ซัมซุง กาแลคซี่ โน้ต (ชุด)
ผู้ผลิต | ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ |
---|---|
ชนิด | แฟบเล็ต สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต |
วางจำหน่าย | 29 ตุลาคม 2011 |
ยกเลิก | 31 ธันวาคม ค.ศ. 2021 |
ระบบปฏิบัติการ | แอนดรอยด์ |
การรับเข้า | หน้าจอสัมผัส, สไตลัส |
รุ่นต่อไป | ซัมซุง กาแลคซีเอส (อัลตรา) ซัมซุง กาแลคซีซี (โฟล์ด) |
บทความที่เกี่ยวข้อง | ซัมซุง กาแลคซี |
ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต (อังกฤษ: Samsung Galaxy Note) เป็นชุดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระดับสูงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ซึ่งมือถือรุ่นนี้มีจุดประสงค์ที่มุ่งหลักไปทางปากกาคอมพิวเตอร์ โดยซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตทุกเครื่องประกอบด้วยปากกาสไตลัส และสามารถรองรับแรงกดปากกาได้ด้วย ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตทุกเครื่องยังมีซอฟต์แวร์ที่มีคุณสมบัติรองรับปากกาสไตลัสได้ เช่น note-taking และ digital scrapbooking และมีมัลติสกรีนด้วย
ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต เป็นตัวอย่างสมาร์ทโฟนที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นแฟบเล็ต (เป็นระดับของสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีคุณสมบัติแบบแท็บเล็ตในรูปแบบของมือถือ) ที่ประสบผลสำเร็จทางด้านการตลาด เพราะซัมซุงได้จำหน่ายซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ตในระว่างเดือนกันยายน พ.ศ. 2554–เดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 ได้มากกว่า 50 ล้านเครื่อง โดยซัมซุง กาแลคซี โน้ต 3 ได้จำหน่ายไป 10 ล้านเครื่องหลังการเปิดตัวสองเดือน, ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 ขายไปแล้วมากกว่า 30 ล้านเครื่อง และซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต รุ่นแรกได้จำหน่ายไปแล้วกว่า 10 ล้านเครื่องทั่วโลก
อย่างไรก็ตามแต่ ด้วยสถานการณ์การระบาดทั่วของโควิด-19 ทำให้ตลาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เกิดภาวะวงจรรวมขาดตลาด ส่งผลต่อสายการผลิตสินค้าทุกชนิด ทำให้ในปี พ.ศ. 2564 ซัมซุงตัดสินใจยกเลิกการเปิดตัว กาแล็คซี่ โน้ต รุ่นใหม่ (กาแล็คซี่ โน้ต 21) ลงด้วยปัญหาดังกล่าว โดยผลสำเร็จได้ถูกนำมาต่อยอดเป็น ซัมซุง กาแล็คซี่เอส 22 อัลตรา แทนในปี พ.ศ. 2565 และในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ซัมซุงได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าบริษัทได้ยกเลิก กาแล็คซี่ โน้ต อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยเหตุผลคือต้องการหลีกทางให้กับ ซัมซุง กาแลคซี่ซี ที่เปิดตัวช่วงปลายปี ทั้งนี้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ กาแล็คซี่ โน้ต จะถูกบรรจุรวมในกาแล็คซี่เอส อัลตรา และกาแล็คซี่ซี โฟล์ด แทน
สมาร์ทโฟน
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต
[แก้]ที่งาน IFA ในเบอร์ลิน เมื่อ พ.ศ. 2554 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต รุ่นแรก ในขณะที่สื่อบางสำนักได้สอบถามถึงความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์นี้ต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากมีขนาด 5.3 นิ้ว (ในขณะนั้น หน้าจอขนาดนี้ใหม่มากเกินไปสำหรับโทรศัพท์) และต่อมากาแล็คซี่ โน้ตรุ่นแรกก็ได้การยอมรับในแง่บวกเนื่องจากมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพของปากกาสไตลัส หน่วยประมวลผล 2 หัวที่มีความเร็ว 1.4 จิกะเฮิร์ซ และความได้เปรียบของการที่มีหน้าจอใหญ่[1][2] กาแล็คซี่ โน้ตนั้นมีความสำเร็จในด้านการตลาด โดยเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายปี พ.ศ. 2554 และหลังจากนั้นต่อมา 2 เดือนก็ได้ขายไปแล้ว 1 ล้านเครื่อง ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ซัมซุงก็ได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต เวอร์ชันรองรับ LTE ถัดมาในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันก็ขายได้ 10 ล้านเครื่องทั่วโลก[3][4]
กาแล็คซี่ โน้ต 2
[แก้]ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ที่งาน IFA เบอร์ลิน ซัมซุงได้เปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 2 รุ่นใหม่ ซึ่งมีการพัฒนาฮาร์ดแวร์จากรุ่นที่แล้ว (หน่วยประมวลผล 4 หัว และจอแสดงผล 5.5 นิ้ว ปากกาได้อัปเกรดขึ้นรองรับแรงกด 1,024 ระดับ เพื่อการป้อนข้อมูลที่แม่นยำขึ้นด้วยปากกา ออกแบบฮาร์ดแวร์ใหม่ซึ่งมาพื้นฐานมาจากซัมซุง กาแลคซีเอส 3) ตลอดจนมาคุณสมบัติใหม่ เช่น สั่งด้วยแสดงท่าทางของปากกา จอแสดงภาพซ้อน แอร์วิว (สามารถแสดงข้อมูลข้างในโดยการนำปากกาไปชี้) และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่อยู่ในกาแล็คซี่ เอส 3[5]
กาแล็คซี่ โน้ต 3
[แก้]ในวันที่ 4 กันยายน 2556 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 โดยแนะนำว่ามีการออกแบบที่ "พรีเมี่ยม" มากขึ้น โดยหลังตัวเครื่องนั้นเป็นหนังเทียมพลาสติก มีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1080p ถ่ายวีดีโอ 4K ได้มากถึง 5 นาที พอร์ทการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB 3.0 และเพิ่มความสามารถของปากกาสไตลัส[6][7]
กาแล็คซี่ โน้ต 3 นีโอ
[แก้]เดือนมกราคม 2557 ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 นีโอ ซึ่งเป็นรุ่นดาวน์เกรดหรือรุ่นล่างของกาแล็คซี่ โน้ต 3 แต่รุ่นนี้ก็ยังมีปากกาสไตลัสเหมือนเดิม กล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดขนาด 720p หน่วยความจำภายในขนาด 16 จิกะไบต์ หน่วยความจำชั่วคราวขนาด 2 จิกะไบต์ แต่แรมนั้นก็ยังทำงานได้ดีในซอฟต์แวร์จากตัวกาแล็คซี่ โน้ต 3 และมาพร้อมซัมซุง เอ็กซีนอส เฮกซะ 5260 (หน่วยประมวลผล 6 หัว)
กาแล็คซี่ โน้ต 4
[แก้]วันที่ 3 กันยายน 2557 ที่งาน IFA เบอร์ลิน ซัมซุงได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต 4 มีการออกแบบใหม่โดยใช้ขอบข้างเป็นโลหะแต่ข้างหลังยังเป็นหนังเทียมพลาสติกอยู่ มีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียดขนาด QHD กล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและพร้อมกับระบบกันสั่น OIS ปรับปรุงปากกาสไตลัส และอัปเกรดความไวต่อแรงกดเพิ่มเป็น 2,048 ระดับ มีระบบแสกนลายนิ้วมือและอื่น ๆ ที่มาจากกาแล็คซี่ เอส 5
กาแล็คซี่ โน้ต เอดจ์
[แก้]นอกจากเปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 4 แล้ว ซัมซุงยังได้เปิดตัวกาแล็คซี่ โน้ต เอดจ์ด้วย รุ่นนี้มีความพิเศษคือ จอแสดงผลนั้นมีส่วนโค้งไปถึงขอบขวาของอุปกรณ์ พื้นที่โค้งนี้สามารถใช้เป็นแถบด้านข้างเพื่อแสดงข้อมูลข่าวสารข้อมูลทางลัดแอปพลิเคชันและเครื่องมืออื่น ๆ ได้ เช่น ไม้บรรทัด[8][9]
กาแล็คซี่ โน้ต 5
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต 5 ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558 โดยมีพื้นฐานการออกแบบฮาร์ดแวร์ของกาแล็คซี่ เอส 6 ซึ่งรวมถึงเฟรมโลหะและกระจกหน้าจอด้วย หน้าจอแสดงผลมีขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440p ใช้หน่วยประมวลผลเอ็กซีนอส 7 ออกตะ 7420 และใส่สปริงในช่องปากกาสไตลัสใหม่ ในรุ่นนี้ ไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้แบบกาแล็คซี่ โน้ต รุ่นก่อนอีกแล้ว เช่นเดียวกับเอส 6[10][11][12][13] รุ่นนี้มาพร้อมกับคุณลักษณะใหม่คือ "Screen off memo" ที่ช่วยให้โทรศัพท์สามารถถูกปลุกได้โดยตรงและไปยังหน้าจอบันทึกความจำเมื่อปากกาสไตลัสถูกนำออก[10] และแอปกล้องสามารถถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ได้โดยตรง[10]
กาแล็คซี่ โน้ต 7
[แก้]ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต 7 ได้ถูกเปิดตัวในงานอีเวนท์ที่ซัมซุงได้จัดทำขึ้นที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2559[14] รุ่นนี้ได้ใช้ฮาร์ดแวร์ร่วมกับกาแล็คซี่ เอส 7 เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้หน่วยประมวลผล กล้อง การกันน้ำตามมาตรฐาน IP68 และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้เหมือนกัน และเป็นมือถือซัมซุงรุ่นแรกที่ใช้พอร์ทการเชื่อมต่อ USB type-C ด้วย หน้าจอของกาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นเป็นขอบโค้งที่พาดไปถึงขอบทั้งสองข้างของเครื่อง และปากกาสไตลัสมีความไวต่อแรงกดและมีความแม่นยำที่ละเอียดกว่ารุ่นก่อน[15][16] ซัมซุงได้ข้ามการใช้ชื่อกาแล็คซี่ โน้ต 6 ไปใช้ชื่อโน้ต 7 แทนเนื่องจากต้องการให้มีชื่อสอดคล้องกับมือถือเรือธง ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส 7 ของตัวเอง[17]
กาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นได้มีปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับแบตเตอรี่และเนื่องจากมีปัญหาการผลิต ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างเครื่องร้อนเกินไปและระเบิดเกิดขึ้น จึงเกิดการเรียกคืนตัวเครื่องเป็นจำนวนมากเพื่อไปตรวจสอบใหม่[18][19] หลังจากการเปลี่ยนปรับปรุงตัวเครื่องก็เกิดเหตุการณ์เช่นเดิมอีก ทำให้กาแล็คซี่ โน้ต 7 นั้นได้ยกเลิกการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นได้ถูกเรียกคืนทั่วโลก[20][21]
กาแลคซี โน้ต เอฟอี
[แก้]หลังจากที่มีการเรียกคืนของซังซุง กาแลคซี โน้ต 7 แล้ว ซัมซุงก็ได้ตัดสินใจจำหน่ายโน้ต เอฟอี เป็นรุ่นใหม่ของโน้ต 7 โดยจำหน่ายในเฉพาะบางประเทศเท่านั้น ในวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 และได้มีการลดขนาดแบตเตอรี่ลงเมื่อเทียบกับโน้ต 7 เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย[22]
กาแลคซี โน้ต 8
[แก้]ซัมซุง กาแลคซี โน้ต 8 ได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ที่งาน ซัมซุง อันแพ็กต์ มาพร้อมกับ หน้าจออินฟินิตี้ 1440p Super AMOLED Infinity Display 6.3 นิ้ว หน่วยประมวลผลควอลคอมม์ สแนปดรากอน 835/ซัมซุง เอ็กซีนอส 8895 (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) สแกนม่านตา มาตรฐานป้องกันย้ำและฝุ่น IP68 กล้องเลนส์คู่กับเลนส์เทเลโฟโต้ และรองรับซัมซุง เด็กซ์
กาแลคซี โน้ต 9
[แก้]ซัมซุง กาแลคซี โน้ต 9 เปิดตัวเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ที่งานซัมซุงอันแพ็กต์ในบรุกลิน นครนิวยอร์ก[23] ปากกาของโน้ตรุ่นนี้ติดตั้งบลูทูธ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น กล้องหลังคู่สามารถปรับรูรับแสงได้[24]
กาแลคซี โน้ต 10
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
Samsung Galaxy Note 10 เปิดตัว! – เมื่อวันที่ 8 ส.ค. แวดวงไอทีรายงานการเปิดตัวอย่างเกรียวกราวของแฟ็บเล็ตเรือธง กาแล็กซี เอส 10 ซีรีส์ จากค่ายซัมซุง ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อก้องโลกจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ศูนย์ประชุมบาร์คเลย์ ย่านบรู๊กลิน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
กาแลคซี โน้ต 20
[แก้]ซัมซุง (Samsung) ออกมาย้ำภาพของการเป็นผู้นำสมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่มาพร้อมกับปากกาได้อย่างน่าสนใจ กับการเปิดตัว Samsung Galxaxy Note20 ซีรีส์ ที่พัฒนาการใช้งาน S-Pen มีสมบูรณ์แบบมากขึ้น และถือเป็นรุ่นที่ฉลองครบรอบ 10 ปี ของ Galaxy Note ซีรีส์ด้วย Samsung เพิ่งเปิดตัว Galaxy Note20 และ Note20 Ultra ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา และเริ่มเปิดให้สั่งจองกันในช่วงเวลา 10.00 น. ผ่านหน้าเว็บไซต์ของ Samsung และบรรดาโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย
โดยราคาจำหน่ายของ Samsung Galaxy Note20 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท ส่วน Note20 Ultra เริ่มต้นที่ 38,900 บาท ในช่วงที่เปิดให้สั่งจองลูกสามารถเลือกรับสิทธิอัปเกรดผลิตภัณฑ์ขึ้นไป 1 ขั้นฟรี เช่น ซื้อเครื่อง Note20 5G ในราคาเครื่อง 4G หรือ Note20 Ultra 5G 256 GB ได้อัปเกรดเป็น 512 GB
ทั้งนี้ ราคาของแต่ละรุ่นประกอบด้วย
- Samsung Galaxy Note20 8/256 GB - 29,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 5G 8/256 GB - 33,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 Ultra 8/256 GB - 38,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 Ultra 8/512 GB - 42,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 5G Ultra 12/256 GB - 42,900 บาท
- Samsung Galaxy Note20 5G Ultra 12/512 GB - 46,900 บาท
แท็บเล็ต
[แก้]ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต 8.0
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต 10.1
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต 10.1 2014 เอ็ดดิชั่น
[แก้]ซัมซุง กาแล็คซี่ โน้ต โปร
[แก้]กาแล็คซี่ โน้ต โปร 12.2
[แก้]ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Samsung Galaxy Note Android phone". PC World Australia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-04. สืบค้นเมื่อ December 4, 2011.
- ↑ Grabham, Dan (2011-09-01). "Hands on: Samsung Galaxy Note review". TechRadar. สืบค้นเมื่อ 2011-09-27.
- ↑ "Samsung: 10M Galaxy Notes sold in nine months". CNET. สืบค้นเมื่อ 18 January 2013.
- ↑ Mat Smith (December 29, 2011). "1 million Galaxy Notes shipped worldwide, US fans throw money at their screens". Engadget.
- ↑ "Samsung Galaxy Note II review". Engadget. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
- ↑ "Samsung Galaxy Note 3 Review: Powerful new Note wields mightier pen skills". CNET. สืบค้นเมื่อ 1 February 2014.
- ↑ "For the new Galaxy Note, USB 3 is the magic number". The Verge. สืบค้นเมื่อ 5 September 2013.
- ↑ "With Galaxy Note Edge, Samsung returns to comfort zone: hardware". CNET. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
- ↑ "Samsung Galaxy Note Edge review: The other side". GSM Arena. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
- ↑ 10.0 10.1 10.2 "Samsung Galaxy Note 5 review". Techradar. Future. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-30. สืบค้นเมื่อ 27 February 2016.
- ↑ "Samsung fixes the Galaxy Note 5's backwards pen problem". Engadget. สืบค้นเมื่อ 27 February 2016.
- ↑ "Inserting your S Pen backwards could damage your phone". Phonearena. 24 August 2015. สืบค้นเมื่อ 26 August 2015.
- ↑ "Samsung on Galaxy Note 5 broken stylus slot: Read the manual". The Verge. 25 August 2015. สืบค้นเมื่อ 26 August 2015.
- ↑ "Samsung Galaxy Note7 with 5.7 inch Quad HD display, S Pen stylus and iris scanner announced". MobiGyaan.com. 2016-08-02. สืบค้นเมื่อ 2016-08-02.
- ↑ "Samsung Galaxy Note 7 arrives August 19th with curved display, iris scanner". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 1 September 2016.
- ↑ "Galaxy Note 7 hands-on: Samsung goes full sci-fi with an iris scanner". Ars Technica. สืบค้นเมื่อ 1 September 2016.
- ↑ "Samsung will announce the Galaxy Note 7 on August 2nd". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 28 July 2016.
- ↑ "Samsung says bad batteries and rushed manufacturing doomed the Galaxy Note 7". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 23 January 2017.
- ↑ "Samsung says two separate battery issues were to blame for all of its Galaxy Note 7 problems". Recode. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 23 January 2017.
- ↑ "The Galaxy Note 7 is dead". The Verge. Vox Media. สืบค้นเมื่อ 11 October 2016.
- ↑ "Samsung permanently stops Galaxy Note 7 production". BBC News. 11 October 2016.
- ↑ "The Note FE is a Captivating Re-Do That's Still Worth Considering, Even in 2017". xda-developers (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2017-07-14. สืบค้นเมื่อ 2017-07-17.
- ↑ "The 4 biggest announcements from the Samsung Galaxy Note 9 event". The Verge. August 9, 2018. สืบค้นเมื่อ August 29, 2018.
- ↑ "Samsung Galaxy Note 9 vs Galaxy Note 8: What's the difference?". Pocket-lint. August 9, 2018. สืบค้นเมื่อ August 29, 2018.