KKND2: Krossfire

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สงครามครอสไฟร์
หน้าปกซีดีเกมสงครามครอสไฟร์ แสดงฝ่ายเซอร์ไวเวอร์ โดยมีพื้นหลังแสดงถึงสงครามนิวเคลียร์
ผู้พัฒนาบีมซอฟต์แวร์
ผู้จัดจำหน่ายอาตาริ (พีซี)
อินโฟแกรม (พีเอส)
เครื่องเล่นวินโดวส์, เพลย์สเตชัน
วางจำหน่ายวินโดวส์
  • EU: พ.ศ. 2541
  • NA: 31 ตุลาคม พ.ศ. 2541
เพลย์สเตชัน
  • EU: 15 เมษายน พ.ศ. 2542
แนววางแผนเรียลไทม์
รูปแบบวิดีโอเกมผู้เล่นคนเดียว, วิดีโอเกมหลายผู้เล่น

สงครามครอสไฟร์ (อังกฤษ: KKnD2: Krossfire) ส่วนคำว่า KKnD ย่อมาจาก Krush, Kill n' Destroy[1] ถูกจัดจำหน่ายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2541[2] เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามหลังมากจาก KKnD และเป็นเกมสำหรับวินโดวส์ และเกมนี้ก็ได้ถูกจัดจำหน่ายสำหรับเพลย์สเตชันในปี พ.ศ. 2542[3] โดยอยู่ภายใต้ของชื่อที่ว่า KKnD: Krossfire

เรื่องราวทั้งหมดของเกมนี้ได้ถูกเริ่มต้นหลังจากสงครามนิวเคลียร์มาเป็นเวลา 100 ปี ในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาของการใช้ชีวิตภายใต้พื้นดิน (ใต้ดิน) ผู้ที่รอดชีวิตนั้นได้กลับไปยังแผ่นดินในการต่อสู้กับฝ่ายอิวอลฟ์ (Evolved ไทย: วิวัฒนาการ) ฝ่ายเซอร์ไวเวอร์ (Survivors ไทย: ผู้รอดชีวิต) เหล่าหุ่นยนต์ของฝ่ายซีรีส์ 9 (Series 9 ไทย: ชุดที่ 9) เป็นเครื่องกลที่ได้พัฒนาจากของเครื่องที่ดีขึ้นสำหรับโครงการเกษตร (โปรแกรมเดิมนั้นได้รับความเสียหายจากรังสีนิวเคลียร์) และได้นำกองทัพขึ้นมาเพื่อปะทะกับเหล่ามนุษย์ (ฝ่ายอิวอลฟ์และฝ่ายเซอร์ไวเวอร์) เพราะพวกเขาเชื่อว่ามนุษย์ทำลายวัชพืชที่มีค่าทั้งหมดของพวกเขา[4]

การเล่น[แก้]

  • ในแต่ละแผนที่สามชนิดที่เป็นที่ดินและน้ำประกอบด้วย ภูมิประเทศทะเลทรายแห้งแล้ง พื้นผิวป่าและในเมือง (เมืองร้าง) ทั้งสามพื้นที่เป็นสิ่งประดิษฐ์จากสงครามนิวเคลียร์กล่าวคือเป็นอาคารเก่าแก่และน้ำที่ปนเปื้อน เช่นเดียวกับเกมวางแผนเรียลไทม์อื่นอย่างเช่น คอมมานด์แอนด์คองเคอร์ หรือ สตาร์คราฟต์
  • จุดประสงค์หลักของเกมคือเพื่อกำจัดฝ่ายอื่นๆที่อยู่บนแผนที่ที่เรากำลังเล่นอยู่
  • เกมนี้มักจะสำเร็จโดยผ่านการจัดการทรัพยากร น้ำมันนั้นทำหน้าที่สำรองเพื่อเป็นแหล่งพลังงานและการบำรุงรักษาฐานของการดำเนินงานในขณะที่พยายามที่จะทำลายทุกอย่างอื่น
  • ป้อมปราการและหอคอยสามารถนำมาใช้เพื่อปกป้องฐานเช่นเดียวกับการใช้ลักษณะทางธรรมชาติเช่นหน้าผาหรืออาคาร ซึ่งแตกต่างจากใน KKnD ตอนนี้แต่ละฝ่ายมีอาคารที่สามารถให้หน่วยทรัพยากรน้อยมากในอัตราที่คงที่ช่วยในการรวบรวมทรัพยากรที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำมันหรือถ้าน้ำมันไหลออกมา
  • สามารถเล่นเกมได้สองวิธีคือการเล่นเกมคือแบบแคมเปญ (ตามภารกิจที่กำหนดไว้) และแบบผู้เล่นหลายคน (เล่นผ่านเครือค่ายออนไลน์โดยไม่ต้องเล่นตามภารกิจ) แบบแคมเปญนั้นคุณสามารถเลือกเล่นหนึ่งในสามของฝ่ายต่อสู้ผ่านแผนที่ที่มีรูปทรงสามเหลี่ยมเพื่อที่จะกำจัดศัตรูอื่นๆทั้งหมด (บางครั้งอาจจะมีหลายฝ่าย) แบบผู้เล่นหลายคนช่วยให้เล่นผ่านการเชื่อมต่อระบบแลน (ไอพีเอกซ์ หรือ ทีซีพี / ไอพี), สายเคเบิลอนุกรมหรือโมเด็มหรือแบบโซโลเพลย์ที่ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถเลือกระหว่างความหลากหลายของแผนที่และการตั้งค่าที่จะเล่นเกมกับหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งฝ่ายตรงข้าม

ประเภทของฝ่าย[แก้]

เซอร์ไวเวอร์ (Survivors)[แก้]

เหล่าพวกเซอร์ไวเวอร์เป็นผู้รอดชีวิตจากกลุ่มมนุษย์ปกติที่ซ่อนตัวอยู่หลุมหลบภัยใต้ดินในช่วงสงครามครั้งแรก ครั้งหนึ่งที่พวกเขาได้เห็นความเลวร้ายของสงครามนั้น พวกเขากลับไปที่พักอาศัยของพวกเขาและตั้งแต่ได้ขุดและสร้างอาวุธใหม่ๆ อาตารใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ และแนวทางใหม่ๆที่จะได้รับค่าจ้าง มุ่งมั่นที่จะกำจัดฝ่ายอิวอลฟ์และยุติการใช้งานของฝ่ายซีรีส์ 9 พวกเขาต้องใช้เทคโนโลยีและทหารใหม่ๆของพวกเขาเพื่อที่จะเอาชนะ มีกำลังเหนือกว่า และครอบงำศัตรูทั้งหมด[5]

อิวอลฟ์ (Evolved)[แก้]

เหล่าพวกอิวอลฟ์ได้อยู่ในระหว่างสงครามนิวเคลียร์ และเป็นต้นกำเนิดที่ได้ถูกเรียกว่า พวกวิวัฒน์ นั่นก็เพราะว่าเป็นพวกที่ได้วิวัฒนาการมาจากการแผ่รังสี พวกเขาจึงเป็นศัตรูกับเทคโนโลยีขั้นสูง พวกเขาได้เรียนรู้การเป็นพวกและใช้ประโยชน์จากพลังของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์อื่นๆ อย่างเช่น ตัวต่อขนาดใหญ่และแมงป่อง การกลายพันธุ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเขามากและศรัทธาต่อพระเจ้าของพวกเขา (ในที่รู้กันดีว่า จอมโหดเหี้ยม) และได้ลงโทษพวกเขาสำหรับความไม่รู้ของพวกเขาที่ได้ใช้เทคโนโลยี การเมืองและการใช้ซ้ำของทีวี พวกเขาพยายามที่จะกำจัด ความสมมาตร (นามของ ฝ่ายเซอร์ไวเวอร์) และ ความไร้วิญญาณ (นามของ ฝ่ายซีรีส์ 9) เพื่อที่จะเอาใจเหล่าทวยเทพของพวกเขา อย่างที่น่าสังเกตคือ ในขณะที่อีกสองฝ่ายมีหน่วยขนานมี "ปีศาจจอมโหด" พิเศษหน่วยในระดับที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงซึ่งสามารถสร้างขึ้นโดยเสียสละห้าหน่วยทหารราบ[6]

ซีรีส์ 9 (Series 9)[แก้]

เหล่าพวกซีรีส์ 9 เป็นหุ่นยนต์การเกษตรขั้นสูงที่ได้กลายเป็นป่วยจากการที่เซอร์ไวเวอร์ได้ทำลายพืชผลของพวกเขาและได้ยึดเอามันเมื่อชีวิตของพวกเขาคิดที่จะทำลายทุกชีวิตที่เป็นอินทรีย์ เพื่อให้พวกเขาสามารถฟาร์มอยู่ในความสงบในที่สุด เมื่อพวกเขาได้รับความรู้สึกผิดของตัวเอง ในที่สุดพวกเขาก็รู้สึกถึงหุ่นยนต์ก่อนหน้านี้ (ซีรีส์ 1-8) ก็ยังคงทำตามคำสั่งสุดท้ายของพวกเขาจากมนุษย์ หุ่นยนต์ซีรีส์ 9 จึงตัดสินใจที่จะปิดตัวลงเส้นแบบอื่นๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ พวกเขากำลังทำงานอยู่ในช่วงสงครามครั้งแรก แต่พวกเขาตระหนักว่าคราดและรถเข็นล้อเดียวไม่ได้ไปทำอะไรได้มากกับรถถังและช้างมาสโตดอนกลายพันธุ์ พวกเขาใช้เวลาเพื่อการวิจัยของโลกเก่าและอาวุธสงครามจากประวัติศาสตร์เพื่อที่จะปรับตัวเข้ากับเครื่องมือของพวกเขาที่จะกลายเป็นอาวุธที่น่ากลัว พวกเขาเป็นหุ่นยนต์ทำฟาร์มและส่วนใหญ่อาวุธของพวกเขามีลักษณะคล้ายกับเครื่องมือฟาร์มเช่น เครื่องไถนา ที่ฆ่าวัชพืช และขีปนาวุธสปอร์ ฝ่ายนี้เป็นสิ่งใหม่กับการได้รับสิทธิพิเศษ[7]

ประเภทของภูมิประเทศ[แก้]

มีอยู่สามภูมิประเทศที่อยู่ใน KKnD2: Krossfire แต่ละแบบมีความแตกต่างกัน โดยแบ่งแยกได้ดังนี้[8]

พื้นผิวป่า[แก้]

เป็นพื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่ มีป่าไม้ เนินเขา และแม่น้ำอยู่มากมาย หรือเรียกได้อีกอย่างคือเป็นพื้นที่กว้างแบน ขนาดใหญ่ ราบเรียบ ปกคลุมด้วยเถ้า อ้างว้าง มีภูเขาไฟและมีรอยแยกที่ไม่สามารถผ่านได้

ทะเลทราย[แก้]

เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ของคลื่นทราย เนินเขา ต้นตะบองเพชรที่เติบโตอย่างเบาบาง และที่ปกคลุมไปด้วยซากปรักหักพังครึ่งหนึ่ง

ในเมือง[แก้]

เป็นพื้นที่มีซากตึกร้าง ผ่านทางถนนที่ผุพัง เต็มไปด้วยหลุมอุกาบาตและยานพาหนะที่เป็นสนิม คลองซบเซาที่มีแต่ขยะในศตวรรษเก่าๆ สะพานบางที่ได้พังทลายลง และมีสิ่งมีชีวิตท้องทะเลที่ไม่สามารถพูดได้

ภาคต่อ[แก้]

แม้ว่าจะมีข่าวลือแรกที่เมลเบิร์นเฮาส์จะยังคงพัฒนา KKND ใหม่อีกครั้ง แต่หลังจากที่ปล่อย KKND 2: Krossfire แล้วหนึ่งปีต่อมาก็ต้องปิดเพราะเหตุผลทางด้านการเงิน[9]

เบ็ดเตล็ด[แก้]

ฝ่ายอิวอลฟ์ได้รับทรัพยากรหน่วยพิเศษโดยโครงสร้างอาคารที่ปรากฏเช่นคอกเลี้ยงสุกรที่เปิดท่อมาจากสุกรไปที่ไซโล[10] นี้อาจจะเป็นการแสดงให้ถึงภาพยนตร์เรื่อง แมดแม๊กซ์: โดมบันลือโลก ซึ่งพลังงานจากเมืองบาร์เตอร์ทาวน์ โดยผลิตจากมูลของสุกรและแก๊สมีเทนที่มีไว้เพื่อสกัด

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]