ข้ามไปเนื้อหา

ริซเซิลคิกส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ริซเซิลคิกส์
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดไบรตัน, สหราชอาณาจักร
แนวเพลงป็อป, ฮิปฮอป
เครื่องดนตรีเสียงร้อง
ช่วงปี2008–ปัจจุบัน
สมาชิกJordan "Rizzle"
Harley "Sylvester"
เว็บไซต์Rizzle Kicks Official Website

ริซเซิลคิกส์ (อังกฤษ: Rizzle Kicks) เป็นดูโอฮิปฮอปอังกฤษ ก่อตั้งวงในปี ค.ศ. 1996 มีสมาชิกคือ ริเซล แชและ ฮาร์เลย์ ซิลเวสเตอร์ วงมีซิงเกิลเปิดตัวคือ "Prophet (Better Watch It)" ออกขายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2011 ตามมาด้วยซิงเกิลที่ 2 "Down With the Trumpets" ออกขายวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2011 ติดอันดับในยูเคซิงเกิลส์ชาร์ตที่อันดับ 22 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 นอกจากนั้นยังมีผลงานเพลงร่วมร้องกับศิลปิน อลลี เมอร์ส เพลง "Heart Skips a Beat" ออกขายวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2011[1]

ประวัติ

[แก้]

จอร์แดน เริ่มต้นกับการหัดร้องเพลงแรพตอนอายุ 14 ปี เขาแสดงโชว์ของตัวเองครั้งแรกในงานการกุศลของสถาบันดนตรีแห่งหนึ่ง และภายหลัง ฮาลี่ย์ก็มาร่วมด้วย ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน ภายหลังพวกเขาเริ่มตั้งกลุ่มฮิปฮอปของตัวเองขึ้นภายในสถาบัน และแสดงโชว์เล็ก ๆ ขึ้นต่อเนื่อง

ระหว่างนั้น ทั้งคู่เข้าศึกษาในโรงเรียน BRIT School จอร์แดนเรียนดนตรี ส่วน ฮาลีย์เรียนภาพยนตร์ พวกเขาเริ่มทำมิกซ์เทปของตัวเอง โดยได้รับแรงบรรดาลใจมาจากศิลปินที่ชอบอย่าง กอริลลาซ, ลิลี อัลเลน, อาร์กติกมังกีส์ และเมื่ออายุได้ 16 ทั้งคู่เลยตัดสินใจฟอร์ม "Rizzle Kicks" ขึ้น โดยมาจากฉายาของ จอร์แดนที่เพื่อน ๆ ในทีมฟุตบอลเรียกเขาว่า Rizla และถูกเปลี่ยนมาเป็น Rizzle และเติมคำว่า Kicks ลงไปเพราะพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ชื่นชอบฟุตบอล

ขณะเรียนทั้งคู่ก็ยังมีงานแสดงโชว์เล็ก ๆ น้อยของตัวเองกับสถาบันดนตรีที่ทั้งคู่เรียนตั้งแต่เด็ก ๆ อย่าง AudioActive ต่อมา ทั้งคู่มอบเครดิตทั้งหมดของตัวเองให้โรงเรียนดนตรี AudioActive ทั้งหมด ไม่มีสถาบันนี้ก็ไม่มี "ริซเซิลคิกส์" จากการทำมิกซ์เทป ทั้งคู่เริ่มแต่งเพลงและทำเดโมของตัวเอง เขาเริ่มมีผลงานเพลงของตัวเองและอัพลงบล็อกของวง และเริ่มมีความคิดอยากผลิตมิวสิกวิดีโอ ทั้งคู่เลยเริ่มต้นถ่ายมิวสิกวิดีโอ โดยมี ช่างภาพงานแต่งคนหนึ่งที่พบกันในปาร์ตี้เป็นคนช่วยถ่ายทำ พอเรียนจบตอนอายุ 18 ฮาลีย์ไปเป็นผู้ช่วยกับอาจารย์ที่สอนวิชาการละคร แต่จอร์แดนได้งานพิเศษที่รายได้ไม่ดีนัก ต่อมามีค่ายเพลงสนใจวิดิโอที่วงอัพไว้ใน Youtube และทั้งคู่ตัดสินใจเซนต์สัญญากับค่าย Island และเริ่มผลิตผลงานอัลบั้มแรกของตัวเอง

พออายุ 19 พวกเขาออกซิงเกิลโปรโมตแรกในชีวิตอย่าง Prophet (Better Watch It) และพวกเขาก็พบกับเรื่องไม่คาดฝันว่าจะมีนักแต่งเพลงชื่อดังชอบเพลงของพวกเขา สตีเฟ่น ทอดด์ เขาเป็นคนดังของอังกฤษ เป็นทั้งนักแสดง, คนเขียนบท, นักแต่งเพลง ฯลฯ และได้ฟรายทวิตฯเกี่ยวกับเพลงของ ริซเซิลคิกส์ ว่า "ผลงานของ ริซเซิลคิกส์ น่าสนใจอย่างไม่คาดฝัน ให้บรรยากาศของ Oldschool Hiphop ได้ดีจริง ๆ"

ริซเซิลคิกส์ ในปี ค.ศ. 2014

ต่อมาพวกเขาเริ่มได้ขึ้นเป็นวงเปิดของศิลปินต่าง ๆ จนกระทั่งในเทศกาลดนตรี Reading and Leeds ปี 2011 ทั้งคู่ถูกเชิญให้เป็นวงหลักในเวทีของ BBC และตามมาด้วยโชว์ในงานของ Radio 1 Prophet (Better Watch It) เป็นเพียงซิงเกิลโปรโมต ที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดฟรี แต่มันก็สร้างชื่อให้ ริซเซิลคิกส์ ได้พอสมควรในแวดวงคนฟังเพลงและชาวเทศกาลดนตรี ในเดือนเดียวกันนั้นเอง วงก็ได้ปล่อยซิงเกิลเปิดตัวแบบเสียเงินดาวน์โหลดอย่าง Down With the Trumpets ออกมา และทันทีที่ปล่อย มันก็ทะลุเข้าไปสู่ สหราชอาณาจักร ทันที Down With the Trumpets ใช้เวลา 4 เดือนในการไต่อันดับไปสูงสุดที่อันดับ 8 และครองอันดับใน TOP 40 ของสหราชอาณาจักร นานถึง 13 สัปดาห์

ระหว่างนั้นทั้งคู่ยังได้ออกซิงเกิลที่ 2 อย่าง When I Was a Youngster มาและมันก็มีทิศทางเช่นเดียวกับ Down With the Trumpets มันพุ่งเข้าสู่สหราชอาณาจักร อย่างง่ายดาย และไต่อันดับไปอยู่ใน TOP 40 อีกครั้ง ริซเซิลคิกส์ ออกอัลบั้มเต็มของตัวเองครั้งแรกในเดือน ตุลาคม 2011 : Stereo Typical ที่ใช้เวลาในการทำยอดขายสู่ระดับ แพลตตินั่มในเวลา 8 เดือน และวันนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม Roaring 20s โดยซิงเกิลแรกของวงอย่าง Lost Generation เปิดตัวอย่างแรงด้วยอันดับ 6 บนสหราชอาณาจักร

แม้ Lost Generation จะกระแสวิพากย์วิจารณ์และการฟ้องร้องทางกฎหมายอยู่นิดหน่อยเนื่องจากมีการพาดพิงถึงบุคคลบางคนในวงการ อย่างกัปตันทีมฟุตบอลคนดังของเชลซี จอห์น เทร์รี โดยเนื้อเพลง Lost Generation นั่นเอ่ยขึ้น จอห์น เทอร์รี่โดยมีนัยล้อเลียนเรื่องที่เขาเหยียดผิว แอนทอน เฟอร์ดินานด์ จนเจอสั่งแบนและปรับเงิน รวมไปถึงมีชื่อของพิธีกรคนดังอย่าง เจเรมี ไคล์ อีกด้วย

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Olly Murs teases new single 'Heart Skips A Beat' - Music News - Digital Spy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-24. สืบค้นเมื่อ 2011-08-04.