จอห์น ฮอลล์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จอห์น ฮอลล์
เกิด (1933-03-21) 21 มีนาคม ค.ศ. 1933 (91 ปี) (พ.ศ. 2476)
แอชซิงตัน นอร์ทัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ
อาชีพนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ประธานทีมฟุบอล
พรรคการเมืองพรรคอนุรักษนิยม (สหราชอาณาจักร)
บุตร2

เซอร์ จอห์น ฮอลล์ (อังกฤษ: Sir John Hall; เกิด 21 มีนาคม 1933) เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในนอร์ทอีสต์แลนด์ของอังกฤษ เขาเป็นประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ตลอดชีพและยังเป็นอดีตประธานสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ดอีกด้วย

ประวัติ[แก้]

เขาเป็นบุตรชายของคนงานเหมือง ฮอลล์เกิดและเติบโตในนอร์ทซีตัน, แอชชิงตัน, นอร์ทัมเบอร์แลนด์ และเขาเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมเบดลิงตัน จนถึงปี ค.ศ. 1949[1] ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจของตัวเอง เขาทำงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในฐานะนักสำรวจ[2]

ในทศวรรษที่ 1980 บริษัทของฮอลล์คือ คาเมรอน ฮอลล์ ดีเวลอปเมนท์ ได้เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างห้างสรรพสินค้าเมโทรเซ็นเตอร์ ใน ดันสตัน เกตส์เฮด[3]

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2010 ฮอลล์ประกาศว่าเขาเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่ผ่าตัดไม่ได้และกำลังจะเริ่มดำเนินการรักษาด้วยเคมีบำบัดแบบเข้มข้น[4] ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2011 มะเร็งถูกควบคุมโดยการใช้ยา และฮอลล์กำลังจดจ่ออยู่กับโครงการสุดท้ายของเขา นั่นคือสวนกุหลาบมูลค่า 2.5 ล้านปอนด์ที่คฤหาสน์วินยาร์ดพาร์ก ของเขา[5]

สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด[แก้]

ฮอลล์เข้าซื้อกิจการของนิวคาสเซิลยูไนเต็ดและแต่งตั้งเควิน คีแกนตำนานกองหน้าของทีมเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 แทนที่ของออสซี่ อาร์ดิเลสในขณะนั้นสโมสรยังอยู่ในดิวิชัน 2 หรืออีเอฟแอลแชมเปียนชิป ในปัจจุบัน ซึ่งคีแกนพลิกชะตาของสโมสรโดยนำทีมรอดจากการตกชั้นสู่ดิวิชัน 3 หรืออีเอฟแอลลีกวัน ในปัจจุบัน ให้กลายเป็นคู่แข่งชิงแชมป์ลีกกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี ค.ศ. 1996[6]

หลังจากการเข้าซื้อกิจการของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ฮอลล์ได้ประกาศความตั้งใจที่จะสร้าง "สโมสรกีฬา" แนวเดียวกับสโมสรกีฬาหลายประเภทในยุโรปเช่น เอฟซี บาร์เซโลนา ด้วยเหตุนี้เขาจึงซื้อ นิวคาสเซิลฟัลคอนส์ (รักบี้), นิวคาสเซิลอีเกิลส์ (บาสเกตบอล) และ เดอร์แรมวอสป์ (ฮ็อกกี้น้ำแข็ง) ในปี ค.ศ. 1995 ซึ่งในเวลาต่อมา เดอแรมวอสป์ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น นิวคาสเซิลคอบราส์[7]

ฮอลล์วางแผนที่จะสร้างสนามรักบี้ ฟุตบอล และลานสเก็ตน้ำแข็งแห่งใหม่ที่ลีเซสพาร์ก แต่โครงการถูกปฏิเสธหลังจากการยื่นคำร้องคัดค้านจำนวน 38,000 รายชื่อที่จัดทำโดยชาวบ้านในท้องถิ่น เขาจึงเริ่มสร้างอัฒจันทร์ของเซนต์เจมส์พาร์ก ขึ้นใหม่แทน โดยเริ่มจาก ลีเซส เอนด์ สแตนด์ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ เซอร์ จอห์น ฮอลล์ สแตนด์

ในปี ค.ศ. 1997 ฮอลล์มอบตำแหน่งประธานสโมสรให้กับ เฟรดดี เชพเพิร์ด จากนั้นเขาก็ขายหุ้นทั้งหมด 41.6% ให้กับนักธุรกิจค้าปลีกด้านกีฬา ไมค์ แอชลีย์ จาก สปอร์ตส์ ไดเร็คท์ ในราคา 55 ล้านปอนด์ในวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2007 โดยประเมินมูลค่าสโมสรไว้ที่ 133.1 ล้านปอนด์[8]

อ้างอิง[แก้]

  1. "Sir John Hall's zeal is opening up the North-east frontier – Sport – The Independent". The Independent. London. 1995-11-01.
  2. "Sir John cheers on risk-takers". The Journal. 2007-07-14. สืบค้นเมื่อ 2007-07-29.
  3. Barbara Hodgson (29 October 2016). "How Gateshead's Metrocentre was made - and why it was built on a 'great big clarty field'". Newcastle Chronicle. สืบค้นเมื่อ 2 August 2022.
  4. The Guardian, 7 April 2010
  5. The Daily Telegraph, 15 February 2011
  6. "Newcastle United | Club | History | Club History | Club History | The Keegan Years". www.nufc.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 1 เมษายน 2016.
  7. "Durham Memories: Ice rink that was built of surplus coffins". The Northern Echo. 2003-08-15. สืบค้นเมื่อ 2007-07-30.
  8. "Newcastle get £133m buyout offer". BBC News. 2007-05-23. สืบค้นเมื่อ 2007-07-29.