พระมงคลสิทธาจารย์ (รวย ปาสาทิโก)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระมงคลสิทธาจารย์

(สำรวย ปาสาทิโก)
ชื่ออื่นท่านเจ้าคุณหลวงพ่อรวย
ส่วนบุคคล
เกิด9 ธันวาคม พ.ศ. 2464 (96 ปี)
มรณภาพ19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
นิกายมหานิกาย
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดตะโก พระนครศรีอยุธยา
บรรพชาพ.ศ. 2480
อุปสมบท12 เมษายน พ.ศ. 2484
พรรษา75
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตะโก

ท่านเจ้าคุณ พระมงคลสิทธาจารย์ (หลวงพ่อรวย วัดตะโก) (9 ธันวาคม พ.ศ. 2464 - 19 กรกฎาคม 2560) เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สืบทอดความรู้มาจากพระคณาจารย์รุ่นก่อน ด้วยนามอันเป็นมงคลสูงและศีลาวัตรปฏิบัติอันงดงาม ควรแก่การศรัทธาและเคารพอย่างยิ่ง ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชามาจาก หลวงพ่อชื้น (พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ) อดีตเจ้าอาวาสวัดภาชี ผู้ก่อตั้งโรงเรียนภาชี “สุนทรวิทยานุกูล” ลูกศิษย์สายตรงของ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ (ปรมจารย์ด้านมีดหมอสายภาคกลาง) และเป็นหนึ่งในบุคคลที่กล่าวถึงในสมัยอยุธยาเป็นราชธานีในวันที่ (3 เมษายน พ.ศ. 1893 – 7 เมษายน พ.ศ. 2310) และเสียกรุงให้กับพม่า และ กลับมาเป็นราชธานีอีกครั้งหนึ่งในวันที่ (6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 – 28 ธันวาคม พ.ศ. 2310) ซึ่งถือว่า พระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์รวมของแม่น้ำ และมีความเชื่อกับสิ่งของโบราณ และสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขนาดพระคณาจารย์ชื่อดัง ยังมีอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะ พระเกจิอาจารย์ใช้สถานที่ฝึกตำราพิชัยสงคราม สรรพวิชาต่าง ๆ มากมาย ตำรับสายเวทในวัดประดู่ทรงธรรม [1]

ประวัติ[แก้]

ท่านเกิดเมื่อเดือน วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2464 ที่บ้านตะโก หมู่ที่ 2 ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายมี และ นางสินลา มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน บรรพบุรุษฝ่ายบิดาเป็นคนกรุงศรีสัตตนาคนหุตอาณาจักรล้านช้าง เมื่ออายุได้ 12 ปี ได้เรียนอยู่ที่วัดตะโกเพราะในสมัยนั้นในละแวก ตำบลหญ้านาง ไม่มีโรงเรียนประถม จึงต้องเรียนกับพระภิกษุบนศาลาการเปรียญ และพอมีอายุได้ 16 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร มีพระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก เป็นพระอุปัชฌาย์ สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในขณะที่ครองเพศเป็นสามเณร จนกระทั่งมีอายุได้ 20 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2484 โดยมีพระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อชื่น) เจ้าอาวาสวัดภาชี และเจ้าคณะอำเภอภาชี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดจ้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสมุห์บุญช่วย เจ้าอาวาสวัดตะโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปาสาทิโก [2] และสอบนักธรรมชั้นโทได้เมื่อปี พ.ศ. 2485 และสอบนักธรรมชั้นเอกได้เมื่อ พ.ศ. 2487 หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาวิชากรรมฐานแลพุทธาคมต่าง ๆ โดยขอฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อชื้น พระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นศิษย์สายตรงของ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลังจากนั้น ก็ไปเรียนกับหลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ซึ่งได้ถ่ายทอดวิชาให้กับหลวงพ่อรวย จนหมดสิ้น [3] หลวงพ่อท่านเป็นพระคณาจารย์ระดับแนวหน้ารูปหนึ่งของประเทศ และเวลามีงานพุทธาภิเษก ปลุกเสกพระเครื่องต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็จะนิมนต์หลวงพ่อรวย ไปปลุกเสกพระเครื่องเป็นประจำ ด้วยนามอันเป็นมงคลที่กล่าวมายังข้างต้น [2]

ประสบการณ์ที่เล่าขาน[แก้]

หลวงพ่อรวยมีฌานสมาธิอันแก่กล้าในกรรมฐาน ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเรียนวิชาให้รวดเร็ว จึงมีความเข้มขลังในวิทยาคมมาก ดังปรากฏการณ์มหัศจรรย์หลายอย่าง ต่อสายตามหาชน เมื่อคราววางศิลาฤกษ์ที่โรงเรียนบ้านตะโก- ดอนหญ้านาง ขณะที่พระสงฆ์สวดชยันโตและหลวงพ่อรวย กำลังเจิมแผ่นศิลาฤกษ์อยู่นั้น กำนันแสวง โชคชัย ได้ชักปืน 9 ม.ม ยิงข้ามสายสิญจน์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ปรากฏว่า ยิงไม่ออก [3]

ฟ้าผ่าไม่ตาย[แก้]

มีอีกเรื่องหนึ่ง ที่เล่าโจษขานกันก็คือ มีชาวนาคนหนึ่งชื่อ นางจำนงค์ บังขจร ขณะดำนาอยู่ก็ถูกฟ้าผ่า และก็จมน้ำ ต่อหน้าต่อตาญาติพี่น้อง ทั้งสามีและลูก ต่างก็ช่วยอุ้มขึ้นมา ปรากฏว่าเสื้อผ้าไหม้เกรียมจนหมด แต่ในตัวกับไม่พบบาดแผลใด ๆ จึงพากันกลับบ้าน และใช้สุราพ่น รุ่งขึ้น อาการก็ทุเลาลง เริ่มลุกขึ้นได้ พอฟื้นขึ้นมา ก็ทราบว่า นางจำนงค์ ได้ห้อยเหรียญของหลวงพ่อรวย รุ่นแรก ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองสมณศักดิ์พ.ศ. 2513 เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ความมหัศจรรย์เล่าขานกันต่อมา อย่างไม่รู้จบ

สมณศักดิ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

หลวงพ่อรวย มรณภาพ[ลิงก์เสีย][แก้]
  1. หนังสือ19 พระคณาจารย์ยอดนิยมยุคปัจจุบัน
  2. 2.0 2.1 หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "หลวงปู่" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  3. 3.0 3.1 ประวัติ หลวงพ่อรวย วัดตะโก อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "หลวงพ่อ" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน