ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไฮยีนาลายจุด"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Vivokkk77 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 22: บรรทัด 22:
}}
}}


'''ไฮยีนาลายจุด''' ({{lang-en|spotted hyena}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Crocuta crocuta}}) เป็น[[ไฮยีนา]]ชนิดหนึ่ง จัดเป็นไฮยีนาในสกุล ''Crocuta เพียงชนิดเดียว''เท่านั้น เป็นไฮยีนาชนิดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เป็นหนึ่งในไฮยีนาสี่ชนิดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันในขณะที่ชนิดอื่น ๆ สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
'''ไฮยีนาลายจุด''' ({{lang-en|spotted hyena}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Crocuta crocuta}}) เป็น[[ไฮยีนา]]ชนิดหนึ่ง จัดเป็นไฮยีนาในสกุล ''Crocuta เพียงชนิดเดียว''เท่านั้น เป็นไฮยีนาชนิดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เป็นหนึ่งในไฮยีนาสี่ชนิดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันในขณะที่ชนิดอื่นๆ สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว


ไฮยีนาลายจุดมีลักษณะคล้ายกับไฮยีนาทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีน้ำหนักตัวได้มากถึง 60–70 กิโลกรัม เกือบเท่าสิงโตตัวเมีย มีขาคู่หน้ายาวกว่าขาคู่หลัง ดังนั้นเมื่อเวลาวิ่งจะวิ่งแบบหย่ง ๆ แต่ก็วิ่งได้เร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ มีความดุร้ายกว่า และเป็นผู้ปกครองฝูง ตัวเมียจะปกป้องลูกจากตัวผู้ที่จะเป็นฝ่ายกินลูกอ่อนจนหมดสิ้น อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวเมียนั้นมีลักษณะคล้ายกับองคชาตของตัวผู้ สามารถที่จะแข็งตัวได้ รวมทั้งเป็นที่ใช้ปัสสาวะด้วย โดยที่[[ช่องคลอด]]จะถูกเก็บไว้ในอวัยวะส่วนนี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่อาจหาคำอธิบายใด ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แต่การที่ไฮยีนาลายจุดมีอวัยวะสืบพันธุ์เช่นนี้ ทำให้การให้กำเนิดลูกไฮยีนาทำได้ยากด้วยเช่นกัน เพราะสายรกนั้นสั้นเกินกว่าที่จะลอดช่องคลอดออกมาได้ และสร้างความเจ็บปวดให้แก่แม่ไฮยีนา<ref>[http://bicycle2011.com/%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2-hyena-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/ ไฮยีนา (Hyena) ตัวเมียเป็นใหญ่]</ref> และแม่ไฮยีนาท้องแรกมักตายตอนคลอดลูก
ไฮยีนาลายจุดมีลักษณะคล้ายกับไฮยีนาทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีน้ำหนักตัวได้มากถึง 60–70 กิโลกรัม เกือบเท่าสิงโตตัวเมีย มีขาคู่หน้ายาวกว่าขาคู่หลัง ดังนั้นเมื่อเวลาวิ่งจะวิ่งแบบหย่ง ๆ แต่ก็วิ่งได้เร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ มีความดุร้ายกว่า และเป็นผู้ปกครองฝูง ตัวเมียจะปกป้องลูกจากตัวผู้ที่จะเป็นฝ่ายกินลูกอ่อนจนหมดสิ้น อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวเมียนั้นมีลักษณะคล้ายกับองคชาตของตัวผู้ สามารถที่จะแข็งตัวได้ รวมทั้งเป็นที่ใช้ปัสสาวะด้วย โดยที่[[ช่องคลอด]]จะถูกเก็บไว้ในอวัยวะส่วนนี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่อาจหาคำอธิบายใด ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แต่การที่ไฮยีนาลายจุดมีอวัยวะสืบพันธุ์เช่นนี้ ทำให้การให้กำเนิดลูกไฮยีนาทำได้ยากด้วยเช่นกัน เพราะสายรกนั้นสั้นเกินกว่าที่จะลอดช่องคลอดออกมาได้ และสร้างความเจ็บปวดให้แก่แม่ไฮยีนา<ref>[http://bicycle2011.com/%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2-hyena-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/ ไฮยีนา (Hyena) ตัวเมียเป็นใหญ่]</ref> และแม่ไฮยีนาท้องแรกมักตายตอนคลอดลูก
บรรทัด 45: บรรทัด 45:


[[ไฟล์:Portrait of spotted hyena.jpg|thumb]]
[[ไฟล์:Portrait of spotted hyena.jpg|thumb]]

==รูปภาพ==
==รูปภาพ==
<gallery>
<gallery>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:32, 20 มิถุนายน 2563

ไฮยีนาลายจุด
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: ปลายสมัยไพลโอซีน – ปัจจุบัน
2.588–0Ma
[1]
เสียงคำราม
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Mammalia
อันดับ: Carnivora
วงศ์: Hyaenidae
สกุล: Crocuta
Kaup, 1828
สปีชีส์: C.  crocuta
ชื่อทวินาม
Crocuta crocuta
(Erxleben, 1777)
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์

ไฮยีนาลายจุด (อังกฤษ: spotted hyena; ชื่อวิทยาศาสตร์: Crocuta crocuta) เป็นไฮยีนาชนิดหนึ่ง จัดเป็นไฮยีนาในสกุล Crocuta เพียงชนิดเดียวเท่านั้น เป็นไฮยีนาชนิดที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีที่สุด เป็นหนึ่งในไฮยีนาสี่ชนิดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันในขณะที่ชนิดอื่นๆ สูญพันธุ์ไปหมดแล้ว

ไฮยีนาลายจุดมีลักษณะคล้ายกับไฮยีนาทั่วไป แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีน้ำหนักตัวได้มากถึง 60–70 กิโลกรัม เกือบเท่าสิงโตตัวเมีย มีขาคู่หน้ายาวกว่าขาคู่หลัง ดังนั้นเมื่อเวลาวิ่งจะวิ่งแบบหย่ง ๆ แต่ก็วิ่งได้เร็วถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ มีความดุร้ายกว่า และเป็นผู้ปกครองฝูง ตัวเมียจะปกป้องลูกจากตัวผู้ที่จะเป็นฝ่ายกินลูกอ่อนจนหมดสิ้น อวัยวะสืบพันธุ์ของตัวเมียนั้นมีลักษณะคล้ายกับองคชาตของตัวผู้ สามารถที่จะแข็งตัวได้ รวมทั้งเป็นที่ใช้ปัสสาวะด้วย โดยที่ช่องคลอดจะถูกเก็บไว้ในอวัยวะส่วนนี้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่อาจหาคำอธิบายใด ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น แต่การที่ไฮยีนาลายจุดมีอวัยวะสืบพันธุ์เช่นนี้ ทำให้การให้กำเนิดลูกไฮยีนาทำได้ยากด้วยเช่นกัน เพราะสายรกนั้นสั้นเกินกว่าที่จะลอดช่องคลอดออกมาได้ และสร้างความเจ็บปวดให้แก่แม่ไฮยีนา[3] และแม่ไฮยีนาท้องแรกมักตายตอนคลอดลูก

ไฮยีนาลายจุด มีระยะเวลาตั้งท้องเพียง 4 เดือนเท่านั้น และเมื่อตั้งท้องจะมีความดุร้ายมากเป็นพิเศษ เนื่องจากสัญชาตญาณป้องกันตัว[4]

ไฮยีนาลายจุดมักออกลูกครั้งละ 2 ตัว นักวิจัยพบว่า ลูกไฮยีนามีความก้าวร้าวตั้งแต่แรกเกิด มันมักจะฆ่าพี่น้องของมันหากเป็นเพศเดียวกัน โดยการกัดซ้ำๆ ให้บาดเจ็บ และกีดกันไม่ให้อีกตัวได้รับอาหาร และการดูแล จนต้องตายไป เพื่อตัวมันเองจะได้รับการดูแลจากแม่อย่างเต็มที่ นอกจากนั้นลำดับชั้นในฝูงไฮยีนาเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะเป็นตัวบอกลำดับในการกินอาหารหลังจากการล่า ซึ่งลำดับชั้นของลูกไฮยีนานั้นจะสืบทอดจากแม่ หากพี่น้องเป็นเพศเดียวกัน อาจทำให้เกิดความสับสน และความไม่มั่นคงของลำดับชั้นของมันเองได้

ไฮยีนาตัวผู้จะมีลำดับที่ต่ำกว่าตัวเมียที่ลำดับต่ำที่สุด โดยจะเรียงลำดับจากตัวเมียจ่าฝูง และลูกของมัน จากนั้นเป็นพี่น้องเพศเมียของจ่าฝูง และลูกของมัน ไล่ไปเรื่อยๆจนถึงตัวเมียที่ลำดับต่ำที่สุด แล้วค่อยเป็นตัวผู้ลำดับสูงที่สุด

ลำดับต่ำสุดในฝูงจะเป็นของตัวผู้มาใหม่ที่ย้ายมาจากฝูงอื่น

แม่ไฮยีนาจะเลี้ยงดูลูกของมันเป็นเวลา 2 ปี เมื่ออายุครบ 2 ปี ไฮยีนาตัวเมียจะอยู่กับฝูงเดิม และสืบทอดลำดับชั้นจากแม่ของมัน ส่วนไฮยีนาตัวผู้จะสามารถเลือกว่าจะอยู่กับฝูงเดิม หรือจะออกไปอยู่ฝูงใหม่ ซึ่งการไปอยู่ฝูงใหม่มันจะต้องเป็นลำดับที่ต่ำที่สุดในฝูงนั้น

อายุเฉลี่ยของไฮยีนาตัวเมียประมาณ 8 ปี ในขณะที่ตัวผู้อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 4 ปี เนื่องจากตัวผู้มักได้กินแต่เศษอาหารเหลือๆ และเศษกระดูก ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกาย ต่อจากตัวเมียนั่นเอง

ไฮยีนาลายจุดมีฟันและกรามที่แข็งแรงมาก จัดเป็นสัตว์กินเนื้อบนบกที่มีแรงกัดมากที่สุดในโลก โดยมากได้ถึง 1,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งสามารถที่จะบดและเคี้ยวกระดูกได้อย่างง่ายดาย เป็นสัตว์ที่กินไม่เลือก โดยสามารถที่จะล่าและล้มสัตว์ชนิดอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่ามากได้ รวมทั้งแย่งอาหารจากสัตว์อื่น เช่น สิงโต จนเสมือนเป็นคู่ปรับกัน รวมถึงกินซากสัตว์หรือมนุษย์ได้ด้วย ดังนั้น ในบางพื้นที่ที่ใกล้กับหมู่บ้านหรือชุมชนของมนุษย์ จะมีไฮยีนาลายจุดเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่เสมอ ๆ ซึ่งจะขโมยข้าวของของมนุษย์ รวมถึงขุดศพในสุสานมากินได้ด้วย ในพื้นที่ทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ผู้คนในนั้นเลี้ยงไฮยีนาลายจุดด้วยอาหาร ซึ่งทำให้มีพฤติกรรมการหากินเปลี่ยนไปจากไฮยีนาที่อยู่ในป่าจริง ๆ และมีอุปนิสัยไม่ดุร้ายเท่า[5]

ไฮยีนาลายจุดแพร่กระจายพันธุ์ทั่วไปในทวีปแอฟริกา มีรอยเท้าคล้ายรอยเท้าสุนัข โดยปกติจะออกหากินในเวลากลางคืน และนอนหลับพักผ่อนตามโพรงหรือถ้ำในเวลากลางวัน รวมถึงรอยแยกตามหุบเขาด้วย เพื่อหลบความร้อนและแสงแดด เมื่อถึงโพล้เพล้จะเริ่มตื่นตัว ปกติจะอาศัยอยู่รวมเป็นฝูง มากสุดอาจถึงหลักร้อย ตัวผู้บางตัวอาจจะแยกออกไปหากินและอาศัยตามลำพัง แต่ก็พร้อมที่จะกลับเข้ารวมฝูงได้ทุกเมื่อ[6] พฤติกรรมของไฮยีนาลายจุดเมื่อได้ยินเสียงสิงโตล่าเหยื่อ จะตื่นตัวและวิ่งหาต้นเสียง เพราะเรียนรู้ว่าจะได้กินอาหารต่อจากสิงโต หรือแย่งมากินเองได้[5]

เป็นที่รับรู้กันดีว่าไฮยีนาลายจุดมีเสียงร้องคล้ายกับเสียงหัวเราะ กอปรกับพฤติกรรมที่ชอบขโมยเหยื่อ จึงทำให้เป็นสัตว์ที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์ หรือไม่ซื่อตรง[7]

รูปภาพ

อ้างอิง

  1. Varela, S., Lobo, J., Rodríguez, J., & Batra, P. (2010). Were the Late Pleistocene climatic changes responsible for the disappearance of the European spotted hyena populations? Hindcasting a species geographic distribution across time Quaternary Science Reviews, 29 (17–18), 2027–2035
  2. Honer, O., Holekamp, K.E. & Mills, G. (2008). Crocuta crocuta. In: IUCN 2008. IUCN Red List of Threatened Species. Downloaded on 22 March 2009. Database entry includes a brief justification of why this species is of least concern.
  3. ไฮยีนา (Hyena) ตัวเมียเป็นใหญ่
  4. Botswana ตอนที่ 3, "สุดหล้าฟ้าเขียว". สารคดีทางช่อง 3 โดย ปองพล อดิเรกสาร: เสาร์ที่ 7 กันยายน 2556
  5. 5.0 5.1 Night of the Hyena, "Austin Stevens Adventures". สารคดีทางแอนิมอลพลาเน็ต ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 16 เมษายน 2556
  6. ยูกานดา ตอนที่ 1, "สุดหล้าฟ้าเขียว". สารคดีทางช่อง 3 โดย ปองพล อดิเรกสาร: เสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2557
  7. หน้า 108-110, สัตว์สวยป่างาม โดย ชมรมนิเวศวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล (สิงหาคม 2518)

แหล่งข้อมูลอื่น

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Crocuta crocuta ที่วิกิสปีชีส์