ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บาสเกตบอล"
หน้าตา
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Fixed typo ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 17: | บรรทัด 17: | ||
[[ไฟล์:Three point shoot.JPG|right|250px|thumb|การแข่งขันบาสเกตบอลหญิงชิงถ้วยยุโรปของ FIBA ปี พ.ศ. 2548]] |
[[ไฟล์:Three point shoot.JPG|right|250px|thumb|การแข่งขันบาสเกตบอลหญิงชิงถ้วยยุโรปของ FIBA ปี พ.ศ. 2548]] |
||
[[ไฟล์:Jordan by Lipofsky 16577.jpg|right|200px|thumb|ไมเคิล จอร์แดน ขณะกระโดดแสลมดังก์]] |
[[ไฟล์:Jordan by Lipofsky 16577.jpg|right|200px|thumb|ไมเคิล จอร์แดน ขณะกระโดดแสลมดังก์]] |
||
'''บาสเกตบอล''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: basketball) เป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 5 คนพยายามทำคะแนนโดยการโยนลูกเข้า'''ห่วง'''หรือ'''ตะกร้า''' (basket) ภายใต้กติกาการเล่นมาตรฐาน |
|||
ตั้งแต่ที่คิดค้นขึ้นในปี [[พ.ศ. 2434]] (ค.ศ. 1891) โดย[[เจมส์ เนสมิท]]<ref name="ESPN-history">ESPN.com, [http://sports.espn.go.com/nba/news/story?id=2660882 Newly found documents shed light on basketball's birth], เรียกดูข้อมูล 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากลโลก กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากใน[[วายเอ็มซีเอ]]<ref name="ESPN-history"/><ref name="NaismithMuseum">Naismith Museum and Hall of Fame, [http://www.naismithmuseum.com/naismith_drjamesnaismith/main_drjamesnaismith.htm Dr. James Naismith], เรียกดูข้อมูล 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ เป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมากลายเป็น[[กีฬาอาชีพ]]{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} มีการจัดตั้งลีก[[เอ็นบีเอ]] (National Basketball Association, NBA) และเริ่มมีการแข่งขันใน[[กีฬาโอลิมปิก]]เมื่อ [[พ.ศ. 2479]] (ค.ศ. 1936)<ref name="ESPN-history"/> ถึงแม้ว่าในระยะแรกยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะใน[[สหรัฐอเมริกา]] กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก |
|||
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (''ชู้ต'', shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (''เลี้ยงลูก'', dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (''ฟาวล์'', foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล |
|||
เกมบาสเกตบอลมีการพัฒนาลุงจุลต่าง ๆ เช่น การชู้ต การส่ง และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้น บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอีกด้วย<ref name="Guardian-popularity>guardian.co.uk, [http://www.guardian.co.uk/football/2008/dec/06/football-brand-globalisation-china-basketball They think it's all over], เรียกดูข้อมูล 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> |
|||
== ประวัติ == |
|||
=== ประวัติของบาสเกตบอล === |
|||
[[ไฟล์:Firstbasketball.jpg|right|thumb|สนามบาสเกตบอลแห่งแรก ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์]] |
|||
ความพิเศษอย่างหนึ่งของบาสเกตบอล คือถูกคิดขึ้นโดยคนเพียงคนเดียว ต่างจากกีฬาส่วนใหญ่ที่วิวัฒนาการมาจากกีฬาอีกชนิด ช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2434 [[เจมส์ ไนสมิท|ดร. เจมส์ ไนสมิท]] ครูสอนพละศึกษาชาวอเมริกันที่เกิดในแคนาดา และเป็นผู้ดูแลสถานที่ของวิทยาลัยแห่งหนึ่งของสมาคม[[วายเอ็มซีเอ]] (ปัจจุบันคือ วิทยาลัยสปริงฟิลด์) ในเมือง[[สปริงฟิลด์ (แมสซาชูเซตส์)|สปริงฟิลด์]] [[รัฐแมสซาชูเซตส์]] ค้นหาเกมในร่มที่ช่วยให้คนมีกิจกรรมทำระหว่างฤดูหนาวในแถบ[[นิวอิงแลนด์]] ว่ากันว่า หลังจากเขาไตร่ตรองหากิจกรรมที่ไม่รุนแรงเกินไปและเหมาะสมกับโรงยิม เขาเขียนกฎพื้นฐานและตอกตะปูติดตะกร้าใส่ลูกพีชเข้ากับผนังโรงยิม<ref name="">Better Basketball, [http://www.betterbasketball.com/history-of-basketball/ History of Basketball], เรียกดูข้อมูล 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> เกมแรกที่เล่นเป็นทางการเล่นในโรงยิมวายเอ็มซีเอในเดือนถัดมา คือเมื่อ [[20 มกราคม]] [[พ.ศ. 2435]] (ค.ศ. 1892) ในสมัยนั้น เล่นโดยใช้ผู้เล่นเก้าคน<ref>[http://www.rauzulusstreet.com/basketball/nba/nbahistory.htm National Basketball Association (NBA) History], เรียกดูข้อมูล 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> สนามที่ใช้ก็มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของสนามเอ็นบีเอในปัจจุบัน ชื่อ '''บาสเกตบอล''' เป็นชื่อที่เสนอโดยนักเรียนคนหนึ่ง และก็เป็นชื่อที่นิยมมาตั้งแต่ตอนต้น เกมแพร่ขยายไปยังวายเอ็มซีเอที่อื่นทั่วสหรัฐอเมริกา ไม่นานนักก็มีเล่นกันทั่วประเทศ |
|||
แต่ที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ว่าวายเอ็มซีเอจะเป็นผู้ที่พัฒนาและเผยแพร่เกมในตอนแรก ภายในหนึ่งทศวรรษสมาคมก็ไม่สนับสนุนกีฬานี้อีก เนื่องจากการเล่นที่รุนแรงและผู้ชมที่ไม่สุภาพ สมาคมกีฬาสมัครเล่นอื่นๆ มหาวิทยาลัย และทีมอาชีพก็เข้ามาแทนที่ ก่อน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] สหภาพการกีฬาสมัครเล่น (Amateur Athletic Union) และ สมาคมการแข่งขันกีฬาระหว่างวิทยาลัย (Intercollegiate Athletic Association) (ซึ่งปัจจุบันคือ[[เอ็นซีดับเบิลเอ]], NCAA) ได้แข่งกันเพื่อจะเป็นผู้กำหนดกติกาของเกม |
|||
เดิมนั้นการเล่นบาสเกตบอลจะใช้ลูกฟุตบอล ลูกบอลที่ทำขึ้นสำหรับบาสเกตบอลโดยเฉพาะในตอนแรกมีสีน้ำตาล ช่วงปลาย[[คริสต์ทศวรรษ 1950]] จึงเปลี่ยนมาใช้ลูกสีส้มเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ชมมองเห็นลูกได้ง่ายขึ้น และก็ใช้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่ริเริ่มใช้ลูกบาสเกตบอลสีส้มคือนาย โทนี ฮิงเคิล (Tony Hinkle) โค้ช[[มหาวิทยาลัยบัตเลอร์]] (Butler University)<ref name="ButlerUniv">Butler University, [http://www.butler.edu/senior-gift/index.aspx?pg=6120 Paul D. “Tony” Hinkle (1898-1992)], เรียกดูข้อมูล 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> |
|||
=== ลีกระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และลีกอื่น ๆ === |
|||
[[ไฟล์:Kent Benson attempts a hook shot over Ken Ferdinand.jpg|thumb|210px|right|การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2520]] |
|||
ไนสมิทเป็นตัวตั้งตัวตีในการเริ่มบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัย{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} โดยเป็นโค้ชให้กับ[[มหาวิทยาลัยแคนซัส]] (University of Kansas) เป็นเวลาหกปี ลีกระดับมหาวิทยาลัยถือกำเนิดในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 และเริ่มทัวร์นาเมนต์ที่ชื่อ'''เอ็นไอที''' (National Invitation Tournament, NIT) ในนิวยอร์กเมื่อปี [[พ.ศ. 2481]] (ค.ศ. 1938) ช่วง พ.ศ. 2491 ถึง 2494 บาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยประสบปัญหานักกีฬาโดนซื้อเพื่อผลทางการพนัน<ref>ESPN, [http://espn.go.com/classic/s/basketball_scandals_explosion.html Explosion: 1951 scandals threaten college hoops], เรียกดูข้อมูล 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552</ref> เนื่องจากกลุ่มคนที่โกงนี้เกี่ยวข้องกับเอ็นไอที ทำให้อีกทัวร์นาเมนต์ซึ่งเป็นของ'''[[เอ็นซีเอเอ]]''' (NCAA) ขึ้นแซงเอ็นไอทีในแง่ความสำคัญ{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} ปัจจุบัน[[ทัวร์นาเมนต์เอ็นซีดับเบิลเอ]] หรือที่นิยมเรียกกันว่า '''มาร์ชแมดเนส''' (March Madness ซึ่งแข่งในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี) ถือเป็นรายการแข่งขันระดับต้นๆ ในสหรัฐเป็นรองแค่เพียง[[ซูเปอร์โบล]]ของกีฬา[[อเมริกันฟุตบอล]] และ [[เวิลด์ซีรีส์]]ของกีฬา[[เบสบอล]]เท่านั้น<!--<ref name="TVWeekAds">TVWeek, [http://www.tvweek.com/news/2008/03/advertisers_nuts_over_march_ma.php Advertisers Nuts Over March Madness]</ref>--> |
|||
ในคริสต์ทศวรรษ 1920 มีทีมบาสเกตบอลอาชีพเกิดขึ้นเป็นร้อยทีมตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ไม่มีการจัดระบบเกมอาชีพ เช่น นักกีฬาย้ายทีมไปมา ทีมแข่งกันในโรงเก็บอาวุธและโรงเต้นรำ มีลีกเกิดใหม่และล้มไป บางทีมเล่นถึงสองร้อยเกมในปีหนึ่งก็มี{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} |
|||
ส่วนระดับ[[ไฮสกูล]] (มัธยมปลาย) ของสหรัฐก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน ปัจจุบันเกือบทุกโรงเรียนจะมีทีมบาสเกตบอลประจำโรงเรียน ในฤดูกาล ทั่วทั้งสหรัฐมีนักเรียนชายหญิงรวมกันถึง 1,002,797 คนเล่นเป็นตัวแทนในการแข่งขันระหว่างโรงเรียน{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} [[รัฐอินดีแอนา]]และ[[รัฐเคนทักกี|เคนทักกี]]เป็นสองรัฐที่คนให้ความสนใจบาสเกตบอลระดับไฮสกูลมากเป็นพิเศษ{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} |
|||
=== ลีกอื่นๆ=== |
|||
[[ไฟล์:NationalBasketballAssociation.png|right|สัญลักษณ์ของเอ็นบีเอ]] |
|||
ในปี [[พ.ศ. 2489]] ถือกำเนิดลีก'''[[เอ็นบีเอ]]''' (National Basketball Association, NBA) ก่อตั้งโดยรวบรวมทีมอาชีพชั้นนำ{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} และทำให้กีฬาบาสเกตบอลระดับอาชีพได้รับความนิยมสูงขึ้น ปี [[พ.ศ. 2510]] มีการจัดตั้งลีก'''เอบีเอ''' (American Basketball Association, ABA) ขึ้นอีกลีกมาเป็นคู่แข่งอยู่พักหนึ่ง{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} ก่อนที่ลีกทั้งสองก็ควบรวมกันในปี [[พ.ศ. 2519]]{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} |
|||
ในเอ็นบีเอมีผู้เล่นมีชื่อเสียงหลายคน เช่น [[จอร์จ มิคาน]] (George Mikan) ผู้เล่นร่างใหญ่ที่โดดเด่นคนแรก [[บอบ คอสี]] (Bob Cousy) ผู้มีทักษะการครองบอล [[บิล รัสเซล]] (Bill Russell) ผู้ที่เก่งด้านการตั้งรับ [[วิลท์ แชมเบอร์เลน]] (Wilt Chamberlain) รวมถึง [[ออสการ์ รอเบิร์ตสัน]] (Oscar Robertson) และ [[เจอร์รี เวสต์]] (Jerry West) ผู้ที่เก่งในรอบด้าน [[คารีม อับดุล-จับบาร์]] (Kareem Abdul-Jabbar) และ [[บิล วอลตัน]] (Bill Walton) ผู้เล่นร่างยักษ์ในยุคหลัง [[จอห์น สต็อกตัน]] (John Stockton) ผู้ที่มีทักษะการคุมเกม ตลอดจนผู้เล่นสามคนที่ทำให้เอ็นบีเอได้รับความนิยมจนถึงขีดสุด คือ [[แลร์รี เบิร์ด]] (Larry Bird) [[แมจิก จอห์นสัน|เมจิก จอห์นสัน]] (Magic Johnson) และ [[ไมเคิล จอร์แดน]] (Michael Jordan) |
|||
ลีก'''[[ดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ]]''' (Women's National Basketball Association, WNBA) สำหรับบาสเกตบอลหญิงเริ่มเล่นในปี พ.ศ. 2540{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} ถึงแม้ว่าในฤดูกาลแรกจะไม่ค่อยมั่นคงนัก นักกีฬามีชื่อหลายคน เช่น เชอริล สวูปส์ (Sheryl Swoopes) , ลิซา เลสลี (Lisa Leslie) และ ซู เบิร์ด (Sue Bird) ช่วยเพิ่มความนิยมและระดับการแข่งขันของลีก ลีกบาสเกตบอลหญิงอื่นๆ ล้มไปเนื่องจากความสำเร็จของดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} |
|||
=== บาสเกตบอลระดับสากล === |
|||
'''[[สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ]]''' (International Basketball Federation) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 18 มิถุนายน [[พ.ศ. 2475]] มีสมาชิกก่อตั้งแปดชาติ ได้แก่ [[ประเทศอาร์เจนตินา|อาร์เจนตินา]] [[ประเทศเชโกสโลวาเกีย|เชโกสโลวาเกีย]] [[ประเทศกรีซ|กรีซ]] [[ประเทศอิตาลี|อิตาลี]] [[ประเทศลัตเวีย|ลัตเวีย]] [[ประเทศโปรตุเกส|โปรตุเกส]] [[ประเทศโรมาเนีย|โรมาเนีย]] และ[[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์|สวิตเซอร์แลนด์]] ในสมัยนั้นหน่วยงานดูแลเฉพาะนักกีฬาสมัครเล่น ดังนั้นในชื่อย่อจาก[[ภาษาฝรั่งเศส]]ของสหพันธ์ หรือ '''ฟีบา''' (FIBA) ตัวอักษร "A" ย่อมาจากคำว่า "amateur" ซึ่งแปลว่าสมัครเล่น |
|||
บาสเกตบอลถูกบรรจุใน[[กีฬาโอลิมปิก]]เป็นครั้งแรกในปี [[พ.ศ. 2479]] ถึงแม้ว่าเคยจัดการแข่งขันเป็นกีฬาสาธิตก่อนหน้านั้นนานมากเมื่อ พ.ศ. 2447 สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่เก่งกีฬานี้ และทีมชาติสหรัฐพลาดเหรียญทองเพียงสามครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกที่พลาดแข่งที่[[มิวนิก]]ในปี พ.ศ. 2515 โดยแพ้ให้กับทีม[[สหภาพโซเวียต]] |
|||
การแข่งขัน'''เวิลด์แชมป์เปียนชิปส์''' (World Championships) สำหรับบาสเกตบอลชายเริ่มแข่งปี พ.ศ. 2493 ที่[[ประเทศอาร์เจนตินา]] ส่วนประเภทหญิงเริ่มแข่งสามปีถัดมาใน[[ประเทศชิลี]] กีฬาบาสเกตบอลหญิงเริ่มแข่งในโอลิมปิกปี พ.ศ. 2519 โดยมีทีมที่โดดเด่นเช่น [[ประเทศบราซิล|บราซิล]] [[ประเทศออสเตรเลีย|ออสเตรเลีย]] และ [[สหรัฐอเมริกา]] |
|||
ฟีบา ยกเลิกการแบ่งผู้เล่นเป็นสมัครเล่นและอาชีพเมื่อ พ.ศ. 2532 และปี พ.ศ. 2535 ผู้เล่นอาชีพก็ได้แข่งในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรก ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกากลับมาอีกครั้งโดยการส่ง'''ดรีมทีม''' ที่ประกอบด้วยผู้เล่นจากเอ็นบีเอ แต่ปัจจุบันประเทศอื่นสามารถพัฒนาตามทันสหรัฐอเมริกา ทีมที่มีผู้เล่นเอ็นบีเอล้วนๆ ได้ที่หกในการแข่งเวิลด์แชมเปียนชิปส์ในปี [[พ.ศ. 2545]] ที่เมือง[[อินเดียแนโพลิส]] [[รัฐอินดีแอนา]] [[สหรัฐอเมริกา]] ตามหลัง [[ประเทศเซอร์เบียและมอนเตเนโกร|เซอร์เบียและมอนเตเนโกร]] [[ประเทศอาร์เจนตินา|อาร์เจนตินา]] [[ประเทศเยอรมนี|เยอรมนี]] [[ประเทศนิวซีแลนด์|นิวซีแลนด์]] และ [[ประเทศสเปน|สเปน]] ในโอลิมปิกปี [[พ.ศ. 2547]] สหรัฐแพ้เป็นครั้งแรกนับจากที่เริ่มใช้ผู้เล่นอาชีพ โดยพ่ายให้กับทีมชาติ[[ประเทศเปอร์โตริโก|เปอร์โตริโก]] และสุดท้ายได้เป็นอันดับสาม รองจาก[[ประเทศอาร์เจนตินา|อาร์เจนตินา]] และ[[ประเทศอิตาลี|อิตาลี]] |
|||
ปัจจุบัน มีการแข่งขันทัวร์นาเมนต์บาสเกตบอลทั่วโลกในทุกระดับอายุ ตั้งแต่ห้าจนถึงหกสิบปี ระดับไฮสกูล (มัธยมปลาย) มหาวิทยาลัย ไปจนถึงระดับลีกอาชีพ และมีแข่งทั้งประเภทชายและหญิง |
|||
ความนิยมกีฬาชนิดนี้ทั่วโลกสังเกตได้จากสัญชาติของผู้เล่นในเอ็นบีเอ จะสามารถพบนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลก [[สตีฟ แนช]] (Steve Nash) ผู้ที่ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในเอ็นบีเอปี พ.ศ. 2548 เป็น[[ประเทศแคนาดา|ชาวแคนาดา]]ที่เกิดที่[[ประเทศแอฟริกาใต้]] ดาราดังของทีม[[ดัลลัส แมฟเวอริกส์]] [[เดิร์ก โนวิตสกี]] (Dirk Nowitzki) ก็เกิดใน[[ประเทศเยอรมนี]]และเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนี |
|||
อีกตัวอย่างซึ่งแสดงให้เห็นการพัฒนาถึงระดับโลก คือทีมออลทัวร์นาเมนต์ ซึ่งประกอบด้วยผู้เล่นยอดเยี่ยมจากการแข่งเวิลด์แชมป์เปียนชิปส์ปี พ.ศ. 2545 ได้แก่ เดิร์ก โนวิตสกี, [[เพยา สโตยาโควิช]] (Peja Stojakovic) จากเซอร์เบียและมอนเตเนโกร, [[มานู จิโนบิลี]] (Manu Ginobili) จากอาร์เจนตินา, [[เหยา หมิง]] (Yao Ming) จาก[[ประเทศจีน|จีน]] และ เพโร คาเมรอน (Pero Cameron) จาก[[ประเทศนิวซีแลนด์|นิวซีแลนด์]] ทุกคนยกเว้นคาเมรอนเป็นหรือจะเป็นผู้เล่นในเอ็นบีเอในเวลาต่อมา |
|||
== กฎและกติกา == |
|||
กฎเกี่ยวกับขนาดและเวลาที่ใช้แข่ง อาจแตกต่างกันขึ้นกับทัวร์นาเมนต์หรือองค์กรที่จัดการแข่งขัน รายละเอียดในส่วนนี้จะใช้ของสากลและเอ็นบีเอเป็นหลัก |
|||
จุดมุ่งหมายของเกมคือ การทำคะแนนให้ได้มากกว่าคู่แข่งโดยการโยนลูกเข้าห่วงของคู่ต่อสู้จากด้านบน ในขณะที่ป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู่โยนลูกลงห่วงของฝ่ายตน การโยนลูกในลักษณะนี้เรียกว่า'''การชู้ต''' (หรือ'''ช็อต''' shot) การชู้ตที่เข้าห่วงจะได้สองคะแนน แต่ถ้าผู้ชู้ตอยู่เลยเส้นสามคะแนนออกไปในขณะชู้ตลูกก็จะได้สามคะแนน เส้นสามคะแนนจะอยู่ห่างจากห่วงเป็นระยะ 6.75 เมตร (22 ฟุต 1 3/4 นิ้ว) ในกติกาสากล และ 23 ฟุต 9 นิ้ว (7.24 เมตร) ในกติกาเอ็นบีเอ การชู้ตลูกโทษหรือที่เรียกว่า '''ฟรีโทรว์''' (free throw) เมื่อฟาวล์มีค่าหนึ่งคะแนน |
|||
=== กติกาการเล่น === |
|||
เกมจะแบ่งการเล่นเป็น 4 '''ควอเตอร์''' (quarter) แต่ละควอเตอร์มี 10 นาที (สากล) หรือ 12 นาที (เอ็นบีเอ) ช่วงพักครึ่งนาน 15 นาที ส่วนพักอื่นๆ ยาว 2 นาที ช่วงต่อเวลา (overtime) ยาว 5 นาที ทีมจะสลับด้านสนามเมื่อเริ่มครึ่งหลัง เวลาจะเดินเฉพาะระหว่างที่เล่น และนาฬิกาจะหยุดเดินเมื่อเกมหยุด เช่น เมื่อเกิดการฟาวล์ หรือระหว่างการชู้ตลูกโทษ เป็นต้น ดังนั้นเวลาทั้งหมดที่ใช้แข่งมักยาวกว่านี้มาก (ประมาณสองชั่วโมง) |
|||
ในขณะใดขณะหนึ่งจะมีผู้เล่นในสนามฝ่ายละห้าคน และจะมีผู้เล่นสำรองสูงสุดทีมละเจ็ดคน สามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัดและเปลี่ยนได้เฉพาะเมื่อเกมหยุด ทีมยังมีโค้ชที่ดูแลทีมและวางกลยุทธ์ในการเล่น รวมถึงผู้ช่วยโค้ช ผู้จัดการทีม นักสถิติ แพทย์ และเทรนเนอร์ |
|||
เครื่องแบบนักกีฬาสำหรับทีมชายและหญิงตามมาตรฐานได้แก่ กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามที่มีหมายเลขผู้เล่นชัดเจนพิมพ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รองเท้าเป็นรองเท้ากีฬาหุ้มข้อเท้า อาจมีชื่อทีม ชื่อนักกีฬา และ[[สปอนเซอร์]] ปรากฏบนชุดด้วยก็ได้ |
|||
แต่ละทีมจะได้เวลานอกจำนวนหนึ่งสำหรับให้โค้ชและผู้เล่นปรึกษากัน มักยาวไม่เกินหนึ่งนาที ยกเว้นเมื่อต้องการโฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสด |
|||
เกมควบคุมโดยกรรมการและหัวหน้ากรรมการผู้ตัดสินในสนาม และกรรมการโต๊ะ กรรมการโต๊ะมีหน้าที่บันทึกคะแนน ควบคุมเวลา บันทึกจำนวน[[ฟาล์ว]]ผู้เล่นและฟาล์วทีม ดูเรื่องการเปลี่ยนตัว [[โพเซสซันแอร์โรว์]] และ[[ช็อตคล็อก]] |
|||
=== อุปกรณ์การเล่น === |
|||
[[ไฟล์:Basketball.jpeg|thumb|ลูกบาสเกตบอล]] |
|||
อุปกรณ์ที่จำเป็นจริง ๆ ในกีฬาบาสเกตบอลมีเพียงลูกบอลและสนามที่มีห่วงติดอยู่ที่ปลายทั้งสองด้าน แต่ในการแข่งขันต้องมีอุปกรณ์อื่นเพิ่ม เช่น นาฬิกา กระดาษบันทึกคะแนน สกอร์บอร์ด โพเซสซันแอร์โรว์ ระบบหยุดนาฬิกาด้วยนกหวีด เป็นต้น |
|||
ลูกบาสเกตบอลชายมีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) และหนักประมาณ 1 ปอนด์ 5 ออนส์ (600 กรัม) ลูกบาสเกตบอลหญิงมีเส้นรอบวงประมาณ 29 นิ้ว (73 ซม.) และหนักประมาณ 1 ปอนด์ 3 ออนส์ (540 กรัม) สนามบาสเกตบอลมาตรฐานในเกมสากลมีขนาด 28 คูณ 15 เมตร (ประมาณ 84 คูณ 50 ฟุต) ส่วนในเอ็นบีเอมีขนาด 87 คูณ 50 ฟุต (29 คูณ 15 เมตร) พื้นสนามส่วนใหญ่ทำด้วยไม้ |
|||
ห่วงที่ทำจากเหล็กหล่อ พร้อมทั้งเน็ต และแป้น ติดอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านของสนาม ในการแข่งขันเกือบทุกระดับ ขอบห่วงด้านบนอยู่สูงจากพื้น 10 ฟุต (3 เมตร) พอดีและถัดเข้ามาจากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร) ถึงแม้ว่าขนาดของสนามและแป้นอาจแตกต่างกันออกไป แต่ความสูงของห่วงถือว่าสำคัญมาก ถึงตำแหน่งจะคลาดเคลื่อนไปไม่เพียงกี่นิ้วก็มีผลต่อการชู้ตอย่างมาก |
|||
=== ข้อบังคับ === |
|||
ลูกสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเข้าหาห่วงโดยการชู้ต การส่งระหว่างผู้เล่น การขว้าง การเคาะลูก การกลิ้งลูก หรือ การเลี้ยงลูก (โดยการให้ลูกกระเด้งกับพื้นขณะวิ่ง ภาษาอังกฤษเรียก '''ดริบบลิง''', dribbling) |
|||
ลูกจะต้องอยู่ในสนาม ทีมสุดท้ายที่สัมผัสลูกก่อนที่ลูกจะออกนอกสนามนั้นจะสูญเสียการครองบอล ผู้เล่นห้ามขยับขาทั้งสองพร้อมกันในขณะเลี้ยงลูก (เรียกว่า '''แทรเวลลิง''', travelling) เลี้ยงลูกพร้อมกันทั้งสองมือ หรือเลื้ยงลูกแล้วจับลูกแล้วเลี้ยงลูกต่อ (เรียกว่า '''ดับเบิล-ดริบบลิง''', double-dribbling) เวลาเลี้ยงมือของผู้เล่นต้องอยู่ด้านบนของลูก มิฉะนั้นจะนับว่า ถือลูก (carrying) ถ้าทีมพาลูกไปยังแดนของฝ่ายตรงข้ามของสนาม (frontcourt) แล้ว ห้ามนำลูกกลับเข้าแดนตนเอง (backcourt) อีก ห้ามเตะหรือชกลูก ถ้าทำผิดกฎข้อห้ามเหล่านี้จะเสียการครองบอล อีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายได้ลูกไปเล่น แต่ถ้าฝ่ายรับทำผิดกฎฝ่ายที่ครองบอลจะได้เริ่มช็อตคล็อกใหม่ |
|||
ผู้เล่นจะต้องนำลูกจากแดนตัวเองข้ามเข้าแดนตรงข้ามภายในเวลาที่กำหนด (8 วินาทีทั้งในกติกาสากลและเอ็นบีเอ) ต้องชู้ตภายในเวลา 24 วินาที ถือลูกขณะที่ถูกยืนคุมโดยฝ่ายตรงข้ามไม่เกิน 5 วินาที อยู่ในบริเวณใต้แป้นไม่เกิน 3 วินาที กฎเหล่านี้มีไว้เป็นรางวัลแก่การตั้งรับที่ดี |
|||
ห้ามผู้เล่นรบกวนห่วง หรือ ลูกขณะเคลื่อนที่คล้อยลงมายังห่วง หรือ ขณะอยู่บนห่วง (ในเอ็นบีเอ ยังรวมกรณีลูกอยู่เหนือห่วงพอดี) การฝ่าฝืนข้อห้ามนี้เรียก '''โกลเทนดิง''' (goaltending) ถ้าฝ่ายรับทำผิด จะถือว่าการชู้ตสำเร็จและอีกฝ่ายได้คะแนน แต่ถ้าฝ่ายรุกทำผิด จะไม่คิดคะแนนการชู้ตนี้ และเสียการครองบอล |
|||
=== ฟาวล์=== |
|||
[[ไฟล์:Basketball foul.jpg|thumb|กรรมการแสดงสัญญาณฟาวล์โดยการเป่านกหวีดแล้วชูกำปั้นข้างซ้ายขึ้น]] |
|||
การเล่นที่กระทบกระทั่งผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้อีกฝ่ายเสียเปรียบและไม่เป็นธรรม ถือเป็นข้อห้ามที่ถ้าฝ่าฝืนจะนับเป็น '''ฟาวล์''' (foul) ผู้เล่นตั้งรับมักจะเป็นคนทำฟาวล์แต่ผู้เล่นฝ่ายรุกก็สามารถทำฟาวล์ได้เช่นเดียวกัน คนที่ถูกฟาวล์จะได้ส่งลูกจากข้างสนาม (inbound) เพื่อเล่นต่อ หรือได้ชู้ตลูกโทษ หรือ '''ฟรีโทรว์''' (free throw) ถ้าการฟาวล์เกิดขึ้นขณะกำลังชู้ตลูก การชู้ตลูกโทษลงห่วงครั้งหนึ่งจะได้หนึ่งคะแนน ผู้เล่นจะได้ชู้ตลูกโทษหนึ่งกี่ครั้งขึ้นกับว่าลูกที่ผู้เล่นชู้ตตอนถูกฟาวล์นั้นได้แต้มหรือไม่ เวลาชู้ตลูกโทษผู้เล่นต้องยืนหลังเส้นลูกโทษซึ่งห่างจากห่วง 4.5 เมตร (15 ฟุต) |
|||
การที่จะมีฟาวล์หรือไม่อยู่วิจารณญาณของกรรมการผู้ตัดสิน ว่าผู้เล่นเกิดการได้เปรียบในการเล่นอย่างขาวสะอาดหรือไม่ ทำให้บางครั้งมีความเห็นขัดแย้งกับการเรียกฟาวล์ของกรรมการ การกระทบกระทั่งในกีฬาบาสเกตบอลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเรียกฟาวล์อาจแตกต่างกันในแต่ละเกม ลีก หรือแม้กระทั่งกรรมการตัดสินแต่ละคน |
|||
ผู้เล่นหรือโค้ชซึ่งแสดงน้ำใจนักกีฬาที่แย่ เช่น เถียงกับกรรมการ หรือ ชกกับผู้เล่นอื่น อาจโดน'''เทคนิคัลฟาวล์''' หรือ '''ฟาวล์เทคนิค''' (technical foul) ซึ่งถูกลงโทษโดยให้อีกทีมได้ชู้ตลูกโทษ (รายละเอียดขึ้นอยู่กับลีก) ถ้าเกิดเหตุการณ์ซ้ำก็อาจถูกไล่ออกจากสนามได้ ฟาวล์ที่เกิดจากการเล่นที่รุนแรงเกินไป จะเรียกว่า'''ฟาวล์ขาดน้ำใจนักกีฬา''' หรือ '''ฟาวล์รุนแรง''' (unsportsmanlike foul ในสากลหรือ flagrant foul ในเอ็นบีเอ) ก็จะได้รับโทษที่สูงขึ้นกว่าฟาวล์ธรรมดา บางครั้งอาจถูกให้ออกจากสนามด้วย |
|||
ถ้าทีมทำฟาวล์เกินกว่าที่กำหนด (ในหนึ่งควาเตอร์ หรือ ในครึ่งเกม) ซึ่งก็คือ สี่ครั้งสำหรับกติกาสากลและเอ็นบีเอ ทีมตรงข้ามสามารถชู้ตลูกโทษสำหรับการฟาวล์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อๆ ไป จากนั้นจนกว่าจะจบช่วง ไม่ว่าการฟาวล์จะเกิดขึ้นขณะกำลังชู้ตลูกหรือไม่ (รายละเอียดขึ้นอยู่กับลีก) ถ้าผู้เล่นฟาวล์รวมห้าครั้งนับเทคนิคัลฟาวล์ด้วย (บางลีก รวมถือเอ็นบีเอ ยอมให้ฟาวล์ได้หกครั้ง) ผู้เล่นนั้นไม่สามารถเล่นในเกมได้อีก เรียกว่า'''ฟาวล์เอาท์''' (foul out) |
|||
== เทคนิคพื้นฐาน == |
|||
=== ตำแหน่งผู้เล่นและโครงสร้าง === |
|||
[[ไฟล์:Basketball positions th.png|right|250px|thumb|ตำแหน่งผู้เล่น]] |
|||
ถึงแม้ว่าในกฎจะไม่กำหนดตำแหน่งใด ๆ ของผู้เล่น แต่เรื่องนี้มีวิวัฒนาการจนเป็นส่วนหนึ่งของบาสเกตบอล ในช่วงห้าสิบปีแรกของเกม จะใช้ การ์ดสองคน ฟอร์เวิร์ดสองคน และเซ็นเตอร์หนึ่งคนในการเล่น ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา มีการแบ่งชัดเจนขึ้นเป็น '''[[พอยท์การ์ด]]''' (หรือ'''การ์ดจ่าย''') '''[[ชู้ตติ้งการ์ด]]''' '''[[สมอลฟอร์เวิร์ด]]''' '''[[เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด (บาสเกตบอล)|เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด]]''' และ '''[[เซ็นเตอร์ (บาสเกตบอล)|เซ็นเตอร์]]''' ในบางครั้งทีมอาจเลือกใช้ การ์ดสามคน แทนฟอร์เวิร์ดหรือเซ็ตเตอร์คนหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า '''three guard offense''' |
|||
การเล่นตั้งรับ มีหลักการแตกต่างกันสองรูปแบบ คือ ตั้งรับแบบ'''โซน''' (zone defense) และ แบบ'''แมน-ทู-แมน''' (man-to-man defense) การตั้งรับแบบโซน ผู้เล่นจะยืนคุมผู้เล่นฝ่ายบุกที่อยู่ในโซนที่ตัวเองรับผิดชอบ ส่วนแบบ แมน-ทู-แมน นั้น ผู้เล่นฝ่ายรับแต่ละคนจะยืนคุมและป้องกันผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่โค้ชวางแผนการเล่นเอาไว้ |
|||
ส่วนการเล่นบุกทำคะแนนมีหลากหลายกว่า เกี่ยวข้องกับแผนการส่งลูก และการเคลื่อนไหวของผู้เล่นที่ไม่ถือลูก การ'''คัท''' (cut) หรือวิ่งตัด คือการที่ผู้เล่นที่ไม่มีลูกวิ่งอย่างรวดเร็วไปยังตำแหน่งที่ได้เปรียบ การ'''สกรีน''' (screen) หรือ '''พิก''' (pick) คือการที่ผู้เล่นฝ่ายบุกยืนขวางทางผู้เล่นฝ่ายรับที่ประกบเพื่อนร่วมทีมในขณะที่เพื่อนร่วมทีมนั้นวิ่งตัดข้างๆ เขา การเล่นสองแบบนี้สามารถรวมเข้าเป็น'''พิกแอนด์โรล''' (pick and roll) โดยที่ผู้เล่นคนแรกทำพิกจากนั้นก็หมุนตัววิ่งเข้าหาห่วง (ซึ่งเรียกว่า'''โรล''') สกรีน และ คัท เป็นส่วนสำคัญของการเล่น ทำให้ส่งลูกและทำคะแนนได้สำเร็จ ทีมมักมีแผนการเล่นที่หลากหลายเพื่อให้อีกฝ่ายไม่สามารถคาดเดาการเล่นได้ ในสนามผู้เล่นตำแหน่งพอยท์การ์ดมักมีหน้าที่บอกแผนการเล่นที่จะใช้ให้กับเพื่อนร่วมทีม |
|||
โครงสร้างของการตั้งรับ การบุก และตำแหน่งการเล่น ถูกเน้นในการเล่นบาสเกตบอลระดับสูง และเป็นสิ่งที่โค้ชจะขอเวลานอกเพื่อคุยกับลูกทีม |
|||
=== การชู้ต === |
|||
การชู้ตเพื่อทำคะแนนนั้น วิธีการจะแตกต่างกันไปขึ้นกับผู้เล่นและสถานการณ์ ที่จะอธิบายต่อไปนี้เป็นเทคนิกพื้นฐานที่ใช้มากที่สุดในการเล่น |
|||
ผู้เล่นเอาลูกไปพักบนปลายนิ้วมือข้างที่ถนัด ให้อยู่สูงกว่าศีรษะเล็กน้อย ส่วนมืออีกข้างประคองด้านข้างลูก จากนั้นก็ยืดแขนข้างที่พักลูกให้เหยียดตรงให้ลูกลอยออกจากปลายนิ้วในขณะที่บิดข้อมือลง ปกติมืออีกข้างประคองลูกเพื่อควบคุมทิศการชู้ตเท่านั้น ไม่มีส่วนในการให้แรงส่ง |
|||
ผู้เล่นมักชู้ตลูกให้ลูกหมุนแบบ'''แบ็คสปิน''' (backspin) กล่าวคือหมุนย้อนไปข้างหลังขณะที่ลูกเคลื่อนที่ไปยังห่วง ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกกระดอนออกจากห่วงหลังจากการกระทบ ผู้เล่นส่วนมากชู้ตไปยังห่วงตรง ๆแต่มันค่อนข้างยาก แต่ในบางครั้งผู้ชู้ตอาจชู้ตให้กระดอนกับแป้นแทน |
|||
วิธีการชู้ตที่ใช้บ่อยสุด ได้แก่ '''เซ็ตช็อต''' (set shot) และ '''จัมพ์ช็อต''' (jump shot) เซ็ตช็อตคือการชู้ตขณะที่ทั้งสองเท้ายังอยู่ติดพื้น ใช้ในการชู้ตฟรีโทรว์ ส่วนจัมพ์ช็อต คือการชู้ตขณะที่กำลังกระโดดโดยปล่อยลูกขณะที่ตัวอยู่ตำแหน่งลอยตัวสูงสุด การชู้ตวิธีนี้ให้กำลังมากกว่าและชู้ตได้ไกล อีกทั้งสามารถกระโดดลอยตัวเหนือผู้เล่นที่ยืนตั้งรับได้ด้วย |
|||
ผู้เล่นที่ชู้ตเก่งนอกจากจะมีสัมผัส การทรงตัว ความกล้า และการฝึกฝนที่ดีแล้ว ยังต้องรู้จักเลือกโอกาสการชู้ตอีกด้วย ผู้เล่นระดับแนวหน้ามักชู้ตไม่พลาดเมื่อไม่มีผู้เล่นอื่นมาประกบ |
|||
=== การส่งบอล === |
|||
ใน'''การส่งบอล''' (pass) ระหว่างผู้เล่น ผู้ส่งมักส่งในจังหวะที่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มกำลังส่ง และอาศัยมือประคองในจังหวะที่ปล่อยลูกเพื่อช่วยเรื่องความแม่นยำ |
|||
การส่งพื้นฐานสุดแบบหนึ่งคือ'''การส่งระดับอก''' (chest pass) โดยส่งโดยตรงจากอกของผู้ส่งลูกไปยังผู้รับลูก เป็นการส่งที่รวดเร็วที่สุด |
|||
การส่งอีกแบบคือแบบ bounce pass ผู้ส่งจะส่งจากระดับอก ให้ลูกบอลกระเด้งกับพื้นที่ระยะประมาณสองในสามจากผู้ส่ง ซึ่งลูกจะกระเด้งเข้าระดับอกของผู้รับพอดี มีประโยชน์เวลาที่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามยืนอยู่ในจุดซึ่งอาจแย่งลูกได้หากส่งลูกธรรมดา |
|||
การส่งแบบ ข้ามหัว (overhead pass) สำหรับส่งข้ามผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม โดยจะส่งข้ามศีรษะของผู้ส่ง เล็งไปที่ระดับคางของผู้รับ |
|||
การส่งไม่จำเป็นต้องใช้กรณีที่ผู้เล่นอยู่ไกลกัน แต่อาจจะเป็นการยื่นลูกให้ผู้เล่นคนที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งกำลังเคลื่อนที่เข้าไปยังห่วงเพื่อทำคะแนนเป็นต้น |
|||
จุดสำคัญของการส่งลูกก็คือ จะต้องไม่ให้อีกฝ่ายแย่งหรือ[[สตีล (บาสเกตบอล)|ขโมย]]ลูกไปได้ ด้วยเหตุนี้การส่งข้ามสนามไกล ๆ ที่เรียกว่า'''การส่งสกิป''' (skip pass) ถึงใช้กับแค่บางสถานการณ์เท่านั้น |
|||
=== การเลี้ยงลูก === |
|||
[[ไฟล์:Basketball game.jpg|thumb|right|210px|ผู้เล่นทีมวิทยาลัยกองทัพเรือสหรัฐ (ซ้าย) พยายามเลี้ยงลูกหลบฝ่ายรับทีมวิทยาลัยกองทัพบก (ขวา)]] |
|||
การเลี้ยงลูกเป็นการบังคับให้ลูกกระเด้งกับพื้นตลอดเวลา ผู้เล่นไม่ใช้มือตบลูกแต่จะใช้มือดันลูกไปหาพื้นแทนเนื่องจากควบคุมลูกได้ดีกว่า |
|||
เมื่อต้องเลี้ยงลูกผ่านคู่ต่อสู้ ผู้เลี้ยงลูกควรเลี้ยงให้ลูกอยู่ห่างจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามมากที่สุด ดังนั้นผู้เล่นจำเป็นต้องเลี้ยงลูกได้ทั้งสองมือ ด้วยการสลับมือเลี้ยงลูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก็เอื้อมมือถึงลูกได้ยากขึ้น และระหว่างที่สลับมือจะต้องเลี้ยงลูกให้ต่ำลงป้องกันการขโมยลูก ผู้เล่นอาจเปลี่ยนมือโดยเลี้ยงลูกลอดระหว่างขาหรือไขว้หลังก็ได้ |
|||
ผู้เล่นที่ชำนาญสามารถเลี้ยงลูกได้โดยไม่ต้องมองลูก ซึ่งช่วยให้มองหาเพื่อนร่วมทีมหรือโอกาสการทำแต้ม และป้องกันการขโมยลูกจากผู้เล่นที่ยืนอยู่รอบ ๆ ได้ |
|||
== การเล่นรูปแบบอื่นๆ == |
|||
บาสเกตบอลยังมีการดัดแปลงการเล่นเป็นรูปแบบอื่น ๆ โดยยังคงใช้ทักษะทางบาสเกตบอล ตลอดจนอุปกรณ์การเล่น (มักได้แก่ลูกบาสเกตบอล และห่วง) การเล่นบางรูปแบบก็เป็นการเพียงเปลี่ยนกฎอย่างผิวเผิน แต่บางอย่างก็ถือเป็นเกมคนละชนิดไปเลย ซึ่งเกมเหล่านี้มักเป็นการเล่นไม่เป็นทางการ โดยไม่มีกรรมการ และกฎข้อบังคับที่เข้มงวด |
|||
เกมที่น่าจะพบบ่อยสุด คือการเล่นแบบ '''ฮาล์ฟคอร์ต''' (half court game) โดยใช้สนามเพียงครึ่งเดียว เมื่อมีการเปลี่ยนการครองบอล จะต้อง'''เคลียร์'''ลูก คือส่งลูกออกไปยังเส้นครึ่งสนามหรือนอกเส้นชู้ตสามคะแนนก่อนถึงจะเล่นต่อได้ การเล่นแบบนี้ใช้พละกำลังและความแกร่งน้อยกว่าเพราะไม่ต้องวิ่งตลอดความยาวสนาม การเล่นแบบนี้ยังเป็นการใช้สนามอย่างคุ้มค่าขึ้น เนื่องจากสนามบาสสนามหนึ่งสามารถเล่นพร้อมกันสองเกม เมื่อมีคนมาเล่นในสนามเป็นจำนวนมาก เจ้าของสนามอาจบังคับว่าต้องเล่นในลักษณะฮาล์ฟคอร์ต |
|||
== ดูเพิ่ม == |
== ดูเพิ่ม == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:41, 25 กันยายน 2560
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
![]() | |
สมาพันธ์สูงสุด | FIBA |
---|---|
เล่นครั้งแรก | 1891, Springfield, Massachusetts, U.S. |
ลักษณะเฉพาะ | |
การปะทะ | Contact |
ผู้เล่นในทีม | 10-20 (5 on court) |
แข่งรวมชายหญิง | Single |
หมวดหมู่ | Indoor (mainly) or Outdoor (Streetball) |
อุปกรณ์ | Basketball |
จัดแข่งขัน | |
โอลิมปิก | Demonstrated in the 1904 and 1924 Summer Olympics Part of the Summer Olympic programme since 1936 |
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/c/c3/Jordan_by_Lipofsky_16577.jpg/200px-Jordan_by_Lipofsky_16577.jpg)
ดูเพิ่ม
- เอ็นบีเอ - การแข่งขันบาสเกตบอลอาชีพในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
อ้างอิง
- National Basketball Association (2001). Official Rules of the National Basketball Association. อ้างอิงจากหน้าเว็บเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2547.
- International Basketball Federation (June 2004). Official Basketball Rules.
- Reimer, Anthony (June 2005). FIBA vs North American Rules Comparison. FIBA Assist (14) : 40.
- Bonsor, Kevin. How Basketball Works: Who's Who. HowStuffWorks. อ้างอิงจากหน้าเว็บเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2549.
แหล่งข้อมูลอื่น
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ บาสเกตบอล