชาติ จึงเกิดการใช้เหล็กทุกยุคทุกสมัย การถลุง เหล็กนั้น จะแตกต่างจากการถลุงเหล็ก ในปัจจุบัน[2] [3]

คุณสมบัติเชิงกล

เหล็กเป็นโลหะสีเงินสีขาวหรือสีเทา เป็นเงา วิธีการหล่อสามารถใช้ค้อนทุบเป็นแผ่นบางๆได้ และยังสามารถยืดได้ เหล็กมีความต้านทานแรงดึงสูงมาก อีกทั้งยังนำไฟฟ้า นำความร้อนได้ดีอีกด้วยและยังสามารถใช้ประโยชน์ต่างๆได้มากมาย แต่คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของเหล็กนั้นคือสามารถหล่อแล้วขึ้นรูปใหม่ได้และยังมีความทนทานที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้เหล็กสามารถใช้ในการโค้ง งอ ม้วน ดัดเป็นรูปร่างรูปแบบและอื่นๆ เพื่อนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งของที่เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้[4] [5][6]

คุณสมบัติทางเคมี

เหล็กเป็นโลหะที่ใช้งานมาก เมื่อเหล็กรวมตัวกับออกซิเจนในอากาศชื้นผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยานี้ จะเกิดเป็น เหล็กออกไซด์ เป็นที่รู้จักกันก็คือสนิมนั้นเอง เหล็กยังทำปฏิกิริยากับน้ำร้อนได้ดีและไอน้ำในการผลิตก๊าซไฮโดรเจน นอกจากนี้ยังละลายในกรดได้ดีที่สุดและทำปฏิกิริยากับองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย[7][8]

ส่วนที่พบธาตุเหล็ก

เหล็กเป็นหนึ่งในสี่ธาตุของธาตุที่มีมากที่สุดในเปลือกโลก ความอุดมสมบูรณ์ของเหล็กเป็นที่คาดกันว่าส่วนใหญ่เชื่อว่าแกนโลกประกอบด้วยธาตุเหล็ก เหล็กยังพบในดวงอาทิตย์ดาวเคราะห์น้อยและดาวที่อยู่นอกระบบสุริยะ

แร่ที่พบมากที่สุดของเหล็กออกไซด์หรือเฟอริกออกไซด์ แม่เหล็กหรือเหล็กออกไซด์ หรือคาร์บอเนตเหล็ก แหล่งที่มาสำคัญมากขึ้นของธาตุเหล็กเป็น taconite Taconite เป็นส่วนผสมของซิลิกาออกไซด์และทราย มันเกี่ยวกับเหล็กร้อยละ 25[9][10]

ดูเพิ่ม

อ้างอิง