นีแอนเดอร์ทาล
นีแอนเดอร์ทาล ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: กลางยุค–ปลายยุคไพลสโตซีน 0.25–0.040Ma | |
---|---|
กะโหลกนีแอนเดอร์ทาลที่ลาชาแปล-โอ-แซ็ง | |
โครงกระดูกนีแอนเดอร์ทาลที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติวิทยาอเมริกัน | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Mammalia |
อันดับ: | Primates |
อันดับย่อย: | Haplorhini |
วงศ์: | Hominidae |
สกุล: | Homo |
ชื่อทวินาม | |
Homo neanderthalensis King, 1864 | |
แผนที่การกระจายพันธุ์ของ Homo neanderthalensis ทางด้านตะวันออกและด้านเหนืออาจกว้างถึงโอคลัดนีคอฟในเทือกเขาอัลไต และมามอตนายาในเทือกเขายูรัล | |
ชื่อพ้อง[6] | |
Homo
Palaeoanthropus Protanthropus
|
นีแอนเดอร์ทาล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Homo neanderthalensis) คือมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ชนิดหนึ่ง ปัจจุบันนี้ได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว โดยจัดอยู่ในสกุลเดียวกับมนุษย์ยุคปัจจุบัน คือ Homo และมีชีวิตอยู่ในทวีปยูเรเชียจนถึงเมื่อประมาณ 40,000 ปีก่อน
นีแอนเดอร์ทาลถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1856 ที่ถ้ำเฟลด์โฮเฟอร์ในหุบเขาเนอันเดอร์ ใกล้เมืองดึสเซลดอร์ฟ ทางตอนเหนือของเยอรมนี โดยคนงานเหมืองขุดค้นพบกระดูกโบราณซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นหมี และได้ส่งกระดูกนั้นแก่นักธรรมชาติวิทยา โยฮันน์ คาร์ล ฟูลรอทท์ ฟูลรอทท์จึงได้ส่งต่อให้แก่นักกายวิภาควิทยา เมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วจึงพบว่าเป็นมนุษย์ดึกดำบรรพ์ชนิดใหม่ จึงให้ชื่อว่า "นีแอนเดอร์ทาล" เพื่อเป็นเกียรติแก่หุบเขาเนอันเดอร์ สถานที่ที่ค้นพบ
เมื่อเปรียบเทียบทางกายวิภาคกับมนุษย์สมัยใหม่ นีแอนเดอร์ทาลมีรูปร่างที่กำยำล่ำสัน แข็งแรงกว่า มีขาและแขนท่อนล่างที่สั้นกว่า ซึ่งสื่อให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการปรับตัวในสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีกว่ามนุษย์ปัจจุบัน แต่มีระดับสติปัญญาที่ต่ำกว่า ด้วยเหตุนี้เป็นสาเหตุหลักที่เชื่อว่าทำให้สูญพันธุ์ นีแอนเดอร์ทาลเพศชายมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 164 ถึง 168 เซนติเมตร ส่วนเพศหญิงมีความสูงเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 152 ถึง 156 เซนติเมตร ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่านีแอนเดอร์ทาลสามารถสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ระหว่างกันได้ในระดับสูง หรือสามารถใช้ภาษาได้เหมือนอย่างมนุษย์ Homo sapiens
João Zilhão ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยลิสบอนกล่าวว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ทัลมีความสามารถในการใช้สัญลักษณ์และคิดเชิงนามธรรมตามถ้ำในสเปน[7]
ปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนได้ถอดรหัสพันธุกรรมของนีแอนเดอร์ทาลได้เป็นผลสำเร็จเมื่อปี ค.ศ. 2010 พบว่า นีแอนเดอร์ทาลและมนุษย์ปัจจุบันได้พบกันครั้งแรกเมื่อราว 40,000 ปีก่อน ที่ทวีปแอฟริกา และหลังจากได้อพยพออกมาจากแอฟริกา มนุษย์ทั้งสองชนิดนี้ได้ผสมข้ามพันธุ์กัน จึงเกิดเป็นมนุษย์พันธุ์ผสม และจากการศึกษาพบว่าประชากรมนุษย์สมัยใหม่ (modern human) ในปัจจุบันที่อยู่นอกเหนือจากประชากรพื้นเมืองในทวีปแอฟริกา ล้วนมียีน หรือข้อมูลพันธุกรรมของนีแอนเดอร์ทาลผสมอยู่ปะปนกันโดยเฉลี่ยประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ โดยเชื้อชาติที่พบมากที่สุด คือ ชาวอิตาลี มี DNA ของนีแอนเดอร์ทาลผสมอยู่ที่ร้อยละ 4[8]
การวิวัฒนาการ
[แก้]แต่เดิมเชื่อกันว่าทั้งนีแอนเดอร์ทาล และมนุษย์สมัยใหม่ล้วนแต่วิวัฒนาการมาจาก โฮโม อิเร็กตัส เมื่อราว 300,000 ถึง 200,000 ปีที่แล้ว โดย โฮโม อิเร็กตัส ปรากฏตัวขึ้นเมื่อราว 1.8 ล้านปีก่อน และดำรงอยู่สืบเนื่องมาเป็นเวลานานในสายพันธุ์ย่อยต่าง ๆ ทั่วทวีปยูเรเชีย ต่อมาในช่วง 800,000 ถึง 400,000 ปีที่แล้ว มนุษย์นีแอนเดอร์ทาล และมนุษย์ Homo sapiens โบราณก็เริ่มวิวัฒนาการแยกออกจากกัน โดยปัจจุบันเชื่อว่ามนุษย์ โฮโม ไฮเดลเบอร์เจนซิส (Homo heidelbergensis) ซึ่งดำรงอยู่ระหว่าง 6 แสน ถึง 3 แสนปีก่อน เป็นบรรพบุรุษร่วมกันที่ใกล้ที่สุดของนีแอนเดอร์ทาล และมนุษย์สมัยใหม่ แต่หลักฐานทางพันธุกรรมจากฟอสซิล Sima de los Huesos ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2016 ดูจะชี้ว่า H. heidelbergensis ทั้งสายพันธุ์อาจจะถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสายพันธุ์นีแอนเดอร์ทาล, ในฐานะ "นีแอนเดอร์ทาลบุพกาล" หรือ "pre-Neanderthal," ทำให้ช่วงเวลาแตกสายพันธุ์ระหว่างนีแอนเดอร์ทาล และมนุษย์สมัยใหม่อาจจะต้องย้อนกลับไปจนถึงช่วงเวลาที่ H. heidelbergensis ปรากฏตัวขึ้น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อhaeckel
- ↑ Schwalbe, G. (1906). Studien zur Vorgeschichte des Menschen [Studies on the history of man] (ภาษาเยอรมัน). Stuttgart, E. Nägele. doi:10.5962/bhl.title.61918. hdl:2027/uc1.b4298459.
- ↑ Klaatsch, H. (1909). "Preuves que l'Homo Mousteriensis Hauseri appartient au type de Neandertal" [Evidence that Homo Mousteriensis Hauseri belongs to the Neanderthal type]. L'Homme Préhistorique (ภาษาฝรั่งเศส). 7: 10–16.
- ↑ Romeo, Luigi (1979). Ecce Homo!: a lexicon of man. John Benjamins Publishing Company. p. 92. ISBN 978-90-272-2006-6.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 McCown, T.; Keith, A. (1939). The stone age of Mount Carmel. The fossil human remains from the Levalloisso-Mousterian. Vol. 2. Clarenden Press.
- ↑ Szalay, F. S.; Delson, E. (2013). Evolutionary history of the Primates. Academic Press. p. 508. ISBN 978-1-4832-8925-0.
- ↑ Koto, Koray (2022-11-02). "The Origin of Art and the Early Examples of Paleolithic Art" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ หน้า 3 ในประเทศ, 'ถอดรหัสมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล' . "NationTV Unpdate" โดย นันทพร ไวศยะสุวรรณ์. คมชัดลึกปีที่ 15 ฉบับที่ 5444: วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Homo neanderthalensis ที่วิกิสปีชีส์