ข้ามไปเนื้อหา

ฌ็อง-แบร์ทร็อง อาริสตีด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฌ็อง-แบร์ทร็อง อาริสตีด
ฌ็อง-แบร์ทร็อง อาริสตีด ในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ.1994.
ประธานาธิบดีเฮติคนที่ 37 และ 39
ดำรงตำแหน่ง
7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1991 – 29 กันยายน ค.ศ.1991
นายกรัฐมนตรีRené Préval
ก่อนหน้าErtha Pascal-Trouillot
ถัดไปRaoul Cédras
ดำรงตำแหน่ง
15 มิถุนายน ค.ศ.1993 – 12 พฤษภาคม ค.ศ.1994
นายกรัฐมนตรีRobert Malval
ก่อนหน้าMarc Bazin
ถัดไปÉmile Jonassaint
ดำรงตำแหน่ง
12 ตุลาคม ค.ศ.1994 – 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1996
นายกรัฐมนตรีSmarck Michel
Claudette Werleigh
ก่อนหน้าÉmile Jonassaint
ถัดไปRené Préval
ดำรงตำแหน่ง
4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2001 – 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2004
นายกรัฐมนตรีJean Marie Chérestal
Yvon Neptune
ก่อนหน้าRené Préval
ถัดไปBoniface Alexandre
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด (1953-07-15) 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 (71 ปี)
Port-Salut, Sud, เฮติ
พรรคการเมืองLavalas Political Organization
(ค.ศ.1991-96)
Fanmi Lavalas
(ค.ศ.1996-ปัจจุบัน)
คู่สมรสMildred Trouillot (สมรส 1996)
บุตรลูกสาว 2 คน
ศิษย์เก่าCollège Notre-Dame
State University of Haiti
University of South Africa
อาชีพนักบวช
แม่แบบ:Infobox clergy

ฌ็อง-แบร์ทร็อง อาริสตีด (ฝรั่งเศส: Jean-Bertrand Aristide) เกิดวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 อดีตประธานาธิบดีแห่งประเทศเฮติ เป็นผู้นำของเฮติคนแรกที่มาจากการเลือกตั้ง[1][2] โดยดำรงตำแหน่งครั้งแรกเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ในปี ค.ศ. 1991 ก่อนจะถูกรัฐประหาร และกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งระหว่างปี ค.ศ. 1994 ถึง 1996 และ ค.ศ. 2001 ถึง 2004 ก่อนจะถูกขับออกจากตำแหน่งจากการรัฐประหาร และได้ลี้ภัยไปอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ อาริสตีดได้กล่าวหาว่าสหรัฐอเมริกาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหารครั้งหลังนี้[3]

อาริสตีดจบการศึกษาด้านปรัชญา และเคยเป็นนักบวชโรมันคาทอลิกก่อนจะมาเป็นนักการเมือง ในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาถูกกล่าวหาว่าได้ออกคำสั่งกวาดล้างนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ค้ายาเสพติด ฟอกเงิน และคอร์รัปชัน

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Military ousts Haiti's leader, claims power President Aristide en route to France; fighting kills 26". The Boston Globe. October 1, 1991.
  2. "Haiti: The impact of the 1991 coup". International Journal of Refugee Law. June 1992.
  3. "Aristide says U.S. deposed him in 'coup d'état'". CNN. March 2, 2004.