ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คอลลาเจน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ปรับภาษา}}
{{ปรับภาษา}}
[[ไฟล์:Collagentriplehelix.png|thumb|right|99px|คอลลาเจนเกลียวสาม]]
[[ไฟล์:Collagentriplehelix.png|thumb|right|99px|คอลลาเจนเกลียวสาม]]
'''คอลลาเจน'''เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักใน[[เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน]]หลายชนิดใน[[สัตว์]] คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์ด้วย โดยคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งร่างกาย ส่วนใหญ่พบคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดใน[[เนื้อเยื่อเส้นใย]] (fibrous tissue) เช่น [[เอ็นกล้ามเนื้อ]] (tendon) [[เอ็น]] (ligament) และ[[ผิวหนัง]] ทั้งพบมากใน[[กระจกตา]] [[กระดูกอ่อน]] [[กระดูก]] [[หลอดเลือด]] [[ทางเดินอาหาร]]และ[[หมอนกระดูกสันหลัง]] [[เซลล์สร้างเส้นใย]] (fibroblast) เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนมากที่สุด
'''คอลลาเจน'''เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักใน[[เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน]]หลายชนิดใน[[สัตว์]] คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย<ref>{{Cite journal |first=Gloria A. |last=Di Lullo |first2=Shawn M. |last2=Sweeney |first3=Jarmo |last3=Körkkö |first4=Leena |last4=Ala-Kokko |lastauthoramp=yes |first5=James D. |last5=San Antonio |title=Mapping the Ligand-binding Sites and Disease-associated Mutations on the Most Abundant Protein in the Human, Type I Collagen |journal=[[Journal of Biological Chemistry|J. Biol. Chem.]] |volume=277 |issue=6 |pages=4223–4231 |year=2002 |pmid=11704682 |doi=10.1074/jbc.M110709200 }}</ref> โดยคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งร่างกาย ส่วนใหญ่พบคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดใน[[เนื้อเยื่อเส้นใย]] (fibrous tissue) เช่น [[เอ็นกล้ามเนื้อ]] (tendon) [[เอ็น]] (ligament) และ[[ผิวหนัง]] ทั้งพบมากใน[[กระจกตา]] [[กระดูกอ่อน]] [[กระดูก]] [[หลอดเลือด]] [[ทางเดินอาหาร]]และ[[หมอนกระดูกสันหลัง]] [[เซลล์สร้างเส้นใย]] (fibroblast) เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนมากที่สุด


ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของ[[เยื่อหุ้มใยกล้ามเนื้อ]] (endomysium) คอลลาเจนประกอบเป็น 1% ถึง 2% ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็น 6% ของน้ำหนักกล้ามเนื้อมีเอ็นที่แข็งแรง [[เจลาติน]] ซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรม เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) แบบย้อนกลับไม่ได้
ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของ[[เยื่อหุ้มใยกล้ามเนื้อ]] (endomysium) คอลลาเจนประกอบเป็น 1% ถึง 2% ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็น 6% ของน้ำหนักกล้ามเนื้อมีเอ็นที่แข็งแรง<ref>{{Cite book |last=Sikorski |first=Zdzisław E. |year=2001 |title=Chemical and Functional Properties of Food Proteins |location=Boca Raton |publisher=CRC Press |page=242 |isbn=1-56676-960-4 }}</ref> [[เจลาติน]] ซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรม เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) แบบย้อนกลับไม่ได้


== ลักษณะ ==
== ลักษณะ ==
บรรทัด 25: บรรทัด 25:
# การฉีดคอลลาเจนโดยตรง จากแพทย์
# การฉีดคอลลาเจนโดยตรง จากแพทย์
# รับประทานอาหารที่ต่อต้านสาร[[อนุมูลอิสระ]] ได้แก่ [[บีตา-แคโรทีน]] [[วิตามินซี]], [[วิตามินอี]]
# รับประทานอาหารที่ต่อต้านสาร[[อนุมูลอิสระ]] ได้แก่ [[บีตา-แคโรทีน]] [[วิตามินซี]], [[วิตามินอี]]

== ดูเพิ่ม ==
* [[ผลิตภัณฑ์ประมง]]


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:31, 29 เมษายน 2557

คอลลาเจนเกลียวสาม

คอลลาเจนเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหลายชนิดในสัตว์ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ฉะนั้นจึงเป็นโปรตีนที่พบมากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย[1] โดยคิดเป็น 25% ถึง 35% ของปริมาณโปรตีนทั้งร่างกาย ส่วนใหญ่พบคอลลาเจนในรูปเส้นใยฝอยยืดในเนื้อเยื่อเส้นใย (fibrous tissue) เช่น เอ็นกล้ามเนื้อ (tendon) เอ็น (ligament) และผิวหนัง ทั้งพบมากในกระจกตา กระดูกอ่อน กระดูก หลอดเลือด ทางเดินอาหารและหมอนกระดูกสันหลัง เซลล์สร้างเส้นใย (fibroblast) เป็นเซลล์ที่สร้างคอลลาเจนมากที่สุด

ในเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ คอลลาเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มใยกล้ามเนื้อ (endomysium) คอลลาเจนประกอบเป็น 1% ถึง 2% ของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ และเป็น 6% ของน้ำหนักกล้ามเนื้อมีเอ็นที่แข็งแรง[2] เจลาติน ซึ่งใช้ในอาหารและอุตสาหกรรม เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสลายด้วยน้ำ (hydrolysis) แบบย้อนกลับไม่ได้

ลักษณะ

คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นสายยาว ซึ่งทำหน้าที่แตกต่างจากสารโปรตีนโดยทั่ว ๆ ไปเช่นแดียวกับเอนไซม์ สายเส้นใยของคอลลาเจนถูกเรียกว่า Collagen Fiber (คอลลาเจน ไฟเบอร์} ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยปกติทั่วไปผิวหนังที่มีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากจึงมีแรงสปริงตัวและ ยืดหยุ่นได้ดีตามไปด้วย คอลลาเจนนั้นไม่ได้มีอยู่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น อวัยวะภายในร่างกายเอง ก็มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ได้แก่ ผังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน (cartilage), เส้นเอ็น (ligaments), ข้อต่อ (tendons), กระดูก (bone) สารคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิวมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า เคราติน Keratin

เคราตินมีหน้าที่สร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงเกิดริ้วรอยแห่งวัยขึ้นบนชั้นผิว, นอกจากนี้ เคราตินมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้ผนังหลอดเลือด มีส่วนช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ รวมทั้งยังเป็นส่วนประกอบของเยื่อกระจกตาและเลนส์ตาด้วย

Hydrolyzed Collagen เองยังถูกใช้งานในแง่ของการลดน้ำหนักได้ด้วย เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของโปรตีนจึงมีข้อดีในการช่วยเผาผลาญพลังงานลดไขมันส่วนเกิน

บทบาทคอลลาเจนในวงการอุตสาหกรรม

เมื่อนำคอลลาเจนมาผ่านกระบวนการ Hydrolyzed สารคอลลาเจนจะแตกตัวออกเป็นสารเชิงซ้อนของคอลลาเจนเปปไทด์แบบ Polyproline II (PPII) หรือลักษณะของเจลาตินที่นำมาเป็นส่วนผสมของอาหารนั่นเอง นอกจากการใช้เป็นอาหารแล้ว คอลลาเจนยังใช้เป็นส่วนประกอบของยา เครื่องสำอาง และฟีล์มถ่ายภาพเมื่อพิจารณาในแง่ของอุตสาหกรรมอาหารแล้ว สารคอลลาเจนไม่ได้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่มีการประชาสัมพันธ์เชิงการค้าว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมคอลลาเจ นต่างแสดงคุณสมบัติของสินค้าว่าสามารถยับยั้งการเกิดริ้วรอยแห่งวัยและมีผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งยังไม่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาสนับสนุนการโฆษณาในลักษณะนี้

คำว่า Collagen(คอลลาเจน) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกจากคำว่า “Kolla” ที่แปลว่า กาว โดยเมื่อก่อนได้มีการทำกาวโดยการนำหนังและเอ็นม้ามาเคี่ยวจนกลายเป็นกาว ตามหลักฐานที่พบมีการใช้งานกาวลักษณะนี้มากว่า 8000 ปีแล้ว โดยใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตเชือกและตะกร้าสานเพื่อให้มีความแข็งแรง และมีการใช้งานภายในครัวเรือนทั่วไป กาวชนิดนี้เมื่อแห้งแล้วสามารถทำให้อ่อนนิ่มได้อีกโดยการให้ความร้อน เพราะกาวจากสิ่งมีชีวิตเป็น Thermoplastic ชนิดหนึ่งจึงมีการใช้งานได้หลากหลายโดยเฉพาะการผลิกเครื่องดนตรีเช่น ไวโอลีน กีตาร์ แม้กระทั่งเมื่อมนุษย์สามารถผลิตพลาสติกสังเคราะห์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีการใช้งานกาวเจลาตินอยู่ทั่วไป

บทบาทคอลลาเจนในวงการแพทย์

คอลลาเจนมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในวงการศัลยกรรมความงาม ศัลยกรรมกระดูก การจัดฟัน และวงการศัลยกรรมทั่วไป เป็นส่วนประกอบของผิวหนังสังเคราะห์ที่ใช้ในผู้ป่วยที่สูญเสียผิวหนังเนื่อง จากอุบัติเหตุไฟไหม้ ซึ่งใช้คอลลาเจนสังเคระห์จากผิวหนังของลูกวัว (Bovine), หรือจากหมู (Equine, Porcine) บางครั้งจะใช้ผิวหนังจากผู้บริจาค หรือใช้ซิลิโคนสังเคราะห์แทน

คอลลาเจนได้มีการจำหน่ายในลักษณะของ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นส่วนช่วยเคลื่อนไหว เนื่องจากคอลลาเจนเมื่อรับประทานเข้าไปจะย่อยสลายเป็นโปรตีนและกรดอะมิโนใน ที่สุด จึงช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอโดยวิธีรับประทานได้น้อยมาก ดังนั้น วงการแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการใช้คอลลาเจนในแง่ของศัลยกรรมความงามมากที่สุด

วิธีที่จะเพิ่ม คอลลาเจนนั้น ทำได้หลายวิธี

  1. การฉีดคอลลาเจนโดยตรง จากแพทย์
  2. รับประทานอาหารที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ได้แก่ บีตา-แคโรทีน วิตามินซี, วิตามินอี

อ้างอิง

  1. Di Lullo, Gloria A.; Sweeney, Shawn M.; Körkkö, Jarmo; Ala-Kokko, Leena; San Antonio, James D. (2002). "Mapping the Ligand-binding Sites and Disease-associated Mutations on the Most Abundant Protein in the Human, Type I Collagen". J. Biol. Chem. 277 (6): 4223–4231. doi:10.1074/jbc.M110709200. PMID 11704682. {{cite journal}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |lastauthoramp= ถูกละเว้น แนะนำ (|name-list-style=) (help)
  2. Sikorski, Zdzisław E. (2001). Chemical and Functional Properties of Food Proteins. Boca Raton: CRC Press. p. 242. ISBN 1-56676-960-4.