ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จุฬาราชมนตรี"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{รอการตรวจสอบ}} |
{{รอการตรวจสอบ}} |
||
[[ไฟล์:Aziz_Pitakkhumpol.jpg|thumb|200px|right|นาย[[อาศิส พิทักษ์คุมพล]] <br>[[จุฬาราชมนตรี]]คนปัจจุบัน]] |
|||
'''จุฬาราชมนตรี''' เป็นตำแหน่งฝ่าย[[มุสลิม]]ให้ข้อปรึกษาด้าน[[ศาสนาอิสลาม]]แก่รัฐบาลไทย โดยเฉพาะแก่กรมการศาสนา [[กระทรวงศึกษาธิการ]] มีประวัติมาแต่ครั้ง[[กรุงศรีอยุธยา]] ในทำเนียบศักดินาของ[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]ทำเนียบตำแหน่ง[[ขุนนาง]] ซึ่งในชั้นหลังเรียกว่า "[[กรมท่าขวา]]" มี "พระจุลาราชมนตรี" เป็นหัวหน้าฝ่ายแขก คู่กับ "หลวงโชฎึกราชเศรษฐี" หัวหน้าฝ่ายจีน |
'''จุฬาราชมนตรี''' เป็นตำแหน่งฝ่าย[[มุสลิม]]ให้ข้อปรึกษาด้าน[[ศาสนาอิสลาม]]แก่รัฐบาลไทย โดยเฉพาะแก่กรมการศาสนา [[กระทรวงศึกษาธิการ]] มีประวัติมาแต่ครั้ง[[กรุงศรีอยุธยา]] ในทำเนียบศักดินาของ[[สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ]]ทำเนียบตำแหน่ง[[ขุนนาง]] ซึ่งในชั้นหลังเรียกว่า "[[กรมท่าขวา]]" มี "พระจุลาราชมนตรี" เป็นหัวหน้าฝ่ายแขก คู่กับ "หลวงโชฎึกราชเศรษฐี" หัวหน้าฝ่ายจีน |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:49, 22 สิงหาคม 2553
จุฬาราชมนตรี เป็นตำแหน่งฝ่ายมุสลิมให้ข้อปรึกษาด้านศาสนาอิสลามแก่รัฐบาลไทย โดยเฉพาะแก่กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ มีประวัติมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในทำเนียบศักดินาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทำเนียบตำแหน่งขุนนาง ซึ่งในชั้นหลังเรียกว่า "กรมท่าขวา" มี "พระจุลาราชมนตรี" เป็นหัวหน้าฝ่ายแขก คู่กับ "หลวงโชฎึกราชเศรษฐี" หัวหน้าฝ่ายจีน
จุฬาราชมนตรีในยุคประชาธิปไตย
หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตำแหน่งจุฬาราชมนตรีได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์และเป็นคนในสายสกุลเฉกอะหมัดที่นับถือนิกายชีอะหฺมาตลอด เปลี่ยนมาเป็นการเลือกตั้งโดยตัวแทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและผู้ที่ได้รับเลือกเป็นผู้นับถือนิกายสุหนี่ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของมุสลิมในประเทศไทย
เริ่มแรกในรัฐบาลของนายปรีดี พนมยงค์ ได้รื้อฟื้นตำแหน่งจุฬาราชมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2488 โดยให้เป็นที่ปรึกษาราชการขององค์พระมหากษัตริย์ ในด้านกิจการศาสนาอิสลาม จนกระทั่ง พ.ศ. 2491 รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เปลี่ยนให้จุฬาราชมนตรีเป็นที่ปรึกษากรมการศาสนาในกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากที่พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลามประกาศใช้ ได้มีการระบุไว้ในกฎหมายนี้ว่า จุฬาราชมนตรีเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
- ให้คำปรึกษา และความเห็นต่อทางราชการเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม
- แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบัญญัติศาสนาอิสลาม
- ประกาศผลการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันสำคัญทางศาสนา
- ออกประกาศเกี่ยวกับวินิจฉัยตามบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม
นอกจากนั้น กฎหมายฉบับนี้ ยังให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่มีจุฬาราชมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะมีบทบาทในด้านการบริหารองค์กรศาสนาอิสลามมากกว่าสำนักจุฬาราชมนตรี
ต่อมามีการประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่คือ พระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ ได้รับเลือกให้เป็นจุฬาราชมนตรีเมื่อ พ.ศ. 2540 ขณะมีอายุได้ 82 ปีเศษ เป็นจุฬาราชมนตรีคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งตามกฎหมายฉบับนี้ และเป็นประธานกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยด้วย โดยดำรงตำแหน่งจนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2553
รายนามจุฬาราชมนตรีในประเทศไทย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ รายนามจุฬาราชมนตรีของไทย
อ้างอิง
- เอกราช มูเก็ม. จุฬาราชมนตรี ประวัติศาสตร์ผู้นำไทยมุสลิมจากสมัยอยุธยาถึงยุคทักษิณ. กทม. ร่วมด้วยช่วยกัน. 2549
หน้า 59-65