อีมนาลามูร์
"อีมนาลามูร์" | |
---|---|
ซิงเกิลโดยเอดิต ปียัฟ | |
วางจำหน่าย | 1950 |
แนวเพลง | ช็องซง |
ความยาว | 3:27 |
ค่ายเพลง | ปาเต-มาร์กอนี |
ผู้ประพันธ์ดนตรี | มาเกอริต มอโน |
ผู้ประพันธ์เนื้อเพลง | เอดิต ปียัฟ |
อีมนาลามูร์ (ฝรั่งเศส: Hymne à l'amour; "เพลงสดุดีความรัก") เป็นเพลงภาษาฝรั่งเศสซึ่งเอดิต ปียัฟ แต่งคำร้องและขับร้อง และมาเกอริต มอโน แต่งทำนอง เพลงนี้แต่งขึ้นใน ค.ศ. 1949 และบันทึกเสียงในปีถัดมาให้แก่บริษัทโคลัมเบีย
เพลงนี้ได้รับการแปลต่อเป็นหลายภาษา ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ต้นฉบับ
[แก้]บทเพลงต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสนั้น เอดิต ปียัฟ แต่งคำร้องและขับร้อง และมาเกอริต มอโน แต่งทำนอง เอดิตแต่งเพลงนี้ให้แก่มาร์แซล แซร์ด็อง นักมวยซึ่งเป็นคนรักของเธอ[1] อย่างไรก็ดี ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ขณะเดินทางจากปารีสมานิวยอร์กเพื่อมาพบเธอ มาร์แซลเสียชีวิตลงในเหตุการณ์เครื่องบินสายการบินแอร์ฟร็องส์ เที่ยวบิน 009 ชนภูเขาจนผู้โดยสารทั้งหมดถึงแก่ความตาย ต่อมาเอดิตจึงบันทึกเสียงเพลงนี้ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 1950[1] เพลงนี้บรรจุอยู่ในอัลบัมเพลงของเอดิตหลายอัลบัม คือ เอดิตปียัฟ (ค.ศ. 1953), เลอตูร์เดอช็องเดดิตปียาฟาลอแล็งปียา นูว์เมโรเดอ (ค.ศ. 1956) และ เลอตูร์เดอช็องเดดิตปียาฟาลอแล็งปียา นูว์เมโรทรัว (ค.ศ. 1958)
ฉบับภาษาอังกฤษ
[แก้]เอดดี คอนสแตนติน ศิษย์ของเอดิต แปลเพลง "อีมนาลามูร์" เป็นภาษาอังกฤษ ให้ชื่อว่า "ฮิมน์ทูเลิฟ" และเอดิตบันทึกเสียงเพลงนี้เองเพื่อบรรจุไว้ในอัลบัม ลาวีอ็องโรส/เอดิตปียัฟซิงส์อินอิงลิช (ค.ศ. 1956)[2] ต่อมาซินดี ลอเปอร์ บันทึกเสียงเพลงนี้บรรจุไว้ในอัลบัม แอตแลสต์ (ค.ศ. 2003)[3]
เพลง "อีมนาลามูร์" ยังได้รับการดัดแปลงเป็นภาษาอังกฤษอีกฉบับหนึ่ง ชื่อว่า "อิฟยูเลิฟมี (รีลลีเลิฟมี)" มีจอฟฟรีย์ พาร์ซันส์ เป็นผู้แต่งคำร้อง และเคย์ สตาร์ เป็นผู้บันทึกเสียงใน ค.ศ. 1954 ฉบับของเคย์นี้ติดอันดับ 4 ในผังของ บิลบอร์ด ว่าด้วยอันดับเพลงที่มียอดขายดีในร้านและได้รับการเปิดจากดีเจมากที่สุด[4] ทั้งติดอันดับ 20 ในผังของ บิลบอร์ด ว่าด้วยเพลงยอดนิยมตามยอดขายปลีกประจำปี ค.ศ. 1954 และติดอันดับ 20 ในผังของ บิลบอร์ด ว่าด้วยเพลงยอดนิยมตามการเปิดของดีเจประจำปี ค.ศ. 1954[5]
เพลง "อิฟยูเลิฟมี (รีลลีเลิฟมี)" ยังได้รับการบันทึกเสียงจากแมรี ฮอปกิน ใน ค.ศ. 1976 ฉบับนี้ติดอันดับ 32 ในผังซิงเกิลสหราชอาณาจักร[6]
โอลิมปิก 2024
[แก้]เซลีน ดิออน ขับร้องเพลง "อีมนาลามูร์" จากระเบียงหอไอเฟลเพื่อปิดพิธีเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่ปารีสในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2024[7] การขับร้องของเซลีนได้รับเสียงชื่นชมจากสาธารณชน[8][9][10] และได้รับการระบุว่าเป็นการแสดงครั้งประวัติศาสตร์[11]
ฉบับภาษาญี่ปุ่น
[แก้]เพลง "อีมนาลามูร์" ได้รับการดัดแปลงเป็นฉบับภาษาญี่ปุ่น ชื่อว่า "อาอิโนะซังกะ" มีโทกิโกะ อิวาตานิ เป็นผู้แต่งคำร้อง และฟูบูกิ โคชิจิ เป็นผู้บันทึกเสียงใน ค.ศ. 1951 เมื่อออกเป็นซิงเกิลรวมกับเพลงอื่นแล้ว มียอดขายราวสองล้านชุด และได้รับความนิยมจนกลายเป็นเพลงประจำตัวของฟูบูกิ[12] เพลงฉบับนี้ยังได้รับการนำไปขับร้องใหม่จากเคโกะ มาซูดะ เพื่อบรรจุลงอัลบัม อาอิโชกะ ใน ค.ศ. 2014[13][14]
เพลง "อีมนาลามูร์" ยังได้รับการขับร้องใหม่จากฮิการุ อูตาดะ ใน ค.ศ. 2010 ให้ชื่อว่า "อีมนาลามูร์ (อาอิโนะแอนเทม)"[15] ชื่อ "อาอิโนะแอนเทม" นี้ปรากฏแต่เฉพาะฉบับของฮิการุ ส่วนฉบับอื่น ๆ ในภาษาญี่ปุ่นใช้ชื่อ "อาอิโนะซังกะ" เหมือนฉบับของฟูบูกิข้างต้น[12] ฉบับของฮิการุนี้ติดอันดับ 5 ในในผังเพลงอะดัลต์คอมเทมโพรารีของ บิลบอร์ด[16] อันดับ 7 ในผังเจแปนฮอต 100 ของ บิลบอร์ด และอันดับ 19 ใน 100 อันดับแรกของผังอาร์ไอเอเจดิจิทัลแทร็ก
อัตสึโกะ มาเอดะ ขับร้องเพลง "อาอิโนะซังกะ" ในภาพยนตร์เรื่อง ทูดิเอนด์ออฟดิเอิร์ท (ค.ศ. 2019) ซึ่งตั้งชื่อเรื่องตามเนื้อเพลง[17]
เพลง "อาอิโนะซังกะ" ยังได้รับการขับร้องในพิธีปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ที่โตเกียวเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ผู้ขับร้องคือมิเลต[18]
ฉบับภาษาไทย
[แก้]เพลง "อิฟยูเลิฟมี (รีลลีเลิฟมี)" ซึ่งเป็นฉบับภาษาอังกฤษของเพลง "อีมนาลามูร์" ได้รับการดัดแปลงเป็นฉบับภาษาไทย ชื่อว่า "ถ้ารักฉันจริง" มีสุรพล โทณะวณิก เป็นผู้แต่งคำร้อง และสวลี ผกาพันธุ์ เป็นผู้บันทึกเสียง[11]
ในวรรณกรรม
[แก้]เพลงนี้เป็นแกนกลางนวนิยายแนวอัตชีวประวัติของอาน วียาแซมสกี เรื่อง อีมน์ซาลามูร์ (ค.ศ. 1996) ซึ่งได้รับรางวัลมอริส เฌินวัว ประจำปีดังกล่าว[19]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Cramer, Alfred W. (2009). Musicians and Composers of the 20th Century. Vol. 4. Salem Press. p. 1107. ISBN 9781587655166.
- ↑ Édith Piaf – La Vie En Rose / Édith Piaf Sings In English ที่ดิสคอกส์
- ↑ Cydndi Lauper – At Last ที่ดิสคอกส์
- ↑ "The Billboard Music Popularity Charts: Popular Records", Billboard. June 5, 1954. p. 32. Retrieved August 14, 2019.
- ↑ "1954's Top Popular Records", Billboard. December 25, 1954. p. 17. Retrieved August 14, 2019.
- ↑ Mary Hopkin – Full Official Chart History, Official Charts Company. Retrieved August 14, 2019.
- ↑ Dickerson, Claire Gilbody (27 July 2024). "Celine Dion makes spectacular comeback with Eiffel Tower performance at Paris Olympics opening ceremony". Sky News. สืบค้นเมื่อ 27 July 2024.
- ↑ "Céline Dion's dazzling Olympics performance renders Kelly Clarkson speechless". usatoday.com. 2024-07-27.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Richardson, Andrew Cesare (2024-07-27). "Paris Olympics: Celine Dion wows at opening ceremony 18 years on from Atlanta performance". scmp.com.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Phillips, Zoe G (2024-07-26). "Celine Dion Gives First Public Performance Amid Stiff-Person Syndrome Diagnosis at Olympics Opening Ceremony". hollywoodreporter.com.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 11.0 11.1 อนันเต่า, ภัทรณกัญ (2024-07-27). "เบื้องหลังการแสดงครั้งประวัติศาสตร์ของ Celine Dion ณ พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024". thestandard.co.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 12.0 12.1 夢を語るシーンでの衣装は越路吹雪さんご本人の私服! (ภาษาญี่ปุ่น). Fuji TV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2012. สืบค้นเมื่อ November 10, 2010.
- ↑ "★6年ぶりのオリジナル・アルバム『愛唱歌』本日12/10発売! オリジナルの大内義昭とデュエットしたミリオン・セラー・ソングのカバー「愛が生まれた日」のビデオ公開!". Warner Music Japan. 2014-12-10. สืบค้นเมื่อ 2020-03-22.
- ↑ "「愛唱歌」発売記念イベント・レポート". Kei-Office. 2014-12-11. สืบค้นเมื่อ 2020-03-22.
- ↑ "先行デジタルシングルHymne à l'amour ~愛のアンセム~" (ภาษาญี่ปุ่น). EMI. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 17, 2010. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
- ↑ "レコード協会調べ 2010年10月06日~2010年10月12日<略称:レコ協チャート(「着うたフル(R)」)>" (ภาษาญี่ปุ่น). Recording Industry Association of Japan. October 15, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2012. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
- ↑ Peter Bradshaw (12 November 2020). "To the Ends of the Earth review – dreamlike vision of clashing cultures". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 18 July 2021.
- ↑ "J-pop singer Milet is excited for her first overseas performance at Hong Kong Clockenflap". Young Post. 23 February 2023. สืบค้นเมื่อ 27 July 2024.
- ↑ "Site de la ville de Garches – Les lauréats (1985–2007)" (ภาษาฝรั่งเศส). Sortir à Garches & Equipements culturels. สืบค้นเมื่อ November 10, 2010.