สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ดในฤดูกาล 1992–93
ฤดูกาล 1992–93 | |||
---|---|---|---|
ประธานสโมสร | เซอร์จอห์น ฮอลล์ | ||
ผู้จัดการทีม | เควิน คีแกน | ||
สนาม | เซนต์เจมส์พาร์ก | ||
ดิวิชัน 1 | แชมป์ | ||
ผู้เข้าชมในบ้านเฉลี่ย | 26,511 คน | ||
| |||
ในช่วง 1992–93 นิวคาสเซิลยูไนเต็ดเข้าร่วมการแข่งขันในฟุตบอลลีกดิวิชัน 1
นิวคาสเซิลเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดจากการคว้าแชมป์ดิวิชัน 1 เดอะแม็กพายส์เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1993–94
สรุปฤดูกาล
[แก้]หลังจากรอดพ้นจากการตกชั้นจากดิวิชั่น 2 (ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นดิวิชั่น 1) ในฤดูกาลก่อนหน้าไปอย่างหวุดหวิด นิวคาสเซิลยูไนเต็ดภายใต้การนำของเควิน คีแกน ก็สามารถก้าวกระโดดขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ในฤดูกาลนี้ ทีมของคีแกนโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนือชั้น และเกือบจะทำลายสถิติการชนะติดต่อกันมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ แต่แล้วก็ต้องมาสะดุดเสียก่อนด้วยความพ่ายแพ้คาบ้านต่อทีมกริมสบีทาวน์ ด้วยสกอร์ 0-1
นิวคาสเซิลในฤดูกาลนั้นมีคู่หูหน้าเป้าอันตรายอย่างแอนดี โคล และ เดวิด เคลลี โดยมีกองกลางฝีเท้าดีคอยสนับสนุน อาทิ พอล เบรซเวลล์, แกวิน พีค็อก, โรเบิร์ต ลี และ ไบรอัน 'คิลเลอร์' คิลไคลน์ ซึ่งเป็นกองหลังตัวแกร่งที่ได้มาแบบไม่มีค่าตัว และต่อมาคีแกนก็ยกย่องว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของเขา
นัดเยือนกริมสบีทำให้นิวคาสเซิลเลื่อนชั้นและคว้าแชมป์ลีกด้วยการชนะ 2–0 ในค่ำคืนที่สะเทือนอารมณ์สำหรับกองเชียร์ของสโมสร ซึ่งบุกลงไปในสนามเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายเพื่อแสดงความยินดีกับ 'คิงเคฟ' (ฉายาของคีแกน) ของพวกเขา และนักเตะที่พาสโมสรกลับสู่ลีกสูงสุดหลังจากตกชั้นไป 4 ปี ในช่วงปลายฤดูกาล คีแกนเซ็นสัญญาคว้าตัวแอนดี โคล กองหน้าดาวรุ่งจากบริสตอลซิตี ซึ่งเขาตอบแทนค่าตัวสำหรับการย้ายทีมของเขาด้วยการยิง 12 ประตูจาก 11 นัดสุดท้ายของฤดูกาล
คีแกนเซ็นสัญญาคว้าตัวอดีตฮีโร่ของสโมสรในยุค 80 ซึ่งเป็นอดีตกองหน้าคู่หูของเขาอย่างปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ จากเอฟเวอร์ตันกลับมาสู่สโมสรอีกครั้งในช่วงปิดฤดูกาล