ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การ์ตูนล้อการเมือง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 6: บรรทัด 6:
==ประวัติ==
==ประวัติ==
===จุดเริ่มต้น===
===จุดเริ่มต้น===
อิอิการ์ตูนล้อการเมือง เกิดขึ้นครั้งเแรกที่[[ประเทศอังกฤษ]] โดย[[ชาวอังกฤษ]] ชื่อ เจมส์ กิลล์เรย์ ([[ค.ศ. 1757]]-[[ค.ศ. 1815]]) ได้เขียนภาพล้อเลียนพระบรมวงศานุวงศ์ของปเ้เ้เ้ระเทศอังกฤษ ที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย [[ศีลธรรม]]ของชนชั้นสูง และการทำงานของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคลายความเครียดจากภาวะสงครามในขณะนั้น
อิอิการ์ตูนล้อการเมือง เกิดขึ้นครั้งเแรกที่[[ประเทศอังกฤษ]] โดย[[ชาวอังกฤษ]] ชื่อ เจมส์ กิลล์เรย์ ([[ค.ศ. 1757]]-[[ค.ศ. 1815]]) ได้เขียนภาพล้อเลียนพระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศอังกฤษ ที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย [[ศีลธรรม]]ของชนชั้นสูง และการทำงานของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคลายความเครียดจากภาวะสงครามในขณะนั้น


===การ์ตูนล้อการเมืองในประเทศไทย===
===การ์ตูนล้อการเมืองในประเทศไทย===

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:27, 11 กุมภาพันธ์ 2561

ไฟล์:ภาพล้อฝีพระหัตถ์-บุรฉัตรไชยากร.jpg
ภาพการ์ตูนล้อ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ขณะเป็นกรมขุนกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง ฝีพระหัตถ์โดย รัชกาลที่ 6 ถือได้ว่าเป็นการ์ตูนล้อการเมืองภาพแรกๆ ของไทย

การ์ตูนล้อการเมือง (อังกฤษ: Political Cartoon) หรือ การ์ตูนบรรณาธิการ (อังกฤษ: Editorial Cartoon) คือ ภาพการ์ตูนที่วาดและตีพิมพ์ลงสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ เช่น หนังสือพิมพ์, นิตยสาร โดยมีเนื้อหาล้อเลียนหรือวิพากษ์วิจารณ์สภาพสังคม, เศรษฐกิจและการเมือง จุดประสงค์เพื่อความสนุกสนานและความขบขัน ในบางครั้งอาจสอดแทรกถึงวิธีการแก้ปัญหานั้นๆ จะมีคำบรรยายหรือไม่มีก็ได้ โดยนักวาดการ์ตูนล้อการเมืองนั้น ถือว่า เป็นคอลัมนิสต์หรือบรรณาธิการคนหนึ่งของหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นๆ เรียกว่า นักเขียนการ์ตูน (Cartoonist)

ประวัติ

จุดเริ่มต้น

อิอิการ์ตูนล้อการเมือง เกิดขึ้นครั้งเแรกที่ประเทศอังกฤษ โดยชาวอังกฤษ ชื่อ เจมส์ กิลล์เรย์ (ค.ศ. 1757-ค.ศ. 1815) ได้เขียนภาพล้อเลียนพระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศอังกฤษ ที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ศีลธรรมของชนชั้นสูง และการทำงานของรัฐบาล ทำให้ประชาชนคลายความเครียดจากภาวะสงครามในขณะนั้น

การ์ตูนล้อการเมืองในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทย การ์ตูนล้อการเมืองเริ่มขึ้นมาพร้อม ๆ กับวิวัฒนาการการ์ตูนในประเทศไทย ยิ่งโดยเฉพาะในยุครัชกาลที่ 6 ที่สื่อสิ่งพิมพ์และประชาธิปไตยเฟื่องฟู ในยุคนี้มีการ์ตูนล้อการเมืองเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

นักเขียนการ์ตูนการเมืองคนแรกของไทยคือ ขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปิ่น) ซึ่งมีโอกาสเดินทางไปศึกษาวิชาศิลปะการวาดภาพที่ยุโรป ได้นำเทคนิคจากต่างประเทศ วาดภาพการ์ตูนเป็นลายเส้น ได้รับรางวัลการประกวดภาพล้อจากรัชกาลที่ 6 โดยการเขียนการ์ตูนล้อเลียนนักการเมืองสำคัญๆ ในยุคนั้น

นอกจากนี้แล้วชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ ไอ เคียว คาวา ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองไทยสนับสนุนให้ นักเขียนการ์ตูน วาดภาพการ์ตูนลงใน หนังสือพิมพ์ยาโมโต จวบจนสมัยรัชกาลที่ 7 การ์ตูนเริ่มซบเซาเนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เกิดปัญหาการขาดแคลนกระดาษพิมพ์

จนกระทั่งยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี พ.ศ. 2475 วงการการ์ตูนเริ่มฟื้นฟูขึ้นพร้อมกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่ก็มีการ์ตูนที่วาดล้อเลียนจนเกินขอบเขต ทำให้มีกฎหมายของคณะราษฎรออกมาควบคุม

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประยูร จรรยาวงศ์ ได้วาดภาพการ์ตูนที่มีตัวแสดงชื่อ "ศุขเล็ก" ใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำตัว เขียนการ์ตูนขำขันและการ์ตูนล้อการเมือง ได้รับรางวัลจากการประกวดการ์ตูนสันติภาพโลก เมื่อ ปี พ.ศ. 2503 ที่นิวยอร์ก ชื่อภาพ การทดลองระเบิดปรมาณูลูกสุดท้าย (The Last Nuclear Test) และได้รับรางวัลแมกไซไซ ที่ประเทศฟิลิปปินส์

ไฟล์:ทุ่งหมาเมิน.jpg
การ์ตูนล้อการเมือง ในคอลัมน์ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน โดย ชัย ราชวัตร ที่นับว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของไทยในยุคปัจจุบัน

ยุคทองของการ์ตูนล้อการเมืองไทย

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 มีหนังสือพิมพ์เพิ่มขึ้นใหม่อีกหลายชื่อ ทำให้มีนักเขียนการ์ตูนการเมืองที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นอีกหลายคน เช่น

  • ชัย ราชวัตร (สมชัย กตัญญตานนท์) เขียนการ์ตูนการเมืองชุด ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
  • ขวด ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
  • หมื่น (ชูชาติ หมื่นอินกุล) ในหนังสือพิมพ์มติชน
  • อรุณ วัชระสวัสดิ์ ในหนังสือพิมพ์มติชน และเนชั่น
  • เซีย (ศักดา เอียว) ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
  • บัญชา คามิน ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
  • หมอ ในกรุงเทพธุรกิจ
  • แอ๊ด ในไทยโพสต์
  • พล ข่าวสด (สุรพล พิทยาสกุล) เริ่มเขียนการ์ตูนการเมืองสมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ในหนังสือพิมพ์ข่าวสด เรื่อง หนูนากับป้าแจ่ม ตัวละคร หนูนา มาจาก กัญจนา ศิลปอาชา และ ป้าแจ่ม คือ คุณหญิงแจ่มใส

ดูเพิ่ม

อ้างอิง