จิตร ภูมิศักดิ์
จิตร ภูมิศักดิ์ | |
---|---|
![]() | |
เกิด | สมจิตร ภูมิศักดิ์ 25 กันยายน พ.ศ. 2473 จังหวัดปราจีนบุรี ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 (35 ปี) จังหวัดสกลนคร ประเทศไทย |
สาเหตุเสียชีวิต | ถูกล้อมยิง |
ชื่ออื่น | เช เกบารา เมืองไทย[1] |
ศิษย์เก่า | คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
อาชีพ | นักเขียน, นักประวัติศาสตร์, นักภาษาศาสตร์, นักกิจกรรม |
ผลงานเด่น | |
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย |
บิดามารดา | ศิริ ภูมิศักดิ์ แสงเงิน ฉายาวงศ์ |
ลายมือชื่อ | |
![]() |
จิตร ภูมิศักดิ์ (25 กันยายน พ.ศ. 2473 – 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509) เป็นนักประวัติศาสตร์ นักกิจกรรม[2] นักคิดด้านการเมือง นักภาษาศาสตร์ นับเป็นนักปราชญ์ นักปฏิวัติทางความคิด และนักวิชาการคนสำคัญของประเทศไทย จิตรเป็นนักวิชาการคนแรก ๆ ที่กล้าถกเถียงคัดค้านปราชญ์คนสำคัญ ด้วยวิธีคิดที่มีเหตุผลลุ่มลึก มีความโดดเด่นจากผลงานการค้นคว้าทางวิชาการที่แปลกใหม่และลึกซึ้ง ขณะเดียวกันจิตรยังมีความคิดต่อต้านระบบเผด็จการและการใช้อำนาจกดขี่ของชนชั้นสูงมาโดยตลอด[3] ผลงาน 3 รายการของเขาได้รับยกย่องเป็นหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันกับ นายครอง จันดาวงศ์, นายผี อัศนี พลจันทร และนายกุหลาบ สายประดิษฐ์
จิตรเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2509 หลังเข้าร่วมต่อต้านการปกครองของเผด็จการทหาร โดยถูกตัวแทนเผด็จการคือ"กำนันแหลม"และพวกอาสาสมัครฝั่งตรงข้ามและนำเหล่าทหารกับตำรวจล้อมยิง นี่เองที่เป็นส่วนหนึ่งของพลังผลักดันให้เกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา ในปี พ.ศ. 2516[4]
ประวัติ[แก้]
จิตรเป็นบุตรของศิริ ภูมิศักดิ์ กับแสงเงิน ฉายาวงศ์[5] มีชื่อเดิมว่า สมจิตร ภูมิศักดิ์ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น จิตร เพียงคำเดียว ตามนโยบายตั้งชื่อให้ระบุเพศชายหญิงอย่างชัดเจน ของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม[6]
พ.ศ. 2479 จิตรติดตามบิดา ซึ่งรับราชการเป็นนายตรวจสรรพสามิต เดินทางไปรับราชการยังจังหวัดกาญจนบุรี และเข้ารับการศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี จนถึงปี พ.ศ. 2482 จิตรย้ายมาอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ อีก 7 เดือนบิดาก็ได้รับคำสั่งย้ายไปรับราชการในเมืองพระตะบอง (ปัจจุบันอยู่ในประเทศกัมพูชา) จิตรจึงย้ายตามไปด้วย และได้เข้าศึกษาชั้นมัธยมที่นั้น
พ.ศ. 2490 ประเทศไทยคืนเมืองพระตะบองให้ฝรั่งเศส จิตรจึงอพยพตามมารดากลับไทย ระหว่างที่ครอบครัวเขายังอยู่ที่เมืองพระตะบอง มารดาเดินทางไปค้าขายที่จังหวัดลพบุรี ขณะที่จิตรและพี่สาว เดินทางมาศึกษาต่อในกรุงเทพมหานคร โดยจิตรเข้าเรียนที่โรงเรียนเบญจมบพิตร (โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตรในปัจจุบัน) และสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในที่สุด
พ่อของจิตร (นายศิริ) เป็นคนที่มีความคิดก้าวหน้าและถือว่าหัวสมัยใหม่มากสำหรับคนในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ จากต่างประเทศเข้ามาเสมอ เช่น กล้องถ่ายรูป ทรานซิสเตอร์ ฯลฯ และไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ก้าวไปพร้อมกับโลกที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของบิดาส่วนหนึ่งเป็นผลทำให้ความคิดของผู้เป็นบุตรมีความก้าวหน้าและเปิดกว้างมากกว่าเด็กในสมัยนั้น[6] จิตร มีบุคลิกเอกลักษณ์อุดมการณ์คล้ายคลึงเหมือน สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นอย่างมาก[7] แล้ว จิตร เคยคบหากับ น.ส.เวียน เกิดผล ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอยู่นาน แต่ก็เลิกรากันไป โดยไม่ได้แต่งงานเป็นคู่สมรสด้วยกัน[8]
แนวคิดและการเคลื่อนไหวทางการเมือง[แก้]
ชื่อเสียงของ จิตร ภูมิศักด์ โด่งดังในสาธารณชนวงกว้างเป็นครั้งแรก จากกรณี โยนบก เมื่อครั้งที่เขาเป็นสาราณียากรให้กับหนังสือประจำปีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2496 ในครั้งนั้นเขาได้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ของหนังสือประจำปี โดยลงบทความสะท้อนปัญหาสังคม ประณามผู้เอารัดเอาเปรียบในสังคม ซึ่งรวมถึงรัฐบาลด้วย รวมทั้งชี้ให้เห็นค่านิยมอันไม่ถูกต้อง ซึ่งผู้คนนับถือกันมานาน โดยบทความเหล่านั้น มีทั้งที่จิตรเขียนเอง ร่วมแก้ไข หรือเพื่อน ๆ คนอื่นเขียน ผลก็คือระหว่างการพิมพ์หนังสือได้ถูกตำรวจสันติบาลอายัด และมีการสอบสวนจิตรที่หอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเหตุการณ์นั้น จิตรถูกกลุ่มนิสิตที่นำโดยนายสีหเดช บุนนาค คณะวิศวกรรมศาสตร์ตั้งศาลเตี้ยจับโยนบกลงจากเวทีหอประชุม ทำให้จิตรได้รับบาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาลและพักรักษาตัวอยู่หลายวัน ต่อมาทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษและมีมติให้จิตรถูกพักการเรียนเป็นเวลา 1 ปี คือในปี พ.ศ. 2497[9]
ระหว่างถูกพักการเรียน จิตรได้ไปสอนวิชาภาษาไทยที่โรงเรียนอินทร์ศึกษา แต่สอนได้ไม่นานก็ถูกไล่ออก เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีหัวก้าวหน้ามากเกินไป จิตรจึงไปทำงานกับหนังสือพิมพ์ไทยใหม่ ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เอง ที่จิตรได้สร้างสรรค์ผลงานการวิจารณ์ที่มีคุณค่าต่อวงวิชาการไทยหลายเรื่อง เช่น การวิจารณ์วรรณศิลป์ วิจารณ์หนังสือ วิจารณ์ภาพยนตร์ โดยใช้นามปากกา "บุ๊คแมน" และ "มูฟวี่แมน"
ในงานเขียน โฉมหน้าศักดินาไทย จิตรใช้วิธีวิเคราะห์แบบวัตถุนิยมทางประวัติศาสตร์ในสำนักลัทธิมากซ์[10][11]
ปี พ.ศ. 2498 เขากลับเข้าเรียนอีกครั้งและสำเร็จปริญญาอักษรศาสตร์บัณฑิตในปี พ.ศ. 2500 จากนั้นก็เข้าเป็นอาจารย์ที่"วิทยาลัยเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์"และศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร จนกระทั่งถูกจับในข้อหา "สมคบกันกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายใน และภายนอกราชอาณาจักรและกระทำการเป็นคอมมิวนิสต์" เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เขาถูกคุมขังอยู่จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2507 จึงได้รับการปลดปล่อยและพ้นจากข้อหาของทางการ
เนื่องจากเขาถูกติดตามคุกคามจากทางการและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอย่างหนักทำให้เดือนตุลาคม พ.ศ. 2508 จิตรได้เดินทางสู่ชนบทภาคอีสาน เพื่อเข้าร่วมต่อสู้กับการปกครองด้วยระบบทหาร ในนาม สหายปรีชา ต่อมาด้วยการคุกคามจากอำนาจรัฐ จิตรถูกอดีตกำนันตำบลคำบ่อ อาสาสมัคร และทหาร ล้อมยิงจนเสียชีวิตที่ทุ่งนากลางป่าละเมาะใน"บ้านหนองกุง" ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509[12]
ผลงานเขียน[แก้]
จิตรมีความสามารถในด้านภาษาศาสตร์และนิรุกติศาสตร์อย่างมาก และยังมีความสามารถระดับสูงในด้านอื่น ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ ถือว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลของไทยคนหนึ่ง ในด้านภาษาศาสตร์นั้น จิตรมีความเชี่ยวชาญในภาษาฝรั่งเศส ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต ภาษาเขมร โดยเฉพาะภาษาเขมรนั้น จิตรมีความเชี่ยวชาญทั้งภาษาเขมรปัจจุบันและภาษาเขมรโบราณด้วย นอกจากนี้ จิตรได้เขียนพจนานุกรม"ภาษาละหุ" (มูเซอ) โดยเรียนรู้กับชาวมูเซอขณะอยู่ในคุกลาดยาว
ผลงาน 3 รายการของเขาได้รับยกย่องเป็น หนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน ประกอบด้วย โฉมหน้าของศักดินาไทยในปัจจุบัน (2500), ความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ และ บทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์
รายการบทความและงานเขียนเท่าที่ปรากฏเช่น
- จากพญาฝันถึงทยอยใน (2496)
- นวนิยายเรื่องขวัญเมือง
- การปฏิวัติในฝรั่งเศส
- ตำนานนครวัด (2498-2499)
- ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน (2500)
- บทบาททางวรรณคดีของพระมหามนตรี (2500)
- ชีวิตและศิลปะ (2500-2501)
- โฉมหน้าของศักดินาไทยในปัจจุบัน (2500)
- เพลงยาวบัตรสนเท่ห์ (2500)
- คนขี่เสือ งานแปล (2501)
- โองการแช่งน้ำ และ ข้อคิดใหม่ในประวัติศาสตร์ไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา (2505)
- ความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และ ขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ ฉบับสมบูรณ์ เป็นผลงานรวมเล่มระหว่าง ข้อเท็จจริงว่าด้วยชนชาติขอม กับ ความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และ ขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ
- ศัพท์สันนิษฐานและอักษรวินิจฉัย
- ภาษาและนิรุกติศาสตร์
- บทวิเคราะห์วรรณกรรมยุคศักดินา
- ความเรียงว่าด้วยศาสนา งานแปล
- ว่าด้วยงานศิลปะวรรณคดี งานแปล
- เสียงเพลงแห่งการต่อต้าน
- บทวิเคราะห์มรดกวรรณคดีไทย
- โคทาน งานแปล
- นิราศหนองคายวรรณคดีที่ถูกสั่งเผา
- บทวิพากษ์ว่าด้วยศิลปวัฒนธรรม
- ความอบอุ่นอันอ่อนหวาน
- คาร์ลมาซ์ก งานแปล
- แม่ งานแปล
- กรณี'โยนบก' ๒๓ ตุลา
- พระเจ้ากำเนิดข้ามาเสรี
- ความใฝ่ฝันแสนงาม
- หลุมฝังศพของดนตรีไทย
บทเพลงและบทกวีเท่าที่ปรากฏ
- เพลง ภูพานปฏิวัติ
- เพลง มาร์ชเยาวชนไทย
- เพลง มาร์ชกรรมกร
- เพลง เปิบข้าว
- เพลง ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ชิงชัย
- เพลง แสงดาวแห่งศรัทธา
- เพลง ทะเลชีวิต
- บทกวี เธอคือหญิงรับจ้างแท้ใช่แม่คน
- บทกวี อะไรแน่ ศาสนา ข้าสงสัย
- บทกวี ฉันท์ ๒๙ มีน์ ๙๓ งานถวายพระเพลิง
- บทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์
นามปากกา[แก้]
นามปากกา ของจิตรมีเป็นจำนวนมาก เช่น
|
|
อนุสรณ์[แก้]
อนุสาวรีย์จิตร ภูมิศักดิ์ตั้งอยู่ที่บ้านหนองกุง ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวัน "จิตร ภูมิศักดิ์" ในวันที่ 5 พฤษภาคม ของทุกปี[13]
ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร (ในขณะนั้น) ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร และเทศบาลตำบลคำบ่อ ดำเนินการปรับภูมิทัศน์บริเวณที่จิตรถูกยิงเสียชีวิต พร้อมสร้างรูปปั้นจิตรแบบครึ่งตัวไว้ในพื้นที่ดังกล่าว ในโอกาสการรำลึก 80 ปีชาตกาลจิตร ภูมิศักดิ์ ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์การสร้างอนุสรณ์สถานจิตร ภูมิศักดิ์ และมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ราษฎารานุสาวรีย์ของจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นผลงานของสันติ พิเชฐชัยกุล
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 50 ปีจิตร ภูมิศักดิ์ เช เมืองไทย Volce online สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2016.
- ↑ "25 กันยายน 2473 วันเกิด จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด-นักประวัติศาสตร์ที่ "ก่อเกิด" สองครั้ง". ศิลปวัฒนธรรม. 25 กันยายน 2016.
- ↑ "จากโซ่ตรวนถึงความตายวาระสุดท้ายแห่งชีวิตจิตร ภูมิศักดิ์". 18 ตุลาคม 2002. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 27 พฤศจิกายน 2013. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2014.
- ↑ ธนาพล อิ๋วสกุล และคณะ. 5 พ.ค. 2509 จิตร ภูมิศักดิ์ จบชีวิตอย่างไร้ค่าที่สกลนคร ก่อนกำเนิดอีกครั้งหลัง 14 ตุลาฯ ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤษภาคม 2547 สืบค้น 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2564. ISSN 0125-3654.
- ↑ "บิดาและมารดาของจิตร ภูมิศักดิ์". สามัญชนบนถนนประชาธิปไตย. สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2015.
- ↑ 6.0 6.1 วีรชน, คนกล้า (7 พฤศจิกายน 2017). "ชีวประวัติบุคคลสำคัญ จิตร ภูมิศักดิ์". นักปราชญ์ประชาธิปไตย. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2021.
- ↑ จากบรรณาธิการ จิตร กับ สืบ By One Ton on สืบค้นเมื่อ วันจันทร์, ตุลาคม 5, 2009
- ↑ Artyasit Srisuwan (29 เมษายน 2018). "อัณฑะมาร์กซ ผู้หญิงของจิตร ภูมิศักดิ์ : เรื่องรักและความป่วยไข้ของนักคิดนักเขียน". The MATTER.
- ↑ จิตร ภูมิศักดิ์ กับกรณีโยนบก “28 ตุลาคม 2496” ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤษภาคม 2547 สืบค้นเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563. ISSN 0125-3654.
- ↑ จิตร ภูมิศักดิ์ (2007). ประพต เศรษฐกานนท์ (บ.ก.). โฉมหน้าศักดินาไทย (9 ed.). นนทบุรี: สำนักพิมพ์ศรีปัญญา. ISBN 9789748075242.
- ↑ ธรรมเกียรติ กันอริ (กันยายน 1974). "โฉมหน้าศักดินาไทยในสายตาของจิตร ภูมิศักดิ์" (PDF). สังคมศาสตร์ปริทัศน์. 12 (9): 82–94.
- ↑ "วันนี้ในอดีต/เดือนพฤษภาคม, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 : จิตร ภูมิศักดิ์ ถึงแก่อสัญกรรม". หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ. 22 พฤษภาคม 2017.
- ↑ "54 ปี "จิตร ภูมิศักดิ์" เผด็จการปลิดชีวิตกลางป่า ถูกตั้งศาลเตี้ย จับโยนบก". ข่าวสด. 5 พฤษภาคม 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- โครงการจัดพิมพ์สรรพนิพนธ์ ของจิตร ภูมิศักดิ์ รวบรวมผลงานเขียนของจิตร ภูมิศักดิ์
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2473
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2509
- นักเขียนชาวไทย
- นักเคลื่อนไหวชาวไทย
- นักประวัติศาสตร์ชาวไทย
- นักภาษาศาสตร์ชาวไทย
- นักโบราณคดีชาวไทย
- นักปรัชญา
- นักปฏิวัติ
- บุคคลจากโรงเรียนวิสุทธรังษี
- บุคคลจากโรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร
- บุคคลจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- บุคคลจากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากจังหวัดปราจีนบุรี
- พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
- ชาวไทยที่ถูกลอบสังหาร
- เสียชีวิตจากอาวุธปืน
- นักแต่งเพลงชาวไทย
- นักโทษของประเทศไทย