สันนิบาตอีโทเลียน
สันนิบาตแห่งชาวอีโทเลีย Koinon tōn Aitōlōn | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล–188 ปีก่อนคริสตกาล | |||||||||
เมืองหลวง | เทอร์มอน (ที่ประชุม) | ||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษากรีกดอริก, ภาษากรีกคอยนี | ||||||||
ศาสนา | ศาสนากรีกโบราณ | ||||||||
การปกครอง | สมาพันธ์ชุมชนเผ่าและนคร | ||||||||
สภานิติบัญญัติ | สภาอีโทเลียน | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สมัยคลาสสิก | ||||||||
• ก่อตั้ง | ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล | ||||||||
• สนธิสัญญากับโรม หลังสงครามโรมัน–ซิลูซิด | 188 ปีก่อนคริสตกาล | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | กรีซ |
สันนิบาตอีโทเลียน (กรีกโบราณ: Κοινὸν τῶν Αἰτωλῶν)[1] เป็นสมาพันธ์ชุมชนเผ่าและนคร[2] กรีซโบราณที่มีศูนย์กลางอยู่ที่ภูมิภาคอีโทเลีย ทางตอนกลางของกรีซ สันนิบาตนี้อาจก่อตั้งช่วงต้นสมัยเฮลเลนิสต์เพื่อต่อต้านมาซิดอนและสันนิบาตอะเคียน การประชุมประจำปีสองครั้งจัดที่เทอร์มิกาและพาเนโตลิกา สันนิบาตอีโทเลียนยึดครองเดลฟีตั้งแต่ 290 ปีก่อนคริสตกาลและได้ดินแดนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสิ้นศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล สันนิบาตก็ครอบครองตอนกลางของกรีซเกือบทั้งหมดยกเว้นแอตติกาและบีโอเชีย สันนิบาตในยุครุ่งเรืองที่สุดแผ่ขยายไปถึงโลคริส มาลิส โดโลเปส เธสซาลีบางส่วน โฟซิส และอะคาร์นาเนีย[3] ช่วงปลายอำนาจ นครรัฐกรีกที่เข้าร่วมสันนิบาตอีโทเลียนได้แก่ แมนติเนอา ทีเจีย ฟิจาเลีย และซีโดเนีย[4]
ยังไม่แน่ชัดว่าสันนิบาตอีโทเลียนถูกก่อตั้งในปีใด มีการเสนอว่าสันนิบาตถูกก่อตั้งโดยเอปามีโนนดัส แม่ทัพชาวธีบส์ใน 367 ปีก่อนคริสตกาล[5][6] ขณะที่จอห์น ดี. เกรนเจอร์ นักประวัติศา่สตร์เชื่อว่าน่าจะก่อตั้งหลังจากนั้น ในช่วงพีลิปโปสที่ 2 แห่งมาเกโดนีอาเรืองอำนาจ[7] ชาวอีโทเลียไม่ได้รับการยอมรับจากชาวกรีกอื่นในสมัยคลาสสิก โดยมองว่าพวกเขาป่าเถื่อน[8] แต่กระนั้นสันนิบาตมีโครงสร้างบริหารจัดการที่ซับซ้อนและมีกองทัพที่ทัดเทียมกับนครรัฐกรีกอื่น ๆ สันนิบาตอีโทเลียนก้าวขึ้นมามีอำนาจนำในตอนกลางของกรีซในสมัยเฮลเลนิสต์และผนวกหลายนครรัฐเข้ามาอยู่ใต้อำนาจ ขณะเดียวกันก็สู้รบกับมาซิดอนและกลายเป็นพันธมิตรกับโรม ซึ่งนำไปสู่การพิชิตกรีซของโรมัน
ประวัติ
[แก้]ชาวอีโทเลียมีศูนย์กลางอยู่ที่เทอร์มอสมาตั้งแต่อย่างน้อยศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล เริ่มแรกพวกเขาวางตัวเป็นกลางในสงครามเพโลพอนนีเซียน แต่เมื่อเอเธนส์พยายามบุกครองอีโทเลียใน 426 ปีก่อนคริสตกาล พวกเขาโต้กลับจนเอเธนส์ล่าถอย[9] ระหว่างศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล สันนิบาตอีโทเลียนให้การสนับสนุนนครรัฐที่มีอำนาจมากกว่าและได้รับอีโอลิส ดินแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของเอเชียน้อยจากธีบส์ใน 367 ปีก่อนคริสตกาล และนอแพกทอสจากพีลิปโปสที่ 2 แห่งมาเกโดนีอาใน 338 ปีก่อนคริสตกาล หลังพีลิปโปสที่ 2 สวรรคต ชาวอีโทเลียร่วมกับชาวธีบส์ต่อต้านอเล็กซานเดอร์มหาราช โอรสของพีลิปโปสที่ 2 แต่พ่ายแพ้ สันนิบาตเข้ากับเอเธนส์ในสงครามลาเมียน (323–322 ปีก่อนคริสตกาล) ที่อุบัติขึ้นหลังอเล็กซานเดอร์สวรรคต และต่อต้านมาซิดอนต่อในสงครามไดแอโดไค (322–281 ปีก่อนคริสตกาล) ต่อมาใน 279 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอีโทเลียได้ชัยเหนือชาวกอลที่บุกครองกรีซ ชัยชนะนี้ทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับจากชาวกรีกอื่นและมีโอกาสเข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตแอมฟิกทีออนิก 220 ปีก่อนคริสตกาล สันนิบาตอีโทเลียนสู้กับราชอาณาจักรมาเกโดนีอาในสงครามโซเชียล (220–217 ปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งจบลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพนอแพกทอส[10]
สันนิบาตอีโทเลียนเป็นพันธมิตรกรีกกลุ่มแรกของสาธารณรัฐโรมัน ช่วยเหลือฝ่ายโรมันรบกับมาซิดอนในสงครามมาซิดอนครั้งที่หนึ่ง (215–205 ปีก่อนคริสตกาล) และร่วมกำราบพีลิปโปสที่ 5 แห่งมาเกโดนีอาในยุทธการที่ไซโนสเซฟาลีระหว่างสงครามมาซดอนครั้งที่สอง (200–197 ปีก่อนคริสตกาล)[11] ภายหลังทั้งสองเป็นปรปักษ์กันเมื่อโรมรุกล้ำภูมิภาคกรีซมากขึ้น สันนิบาตอีโทเลียนอยู่ข้างพระเจ้าแอนทิโอคัสมหาราชในสงครามโรมัน–ซิลูซิด (192–188 ปีก่อนคริสตกาล) แต่ความปราชัยของพระเจ้าแอนทิโอคัสใน 189 ปีก่อนคริสตกาลทำให้สันนิบาตไม่อาจต้านทานทัพโรมัน และถูกบังคับให้ลงนามในสนธิสัญญาหย่าศึก สันนิบาตจึงสูญสิ้นอำนาจในที่สุด[12]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Αἰτωλός - Ancient Greek (LSJ) 👍". lsj.gr. สืบค้นเมื่อ 2020-07-28.
- ↑ Grainger, 1999
- ↑ "Aetolian League". Encyclopedia.com. สืบค้นเมื่อ May 10, 2021.
- ↑ Hogan, 2008
- ↑ http://omiriki-ereuna.blogspot.gr/p/blog-page_2325.html
- ↑ N. Tod, A selection of Greek Historical Inscriptions, vol. 2, p. 137
- ↑ John D. Grainger, The League of the Aetolians, p. 49
- ↑ West, 1902
- ↑ Thucydides 3.94
- ↑ Walbank 1967.
- ↑ "Aetolian League". Livius. October 12, 2020. สืบค้นเมื่อ May 10, 2021.
- ↑ "Aetolian League". Britannica. สืบค้นเมื่อ May 10, 2021.