ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคปต์ชา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 6: บรรทัด 6:
คำนี้ได้ถูกยกย่องในปี [[พ.ศ. 2543]] โดย [[ลูอิส วอน ออห์น]], [[มานูเอล บลูม]], นิโคลัส เจ. ฮอปเปอร์ และ[[จอห์น แลงฟอร์ด]]<ref name="abhl">{{cite conference | last1 = von Ahn | first1 = Luis | last2 = Blum | first2 = Manuel | last3 = Hopper | first3 = Nicholas J. | last4 = Langford | first4 = John | date=May 2003 | title = CAPTCHA: Using Hard AI Problems for Security | conference= EUROCRYPT 2003: International Conference on the Theory and Applications of Cryptographic Techniques}}</ref> ซึ่งแคปต์ชาชนิดที่เราใช้ส่วนใหญ่ได้ถูกคิดค้นโดย 2 กลุ่มที่ทำงานร่วมกัน นั่นคือ (1) มาร์ก ดี. ลิลลิบริดจ์, [[มาร์ติน อบาดิ]], [[คริชนา ภารัต]] และ[[แอนเดร โบรเดอร์]] และ (2) อิราน เรเชฟ, [[กิลี รอแนน]], [[ไอลอน โซแลน]]<ref name=":0">{{Cite journal|date=2004-03-01|title=Method and system for discriminating a human action from a computerized action|url=https://patents.google.com/patent/US20050114705A1/en?q=discriminating&q=human&inventor=raanan}}</ref> รูปแบบของแคปต์ชานี้ต้องการให้ผู้ใช้พิมพ์ตัวอักษรของภาพที่บิดเบี้ยว บางครั้งอาจมีการเพิ่มตัวอักษรหรือตัวเลขที่ปิดบังไว้ที่ปรากฏบนหน้าจอ เนื่องจากการทดสอบนี้ถูกบริหารจัดการโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงข้ามกับ[[การทดสอบทัวริง]]ที่ใช้มนุษย์ในการบริหารจัดการ ดังนั้นแล้วในบางครั้งก็อาจมีการอธิบายแคปต์ชาไว้ว่าเป็น[[การทดสอบของทัวริงแบบย้อนกลับ]]
คำนี้ได้ถูกยกย่องในปี [[พ.ศ. 2543]] โดย [[ลูอิส วอน ออห์น]], [[มานูเอล บลูม]], นิโคลัส เจ. ฮอปเปอร์ และ[[จอห์น แลงฟอร์ด]]<ref name="abhl">{{cite conference | last1 = von Ahn | first1 = Luis | last2 = Blum | first2 = Manuel | last3 = Hopper | first3 = Nicholas J. | last4 = Langford | first4 = John | date=May 2003 | title = CAPTCHA: Using Hard AI Problems for Security | conference= EUROCRYPT 2003: International Conference on the Theory and Applications of Cryptographic Techniques}}</ref> ซึ่งแคปต์ชาชนิดที่เราใช้ส่วนใหญ่ได้ถูกคิดค้นโดย 2 กลุ่มที่ทำงานร่วมกัน นั่นคือ (1) มาร์ก ดี. ลิลลิบริดจ์, [[มาร์ติน อบาดิ]], [[คริชนา ภารัต]] และ[[แอนเดร โบรเดอร์]] และ (2) อิราน เรเชฟ, [[กิลี รอแนน]], [[ไอลอน โซแลน]]<ref name=":0">{{Cite journal|date=2004-03-01|title=Method and system for discriminating a human action from a computerized action|url=https://patents.google.com/patent/US20050114705A1/en?q=discriminating&q=human&inventor=raanan}}</ref> รูปแบบของแคปต์ชานี้ต้องการให้ผู้ใช้พิมพ์ตัวอักษรของภาพที่บิดเบี้ยว บางครั้งอาจมีการเพิ่มตัวอักษรหรือตัวเลขที่ปิดบังไว้ที่ปรากฏบนหน้าจอ เนื่องจากการทดสอบนี้ถูกบริหารจัดการโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงข้ามกับ[[การทดสอบทัวริง]]ที่ใช้มนุษย์ในการบริหารจัดการ ดังนั้นแล้วในบางครั้งก็อาจมีการอธิบายแคปต์ชาไว้ว่าเป็น[[การทดสอบของทัวริงแบบย้อนกลับ]]


แคปต์ชาอาจใช้ในการตอบกลับฟอรั่มหรือเว็บบอร์ดสาธารณะทั่วไปตาม[[อินเทอร์เน็ต]] ทั้งนี้เพื่อป้องกัน[[บอต]]หรือ[[โปรแกรม]]อัตโนมัติทำการส่งข้อความไม่พึงประสงค์ เช่น [[สแปม]] หรือโฆษณา เป็นต้น
แคปต์ชาอาจใช้ในการตอบกลับฟอรั่มหรือเว็บบอร์ดสาธารณะทั่วไปตาม[[อินเทอร์เน็ต]] ทั้งนี้เพื่อป้องกัน[[บอต]]หรือ[[โปรแกรม]]อัตโนมัติทำการส่งข้อความไม่พึงประสงค์ เช่น [[สแปม]] หรือโฆษณา เป็นต้น _


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:13, 3 กรกฎาคม 2563

นี่คือแคปต์ชาของ "smwm" ที่ถูกปิดบังข้อความจากการตีความของคอมพิวเตอร์ โดยการบิดตัวอักษรและเพิ่มการไล่ระดับสีพื้นหลังเล็กน้อย
โดยปกติแล้วแคปต์ชาจะมีช่องข้อความข้างใต้ ซึ่งจะเป็นที่ที่ให้ผู้ใช้ใส่ข้อความที่พวกเขาเห็น โดยในกรณีนี้คือ "sclt ..was here"

แคปต์ชา (อังกฤษ: CAPTCHA; /kæp.ə/) คือการทดสอบเพื่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แบบโต้ตอบชนิดหนึ่ง เพื่อทดสอบว่าผู้ใช้งานเป็นมนุษย์จริงหรือไม่ (ว่าไม่ใช่บอตหรือโปรแกรมอัตโนมัติ) คำว่า CAPTCHA ย่อมาจาก "Completely Automated Public Turing test to tell Computers and Humans Apart" (การทดสอบของทัวริงสาธารณะแบบอัตโนมัติเพื่อแยกแยะว่าเป็นคอมพิวเตอร์กับมนุษย์อย่างสมบูรณ์)[1]

คำนี้ได้ถูกยกย่องในปี พ.ศ. 2543 โดย ลูอิส วอน ออห์น, มานูเอล บลูม, นิโคลัส เจ. ฮอปเปอร์ และจอห์น แลงฟอร์ด[2] ซึ่งแคปต์ชาชนิดที่เราใช้ส่วนใหญ่ได้ถูกคิดค้นโดย 2 กลุ่มที่ทำงานร่วมกัน นั่นคือ (1) มาร์ก ดี. ลิลลิบริดจ์, มาร์ติน อบาดิ, คริชนา ภารัต และแอนเดร โบรเดอร์ และ (2) อิราน เรเชฟ, กิลี รอแนน, ไอลอน โซแลน[3] รูปแบบของแคปต์ชานี้ต้องการให้ผู้ใช้พิมพ์ตัวอักษรของภาพที่บิดเบี้ยว บางครั้งอาจมีการเพิ่มตัวอักษรหรือตัวเลขที่ปิดบังไว้ที่ปรากฏบนหน้าจอ เนื่องจากการทดสอบนี้ถูกบริหารจัดการโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งตรงข้ามกับการทดสอบทัวริงที่ใช้มนุษย์ในการบริหารจัดการ ดังนั้นแล้วในบางครั้งก็อาจมีการอธิบายแคปต์ชาไว้ว่าเป็นการทดสอบของทัวริงแบบย้อนกลับ

แคปต์ชาอาจใช้ในการตอบกลับฟอรั่มหรือเว็บบอร์ดสาธารณะทั่วไปตามอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้เพื่อป้องกันบอตหรือโปรแกรมอัตโนมัติทำการส่งข้อความไม่พึงประสงค์ เช่น สแปม หรือโฆษณา เป็นต้น _

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "The reCAPTCHA Project – Carnegie Mellon University CyLab". www.cylab.cmu.edu. สืบค้นเมื่อ 2017-01-13.
  2. von Ahn, Luis; Blum, Manuel; Hopper, Nicholas J.; Langford, John (May 2003). CAPTCHA: Using Hard AI Problems for Security. EUROCRYPT 2003: International Conference on the Theory and Applications of Cryptographic Techniques.
  3. "Method and system for discriminating a human action from a computerized action". 2004-03-01. {{cite journal}}: Cite journal ต้องการ |journal= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น