ไอ้หื่นซิกซ์แพ็ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไอ้หื่นซิกซ์แพ็ก
ส่วนสูง170 cm (5 ft 7 in)
รายละเอียด
ผู้เสียหาย12 ราย (ยืนยันแล้ว)
วันที่พ.ศ. 2553–2558
ประเทศไทย
รัฐจังหวัดสมุทรสงคราม, จังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดนครปฐม
จังหวัดราชบุรี (สงสัย)
เป้าหมายหญิงสูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว
ตาย2 ราย (ยืนยันแล้ว)
บาดเจ็บ10 ราย (ยืนยันแล้ว)

ไอ้หื่นซิกซ์แพ็ก คือฆาตกรและผู้ข่มขืนต่อเนื่องที่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนครปฐมในช่วง พ.ศ. 2553–2558 ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ก่อเหตุได้ มีผู้ถูกข่มขืนทั้งหมด 12 ราย และถูกทำร้ายจนเสียชีวิต 2 ราย[1] ฉายา "ไอ้หื่นซิกซ์แพ็ก" มีที่มาจากลักษณะทางกายภาพของคนร้ายที่มีร่างกำยำและมีกล้ามหน้าท้อง 6 ลูก[2]

การก่อเหตุ[แก้]

เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 23.00 น. ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปข่มขืนหญิงอายุ 70 ปี ซึ่งอยู่บ้านคนเดียวที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตำรวจพบหลักฐานเป็นคราบอสุจิบนผ้าถุงของเธอ[2] ในอีก 14 วันต่อมา เวลา 02.00 น. คนร้ายได้บุกเข้าไปข่มขืนหญิงอายุ 71 ปี ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตำรวจได้พบหลักฐานเป็นรอยเลือดบนผ้าม่าน[3]

ต่อมาวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 01.00 น. คนร้ายได้ลักลอบเข้าไปในบ้านไม้ 2 ชั้นในสวนมะพร้าวของหญิงอายุ 61 ปี ในตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ก่อนจะข่มขืนเธอ เธอได้พยายามต่อสู้คนร้ายแต่ก็ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จากผลการชันสูตรพบว่ากระดูกซี่โครงของเธอหัก และตับกับม้ามของเธอแตก[4][5]

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2555 คนร้ายได้ก่อเหตุอีกครั้งโดยได้ก่อเหตุข่มขืนหญิงอายุ 70 ปี ขณะกำลังดูแลสวนมะพร้าวที่ตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที ที่เกิดเหตุห่างจากที่เกิดเหตุคดีที่ 3 ไม่มากนัก[6]

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 03.00 น. คนร้ายได้ใช้กำปั้นทุบกระจกหน้าต่างก่อนจะบุกเข้าไปข่มขืนหญิงอายุ 59 ปี ในตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที[7] อีก 10 วันต่อมา เมื่อเวลา 03.40 น. คนร้ายได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนหญิงอายุ 47 ปี ที่ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที โดยคนร้ายได้ขโมยทรัพย์สินในบ้านของเธอไปด้วย[2][8][4]

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 23.00 น. คนร้ายได้ก่อเหตุบุกเข้าไปในบ้านของหญิงอายุ 76 ปี ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มัดมือมัดเท้าขึงพืดเธอกับเสาเตียงก่อนจะลงมือข่มขืนและขโมยปืนเมาเซอร์ของเธอไปด้วย[8][9][10]

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.30 น. คนร้ายได้ก่อเหตุข่มขืนแล้วฆ่าหญิงอายุ 78 ปี ในบ้านเรือนไทยที่อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ในขณะที่เธอนอนอยู่ในบ้านคนเดียว[2][11]

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557 คนร้ายได้ปีนรั้วเข้าไปในบ้านพักในอำเภอพุทธมณฑล ก่อนจะพังประตูบ้านและขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้านพักเพื่อข่มขืนหญิงอายุ 70 ปี แต่ลูกสาวอายุ 39 ปี เข้ามาเห็นพอดี ทำให้คนร้ายเปลี่ยนเป้าหมายมาทำร้ายและข่มขืนเธอก่อนจะหลบหนีไป ผลการตรวจดีเอ็นเอพบว่าดีเอ็นเอของคนร้ายตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข่มขืนต่อเนื่อง 8 คดี[12]

เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 01.00 น. คนร้ายซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตโปโลสีดำปักประเป๋าเสื้อด้วยคำว่า "ประเสริฐ"[13] กางเกงสีดำ และหมวกไหมพรมสีดำ ได้มายังบ้านพักในตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม วางยาเบื่อสุนัขเฝ้าบ้าน งัดหน้าต่างบ้านพักเข้าไปในห้องนอน ใช้มีดจ่อคอหญิงอายุ 70 ปี สั่งให้เธออย่าส่งเสียง ก่อนจะข่มขืนเธอแล้วขโมยเงินสดจำนวน 5,000 บาทและพระเลี่ยมทองของหลวงพ่อวัดไร่ขิงไป[14][6][9]

จากการสอบสวนและลงพื้นที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีหญิงชราถูกข่มขืนเพิ่มเติมอีก 2 คน ในช่วง พ.ศ. 2554 ในพื้นที่รอยต่ออำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม กับจังหวัดราชบุรี หญิงทั้งสองมีอายุระหว่าง 70–78 ปี จากการสอบปากคำผู้เสียหาย พบว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน แต่ผู้เสียหายทั้งสองไม่ได้ไปแจ้งความ[6]

การสืบสวน[แก้]

เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558 หลังจากคนร้ายได้ก่อคดีที่ 10 ในช่วงเวลา 08.00 น. ที่ตำบลลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี พลตำรวจโท โสภณ พิสุทธิวงษ์ ได้เปิดเผยหลังจากที่เขาไปตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายมีพฤติกรรมเหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดยคดีนี้เป็นคดีที่ 10 ที่มีการแจ้งความ การก่อเหตุมีลักษณะเดียวกัน คือ คนร้ายก่อเหตุในช่วงเวลากลางดึก โดยจะเลือกเหยื่อที่มีอายุมากซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวและใช้อุปกรณ์งัดหน้าต่างหรือประตูเพื่อบุกรุกบ้านและลักทรัพย์ ในการก่อเหตุทุกครั้งคนร้ายจะไม่เอาอุปกรณ์สื่อสารของผู้เสียหายไปจากที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายบางรายถูกข่มขืนหรือถูกทำร้าย และหลังก่อเหตุคนร้ายจะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ในคดีนี้ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายเดินทางมาจากทางน้ำ[15] ผู้เสียหายให้การว่ารูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเหมือนกับที่ผู้เสียหายรายอื่น ๆ ได้ให้การเอารูปพรรณสัณฐานเอาคนร้ายเอาไว้[13] จากการตรวจลายนิ้วมือของคนร้าย พบว่าผลการตรวจลายนิ้วมือไม่ตรงกับข้อมูลในระบบทะเบียนประวัติอาชญากร เมื่อวันที่ 27 มกราคม ตำรวจได้แถลงความคืบหน้าของคดีโดยตำรวจพบว่าคนร้ายจะก่อเหตุคนเดียวและจะงัดแงะเข้าบ้านทางหน้าต่าง ก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 01.00–03.00 น. คนร้ายไม่ใส่รองเท้าและทิ้งรอยนิ้วมือกับรอยเท้าชัดเจนในทุกคดี[16] พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา กล่าวว่าคนร้ายอาจยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม หรืออาจเป็นพื้นที่อำเภอนครชัยศรี เนื่องจากคนร้ายยังไม่รู้ว่าตนเองกำลังถูกตำรวจเฝ้ามองหรือไล่ล่า[11]

เมื่อวันที่ 28 มกราคม พลตำรวจโท โสภณ พิสุทธิวงษ์ และพลตำรวจเอก วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุในคดีที่ 10 เพื่อตรวจสอบสถานที่และร่องรอยที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบคลองติดบ้านที่เกิดเหตุคาดว่าคนร้ายน่าจะนำอาหารที่มียาเบื่อไปทิ้งลงในคลองทำให้มีปลาตายเป็นจำนวนมาก[17]

ต่อมาวันที่ 29 มกราคม ตำรวจได้ยืนยันว่าผลตรวจดีเอ็นเอของคดีข่มขืนทั้ง 10 คดี พบว่าเป็นดีเอ็นเอเดียวกัน แต่จากการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 300 คน ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 ก็ไม่พบว่าตรงกับดีเอ็นเอคนร้าย[6] พลตำรวจเอก วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าในคดีที่ 9 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ผู้เสียหายจำได้ว่าคนร้ายใส่เสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีกรมท่า โดยที่หน้าอกซ้ายของเสื้อปักด้วยสีเหลืองเป็นคำว่า "ประเสริฐ" และมีผู้เสียหายรายอื่นอีก 5–6 ราย ยืนยันว่าคนร้ายใส่เสื้อแขนยาวสีนี้[18] เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พลตำรวจโท โสภณ พิสุทธิวงษ์ ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมขยายพื้นที่ตามล่าออกไปจากอำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอพุทธมณฑล และอำเภอบางเลน ให้ครอบคลุมถึงอำเภอเมืองนครปฐมและอำเภอกำแพงแสนด้วย โดยกลุ่มอาชีพแรงงานที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติมคือกลุ่มเกษตรกรในสวนมะพร้าวและกลุ่มแรงงานในโรงเลื่อยไม้[19] สาเหตุที่ต้องสืบสวนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติมเนื่องจากพบเศษขี้เลื่อยไม้และเส้นใยกากมะพร้าวติดอยู่ที่กางเกงขาสั้นลายการ์ตูนของคนร้ายที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุในคดีที่ 9[20] วันที่ 3 กุมภาพันธ์ กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบชนิดของสารเคมีที่พบในตัวของสุนัขที่ถูกวางยาเบื่อและปลาที่อยู่ในคลองติดบ้าน พบว่าเป็นยาฆ่าหญ้ากลุ่มคาร์บอเนตซึ่งเมื่อสุนัขกินเข้าไปจะใช้เวลา 2–3 ชั่วโมงก่อนจะออกฤทธิ์ ทางตำรวจคาดว่าคนร้ายคงรอให้ยาเบื่อออกฤทธิ์ก่อนจะก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่ปลาตายในคลองคงมาจากการที่คนร้ายนำยาเบื่อผสมกับอาหารแต่ใช้ไม่หมด จึงโยนอาหารลงคลองที่อยู่ติดบ้านทำให้ปลาตาย[10]

ทางตำรวจสังเกตว่าคนร้ายจะก่อเหตุในช่วงวันหยุด วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ โดยมีเป้าหมายเป็นหญิงที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีลักษณะขาวอวบ และอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านเดี่ยวห่างจากที่ชุมชน โดยก่อเหตุคนเดียวและจะวางยาเบื่อสุนัขหากบ้านที่เกิดเหตุมีสุนัข และจะขโมยทรัพย์สินเพียงเงินกับทองไปเท่านั้น[21] คาดว่าคนร้ายมีที่พักอยู่ใกล้แม่น้ำลำคลองห่างจากที่เกิดเหตุไม่เกิน 5 กิโลเมตร[22] จากภาพสเกตช์ของตำรวจพบว่าคนร้ายเป็นชายไทย สูง 170 เซนติเมตร มีร่างกายบึกบึนและมีกล้ามหน้าท้อง 6 ลูก[23][24] ผู้เสียหายทุกรายให้การว่าคนร้ายไม่มีกลิ่นสาบติดตัว จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะอาบน้ำก่อนก่อเหตุทุกครั้ง[3]

ผู้ต้องสงสัย[แก้]

นายไก่ (นามสมมุติ)[แก้]

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมกับตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ได้จับกุมนายไก่ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ที่โรงน้ำแข็งในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เขามีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับภาพสเกตช์ของคนร้ายและเคยเป็นลูกจ้างแขวงทางหลวงนครปฐม นายไก่รับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าข่มขืนฆ่าหญิงชราต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำนายไก่ไปตรวจดีเอ็นเอ จากนั้นเมื่อเวลา 02.00 น. ของวันต่อมา ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกล่าวว่าดีเอ็นเอของนายไก่ไม่ตรงกับตัวอย่างที่ตำรวจเก็บได้จากที่เกิดเหตุ จึงปล่อยตัวนายไก่ไป[25] หลังจากการปล่อยตัว นายไก่ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่าเขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย เชิญตัวไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มนั้นได้นำภาพถ่ายที่ถือมาเปรียบเทียบกับใบหน้าของเขา ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดโทรศัพท์มือถือของเขาและพยายามพูดโน้มน้าวให้เขารับสารภาพเพื่อที่โทษจะได้ไม่หนัก เมื่อไปถึงตัวเมืองนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงพยายามพูดให้นายไก่รับสารภาพ ทำให้เขาจำยอมรับสารภาพไปตามที่ตำรวจร้องขอมาทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด จากนั้นตำรวจพาเขาไปตรวจดีเอ็นเอแต่ไม่ตรงกับของคนร้าย จึงยอมปล่อยตัวและคืนโทรศัพท์มือถือให้เขา[26][27][28]

ไพฑูรย์ ปุยเงิน[แก้]

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ตำรวจได้จับกุมนายไพฑูรย์ ปุยเงิน อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและพยายามข่มขืนหญิงอายุ 81 ปี ในตำบลตลาดใหม่ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง[29] ไพฑูรย์ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนเธอแต่ตำรวจมีหลักฐานและพยานมากพอที่จะเอาผิดไพฑูรย์ในคดีนี้ได้ ตำรวจยังสงสัยว่าพฤติการณ์ในการก่อเหตุรวมทั้งหน้าตาของไพฑูรย์คล้ายกับคนร้ายในคดีฆาตกรรมและข่มขืนต่อเนื่อง 10 คดี และไพฑูรย์ยังเคยไปทำงานในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดสมุทรสงครามในช่วงเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรมและข่มขืนต่อเนื่องอีกด้วย ตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบดีเอ็นเอของเขา แต่ก็ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้ายในคดีฆาตกรรมและข่มขืนต่อเนื่อง[30]

สุพรชัย หนูน้อย[แก้]

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ตำรวจได้จับกุมนายสุพรชัย หนูน้อย หรือแป๊ก ปากหวาน ในคดีฆาตกรรมและข่มขืนเด็กหญิงอายุ 14 ปี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ในบ้านของเธอที่ตำบลสิบเอ็ดศอก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เขาถูกจับกุมหลังจากที่ผลการตรวจดีเอ็นเอของเขาตรงกับดีเอ็นเอของคราบอสุจิที่พบบนเสื้อผ้าของศพ[31] สุพรชัยเคยติดคุกในคดีครอบครองยาเสพติดในจังหวัดขอนแก่นเมื่อ พ.ศ. 2558 ก่อนก่อคดีฆาตกรรมคดีนี้ สุพรชัยเคยก่อเหตุข่มขืน 3 คดี ในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชลบุรี[32] ตำรวจภูธรภาค 7 สงสัยว่าสุพรชัยอาจเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องและข่มขืนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงครามในช่วง 2–6 ปีก่อน จึงเก็บดีเอ็นเอจากสุพรชัยเพื่อตรวจสอบว่าตรงกับคนร้ายในคดีฆาตกรรมและข่มขืนต่อเนื่องหรือไม่ แต่ผลการตรวจดีเอ็นเอพบว่าไม่ตรงกัน[33][34]

ละออง ขาวพันธุ์[แก้]

ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ตำรวจได้จับกุมนายละออง ขาวพันธุ์ อายุ 66 ปี ที่อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี จากคดีข่มขืนแล้วฆ่านางสาลี่ อายุ 72 ปี ในช่วงกลางคืนของวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่บ้านพักในตำบลนางบวช อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี[35] ตำรวจพบว่าพฤติการณ์ในการก่อเหตุของละอองคล้ายกับคดีฆาตกรรมและข่มขืนหญิงชราต่อเนื่องเมื่อ 7 ปีก่อน[36] ละอองเคยเดินทางไปทำงานเป็นลูกจ้างในแพปลาที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะถูกจับกุมในข้อหาพยายามทำอนาจารใน พ.ศ. 2555 โดยเขาได้ติดคุกเป็นเวลา 7 ปีและได้รับการปล่อยตัวออกมาในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ก่อนจะติดคุกอีกครั้งเป็นเวลา 8 เดือนจากคดีบุกรุกเคหสถานใน พ.ศ. 2564 ตำรวจนำดีเอ็นเอของเขาไปตรวจสอบ ผลการตรวจดีเอ็นเอไม่ตรงกับของคนร้ายในคดีฆ่าข่มขืนหญิงชราต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังถูกดำเนินคดีจากคดีฆาตกรรมนางสาลี่[7][4]

ดูเพิ่ม[แก้]

  • ติ๊งต่าง ฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุข่มขืนเด็ก 10 คน และฆาตกรรมเด็ก 4 คน ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน

อ้างอิง[แก้]

  1. ตำรวจหญิงไทย มุ่งเรียน "จิตวิทยาการสืบสวน" ในอังกฤษ หวังช่วยไขคดีอาชญากรรมต่อเนื่องในไทย
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 ล่า"ไอ้หื่นซิกแพก"ฆ่า-ข่มขืนหญิงชรา 10 คดี
  3. 3.0 3.1 พลิกแฟ้มคดีข่มขืนต่อเนื่อง6ปีฆาตกรยังลอยนวล
  4. 4.0 4.1 4.2 เฒ่าฆ่าขืนใจยายแสยะยิ้มโชว์ โวให้ 500 แลก Sex ขุดคดีหื่นเทียบหน้าฆ่านับสิบ (คลิป)
  5. หญิงแก่ผวา'โจรข่มขืน'ยังไม่ถูกจับ
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 ไขรหัสฆาตกาม EP.1เซ็กซ์วิปริต 1 นาทีขืนใจหญิงชรา เร่งล่าคนโฉด
  7. 7.0 7.1 ย้อนรอยคดี ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าข่มขืนหญิงชรา อาละวาด 3 จว. พฤติการณ์คล้ายคดีที่ สุพรรณฯ\
  8. 8.0 8.1 พลิกแฟ้มอาชญากรรม-ฆาตกรโรคจิต ข่มขืน ฆ่า หญิงชรา..ปริศนาในเงามืด
  9. 9.0 9.1 จับแล้วไอ้หื่นโรคจิต
  10. 10.0 10.1 พบข้อมูล อุปกรณ์พิเศษของไอ้หื่น
  11. 11.0 11.1 เปิดปมฆาตกรข่มขืนต่อเนื่องพฤติการณ์ป่วยจิตสุดอันตราย
  12. ไล่ล่า'ฆาตกามต่อเนื่อง'
  13. 13.0 13.1 ข่มขืนอีกแม่เฒ่า 70 (ชมคลิป)
  14. ช็อก! ฆาตกามต่อเนื่อง ข่มขืนคนแก่รายที่ 10 ตร.ปิดเมืองล่า (ชมคลิป)
  15. คาดคนร้าย9คดี!ก่อเหตุซ้ำข่มขืนหญิงชรานครชัยศรี
  16. ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท ฆาตกามข่มขืนสาวสูงวัย
  17. เพิ่มค่าหัว! ตร. ให้ 2 แสน ล่าฆาตกามโรคจิต ข่มขืนคนแก่
  18. นำจับ 3 แสน ล่าไอ้หื่นโรคจิต (ชมคลิป)
  19. ถกเครียดล่า 'ฆาตกามต่อเนื่อง' พุ่งเป้าคนงานโรงไม้-สวนมะพร้าว (ชมคลิป)
  20. เจอเส้นใยมะพร้าว ติดกางเกงไอ้หื่น
  21. ได้เค้าหื่นอุบาทว์ ขืนใจคนแก่ (ชมคลิป)
  22. ล่าข่มขืนสูงวัยสืบกันซับซ้อน
  23. เค้นอดีตทหาร-ช่างไฟ หื่นขยี้คนแก่
  24. ผวาทั้งบาง! 'ฆาตกามต่อเนื่อง' โผล่อีก ชี้วิปริตชอบคนแก่ขาวอวบ
  25. รวบชายต้องสงสัย ข่มขืนหญิงชรา แต่ต้องลุ้นผลดีเอ็นเอ
  26. แพะคดีข่มขืนหญิงชรา บ่นใครรับผิดชอบ
  27. จับผิดตัว-ต้องปล่อย (ชมคลิป)
  28. แพะคดีหื่น เปล่าถูกซ้อม ให้สารภาพ (ชมคลิป)
  29. ใช่หรือไม่ใช่! พาผู้เสียหายชี้ตัว ฆาตกามต่อเนื่องข่มขืนคนแก่
  30. มีส่วนคล้าย! จับ พยายามข่มขืนยาย 81 ปี โยง 10 คดีฆาตกามคนแก่
  31. เปิดโฉมหน้า'ไอ้แป๊ก'ฆ่าม.3 อึ้งประวัติ'คดีข่มขืน'ล้วนๆ
  32. จับ "แป๊ก ปากหวาน" ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปี ใส่เหล็กดัดฟัน
  33. ตร.ภาค 7 เก็บดีเอ็นเอ “แป๊ก ปากหวาน” สงสัยโยงคดีข่มขืนหญิงชรา
  34. ตร.ภาค 7 เก็บดีเอ็นเอ 'แป๊ก ปากหวาน' สงสัยโยงคดีข่มขืนคนชรา
  35. จับเฒ่าฆ่าข่มขืนยายมุดน้ำพรางตัว ล็อกเทียบ DNA โยงคดีล่าแต้มขืนใจคนแก่ (คลิป)
  36. เฒ่า 66 ข่มขืนฆ่ายาย 72 ยังปฏิเสธ พบพฤติกรรมคล้ายเหตุเมื่อ 5 ปีก่อน