ฉบับร่าง:เหตุการณ์ดินโคลนถล่มในอำเภอพิปูน พ.ศ. 2531
- ความคิดเห็น: เขียนไม่เป็นสารานุกรม เหมือนรายงานข่าว อ้างอิงบางอ้างอิงใช้วิกิพีเดียอ้าง บางอ้างอิงเข้าถึงไม่ได้ Sry85 (คุย) 20:45, 25 กรกฎาคม 2566 (+07)
เหตุการณ์ดินโคลนถล่มในอำเภอพิปูน พ.ศ. 2531 หรือ เหตุการณ์ดินโคลนถล่มกะทูน เป็นเหตุการณ์ดินโคลนถล่มที่ใหญ่และสร้างความเสียหายมากที่สุดในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2531 ที่ ต.กะทูน และ ต.เขาพระ ในอำเภอพิปูน และหมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่ | 22 พฤศจิกายน 2531 |
---|---|
ที่ตั้ง | อำเภอพิปูน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอบ้านนาสาร และ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี |
เสียชีวิต | 700 |
ทรัพย์สินเสียหาย | 1,000 ล้านบาท |
เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤศจิกายน 2531 ผู้รอดชีวิตกล่าวว่าได้ยินเสียงดังมาจากภูเขาด้านหลัง ก่อนที่จะมีมวลน้ำมหาศาลพร้อมโคลน ก้อนหิน และท่อนซุง ไหลมาพร้อมน้ำป่าที่ไหลอย่างเชี่ยวกราด จากน้ำตกหนานน้ำฟุ้ง ก่อนที่จะมารวมกับคลองกะทูน และ คลองดินแดง ไหลบ่าเข้ามาในตัวเมืองกะทูน (สมัยนั้นกะทูนเป็นตำบลที่เจริญมากๆ คนท้องถิ่นมีการคาดการว่าหากตำบลกะทูนไม่เจอเหตุการณ์นี้อาจจะมีความเจริญกว่า อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อยู่ใกล้กันเสียอีก) พาดผ่านบ้านเรือนของประชาชนที่บ้างคนกำลังหลับอยู่ พืชสวนนาไร่สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านที่รอดชีวิตกล่าวว่าเขาเห็นคนลอยไปกับน้ำหรือจมน้ำหายสาบสูญต่อหน้าก็มี เมื่อเวลาผ่านไปได้ 4-6 วัน น้ำค่อยๆลดลง จนเห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่หมู่บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา มีรายงานว่าน้ำมหาศาลได้ไหลเข้ามาในหมู่บ้านหมู่บ้านคีรีวง[1]จากคลองท่าดี น้ำตกวังไม้ปัก และ น้ำตกกินรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นกัน ที่อำเภอบ้านนาสาร และ อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีน้ำป่าไหลบ่าลงมาเช่นกันแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนอง พายุดีเพรสชั่น ในภาคใต้ที่ทำให้เกิดฝนตกในบริเวณเทือกเขานครศรีธรรมราช และภาคใต้เป็นระยะเวลา 6-7 วันทำให้เกิดมวลน้ำที่สะสมบนเทือกเขานครศรีธรรมราชและเกิดดินโคลนถล่มขี้น[2] [3]พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นกล่าวรายงานว่า "พังพินาศหมดเลยครับ เหลืออยู่อย่างเดียวคือเมรุเผาศพ"[4] แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับท่อนซุง เพราะว่าท่อนซุงที่ไหลมากับน้ำนั้นมีรอยเลื่อยและหมายเลขหมายอยู่บนท่อนซุง เมือตรวจสอบก็พบว่ามีสัมปทานป่าไม้บนเทือกเขานครศรีธรรมราช จึงมีการเรียกร้องและในที่สุดคระรัฐมนตรีในสมัยนั้นมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกสัมปทานป่าไม้ของไทย ยกเว้ยแต่สัมปทานทำไม้ป่าชายเลน ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 โดยให้ทุกสัมปทานสิ้นสุดลงทั้งแปลง จนทำให้การทำไม้สัมปทาน 276 ป่า เนื้อที่ 96,728,981 ไร่ยุติลงโดยสิ้นเชิง และทำให้ต้นไม้ในป่าสัมปทานไม่ถูกตัดฟัน สามารถอนุรักษ์ป่าไม้สำหรับใช้สอยในอนาคตได้เพิ่มขึ้น[5]
แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นใน ต.กะทูน และ ต.เขาพระ เกินเยียวยาที่จะแก้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน ในการประสบเหตุการณ์สูญเสียครั้งนี้ เลยมีพระราชดำริให้กรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำนี้ขึ้น 2 แห่งคือ อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน และ อ่างเก้บน้ำคลองดินแดง โดยสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2540 ครอบคลุมพื้นที่ต.กะทูน และ ต.เขาพระ ในอำเภอพิปูน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำคลองกะทูน ได้รับการขนานนามว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้ อีกทั้งใต้อ่างเก็บน้ำนี้ ในอดีตก็เคยเป็นบริเวณของตำบลกะทูนและบ้านเขาพระมาก่อนด้วยมาก่อนด้วย
อ้างอิง[แก้]
- ↑ หมู่บ้านโคลนถล่ม : ความจริงไม่ตาย (21 พ.ย. 61), สืบค้นเมื่อ 2023-07-24
- ↑ เพชรคงทอง, นันท์นภัส (2017-12-30). "แนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการใช้จักรยานภายในมหาวิทยาลัยสีเขียว:มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช". Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS). 14 (2): 89–104. doi:10.56261/jars.v14i2.116254. ISSN 2773-8868.
- ↑ "โคลนถล่ม", วิกิพีเดีย, 2022-02-08, สืบค้นเมื่อ 2023-07-24
- ↑ ข่าวดังข้ามเวลา พิปูนมหันตภัยโคลนถล่ม คลิปเต็มรายการ, สืบค้นเมื่อ 2023-07-24
- ↑ "E0 (Bluetooth)", SpringerReference, Springer-Verlag, สืบค้นเมื่อ 2023-07-24