ข้ามไปเนื้อหา

ประยุทธ มหากิจศิริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประยุทธ มหากิจศิริ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด1 ธันวาคม พ.ศ. 2488 (79 ปี)
คู่สมรสสุวิมล มหากิจศิริ

ประยุทธ มหากิจศิริ[1] (เกิด 1 ธันวาคม พ.ศ. 2488) นักธุรกิจชาวไทย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ปส์ เจ้าของบริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส และไทย คอปเปอร์ เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟเลควูด

ประวัติ

[แก้]

คุณประยุทธสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

ในฐานะนักธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย เขามีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการกลุ่มบริษัท PM Group ซึ่งครอบครองธุรกิจหลากหลายสาขา อาทิ บริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด (ผู้ผลิตเนสกาแฟในประเทศไทย), ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส, ไทยคอปเปอร์ อินดัสตรี้ และสนามกอล์ฟเลควูด คันทรี คลับ เป็นต้น

ชีวิตส่วนตัว สมรสกับ สุวิมล มหากิจศิริ มีบุตร 3 คน คือ อุษณีย์ มหากิจศิริ เฉลิมชัย มหากิจศิริ และอุษณา มหากิจศิริ คุณประยุทธเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท กาแฟผงไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูปรายแรกของประเทศไทย ก่อนจะตกลงให้ทางเนสท์เล่เข้าร่วมทุน และการย้ายฐานการผลิตสู่โรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คิวซีพีฯ แทนบริษัทเดิม และได้รับการขนานนามว่าเป็น เจ้าพ่อเนสกาแฟ

คุณประยุทธเคยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ลำดับ 8 ในทำเนียบ 10 มหาเศรษฐีไทย

การเมือง

[แก้]

นายประยุทธ มหากิจศิริ เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เมื่อปี พ.ศ. 2540 ต่อมาได้เข้ารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทสำคัญทางการเมืองในช่วงเวลาดังกล่าว

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "PM GROUP COMPANY LIMITED". www.pm-groups.com. สืบค้นเมื่อ 2025-10-01.
  2. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2015-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๒๔, ๑ ธันวาคม ๒๕๔๖
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๒๕, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๐