ทามากาซูระ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ทะมะคะซึระ)

ทามากาซูระ (ญี่ปุ่น: 玉鬘โรมาจิTamakazura; แปล: มาลัยแก้วประดับเกล้า) เป็นบทที่ 22 ของตำนานเก็นจิ ผลงานของ มุระซะกิ ชิคิบุ จากทั้งหมด 54 บท

ที่มาของชื่อบท ทะมะคะซึระ[แก้]

ทามากาซูระ (玉鬘, Tamakazura ) ในภาษาญี่ปุ่น หมายถึง เครื่องประดับศีรษะที่ร้อยขึ้นมาเป็นวงจากลูกปัดหรือลูกแก้ว

ในภาษาร้อยกรอง ทะมะคัตสึระ ยังหมายถึง โชคชะตา หรือ ชะตากรรม」[1]

ทามากาซูระ ในตำนานเก็นจิ เป็นคำเรียกแทนชื่อตัวละครหญิง ซึ่งเป็นบุตรสาวของ ยูงะโอะ คนรักคนหนึ่งของเก็นจิที่เสียชีวิตไปแล้ว คำเรียกแทนชื่อตัวละครหญิงตัวนี้มาจากร้อยกรองแบบวะกะ ของญี่ปุ่นที่เอ่ยถึงในบท ทามากาซูระ

「恋ひわたる身はそれなれど玉かづら   いかなる筋を尋ね来つらむ  あはれ」[2]

"Kohi-wataru mi ha sore nare do tama-kazura  ika naru suji wo tatsune ki tsura mu  Ahare!"[3]


โคฮิวาตารุ มิฮะโซเระนาเระโดะ ทามากาซูระ อิกะนารุซูจิโวะ ทัตสึเนะคิสึระมุ

อาฮาเระ!

อาวรณ์มาแสนนาน ถึงโฉมสคราญผู้ล่วงลา ฤๅมาลัยแก้วศิรา เชื่อมร้อยผูกพันโชคชะตา นำพบพาสุดาแห่งนาง

ตัวละครหลักในบท[แก้]

  • เก็นจิ  : ตำแหน่งไดโจไดจิน อายุ 35
  • อุคน  : นางกำนัลรับใช้มุระซะกิ อดีตเป็นพี่เลี้ยงของยูงะโอะ
  • ทะมะคะซึระ  : ท่านหญิงน้อย บุตรีของยูงะโอะกับโทโนะจูโจ อุคนเรียกนางว่า ฟุจิวะระ รุริงิมิ อายุ 21
  • ดะไซโนะโชนิ  : ผู้ช่วยเจ้าเมืองดะไซ สามีของแม่นมของทะมะคะซึระ
  • ไทฟุโนะเก็น  : ขุนนางหัวเมือง ชายผู้มาขอทะมะคะซึระสมรสด้วย
  • เฮียวโทดะ  : บุตรชายคนโตของดะไซโนะโชนิ
  • อะเตะกิ  : บุตรสาวคนเล็กของแม่นมของทะมะคะซึระ ปัจจุบันได้รับการเรียกขานว่า เฮียวบุ
  • ซันโจ  : นางกำนัลรับใช้ทะมะคะซึระ
  • มุระซะกิ  : ภรรยาสุดรักของเก็นจิ อายุ 27
  • อะคะชิโนะฮิเมะงิมิ  : ท่านหญิงน้อยแห่งอะคะชิ บุตรีของเก็นจิ อายุ 7 ขวบ
  • ฮะนะจิรุซะโตะ  : ท่านหญิงดอกส้ม คนรักคนหนึ่งของเก็นจิ ปัจจุบันพำนักที่เรือนคิมหันต์ในคฤหาสน์โระคุโจ
  • ยูงิริ  : บุตรชายของเก็นจิ ตำแหน่งจูโจ อายุ 14
  • สุเอะสึมุฮะนะ  : คนรักคนหนึ่งของเก็นจิ

เรื่องย่อ[แก้]

เดือนปีผ่านไปไม่ทำให้เก็นจิลืมยูงะโอะ คนรักที่จู่ๆก็เสียชิวิตกระทันหันเนื่องจากวิญญาณคนเป็นของอดีตพระชายาโระคุโจ บุตรสาวของยูงะโอะเองนั้น ไม่ทราบว่ามารดาของตนได้จากไปแล้ว นางถูกพี่เลี้ยงและแม่นมพาตัวไปเลี้ยงดูที่จังหวัดดะไซฟุที่ห่างไกล ในคิวชิว ตั้งแต่อายุได้ 4 ชวบ เพราะไม่มีใครทราบชะตากรรมของยูงะโอะ นายหญิงของตนที่หายตัวไปพร้อมอุคน สามีของแม่นมนั้นได้รับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองดะไซฟุ ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงตามเขาไปที่ดะไซฟุ แม่นมนั้นไม่อยากส่งท่านหญิงน้อยให้โทโนะจูโจผู้เป็นบิดา เพราะเกรงว่ามารดาเลี้ยงจะกลั่นแกล้งท่านหญิงน้อย เช่นเดียวกับข่มขู่ยูงะโอะจนต้องหนีมาแล้ว ขณะที่ทุกคนลงเรือเดินทางไปดะไซฟุ ท่านหญิงน้อยถามแม่นมด้วยความไร้เดียงสาว่า

จะพาเราไปหาท่านแม่ใช่ไหม

พอแม่นมและครอบครัวได้ยิน ก็อดที่จะพากันร้องไห้ไม่ได้ แต่ต้องข่มกลั้นไว้ เพราะหากร้องไห้ขณะโดยสารเรือนั้น ถือเป็นลางร้าย ครอบครัวแม่นมใช้ชีวิตที่ดะไซฟุ เวลาผ่านไป ท่านหญิงน้อยเติบโตเป็นสตรีสาวรูปโฉมงดงามและมีสง่าราศีเหนือมารดา มีขุนนางหัวเมืองพากับมาเกี้ยวพา เสนอจะแต่งงานด้วยมากมาย ทว่า แม่นมและสามีไม่อาจยกสตรีชาติกำเนิดสูงให้สมรสกับขุนนางต่ำชั้นได้ จึงอ้างว่านางนั้นร่างกายไม่ปกติ ไม่เหมาะเป็นภรรยาใคร ตั้งใจจะให้นางบวชชี สามีของแม่นมเองเกิดเสียชิวิตลง โดยทิ้งให้ทั้งครอบครัวขาดที่พึ่ง คำสั่งเสียของเขาคือ ให้นำท่านหญิงสาวเข้าเมืองหลวงให้ได้

ทว่าวันเวลาผ่านไป โดยแม่นมและครอบครัวไม่สามารถพาท่านหญิงน้อยสู่นครหลวงได้ ใช้ชีวิตตั้งรกรากเรื่อยมาในคิวชิว ยังมีขุนนางหัวเมืองคนหนึ่ง คือ ไทฟุโนะเก็น เมโมถือฤกษ์กำหนดการสมรสระหว่างเขากับทะมะคะสีระตามแต่ใจตนฝ่ายเดียวแถมยังเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น บุตรชายคนโตของแม่นม จึงตัดสินใจพาท่านหญิงน้อยหนีไปเกียวโตพร้อมแม่นม อะเตะกิ และนางกำนัลรับใช้ โดยทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง

กระแสลมพัดพาให้เรือของแม่นมและครอบครัว หนีพ้นการติดตามของ ไทฟุโนะเก็นและพรรคพวก เข้าถึงปากน้ำโยะโดะ ด่านหน้าของเกียวโต หลังจากจากนครหลวงไปกว่า 10 ปี บุคคลทั้งหมดใช้ชีวิตอย่างลำบากและไม่คุ้นเคยในเมืองหสวง โดยไร้เบาะแสของยูงะโอะ และไม่ทราบว่าจะติดต่อโทโนะจูโจอย่างไร ดังนั้นทั้งหมดจึงคิดหาที่พึ่งทางใจด้วยการไปแสวงบุญด้วยการเดินเท้าไปสู่วัดฮะเสะเดระ ด้วยความไม่เคยคุ้นกับการเดินเท้าเป็นเวลานาน ท่านหญิงน้อยก็ไม่อาจที่จะเดินได้แบบปกติประกอบกับมืดค่ำแล้ว ขบวนทั้งหมดจึงพักค้างแรมในโรงเตี๊ยมแถบ ซึคุบะอิจิ บังเอิญพวกเขาพบกับขบวนแสวงบุญของอุคน อดีตพี่เลี่ยงของยูงะโอะ ซึ่งมาไหว้พระเพื่อบนบานให้พบกับท่านหญิงน้อยบุตรีของยูงะโอะ ที่นางเรียกว่า ฟุจิวะระ รุริงิมิ ซึ่งเข้าพักในโรงเตี๊ยมเดียวกัน

อุคนนั้น ขณะนี้เก็นจิรับนางไว้ทำงานเป็นนางกำนัลรับใช้ของมุระซะกิ ปกติอุคนจะเดินมาวัดฮะเสะเดระ เพื่อมาบนบานให้พบเจอท่านหญิงน้อย ฟุจิวะระ รุริงิมิ อย่างสม่ำเสมอ หลังจากที่นางพยายามสืบหาเบาะแสของท่านหญิงน้อยทุกวิถีทาง หลังจาก ยูงะโอะ นายหญิงของนางตายจากไป

อุคนจำเสียงของนางกำนัลของทะมะคะซึระได้ ทั้งสองได้พบกันและรู้ตวามจริงทั้งหมดว่าท่านหญิงน้อยได้เติบโตเป็นสตรีสาวผู้งดงามแล้ว ทั้งหมดไหว้พระที่ฮะเซะเดระ และนัดแนะ บอกกล้าวที่อยู่ในเมืองหลวงไว้เพื่อที่จะได้หากันเจออีกครั้ง อุคนเอ่ยเรื่องบุตรีของยูงะโอะให้เก็นจิรับรู้ เกนจิรับปากจะดูแลนางโดยอ้างว่าเป็นบุตรสาวที่เขาเพิ่งพบโดยบังเอิญ เก็นจิเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับยูงะโอะให้มุระซะกิฟังทั้งหมด พร้อมกับฝากฝังให้ ฮะนะจิรุซะโตะ ดูแลบุตรีของยูงะโอะในคฤหาสน์โระคุโจ


ค่ำวันหนึ่ง เก็นจิ เข้าพบบุตรีของยูงะโอะ เขาเลิกม่านขึ้นมอง นางตกใจจึงเบือนหน้าหลบด้วยความอาย เก็นจิพึงใจในความงามของนาง นางมีส่วนคล้ายยูงะโอะ จนทำให้เขาหวนระลึกถึงอดีต ทั้งสองพูดคุยกัน ทะมะคะซึระถึงกับหลั่งน้ำตา เก็นจิจึงเช็ดน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน และบอกนางว่า ไม่เคยมีวันใดเลยที่เขาจะลืมเรื่องของนางและมารดา[4] เขาตั้งใจดูแลนางเหมือนบุตรสาวแท้ๆ และแต่งร้อยกรองถึงนางว่า

โคฮิวาตารุ มิฮะโซเระนาเระโดะ ทามากาซูระ อิกะนารุซูจิโวะ ทัตสึเนะคิสึระมุ

อาฮาเระ!

อาวรณ์มาแสนนาน ถึงโฉมสคราญผู้ล่วงลา ฤๅมาลัยแก้วศิรา เชื่อมร้อยผูกพันโชคชะตา นำพบพาสุดาแห่งนาง

คำว่า ทะมะคะซึระ ในบทร้อยกรองนี้ จึงกลายเป็นคำแทนชื่อของนาง ส่วนยูงิรินั้น หลังจากจบการศึกษาในวิทยาลัย ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็น จูโจ เขาได้รับการบอกเล่าว่า ทะมะคะซึระ นั้นคือ พี่สาวต่างมารดาของเขา[5]

ศึกษาเพิ่มเติม[แก้]

อ้างอิง[แก้]