ข้ามไปเนื้อหา

มาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์
พระสาทิสลักษณ์พระราชินีมาร์เกรเธอบนภาพแท่นบูชาพระตรีเอกานุภาพ วาดโดยฮือโค ฟัน เดอร์คุส ราวค.ศ. 1480
สมเด็จพระราชินีแห่งชาวสกอต
ครองราชย์กรกฎาคม ค.ศ. 1469–
14 กรกฎาคม ค.ศ. 1486
ก่อนหน้ามาเรียแห่งเกลเดอร์ส
ถัดไปมาร์กาเร็ตแห่งอังกฤษ
พระราชสมภพ23 มิถุนายน ค.ศ. 1456
ปราสาทโคเปนเฮเกน, โคเปนเฮเกน, เดนมาร์ก
สวรรคต14 กรกฎาคม ค.ศ. 1486 (พระชนมายุ 30 พรรษา)
ปราสาทสเตอร์ลิง, สเตอร์ลิง, สกอตแลนด์
ฝังพระศพโบสถ์แคมบัสเค็นเน็ท
คู่อภิเษกพระเจ้าเจมส์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์
พระราชบุตร
พระนามเต็ม
มาร์เกรเธอ อัฟ อ็อลเดินบวร์ค
ราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค(โดยประสูติ)
สทิวเวิร์ต (โดยเสกสมรส)
พระราชบิดาพระเจ้าคริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก
พระราชมารดาโดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค
ศาสนาโรมันคาทอลิก

เจ้าหญิงมาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก หรือ มาร์กาเร็ตแห่งเดนมาร์ก (เดนมาร์ก:Margrete af Danmark; 23 มิถุนายน ค.ศ. 1456 - 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1486) ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ตั้งแต่ค.ศ. 1469 ถึง ค.ศ. 1486 จากการอภิเษกสมรสกับพระเจ้าเจมส์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์ พระนางเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าคริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก นอร์เวย์และสวีเดน กับโดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค

พระชนม์ชีพ

[แก้]
ตราพระราชลัญจกรพระนางมาร์เกรเธอในฐานะสมเด็จพระราชินีสกอตแลนด์

เจ้าหญิงมาร์เกรเธอประสูติในเดนมาร์กเป็นพระราชธิดาในพระเจ้าคริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก, นอร์เวย์และสวีเดน กับสมเด็จพระราชินีโดโรเธีย ไม่มีการบันทึกถึงพระชนม์ชีพช่วงต้นเท่าไรนัก มีเพียงตอนที่ทรงมีพระชนมายุ 4 พรรษา มีการกล่าวถึงแผนการอภิเษกสมรสของพระนางกับเจ้าชายเจมส์แห่งสกอตแลนด์[1] ในปีค.ศ. 1468 เจ้าหญิงมาร์เกรเธอทรงหมั้นหมายกับเจ้าชายเจมส์แห่งสกอตแลนด์ เพื่อยุติความบาดหมางที่สกอตแลนด์ติดหนี้เดนมาร์กในเรื่องภาษีดินแดนแฮบริดีสและไอล์ออฟแมน การอภิเษกสมรสครั้งนี้จัดขึ้นตามคำแนะนำของพระเจ้าชาร์ลที่ 7 แห่งฝรั่งเศส ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1469 ขณะทรงมีพระชนมายุ 13 พรรษา พระนางได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าเจมส์ที่ 3 แห่งสกอตแลนด์ที่แอบบีย์ฮอลีรูด เมื่ออภิเษกสมรส หนี้ทั้งหมดของสกอตแลนด์ก็ถูกบอกล้าง[1] วิลเลียม ซินแคลร์ เอิร์ลที่ 1 แห่งเคธเนส ในขณะนั้นดำรงเป็นเอิร์ลแห่งออร์กนีย์ของชาวนอร์ส ในปีค.ศ. 1472 ซินแคลร์เสนอแลกเปลี่ยนดินแดนศักดินาออร์กนีย์ของเขาแลกกับปราสาทเรเวนสเครก ดังนั้นราชบัลลังก์สกอตแลนด์จึงได้สิทธิ์เป็นเอิร์ลเหนือหมู่เกาะต่างๆ ด้วย[2]

พระนางถูกเรียกในสกอตแลนด์ฐานะ สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตทรงได้รับจอยน์เชอ (ทรัพย์สินที่สามียกให้ภริยาต่อเมื่อตนตายแล้ว) ขนาดใหญ่ที่สุดตามที่กฎหมายสกอตแลนด์อนุญาตในข้อตกลงการอภิเษกสมรสของพระนาง โดยเป็นหนึ่งในสามของรายได้ราชวงศ์ พร้อมด้วยกับพระราชวังลินลิธโกว์และปราสาทดูน พระนางสนพระทัยในฉลองพระองค์และเครื่องประดับ และทรงเป็นที่รู้จักจากการที่ทรงฉลองพระองค์ตามสมัยนิยมตลอดเวลา[3] หลังจากทรงมีพระประสูติกาล เจ้าชายเจมส์ ในปีค.ศ. 1473 พระนางเสด็จจาริกแสวงบุญไปยังโบสถ์วิทธอร์นและเสด็จไปประทับร่วมกับกษัตริย์ที่พระราชวังฟอล์กแลนด์[4] พระราชินีทรงสอนให้พระราชโอรสตรัสภาษาเดนมาร์ก พระนางเป็นพระราชินีที่โด่งดังในสกอตแลนด์และได้รับขนานนามว่าทรงพระสิริโฉม อ่อนโยนและมีเหตุผล[5]

ความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตกับพระเจ้าเจมส์ที่ 3 นั้นไม่มีความสุข มีรายงานว่า พระนางไม่พอพระทัยพระราชสวามีมากนัก และทรงมีความสัมพันธ์ทางเพศกับพระองค์เพื่อให้กำเนิดรัชทายาทเท่านั้น แม้ว่าพระนางจะทรงเคารพพระองค์ในฐานะพระมหากษัตริย์ก็ตาม[3] เหตุผลหนึ่งที่แสดงถึงความห่างเหินกันคือ พระเจ้าเจมส์ที่ 3 ทรงโปรดพระราชโอรสองค์รองมากกว่าพระราชโอรสองค์ใหญ่[3] ในปีค.ศ. 1476 พระเจ้าเจมส์ที่ 3 ทรงตัดสินพระทัยว่า พระองค์ประสงค์ตำแหน่งเอิร์ลแห่งรอสเพื่อพระราชทานให้พระราชโอรสองค์รอง และทรงกล่าวหา จอห์น แมคดอนัลด์ ผู้รั้งตำแหน่งเอิร์ลว่าเป็นกบฏ จากนั้นแมคดอนัลด์ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีต่อหน้าสภาขุนนาง แต่ด้วยคำขอของสมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ต ทำให้เขายังคงดำรงตำแหน่งลอร์ดแห่งสภาต่อไป[3] ในช่วงวิกฤตการณ์ ค.ศ. 1482 พระเจ้าเจมส์ที่ 3 ทรงถูกเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ ดยุคแห่งออลบานี พระราชอนุชาของพระองค์ลิดรอนพระราชอำนาจเป็นเวลาหลายเดือน ว่ากันว่า สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตทรงห่วงใยสวัสดิภาพของเหล่าพระราชโอรสมากกว่าพระราชสวามี ซึ่งนำไปสู่ความบาดหมางกันอย่างถาวร[3] ในทางการเมือง สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตทรงดำเนินการฟื้นฟูพระราชอำนาจของพระราชสวามีในฐานะพระมหากษัตริย์ระหว่างเหตุการณ์นี้[3] หลังจากสิ้นสุดวิกฤต ค.ศ. 1482 ทั้งสองพระองค์ประทับแยกกัน พระเจ้าเจมส์ที่ 3 ประทับในเอดินเบอระ ในขณะที่สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตทรงโปรดที่จะประทับในสเตอร์ลิงพร้อมกับเหล่าพระราชโอรส[3]

สวรรคต

[แก้]

สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตเสด็จสวรรคตที่ปราสาทสเตอร์ลิงในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1486 ขณะมีพระชนมายุ 30 พรรษา หลังจากทรงพระประชวร และพระศพได้ถูกฝังที่โบสถ์แคมบัสเค็นเน็ท[6] พระบรมศพของพระเจ้าเจมส์ที่ 3 พระราชสวามีได้ถูกนำมาฝังเคียงข้างกันหลังจากสวรรคตในปีค.ศ. 1488 อารามแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพังเหลือเพียงแต่หอระฆังที่ตั้งตระหง่านจนทุกวันนี้ หลุมฝังพระบรมศพได้รับการปิดมิดชิดและบูรณะในปีค.ศ. 1865 ด้วยพระราชทรัพย์ของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ผู้สืบเชื้อสายของทั้งสองพระองค์[7]

มีเรื่องราวที่บอกเล่าผ่านพระราชโอรสของพระนางที่ระบุว่า สมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ตทรงถูกลอบปลงพระชนม์จากการเสวยยาพิษที่ทูลเกล้าฯ ถวายโดยจอห์น แรมซีย์ ลอร์ดโบธเวลล์ที่ 1 ผู้นำฝักฝ่ายการเมืองคนหนึ่ง[5] เนื่องจากเขายังคงได้รับความโปรดปรานจากราชสำนักหลังการสวรรคตของพระราชินี เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องน่าสงสัยและอาจเป็นการใส่ความ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่รู้เรื่องยาพิษก็ตาม[5]

หลุมฝังพระบรมศพของพระเจ้าเจมส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีมาร์กาเร็ต ณ โบสถ์แคมบัสเค็นเน็ท ในปัจจุบัน

เครื่องเพชรและฉลองพระองค์

[แก้]

บันทึกเกี่ยวกับการซื้อฉลองพระองค์และผ้าให้กับมาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์กยังเหลือรอดถึงปัจจุบันและอยู่ในบัญชีของเสนาบดีคลังสกอตแลนด์[8] ผ้าและขนสัตว์ถูกซื้อโดยคนรับใช้และเจ้าพนักงานภูษาของพระนาง ได้แก่ แอนดรูว์ บัลโฟร์, คัลด์เวลล์ และแซนดริส วอร์ดร็อป (แซนเดอส์ออฟเดอะวอร์โรป) ซื้อจากพ่อค้าและเจ้าของร้านค้าในเอดินเบอระ รวมทั้ง อีโซเบล วิลเลียมสัน, โทมัส ยาร์และแซนดี ทัวริง รองพระบาทผลิตโดยร้านฮัด โดยอธิบายว่าเป็น "ซูเทอ" (ช่างทำรองเท้า) คนขายเครื่องหนังในสเตอร์ลิงเป็นคนทำถุงพระหัตถ์หนัง[9] ฉลองพระองค์ผลิตในปีค.ศ. 1473 และ 1474 ได้แก่ ฉลองพระองค์กำมะหยี่สีน้ำเงินและผ้าซาตินสีแดง ฉลองพระองค์คลุม ฉลองพระองค์กระโปรงผ้ายกดอกดะแมสกัสสีเขียว ฉลองพระองค์ทรงม้า "สตอมัค" ทำจากผ้าซาตินบุด้วยขนเออร์มิน "บอนเนทประดับ" (หมวกสตรีรูปฝาชีมักมีริบบิ้นผูกใต้คาง) "เทอร์เรท" (ผ้าคลุมศีรษะ) ปลายพระมาลาและปกฉลองพระองค์ทำด้วยกำมะหยี่ขลิบด้วยขนสัตว์ นอกจากนี้ฉลองพระองค์คลุมยังถูกซื้อให้เหล่านางสนองพระโอษฐ์ของพระนาง 6 คน[10]

รายการทรัพย์สินของหีบหรือ "คิสท์" (กำปั่นใส่เงิน) และกำปั่นที่ถูกเรียกว่า "การ์เดอเวียน" จากปราสาทสเตอร์ลิงบรรจุอัญมณีบางส่วนของมาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1488 หลังจากยุทธการที่ซอชีเบิร์น สิ่งที่อยู่ภายในประกอบด้วย รัดพระองค์ที่ทำด้วยทองคำและผ้าสีแดงเข้ม พร้อมข้อต่อทองคำ[11] มีสายประคำและสายสร้อยทอง สายสร้อยแคลเซโดนีพร้อมจี้ที่บรรจุน้ำหอมกลิ่นชะมด ตาข่ายคลุมพระเกศาไข่มุก สายสร้อยหงส์ กระเป๋าทรงใบเล็กที่ประดับอัญมณีที่ไม่ได้เจียระไนเก้าชิ้น และถุงดอกลาเวนเดอร์หนึ่งถุง มีลิ้นงูพิษ (เป็นฟอสซิลฟันฉลามที่เชื่อกันว่าป้องกันพิษได้) และเขาม้ายูนิคอร์นทำจากทองคำ ใช่เพื่อตรวจวิเคราะห์พิษในมื้ออาหาร พระนางยังทรงเป็นเจ้าของพระธำมรงค์ที่ประดับด้วยหินลาย หินลายซึ่งมีสรรพคุณในการถอนพิษ มีหนังสือแผ่นทองคำเปลวใช้สำหรับปิดทอง และผ้าม่านแท่นบรรทมสีม่วง และผ้าปูแท่นบรรทมปักลายดอกทิสเซิลและยูนิคอร์น พระนางทรงมีจี้ที่ออกแบบเป็นรูปตัว "M" ประดับด้วยมุกเม็ดใหญ่หนึ่งเม็ด[12]

พระราชโอรส

[แก้]

ภาพ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "Margaret of Denmark, Queen of Scots". The Freelance History Writer (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 4 December 2012. สืบค้นเมื่อ 15 September 2017.
  2. UK Royal website, James III
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 3.6 Elizabeth Ewan, Sue Innes and Sian Reynolds, The Biographical Dictionary of Scottish Women: From Earliest Times to 2004 (Edinburgh: Edinburgh University Press, 2006). ISBN 978-0748617135.
  4. Thomas Dickson, Accounts of the Treasurer, vol. 1 (Edinburgh, 1877), pp. 29, 44.
  5. 5.0 5.1 5.2 "121 (Dansk biografisk Lexikon / XI. Bind. Maar – Müllner)". Runeberg.org. สืบค้นเมื่อ 5 January 2011.
  6. Henderson 1893.
  7. จารึกหลุมพระบรมศพของพระเจ้าเจมส์ที่ 3
  8. The Wardrobe of Margaret of Denmark, Queen of Scotland, Susan Abernethy
  9. Rosalind Marshall, Scottish Queens, 1034–1714 (John Donald, 2007), pp. 75–77.
  10. Thomas Dickson, Accounts of the Treasurer, vol. 1 (Edinburgh, 1877), pp. 29–39.
  11. Rosalind Marshall, Scottish Queens, 1034–1714 (John Donald, 2007), pp. 77–78.
  12. Thomas Dickson, Accounts of the Treasurer, vol. 1 (Edinburgh, 1877), pp. 83–85: Thomas Thomson, A Collection of Royal Inventories (Edinburgh, 1815), pp. 8–11
  13. Oxford Reference website, Overview James IV
  14. The Stewart Society website, History of the Stewarts, King James III of Scotland
  15. "Margaret of Denmark: Biography on Undiscovered Scotland". www.undiscoveredscotland.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2023-05-02.
ที่มา

 This article incorporates text from a publication now in the public domainHenderson, Thomas Finlayson (1893). "Margaret (1457?–1486)". ใน Lee, Sidney (บ.ก.). Dictionary of National Biography (ภาษาอังกฤษ). Vol. 36. London: Smith, Elder & Co.

  • Marshall, Rosalind, Scottish Queens, 1034–1714
  • Richard Oram: The Kings and Queens of Scotland
  • Timothy Venning: The Kings and Queens of Scotland
  • Mike Ashley: British Kings and Queens
  • Elizabeth Ewan, Sue Innes and Sian Reynolds: The Biographical Dictionary of Scottish Women


ก่อนหน้า มาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ ถัดไป
ว่าง
ลำดับก่อนหน้า
มาเรียแห่งเกลเดอร์ส

สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์
(ราชวงศ์สทิวเวิร์ต)

(ค.ศ. 1469 – ค.ศ. 1486)
ว่าง
ลำดับถัดไป
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตแห่งอังกฤษ