ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอิตซี"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล →รอยสัก |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
| บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:Mann vom Hauslabjoch (Museum Bélesta).jpg|thumb|200px|หุ่นจำลองเลียนแบบเอิตซี]] |
[[ไฟล์:Mann vom Hauslabjoch (Museum Bélesta).jpg|thumb|200px|หุ่นจำลองเลียนแบบเอิตซี]] |
||
'''เอิตซี''' ({{lang-de|Ötzi}}) เป็น[[มัมมี่]]ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่าง[[ออสเตรีย]]และ[[อิตาลี]] เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]] และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรป[[ยุคสำริด]] |
'''เอิตซี''' ({{lang-de|Ötzi}}) เป็น[[มัมมี่]]ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว<ref name=snowshoes>{{citation|author=Norman Hammond|title=Iceman was wearing 'earliest snowshoes'|url=http://www.timesonline.co.uk/tol/life_and_style/court_and_social/article516866.ece|newspaper=[[The Times]]|date=21 February 2005}}</ref> ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่าง[[ออสเตรีย]]และ[[อิตาลี]]<ref>{{citation|author=James Neill|title=Otzi, the 5,300 year old Iceman from the Alps: pictures & information|date=last updated 27 October 2004|url=http://www.wilderdom.com/evolution/OtziIcemanAlpsPictures.htm|accessdate=8 March 2007}}.</ref><ref>{{cite web|url=http://iceman.it/en/node/233|work=South Tyrol Museum of Archaeology|title=The Discover of Ötzi}}</ref> เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]] และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรป[[ยุคสำริด]] |
||
ได้มีกรณีพิพาททางการทูตเล็กน้อยระหว่างออสเตรียและอิตาลีว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าของร่างดังกล่าว ปัจจุบัน ร่างของเขาและทรัพย์สินถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาท์ไทรอลในบอลซาโนในไทรอลใต้ |
ได้มีกรณีพิพาททางการทูตเล็กน้อยระหว่างออสเตรียและอิตาลีว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าของร่างดังกล่าว ปัจจุบัน ร่างของเขาและทรัพย์สินถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาท์ไทรอลในบอลซาโนในไทรอลใต้ |
||
นอกจากนี้ ยังมีการต่อสู้ทางกฎหมายยืดเยื้อยาวนานโดยผู้ค้นพบ เฮลมุทและเอริกา ไซมอน สำหรับรางวัลตอบแทนที่เหมาะสม หลังจากคำพิพากษาหลายศาล รัฐบาลท้องถิ่นตกลงที่จะจ่ายเงิน 150,000 [[ยูโร]] ให้กับเอริกา ไซมอน 17 ปีหลังจากที่ทั้งสองค้นพบร่าง และสามีของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว |
นอกจากนี้ ยังมีการต่อสู้ทางกฎหมายยืดเยื้อยาวนานโดยผู้ค้นพบ เฮลมุทและเอริกา ไซมอน สำหรับรางวัลตอบแทนที่เหมาะสม หลังจากคำพิพากษาหลายศาล รัฐบาลท้องถิ่นตกลงที่จะจ่ายเงิน 150,000 [[ยูโร]] ให้กับเอริกา ไซมอน 17 ปีหลังจากที่ทั้งสองค้นพบร่าง และสามีของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว<ref name="BBC 20080929">{{citation|title='Iceman' row ends after 17 years|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/europe/7643286.stm|publisher=[[BBC News]]|date=29 September 2008}}.</ref><ref>{{citation|author=Nick Squires|title=Oetzi The Iceman's discoverers finally compensated: A bitter dispute over the payment of a finder's fee for two hikers who discovered the world famous Oetzi The Iceman mummy has finally been settled|url=http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/europe/austria/3105153/Oetzi-the-icemans-discoverers-finally-compensated.html|newspaper=[[The Daily Telegraph]]|date=29 September 2008}}.</ref> |
||
== สาเหตุการเสียชีวิต == |
== สาเหตุการเสียชีวิต == |
||
เมื่อ พ.ศ. 2544 การตรวจสอบด้วย[[รังสีเอกซ์]]และ[[การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์|ซีทีสแกน]]พบว่า เอิตซีมีหัวธนูฝังอยู่ในหัวไหล่ซ้ายเมื่อเขาเสียชีวิต และรอยฉีกขนาดเล็กที่เข้ากันบนเสื้อโค้ตของเขา การค้นพบหัวธนูนำให้นักวิจัยคิดว่าเอิตซีเสียชีวิตเพราะเสียเลือดจากบาดแผล ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตแม้ว่าจะมีวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ก็ตาม |
เมื่อ พ.ศ. 2544 การตรวจสอบด้วย[[รังสีเอกซ์]]และ[[การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์|ซีทีสแกน]]พบว่า เอิตซีมีหัวธนูฝังอยู่ในหัวไหล่ซ้ายเมื่อเขาเสียชีวิต<ref>{{citation|author=Stephanie Pain|title=Arrow points to foul play in ancient iceman's death|url=http://technology.newscientist.com/article/dn1080|publisher=New Scientist|date=26 July 2001}}</ref> และรอยฉีกขนาดเล็กที่เข้ากันบนเสื้อโค้ตของเขา<ref name="Mummy Tombs: Scientific Studies">{{citation|author=James M. Deem|title=Ötzi: Iceman of the Alps: scientific studies|url=http://www.mummytombs.com/otzi/scientific.htm|date=updated 3 January 2008|accessdate=6 January 2008}}.</ref> การค้นพบหัวธนูนำให้นักวิจัยคิดว่าเอิตซีเสียชีวิตเพราะเสียเลือดจากบาดแผล ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตแม้ว่าจะมีวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ก็ตาม |
||
การวิจัยต่อไปค้นพบว่าด้ามธนูได้ถูกนำออกไปก่อนที่จะเสียชีวิต และการตรวจสอบร่างอย่างใกล้ชิดได้พบรอยฟกช้ำและรอยบาดบริเวณมือ ข้อมือและหน้าอก หนึ่งในรอยบาดนั้นอยู่ที่โคนนิ้วหัวแม่มือซึ่งลึกลงไปจนถึงกระดูกแต่ไม่มีเวลาที่จะรักษาก่อนหน้าเขาเสียชีวิต |
การวิจัยต่อไปค้นพบว่าด้ามธนูได้ถูกนำออกไปก่อนที่จะเสียชีวิต และการตรวจสอบร่างอย่างใกล้ชิดได้พบรอยฟกช้ำและรอยบาดบริเวณมือ ข้อมือและหน้าอก หนึ่งในรอยบาดนั้นอยู่ที่โคนนิ้วหัวแม่มือซึ่งลึกลงไปจนถึงกระดูกแต่ไม่มีเวลาที่จะรักษาก่อนหน้าเขาเสียชีวิต<ref>{{citation|author=Alok Jha|title=Iceman bled to death, scientists say|url=http://www.guardian.co.uk/science/2007/jun/07/archaeology.internationalnews|newspaper=[[The Guardian]]|date=7 June 2007}}.</ref> |
||
ในปัจจุบัน เป็นที่เชื่อกันว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการโจมตีเข้าที่ศีรษะ นักวิจัยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการสะดุดล้ม หรือจากการถูกตีด้วยก้อนหินจากคนอื่น |
ในปัจจุบัน เป็นที่เชื่อกันว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการโจมตีเข้าที่ศีรษะ นักวิจัยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการสะดุดล้ม หรือจากการถูกตีด้วยก้อนหินจากคนอื่น<ref>{{citation|author=Rory Carroll|title=How Oetzi the Iceman was stabbed in the back and lost his fight for life|url=http://education.guardian.co.uk/higher/humanities/story/0,,671346,00.html|newspaper=[[The Guardian]]|date=21 March 2002}}.</ref> |
||
=== รอยสัก === |
=== รอยสัก === |
||
เป็นที่ชัดเจนว่าเอิตซีมีรอยสักจำนวน 57 รอย<ref> {{Cite web |
|||
| ⚫ | |||
|url= http://dsc.discovery.com/news/2009/07/17/iceman-tattoos.html |
|||
|title=Iceman's tattoos came from fireplace: Discovery News |
|||
|work=dsc.discovery.com |
|||
|accessdate=February 22, 2011 |
|||
| ⚫ | }}</ref> รอยสักเหล่านี้เป็น[[คาร์บอน]] (เขม่า) เหล่านี้เป็นกลุ่มของลายเส้นสั้นขนานตั้งตรงทั้งสองข้างของบั้นเอว เครื่องหมายรูปกากบาทหลังเข่าขวา และเครื่องหมายอีกจำนวนมากรอบข้อเท้าทั้งสองข้าง ซึ่งรอยสักเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการรักษาบำบัดความเจ็บปวดคล้ายกับ[[การฝังเข็ม]] ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง วิธีการเช่นนี้จะมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปีก่อนหน้าการใช้การฝังเข็มที่เก่าแก่ที่สุดในจีน (ราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล)<ref>{{Citation|last=Dorfer|first=L|coauthors=M Moser, F Bahr, K Spindler, E Egarter-Vigl, S Giullén, G Dohr, T Kenner |title=A medical report from the stone age? |journal=The Lancet|year=1999|month=September|volume=354|pages=1023–1025|doi=10.1016/S0140-6736(98)12242-0|url=http://www.utexas.edu/courses/classicalarch/readings/Iceman_Tattoos.pdf|accessdate=25 September 2010|postscript=.|pmid=10501382}}</ref> |
||
== อ้างอิง == |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
[[หมวดหมู่:มัมมี]] |
[[หมวดหมู่:มัมมี]] |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:45, 5 มีนาคม 2554
.jpg){kind=link}
เอิตซี (เยอรมัน: Ötzi) เป็นมัมมี่ธรรมชาติที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ของชายซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 5,300 ปีมาแล้ว[1] ร่างดังกล่าวได้รับการค้นพบโดยนักปีนเขาชาวเยอรมันสองคนในธารน้ำแข็งชนัลสตัล, เอิตซทัลแอลป์ ใกล้กับเฮาสลับยอค บนพรมแดนระหว่างออสเตรียและอิตาลี[2][3] เอิตซีเป็นมัมมีมนุษย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป และได้ให้ภาพใหม่เกี่ยวกับชาวยุโรปยุคสำริด
ได้มีกรณีพิพาททางการทูตเล็กน้อยระหว่างออสเตรียและอิตาลีว่าประเทศใดจะเป็นเจ้าของร่างดังกล่าว ปัจจุบัน ร่างของเขาและทรัพย์สินถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โบราณคดีเซาท์ไทรอลในบอลซาโนในไทรอลใต้
นอกจากนี้ ยังมีการต่อสู้ทางกฎหมายยืดเยื้อยาวนานโดยผู้ค้นพบ เฮลมุทและเอริกา ไซมอน สำหรับรางวัลตอบแทนที่เหมาะสม หลังจากคำพิพากษาหลายศาล รัฐบาลท้องถิ่นตกลงที่จะจ่ายเงิน 150,000 ยูโร ให้กับเอริกา ไซมอน 17 ปีหลังจากที่ทั้งสองค้นพบร่าง และสามีของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว[4][5]
สาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อ พ.ศ. 2544 การตรวจสอบด้วยรังสีเอกซ์และซีทีสแกนพบว่า เอิตซีมีหัวธนูฝังอยู่ในหัวไหล่ซ้ายเมื่อเขาเสียชีวิต[6] และรอยฉีกขนาดเล็กที่เข้ากันบนเสื้อโค้ตของเขา[7] การค้นพบหัวธนูนำให้นักวิจัยคิดว่าเอิตซีเสียชีวิตเพราะเสียเลือดจากบาดแผล ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตแม้ว่าจะมีวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ก็ตาม
การวิจัยต่อไปค้นพบว่าด้ามธนูได้ถูกนำออกไปก่อนที่จะเสียชีวิต และการตรวจสอบร่างอย่างใกล้ชิดได้พบรอยฟกช้ำและรอยบาดบริเวณมือ ข้อมือและหน้าอก หนึ่งในรอยบาดนั้นอยู่ที่โคนนิ้วหัวแม่มือซึ่งลึกลงไปจนถึงกระดูกแต่ไม่มีเวลาที่จะรักษาก่อนหน้าเขาเสียชีวิต[8]
ในปัจจุบัน เป็นที่เชื่อกันว่าการเสียชีวิตเกิดขึ้นจากการโจมตีเข้าที่ศีรษะ นักวิจัยไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการสะดุดล้ม หรือจากการถูกตีด้วยก้อนหินจากคนอื่น[9]
รอยสัก
เป็นที่ชัดเจนว่าเอิตซีมีรอยสักจำนวน 57 รอย[10] รอยสักเหล่านี้เป็นคาร์บอน (เขม่า) เหล่านี้เป็นกลุ่มของลายเส้นสั้นขนานตั้งตรงทั้งสองข้างของบั้นเอว เครื่องหมายรูปกากบาทหลังเข่าขวา และเครื่องหมายอีกจำนวนมากรอบข้อเท้าทั้งสองข้าง ซึ่งรอยสักเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการรักษาบำบัดความเจ็บปวดคล้ายกับการฝังเข็ม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง วิธีการเช่นนี้จะมีอายุอย่างน้อย 2,000 ปีก่อนหน้าการใช้การฝังเข็มที่เก่าแก่ที่สุดในจีน (ราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล)[11]
อ้างอิง
- ↑ Norman Hammond (21 February 2005), "Iceman was wearing 'earliest snowshoes'", The Times
- ↑ James Neill (last updated 27 October 2004), Otzi, the 5,300 year old Iceman from the Alps: pictures & information, สืบค้นเมื่อ 8 March 2007
{{citation}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help). - ↑ "The Discover of Ötzi". South Tyrol Museum of Archaeology.
- ↑ 'Iceman' row ends after 17 years, BBC News, 29 September 2008.
- ↑ Nick Squires (29 September 2008), "Oetzi The Iceman's discoverers finally compensated: A bitter dispute over the payment of a finder's fee for two hikers who discovered the world famous Oetzi The Iceman mummy has finally been settled", The Daily Telegraph.
- ↑ Stephanie Pain (26 July 2001), Arrow points to foul play in ancient iceman's death, New Scientist
- ↑ James M. Deem (updated 3 January 2008), Ötzi: Iceman of the Alps: scientific studies, สืบค้นเมื่อ 6 January 2008
{{citation}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=(help). - ↑ Alok Jha (7 June 2007), "Iceman bled to death, scientists say", The Guardian.
- ↑ Rory Carroll (21 March 2002), "How Oetzi the Iceman was stabbed in the back and lost his fight for life", The Guardian.
- ↑ "Iceman's tattoos came from fireplace: Discovery News". dsc.discovery.com. สืบค้นเมื่อ February 22, 2011.
- ↑ Dorfer, L (1999), "A medical report from the stone age?" (PDF), The Lancet, 354: 1023–1025, doi:10.1016/S0140-6736(98)12242-0, PMID 10501382, สืบค้นเมื่อ 25 September 2010.
{{citation}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=ถูกละเว้น (help)