ข้ามไปเนื้อหา

เทสลาออโตไพลอต

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพที่แสดงออโตไพลอตขณะกำลังใช้งานในปี ค.ศ. 2017

เทสลาออโตไพลอต (อังกฤษ: Tesla Autopilot) เป็นระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่พัฒนาโดยเทสลา ซึ่งเป็นการทำให้รถยนต์สามารถทำงานอัตโนมัติบางส่วน (การทำงานระดับ 2) ตามที่สหพันธ์วิศวกรยานยนต์กำหนด เทสลาให้บริการ "ออโตไพลอตพื้นฐาน" ในรถทุกคัน ซึ่งรวมถึง การรักษากลางเลน และ การควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่รับรู้การจราจร เจ้าของรถสามารถซื้อหรือสมัครใช้บริการ ฟูล เซลฟ์-ไดร์ฟวิ่ง (FSD) ซึ่งเพิ่มฟังก์ชันการนำทางที่กึ่งอัตโนมัติที่สามารถตอบสนองต่อสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด ความช่วยเหลือในการเปลี่ยนเลน การจอดรถอัตโนมัติ และความสามารถในการเรียกรถจากโรงจอดหรือที่จอดรถ

ความตั้งใจของบริษัทคือการให้บริการการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ (ระดับ 5) ในอนาคต โดยยอมรับว่ามีอุปสรรคทางเทคนิคและข้อบังคับที่ต้องข้ามผ่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้[1] ชื่อ "ออโตไพลอต" และ "ฟูล เซลฟ์-ไดร์ฟวิ่ง" ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เนื่องจากยานพาหนะยังคงอยู่ในระดับ 2 และยังไม่ใช่ "การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ" และต้องการการดูแลจากผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง

บริษัทอ้างว่า คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการละเลยและความเหนื่อยล้าจากการขับขี่ระยะยาวได้[2][3] การชนและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เทสลาที่เปิดใช้งานออโตไพลอตได้ดึงดูดความสนใจจากสื่อและหน่วยงานรัฐบาล[4] ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมและนักวิชาการได้วิจารณ์การตัดสินใจของเทสลาที่ใช้ผู้บริโภคที่ไม่ได้รับการฝึกฝนเพื่อทดสอบคุณสมบัติในเวอร์ชันเบต้า ว่าเป็นการกระทำที่อันตรายและไร้ความรับผิดชอบ[5][6][7][8]

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ซีอีโอของเทสลา อีลอน มัสก์ ได้ทำนายผิดพลาดเกี่ยวกับการที่เทสลาจะบรรลุความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติระดับ 5 ภายในหนึ่งถึงสามปี[9] และล่าสุดทำนายว่าจะเกิดขึ้นในปลายปี ค.ศ. 2023[10]

อ้างอิง

[แก้]
  1. Golson, Jordan; Bohn, Dieter (October 19, 2016). "All new Tesla cars now have hardware for 'full self-driving capabilities'". The Verge. สืบค้นเมื่อ October 22, 2016.
  2. Williams, Elliot (March 4, 2019). "Does Tesla's Autosteer Make Cars Less Safe?". Hackaday (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ March 5, 2019.
  3. "Tesla Vehicle Safety Report". tesla.com. สืบค้นเมื่อ April 29, 2024. In the 4th quarter [of 2023], we recorded one crash for every 5.39 million miles driven in which drivers were using Autopilot technology. For drivers who were not using Autopilot technology, we recorded one crash for every 1.00 million miles driven. By comparison, the most recent data available from NHTSA and FHWA (from 2022) shows that in the United States there was an automobile crash approximately every 670,000 miles.
  4. Shepardson, David (March 18, 2021). "U.S. safety agency reviewing 23 Tesla crashes, three from recent weeks". Reuters (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ May 19, 2021.
  5. Hawkins, Andrew J. (October 22, 2020). "Tesla's "Full Self-Driving" beta is here, and it looks scary as hell". The Verge (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ January 2, 2021.
  6. Mitrache, Vlad (October 26, 2020). "Full Self-Driving Beta Release Is Tesla's Most Irresponsible Move so Far". autoevolution (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ January 2, 2021.
  7. "Should Tesla be 'beta testing' autopilot if there is a chance someone might die?". The Guardian (ภาษาอังกฤษ). July 6, 2016. สืบค้นเมื่อ January 2, 2021.
  8. แม่แบบ:Cite SSRN
  9. Lee, Timothy B. (May 7, 2021). "Tesla Autopilot director contradicts Musk's self-driving timeline". Ars Technica (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ July 22, 2021.
  10. Torchinsky, Jason (2023-07-07). "Elon Musk Predicts Level 4 Or 5 Full Self-Driving 'Later This Year' For the Tenth Year In A Row". The Autopian (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2023-07-09.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]