บอร์นส (ศิลปิน)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บอร์นส
บอร์นสในปี ค.ศ. 2016
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดการ์เร็ตต์ คลาร์ก บอร์นส
เกิด (1992-01-07) 7 มกราคม ค.ศ. 1992 (32 ปี)
ที่เกิดแกรนด์เฮเวน, รัฐมิชิแกน, สหรัฐอเมริกา
แนวเพลง
อาชีพ
  • นักร้อง
  • นักแต่งเพลง
  • นักดนตรี
เครื่องดนตรี
  • เสียงร้อง
  • กีตาร์
  • เปียโน
  • คีย์บอร์ด
  • อูกูเลเล
ช่วงปี
  • 2012–2018
  • 2023–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
เว็บไซต์borns.com

การ์เร็ตต์ คลาร์ก บอร์นส (เกิด 7 มกราคม ค.ศ. 1992) เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อบนเวที บอร์นส (อังกฤษ: BØRNS) เขาเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวอเมริกัน

บอร์นสเกิดและเติบโตใน แกรนด์เฮเวน รัฐมิชิแกน เริ่มร้องเพลงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ในปี 2012 เขาออกอัลบั้มแรกในชื่อ อะดรีมบีทวีน ผ่านทาง REZidual Records และออกอีพีผ่านค่ายเพลงหลักครั้งแรกใน Candy EP (2014) โดย อินเตอร์สโคปเรเคิดส์ อีพีขึ้นสูงสุดที่อันดับสองในชาร์ตบิลบอร์ดฮีตซีกเกอร์ เดอะโดปามีนทัวร์ เป็นทัวร์การแสดงก่อนการปล่อยสตูดิโออัลบั้มเปิดตัวของเขา โดปามีน ในปี 2015 อัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ โดยขึ้นไปสูงสุดอันดับที่ 24 ใน สหรัฐอเมริกา และมีซิงเกิลมากมาย รวมถึงเพลง " อิเล็กทริกเลิฟ " ที่ได้รับการรับรองระดับแพลทินัม หลังจากนั้นบอร์นสก็ออกทัวร์ร่วมกับศิลปินต่างๆทั้ง ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์, บลีชเชอร์ และ ฮาลซีย์ ในฐานะศิลปินสมทบ ในปี 2016 เขาร่วมแสดงใน เทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาแวลลีย์ อัลบั้มที่สองของเขา บลูมาดอนนา วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2018 อัลบั้มนี้มีหลายซิงเกิล เช่น " ก็อดเซฟอาวเวอร์ยังบลัด " ร่วมกับ ลานา เดล เรย์ ซึ่งติด ชาร์ตเพลงร็อกของสหรัฐอเมริกา เขาได้เริ่ม “มันนีแมนทัวร์” (2017–18) เพื่อโปรโมตอัลบั้มนี้ และเป็นศิลปินสบทบใน แอลเอทูเดอะมูนทัวร์ ของเดล เรย์ บอร์นสปล่อยอีพีที่สามของเขาชื่อ ซัดเดนลี ในเดือนกรกฎาคม 2023

ชีวิตในวัยเด็กและการศึกษา[แก้]

บอร์นสเกิดที่ มิชิแกน และเติบโตที่ แกรนด์เฮเวน

เมื่ออายุ 10 ขวบ เขาถูกจ้างให้แสดงเป็นนักมายากลที่รู้จักกันในชื่อ "การ์เร็ตต์มหาราช" ในงานปาร์ตี้ [2] เมื่ออายุ 13 ปี ขณะเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนมัธยมไวท์ไพนส์ เขาได้รับรางวัลโกลด์คีย์ จาก National Scholastic Art Awards พร้อมกับทุนการศึกษาระดับวิทยาลัยมูลค่า 8,000 ดอลลาร์ที่ Kendall College of Art and Design ในเมือง แกรนด์ราปิดส์ สำหรับภาพวาด [3] และงานทัศนศิลป์ของเขา [4] เมื่ออายุ 14 ปีเขาศึกษาในโครงการภาคฤดูร้อนที่ Interlochen Center for the Arts ของรัฐมิชิแกน

บอร์นสยังเกี่ยวข้องกับการสร้างภาพยนตร์ในช่วงที่เป็นวัยรุ่นอีกด้วย เขาเข้าเรียนที่ แกรนด์เฮเวนไฮด์สคูล เข้าเรียนเปียโนคลาสสิกที่ แกรนด์ราปิดส์คอมมิวนิตีคอลเลจ และเรียนดนตรีแจ๊สที่ มัสกีกอนคอมมิวนิตีคอลเลจ [4]

การทำงาน[แก้]

ค.ศ. 2012–2014: อะดรีมบีทวีน และ อีพี แคนดี[แก้]

ในช่วงที่เขาอยู่ในโรงเรียนมัธยม บอร์นสได้แสดงในวงดนตรีคัฟเวอร์ที่รู้จักกันในชื่อ "Brown Chicken Brown Trout" วงนี้ได้แสดงในเทศกาลภาพยนตร์ริมน้ำในปี ค.ศ. 2010 [5]

ในปี 2012 บอร์นสแสดงร่วมกับนักกีตาร์และมือกลองโดยใช้ชื่อว่า The Garrett Borns Trio เขาและเพื่อนสมาชิกในวงร่วมมือกันในช่วงแรกของการสร้างอัลบั้ม อะดรีมบีทวีน , [6] ซึ่งเป็นเพลงในช่วงแรกสุดของบอร์นสหลายเพลง หนึ่งในนั้นคือซิงเกิล "มิทเทิน" อัลบั้มนี้บันทึกในสตูดิโอส่วนตัวของ บิล คริสเลอร์

บอร์นส ซึ่งถูกบริหารโดยผู้สร้างภาพยนตร์ เจฟ โจนิสเซ ได้เซ็นสัญญากับ REZidual Records ภายใต้ชื่อ การ์เร็ตต์ บอร์นส และได้เข้าร่วมในงาน เท็ด โดยแสดงดนตรีหลากหลายแนวด้วยอูคูเลเล่ของเขา และจัดแสดงภาพยนตร์ของเขาจาก ปารีส ในปี 2013 บอร์นส์ลาพักร้อนจาก นิวยอร์กซิตี้ ที่เขาอาศัยอยู่ไปยัง ลอสแอนเจลิส ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากย้ายไป บอร์นส ได้ร่วมเขียนซิงเกิล "10,000 เอเมอรัลด์พูลส์" ร่วมกับโปรดิวเซอร์ แจ็ก เคนเนดี [7]

ค.ศ. 2015–2017: โดปามีน และทัวร์คอนเสิร์ต[แก้]

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2014 บอร์นสได้เปิดตัวซิงเกิลแรกของเขา "10,000 เอเมอรัลด์พูลส์" โดย อินเตอร์สโคปเรเคิดส์ และยังมีอีพีแรกของเขา แคนดี [8] เขาปรากฏตัวทางโทรทัศน์หลายครั้งและแสดง "10,000 เอเมอรัลด์พูลส์" ในรายการทอล์คโชว์หลายรายการ รวมถึง Conan [9] และ Le Before du Grand Journal ในฝรั่งเศส (เทปวันที่ 5 มีนาคม 2015) [10] เขาออกทัวร์เป็นศิลปินสมทบใน "อาวเวอร์โอนเฮาส์ทัวร์" ของ MisterWives [11] เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 และเขาได้แสดงที่คลับ Electrowerkz ใน ลอนดอน [12] ต่อมาในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม บอร์นสร่วมกับ ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ และ บลีชเชอร์ ใน "ชาร์ลีแอนด์แจ็กดูอเมริกาทัวร์" และแสดงที่ Lollapalooza ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 [13] นอกจากนี้เขายังปรากฏตัวในเทศกาล Life Is Beautiful และ เทศกาลดนตรี Austin City Limits ในเดือนตุลาคม [14] [15] ในคอนเสิร์ตหลายครั้งบอร์นสยังแสดงเพลงชื่อ "โบรก" และ "เลตยูดาวน์ [16] ซึ่งไม่เคยอยู่ในอัลบั้มหรือเป็นซิงเกิลของเขามาก่อน [17]

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ช่อง วีโว ของ บอร์นส บน ยูทูบ ได้เปิดตัวมิวสิกวิดีโอที่มาพร้อมกับซิงเกิลใหม่ของเขา " อิเล็กทริกเลิฟ " ซึ่งถือเป็นเพลงของเขาที่มีคนดูมากที่สุดจนถึงปัจจุบันด้วยยอดดูมากกว่า 100 ล้านครั้ง [18] เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2015 สตูดิโออัลบั้มเปิดตัวของบอร์นส โดปามีน ซึ่งประกอบด้วยเพลง "อิเล็กทริกเลิฟ" และภาพหน้าปกของอัลบั้มได้รับการเปิดเผย [19] ในขณะที่วันที่วางจำหน่ายอัลบั้มได้รับการยืนยันว่าเป็นวันที่ 16 ตุลาคม 2015 [20] ในวันที่ 15 กันยายน 2015 บอร์นสขึ้นแสดงที่ไอริเดียมแจ๊สคลับในนิวยอร์กซิตี้ ถ่ายทำโดย พีบีเอส สำหรับซีรีส์คอนเสิร์ต ฟรอนต์แอนด์เซนเตอร์ ที่ออกอากาศทั่วประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 บอร์นสได้แสดงใน เทศกาลดนตรีและศิลปะโคเชลลาแวลลีย์ ในปี 2016 [21] นอกจากนี้เขายังปรากฏตัวเป็นศิลปินร่วมในเพลง "ฟูลส์โกลด์" โดย แดกนีย์ สำหรับอีพี อัลตราไวโอเลต ของเธอ [22]

ค.ศ. 2017–2023: บลูมาดอนนา และการหยุดพัก[แก้]

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 บอร์นสได้เปิดตัวซิงเกิล "เฟดเด็ดฮาร์ต" ผ่านค่ายอินเตอร์สโคป ซึ่งใช้เป็นเพลงประกอบใน FIFA 18 และในภาพยนตร์เรื่อง Flatliners (2017) [23] ต่อมาในวันที่ 29 กันยายน 2017 เขาได้เปิดตัวซิงเกิลถัดไปของเขา "สวีทดรีมส์" พร้อมด้วยวิดีโอโปรโมตสองรายการ "The Search for the Lost Sounds" และ "The Faded Heart Sessions" ผ่านช่องยูทูบของเขาพร้อมกับซิงเกิล [24] หลังจากปล่อยซิงเกิลที่สาม "ไอดอนต์วอนต์ยูแบค" บอร์นสก็ปล่อยวิดีโอโปรโมตอีกเรื่องชื่อ "Money Man Tour" ซิงเกิลที่สี่ซึ่งเป็นซิงเกิลสุดท้ายคือ " ก็อดเซฟอาวเวอร์ยังบลัด " ฟีทเจอริ่ง ลาน่า เดล เรย์ ซึ่งเป็นผู้ให้เสียงร้องประกอบในเพลง "บลูมาดอนนา" ด้วยเช่นกัน และน้องสาวของเธอเป็นผู้ถ่ายภาพปกอัลบั้มนี้

อัลบั้มที่สองของบอร์นส บลูมาดอนนา วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2018 [25]

ภายหลังจากมีข้อกล่าวหาเรื่องการประพฤติผิดทางเพศหลายครั้ง บอร์นสก็หยุดพักอย่างไม่มีกำหนดในเดือนกันยายน 2018; การปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวของเขานับตั้งแต่นั้นมาคือในเดือนกันยายนปี 2020 เมื่อเขาคัฟเวอร์เพลง “Dawn Storm”ของ ที. เร็กซ์ ซึ่งปรากฏในอัลบั้ม AngelHeaded Hipster: The Songs of Marc Bolan และ T.Rex [26] [27] [28]

2023–ปัจจุบัน: อีพี ซัดเดนลี[แก้]

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2023 บอร์นสได้ประกาศอีพีชุดที่สามของเขาในชื่อ ซัดเดนลี ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม

ชีวิตส่วนตัว[แก้]

หลังจากที่บอร์นส สวมเสื้อผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก กุชชี ในรายการทอล์กโชว์ของจิมมี แฟลลอน กุชชีก็สังเกตเห็นนักร้องรายนี้ และทั้งสองก็ได้เป็นหุ้นส่วนกันตั้งแต่นั้นมา [29] บอร์นสเป็นผู้มีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวเรื่อง " ความลื่นไหลทางเพศ " ด้วยการอวดยาทาเล็บและเสื้อครอปบนโซเชียลมีเดียและระหว่างการแสดง เขายังยอมรับว่าเสียงร้องและรูปลักษณ์ภายนอก ของเขาทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้หญิงตั้งแต่แรกฟัง [30]

บอร์นสได้พบกับเพื่อนสนิทของเขา เซลลา เดย์ ในลอสแอนเจลิส [31] และทั้งสองได้ร่วมมือกันในโครงการต่างๆ มากมาย เดย์ปรากฏตัวในวิดีโอบนช่อง วีโว ของ บอร์นส [32] และบอร์นสได้ปรากฏตัวในซีรีส์ DayxDay ของเดย์ โดยทั้งสองเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องมาก่อน

ก่อนที่จะออกอัลบั้มแรก โดปามีน บอร์นสย้ายไปอยู่ ลอสแองเจลิส [33] ซึ่งเขายังคงอาศัยอยู่ที่นั่น (เดือนมกราคม 2018) และเขายังเป็นเป็นมังสวิรัติเหมือนกับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว [34]

ในเดือนกันยายน 2018 บอร์นสถูกหญิงสาวหลายคนกล่าวหาว่าประพฤติผิดทางเพศ ซึ่งนำไปสู่เทศกาลดนตรีในวอชิงตัน ดี.ซี. ชื่อ ออลติงส์โกฟอลคลาสสิก ถอนชื่อเขาออกจากผู้ขึ้นแสดง [35] ข้อกล่าวหาต่อบอร์นสรวมไปถึงการหลอกลวง การล่อลวงเด็ก และการล่วงละเมิดทางเพศแฟนเพลงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยผู้กล่าวหาที่อายุน้อยที่สุดให้รายละเอียดเรื่องราวของเธอเกี่ยวกับการละเมิดซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเธออายุ 16 ปี บอร์นส ออกแถลงการณ์ต่อข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า "น่ากังวลและเป็นเท็จ" พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า "ความสัมพันธ์ทั้งหมดที่ฉันมีนั้นถูกกฎหมายและยินยอม ความสัมพันธ์เหล่านี้จบลงอย่างกะทันหันและนั่นทำให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับทุกคนที่เสนอแนะอะไรที่นอกเหนือไปจากนั้นถือว่าขาดความรับผิดชอบ " [36] หญิงสาวหลายรายใช้ทวิตเตอร์เพื่อเล่าถึงประสบการณ์ที่ถูกเขาหลอก [37]

สตูดิโออัลบั้ม[แก้]

  • โดปามีน (2015)
  • บลูมาดอนนา (2018)

คอนเสิร์ตทัวร์[แก้]

ศิลปินหลัก
  • โดปามีนทัวร์ (2015)
  • ซัมเมอร์ทัวร์ 2016 (2016)
  • ฟอล 2017 ทัวร์ (2017) [38]
  • มันนี่แมนทัวร์ (2017–2018)
  • ฟรุตออฟดรีมส์ทัวร์ (2018–2019)
แสดงเปิด

ผลงานภาพยนตร์[แก้]

ปี ภาพยนตร์ บทบาท หมายเหตุ
2007 What a Relief ปีเตอร์ หนังสั้นตลก [40]
2008 Lake Michigan มาร์คัส เกตส์ หนังสั้นตลก [41]
2011 เท็ดทอล์ก ตัวเอง ตอน: TEDxGrandRapids - Garrett Borns - นักดนตรี [42]
2014 DayxDay ชื่อตอน : หน้าพระจันทร์
2017 เดอะเสิร์ชฟอร์เดอะลอสท์ซาวด์ วิดีโอสั้น
มันนี่แมนทัวร์ วิดีโอสั้น
BØRNS (The Offset Film SeriesFender) วิดีโอโปรโมตสำหรับ เฟนเดอร์
2018 Touch of Lightning : A Shocking Parable of Work & Play วิดีโอสั้น

อ้างอิง[แก้]

  1. ↑ 1.0 1.1 "BØRNS | Biography & History". AllMusic (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-04-24.
  2. ↑ "Borns Hangs Upside Down In Pool for Hours". LA Weekly. 14 January 2015. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  3. ↑ "Borns Hung Upside Down in a Pool for Hours to Shoot His Stunning New Video". LA Weekly. 14 January 2015.
  4. ↑ 4.0 4.1 "Garrett Borns: West Michigan prodigy banking on belief that less is more". Alive.com. 20 January 2012. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "auto" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  5. ↑ "BROWN CHICKEN BROWN TROUT 2010 Waterfront Film Festival". YouTube.com. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  6. ↑ "Garrett Borns: West Michigan prodigy banking on belief that less is more (videos)". mlive (local article). 20 January 2012. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  7. ↑ "Grand Haven native Garrett Borns finds pop inspiration and major label appeal in California". Hollandsentinel.com. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  8. ↑ "BØRNS Candy EP". iTunes (US). 10 November 2014. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  9. ↑ "BØRNS "10,000 Emerald Pools" 01/06/15". Teamcoco.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-13. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  10. ↑ "BĂ˜RNS - Timeline". Facebook. สืบค้นเมื่อ 2016-07-15.
  11. ↑ Patel, Payal (2014-12-14). "MisterWives announce 'Our Own House' tour with BØRNS". AXS. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  12. ↑ "CityPulse". Citypulse.io. June 23, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-23. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
  13. ↑ "BØRNS - So excited to be joining Charli XCX & Bleachers on..." Facebook. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
  14. ↑ "Life is Beautiful Festival 2015 Las Vegas Line-up, Photos & Videos Sep 2015 – Songkick". Songkick.com. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
  15. ↑ "BØRNS | ACL Music Festival". Aclfestival.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2016. สืบค้นเมื่อ October 16, 2015.
  16. ↑ "Let You Down". setlist. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  17. ↑ "Broke (Live) - BØRNS". YouTube.com. สืบค้นเมื่อ October 10, 2017.
  18. ↑ "BØRNS - Electric Love". YouTube. สืบค้นเมื่อ October 5, 2017.
  19. ↑ "#dopamine the LP - COMING SOON". Twitter. สืบค้นเมื่อ August 18, 2015.
  20. ↑ "My debut album #Dopamine is out 10/16". สืบค้นเมื่อ 19 August 2015.
  21. ↑ "Coachella". Coachella. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-20. สืบค้นเมื่อ 2016-07-15.
  22. ↑ "BØRNS discography". Discogs. สืบค้นเมื่อ October 5, 2017.
  23. ↑ "'Sweet Dreams' is Now Out & Featured on "Flatliners"". 7 October 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 March 2018. สืบค้นเมื่อ 8 March 2018.
  24. ↑ ""The Search for the Lost Sounds" and "The Faded Heart Sessions"". YouTube.com. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  25. ↑ "Børns - Blue Madonna Limited LP $25.98". Urban Outfitters. สืบค้นเมื่อ December 6, 2017.
  26. ↑ "BØRNS - Dawn Storm (T.Rex cover)". YouTube.
  27. ↑ "BØRNS - Dawn Storm (Official Audio)". YouTube.
  28. ↑ "BØRNS - Dawn Storm (Official Video)". YouTube.
  29. ↑ "Børns, Lately Minted Gucci Favorite, Talks Style, and Debuts His Dreamy New Video". Vogue. February 2016. สืบค้นเมื่อ 21 January 2018.
  30. ↑ Silverstein, Noah (17 June 2017). "Exclusive! Børns Opens Up About Not Giving a F--k". Glamour. Glamour. สืบค้นเมื่อ 14 February 2017.
  31. ↑ "Best Buds BØRNS and Zella Day Talk Nipple-Bearing Blouses, Thrifting, and Healthy Competition These two ascending stars know each other inside out so we had a little Skype session with the LA-based artists". noisey.vice.com. 3 March 2015. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  32. ↑ "Electric Love (Acoustic)". YouTube.com. สืบค้นเมื่อ October 11, 2017.
  33. ↑ "About A Band: BORNS". Urban Outfitters.
  34. ↑ "Garrett Borns: West Michigan prodigy banking on the belief that less is more (videos)". mlive.com. 20 January 2012.
  35. ↑ "DC Music Festival Cancels Borns Performance". Pitchfork.com. September 28, 2018.
  36. ↑ "Pop Singer Borns Accused of Sexual Misconduct". The Guardian. September 26, 2018.
  37. ↑ "BØRNS Denies Sexual Harassment Allegations Following Flood of Claims on Social Media". Variety. September 25, 2018.
  38. ↑ "BØRNS Fall 2017 Tour". 7 October 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 March 2018. สืบค้นเมื่อ 8 March 2018.
  39. ↑ "Joining Years & Years on Tour!". 9 September 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 March 2018. สืบค้นเมื่อ 10 March 2018.
  40. ↑ "What a Relief". id-vid. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 May 2018. สืบค้นเมื่อ 16 May 2018.
  41. ↑ "Lake Michigan". imdb. สืบค้นเมื่อ October 10, 2017.
  42. ↑ "TEDxGrandRapids - Garrett Borns - Musician". YouTube. สืบค้นเมื่อ October 5, 2017.
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=บอร์นส_(ศิลปิน)&oldid=11248291"