ปฏิทินอาหรับก่อนการมาของอิสลาม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

จารึกปฏิทินอาระเบียใต้โบราณเปิดเผยการใช้งานปฏิทินในท้องถิ่น อย่างน้อยบางส่วนในปฏิทินอาระเบียใต้ใช้ระบบปฏิทินสุริยจันทรคติ ส่วนอาระเบียตอนกลาง โดยเฉพาะมักกะฮ์ ไม่ค่อยมีหลักฐานนี้ แต่รายละเอียดพบได้ในบันทึกของมุสลิมในสมัยอับบาซียะฮ์[1] นักประวัติศาสตร์บางคนยึดมั่นว่าปฏิทินก่อนการมาของอิสลามที่ใช้ในอาระเบียกลางคือปฏิทินจันทรคติ ซึ่งคล้ายกับปฏิทินอิสลามสมัยใหม่[2][1][3] บางคนเห็นพ้องว่าปฏิทินก่อนการมาของอิสลามเคยเป็นปฏิทินจันทรคติมาก่อน แต่ถูกเปลี่ยนเป็นปฏิทินสุริยจันทรคติเมื่อ 200 ปีก่อนฮิจเราะห์ ซึ่งมีการทดปฏิทินหลายครั้งเพื่อให้พิธีแสวงบุญอยู่ในช่วงที่กำหนด[4][5]

ชื่อวันก่อนการมาของอิสลาม[แก้]

ชื่อวันในสัปดาห์ของอาระเบียก่อนการมาของอิสลามถูกเปลี่ยนไปในช่วงที่อิสลามมา เพื่อทำให้สอดคล้องกับ 7 วันที่อัลลอฮ์ทรงสร้างโลก โดยชื่อวันเป็นไปตามนี้:

หมายเลข ก่อนอิสลาม الأيام الجاهلية อิสลาม الأيام الإسلامية
1 อัลเอาวัล ٱلْأَوَّل อัลอะฮัด ٱلْأَحَد
2 อัลอะฮ์วัน หรือ อัลอะฮุวัน หรือ อัลเอาฮัด ٱلْأَهْوَن / ٱلْأَهُوَن / ٱلْأَوْهَد อัลอิษนัยน์ ٱلْإِثْنَيْن
3 อัจญุบาร ٱلْجُبَار อัษษุลาษาอ์ ٱلثُّلَاثَاء
4 อัซซุบาร หรือ อัดดิบาร ٱلدُّبَار / ٱلدِّبَار อัลอัรบิอาอ์ ٱلْأَرْبِعَاء
5 อัลมุอ์นิส ٱلْمُؤْنِس อัลเคาะมีส ٱلْخَمِيس
6 อัลอะรูบะฮ์ ٱلْعَرُوبَة อัลญุมอะฮ์ ٱلْجُمْعَة
7 อัชชิยาร ٱلشِّيَار อัสซับต์ ٱلسَّبْت

ชื่อเดือนก่อนการมาของอิสลาม[แก้]

หลักฐานเกี่ยวกับชื่อของเดือนก่อนการมาของอิสลามนั้น ได้แก่ อัลมุนตะค็อบ มิน เฆาะรีบ กะลามุลอะร็อบ[6] โดยฮะซันแห่งอบูอัลฮะซัน อะลี อิบน์ อัลฮะซัน อิบน์ อัลฮุซัยน์ อัลฮุนาอี อัดดูซา (เสียชีวิต ฮ.ศ. 309/ค.ศ. 921) ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "กุรออ์ อันนัมล์" และ ลิซาน อัลอะร็อบ[7] ของอิบน์ มันซูร (เสียชีวิต ฮ.ศ. 711/ค.ศ. 1311) อัลบิรูนีกับอัลมัสอูดีแนะนำว่าชาวอาหรับโบราณใช้เดือนเดียวกันกับมุสลิม ถึงแม้ว่าพวกเขาบันทึกชื่อเดือนอื่นที่ใช้โดยชาวอาหรับก่อนการมาของอิสลามก็ตาม[1]

หมายเลข ก่อนอิสลาม الشهور الجاهلية อิสลาม الشهور الإسلامية
1 มุอ์ตะมิร หรือ อัลมุอ์ตะมิร مُؤْتَمِر / ٱلْمُؤْتَمِر อัลมุฮัรรอม ٱلْمُحَرَّم
2 นาญิร نَاجِر เศาะฟัร صَفَر
3 เคาวาน หรือ คุววาน خَوَّان / خُوَّان เราะบีอุลเอาวัล رَبِيع ٱلْأَوَّل
4 วับศอน وَبْصَان เราะบีอุลอาคิร หรือ เราบีอุษษานี رَبِيع ٱلْآخِر / رَبِيع ٱلثَّانِي
5 ฮะนีน حَنِين ญุมาดัลอูลา جُمَادَىٰ ٱلْأُولَىٰ
6 รุบบา رُبَّىٰ ญุมาดัลอาคิเราะฮ์ หรือ ญุมาดัษษานิยะฮ์ جُمَادَىٰ ٱلْآخِرَة / جُمَادَىٰ ٱلثَّانِيَة
7 อัลอะศ็อม หรือ มุนศิลุลอะซินะฮ์ หรือ อัลมุฮัรรอม ٱلْأَصَمّ / مُنْصِل ٱلْأَسِنَّة / ٱلْمُحَرَّم เราะญับ رَجَب
8 อาซิล عَاذِل ชะอ์บาน شَعْبَان
9 นาติก نَاتِق เราะมะฎอน رَمَضَان
10 วะอ์ล หรือ วะอิล وَعْل / وَعِل เชาวาล شَوَّال
11 วัรนะฮ์ وَرْنَة ซุลเกาะอ์ดะฮ์ ذُو ٱلْقَعْدَة
12 บุร็อก หรือ มัยมูน بُرَك / مَيْمُون ซุลฮิจญะฮ์ ذُو ٱلْحِجَّة

สี่เดือนต้องห้าม[แก้]

ในธรรมเนียมอิสลาม มีมติที่เป็นเอกฉันท์ของชาวอาหรับแถวติฮามะฮ์, ฮิญาซ และนัจด์ได้แบ่งเดือนเป็นสองประเภท คือเดือนที่อนุญาต (ฮะลาล) และต้องห้าม (ฮะรอม)[1] โดยเดือนต้องห้ามมี 4 เดือนที่ห้ามก่อสงคราม ได้แก่ เราะญับ และสามเดือนในช่วงแสวงบุญ คือ ซุลกิอ์ดะฮ์, ซุลฮิจญะฮ์ และมุฮัรรอม[1]

นะซีอ์[แก้]

ในอัลกุรอานอิงสี่เดือนต้องห้ามด้วย นะซีอ์' (อาหรับ: ٱلنَّسِيء) ที่แปลตรงตัวคือ "การเลื่อนเวลาออกไป"[1] รายงานจากธรรมเนียมมุสลิม การเลี่อนเวลาถูกบริหารโดยเผ่ากินานะฮ์[3] โดยชายที่มีชื่อว่า อัลเกาะลัมมัส แห่งกินานะฮ์และลูกหลานของเขา[8]

มีการเสนอความแตกต่างของ นะซีอ์[9] นักวิชาการบางท่าน ทั้งมุสลิม[10][11] และตะวันตก[1][3] ยืนยันว่าปฏิทินก่อนศาสนาอิสลามที่ใช้ในอาระเบียตอนกลางเป็นปฏิทินจันทรคติบริสุทธิ์ ซึ่งคล้ายกับปฏิทินอิสลามสมัยใหม่ รายงานจากมุมมองนี้ นะซีอ์’ คือสิ่งที่ชาวมักกะฮ์ทำก่อนการมาของอิสลาม โดยการเปลี่ยนเดือนต้องห้ามในปีหนึ่งโดยไม่ได้มีการชักจูงใด ๆ นักประวัติศาสตร์และนักพจนานุกรมชาวอาหรับ เช่น อิบน์ ฮิชาม, อิบน์ มันซูร และคลังของตัฟซีร สนับสนุนทฤษฎีนี้[12]

ในขณะที่บางส่วนเชื่อว่ามันเคยเป็นปฏิทินจันทรคติมาก่อน แต่ในช่วงประมาณ 200 ปีก่อนฮิจเราะห์ มันถูกเปลี่ยนเป็นปฏิทินสุริยจันทรคติ โดยมีการทดเดือนเพิ่มในบางช่วง เพื่อให้พิธีแสวงบุญตรงต่อช่วงฤดูกาล การอธิบายนี้ถูกเสนอโดยอะบู มะอ์ชัร นักโหราจารย์และนักดาราศาสตร์มุสลิมยุคกลาง และภายหลังโดยอะบู เรฮัน อัลบิรูนี,[8][13] อัลมัสอูดี และนักวิชาการตะวันตกบางท่าน[14] ในมุมมองนี้ถือว่า นะซีอ์ เป็นคำพ้องความหมายของคำว่า "การทดปฏิทิน" ตามรายงานที่มีคำอธิบายของอบูมะอ์ชัรว่า เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้มาจากการทดปฏิทินของชาวยิว[3][8][13] การ นะซีอ์ ของชาวยิวจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่าเมื่อใดที่ควรทดเดือนในปฏิทินยิว[15] บางรายงานกล่าวว่าชาวอาหรับนำวิธีของชาวยิวมาใช้และทดไปอีก 7 เดือน ทุก ๆ 19 ปี หรือเพิ่มอีก 9 เดือน ทุก ๆ 24 ปี แต่นักวิชาการไม่มีมติเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับทฤษฎีนี้[16] เผ่ากินานะฮ์ในสมัยของมุฮัมมัด เคนทำหน้าที่ทดปฏิทิน ซึ่งเผ่ากินานะฮ์สืบทอดหน้าที่นี้จากเผ่ากินดะฮ์ ซึ่งเป็นเผ่าที่ถูกแปลงเป็นชาวยิวกว่าร้อยปี ทำให้เชื่อว่าการทดปฏิทินน่าจะยืมมาจากธรรมเนียมชาวยิว[17]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 F.C. De Blois, "TA’RĪKH": I.1.iv. "Pre-Islamic and agricultural calendars of the Arabian peninsula", The Encyclopaedia of Islam, 2nd edition, X:260.
  2. Mahmud Effendi (1858), as discussed in Sherrard Beaumont Burnaby, Elements of the Jewish and Muhammadan calendars (London: 1901), pp. 460–470.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 A. Moberg, "NASI'", The Encyclopaedia of Islam, 2nd, VII: 977.
  4. Bonner, Michael (2011). "Time has come full circle": Markets, fairs, and the calendar in Arabia before Islam" in Cook, Ahmed, Sadeghi, Behnam, Bonner, et al. The Islamic scholarly tradition : studies in history, law, and thought in honor of Professor Michael Allan Cook. Leiden; Boston: Brill, 2011. ISBN 9789004194359. page 18.
  5. see also Shah, Zulfiqar Ali and Siddiqi, Muzammil (2009). The astronomical calculations and Ramadan: a fiqhi discourse Washington, D.C.:The International Institute of Islamic Thought. ISBN 9781565643345. page 64.
  6. 'Al-muntakhab min gharīb kalām alʿarab Cairo: Dār al-fajr li-n-nashr wa-t-tawzīʿ, 1989.
  7. Lisān al-ʿarab Beirut: Dār Lisān al-ʿarab, 1970.
  8. 8.0 8.1 8.2 Abu Ma'shar al-Balkhi (787–886), Kitab al-Uluf, Journal Asiatique, series 5, xi (1858) 168+. (ในภาษาฝรั่งเศสและอาหรับ)
  9. For an overview of the various theories and a discussion of the problem of "hindsight chronology" in early and pre-Islamic sources, see Maurice A. McPartlan, The Contribution of Qu'rān and Hadīt to Early Islamic Chronology (Durham, 1997).
  10. Mahmud Effendi (1858), as discussed in Sherrard Beaumont Burnaby, Elements of the Jewish and Muhammadan calendars (London: 1901), pp. 460–470.
  11. According to "Tradition", repeatedly cited by F.C. De Blois.
  12. Muḥammad al-Khuḍarī Bayk (1935). Muḥāḍarāt tārīkh al-Umam al-Islāmiyya. Vol. 2 (4th ed.). Al-maktaba al-tijāriyya. pp. 59–60.
  13. 13.0 13.1 al-Biruni, "Intercalation of the Ancient Arabs", The Chronology of Ancient Nations, tr. C. Edward Sachau, (London: William H. Allen, 1000/1879), pp. 13–14, 73–74.
  14. A. Moberg, "NASI'", E.J. Brill's first encyclopaedia of Islam
  15. Bab. Talmud, Sanhedrin, p. 11.
  16. Bonner 2011, page 21
  17. Khanam, R. (editor) (2005). Encyclopaedic ethnography of Middle-East and Central Asia. New Delhi : Global Vision Publishing House. ISBN 8182200628. Page 442.