คู่ซ่า ป่าระเบิด
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
คู่ซ่า ป่าระเบิด | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | โรเจอร์ แอลเลอส์ จิล คัลตัน |
บทภาพยนตร์ | สตีฟ เบนคิช รอน ฟรีดแมน แมท มอลดิน |
เนื้อเรื่อง | จิล คัลตัน แอนโทนี สแตกชี |
สร้างจาก | เนื้อเรื่องต้นฉบับโดย สตีฟ มัวร์ จอห์น คาร์ล |
อำนวยการสร้าง | มิเชลล์ เมอร์ดอกกา |
นักแสดงนำ | ดูในบทความ |
ตัดต่อ | Pamela Ziegenhagen-Shefland |
ดนตรีประกอบ | พอล เวสเทอร์เบิร์ก (ขับร้อง) รอมีน แจวอดี (ทำนอง) |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | โซนี่พิคเจอร์สรีลีสซิง[1] |
วันฉาย |
|
ความยาว | 86 นาที[3] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 85 ล้านดอลลาร์[4] |
ทำเงิน | 200.8 ล้านดอลลาร์[4] |
คู่ซ่า ป่าระเบิด (อังกฤษ: Open Season) เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันตลกขับขันอเมริกันที่ออกฉายใน ค.ศ. 2006 กำกับโดยโรเจอร์ แอลเลอส์, จิล คัลตัน และแอนโทนี สแตกชี เขียนบทโดยสตีฟ เบนคิช, รอน ฟรีดแมน และแมท มอลดิน ผู้พากย์เสียงที่สำคัญได้แก่ มาร์ติน ลอร์เลนซ์ และแอชตัน คุชเชอร์ ภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับบู๊กซึ่งเป็นหมีกริซลีที่ถูกเลี้ยง เขาได้ร่วมมือกับกวางเขาเดียวที่ชื่อว่า เอลเลียต และสัตว์ป่าอื่น ๆ ในการเอาชนะมนุษย์นักล่าสัตว์
คู่ซ่า ป่าระเบิด เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผลิตโดยโซนี่พิคเจอร์สแอนิเมชัน และออกฉายในโรงภาพยนตร์โดยโคลัมเบียพิคเจอร์สเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2006 ซึ่งภาพยนตร์ได้ฉายในรูปแบบไอแม็กซ์สามมิติ[5] และวิดีโอเกมก็สามารถรองรับได้หลายแพลตฟอร์ม แม้ว่าภาพยนตร์จะถูกวิจารณ์ในหลายด้าน แต่ก็ประสบความสำเร็จในการทำเงิน โดยทำรายได้ถึง 200.8 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับงบประมาณเพียง 85 ล้านดอลลาร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาคต่ออีก 3 ภาค ได้แก่ คู่ซ่า ป่าระเบิด 2 (2008), คู่ซ่า ป่าระเบิด 3 (2010) และ คู่ซ่า ป่าระเบิด 4 (2015)
เรื่องย่อ
[แก้]2 คู่ซี้หน้าขน ที่บังเอิญต้องร่วมวีรกรรมหลบลูกปืนในป่าใหญ่ด้วยกัน บู๊ก (ให้เสียงโดย มาร์ติน ลอร์เลนซ์) หมีกริซลี่ร่างใหญ่ใจเสาะ ไร้ทักษะการอยู่รอดและไร้ความดุร้ายแบบที่สัตว์ป่าควรจะมี เพราะที่ได้รับการเลี้ยงดูแบบสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอด กลับต้องมาติดแหงกอยู่ในป่าใหญ่ โชคชะตาบันดาลให้ บู๊ก ต้องฝากชีวิตของไว้ในกำมือของ อิเลียต (ให้เสียงโดย แอชตัน คุชเชอร์) เจ้ากวางจอมกวนร่างผอมกระหร่อง การใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์ป่าจริงๆ จึงเริ่มเปิดฉากขึ้น
ลำพังแค่ดำรงชีวิตในป่าก็ยากอยู่แล้ว แต่เคราะห์ร้ายลูกใหญ่ของ 2 หน่อ ก็กำลังจะมาเยือนอีกหน เมื่ออีก 3 วัน จะถึงฤดูกาลเปิดป่าให้มนุษย์เข้ามาล่าสัตว์เสรี บู๊กและอิเลียต จึงต้องเรียนรู้ที่จะร่วมมือกัน และรวมพลังกับเหล่าสัตว์ป่าทั้งหมดเพื่อยึดครองผืนป่าให้กลับมาสงบสุขตามธรรมชาติให้ได้ งานนี้มิตรภาพที่แท้จริง จะช่วยนำพาให้เอาชนะอุปสรรค อันตราย และห่ากระสุนทั้งปวงได้หรือไม่
งานพากย์
[แก้]ตัวละคร | สายพันธุ์ | ผู้พากย์เสียง |
---|---|---|
Boog | หมีกริซลี่ (Ursus arctos) | Martin Lawrence |
Elliot | Mule Deer (Odocolieus hemionus) | Ashton Kutcher |
Beth | มนุษย์ (Homo sapiens) | Debra Messing |
Shaw | มนุษย์ (Homo sapiens) | แกรี ซินิส |
McSquizzy | Gray Squirrel (Sciurus carolinensis) | Billy Connolly |
Reilly | American Beaver (Castor canadensis) | Jon Favreau |
Ian | Mule Deer (Odocolieus hemionus) | Patrick Warburton |
Giselle | Mule Deer (Odocolieus hemionus) | Jane Krakowski |
Mr. Weenie | Dachshund (Canis lupus familiarus) | Cody Cameron |
Buddy | North American Porcupine (Erethizon dorsatum) | Matthew W. Taylor |
Serge | Mallard (Anas platyrhynchos) | Danny Mann |
เสียงซาวด์แทรก
[แก้]# | เพลง | Artist | Where Played |
---|---|---|---|
1 | "Meet Me In The Meadow" | Paul Westerberg | Credits |
2 | "Love You In The Fall" | Paul Westerberg | Credits |
3 | "I Belong" | Paul Westerberg | Film |
4 | "I Wanna Lose Control (Uh Oh)" | Deathray | Film |
5 | "Better Than This" | Paul Westerberg | Film |
6 | "Wild Wild Life" | Talking Heads | Film |
7 | "Right to Arm Bears" | Paul Westerberg | Film |
8 | "Good Day" | Paul Westerberg | Film |
9 | "All About Me" | Paul Westerberg | Film |
10 | "Wild As I Wanna Be" | Deathray | Credits |
11 | "Whisper Me Luck" | Paul Westerberg | Film |
12 | "I Belong" (Reprise) | Pete Yorn | Film |
13 | "Wild As I Wanna Be" | Paul Westerberg | iTunes exclusive |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 "Open Season". AFI Catalog of Feature Films. สืบค้นเมื่อ February 9, 2018.
- ↑ Hopewell, John; Lang, Jamie (June 15, 2017). "Why Sony Pictures Animation Still Needs a Big Hit – and Where It Might Come From". Variety. สืบค้นเมื่อ February 9, 2018.
Producing animated features since 2006’s “Open Season,” Sony Pictures Animation has still to fire up a “Despicable Me” size franchise which can, as Belson out, provide a transformational moment, defining a studio’s style.
- ↑ "Open Season". British Board of Film Classification. สืบค้นเมื่อ March 29, 2014.
- ↑ 4.0 4.1 "Open Season (2006)". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.
- ↑ Ball, Ryan (October 4, 2006). "Open Season Bears Fruit in IMAX 3D". Animation Magazine. สืบค้นเมื่อ March 28, 2012.