ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บินหลา สันกาลาคีรี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ช่วยดูหน่อย}}
'''บินหลา สันกาลาคีรี'''
บินหลา สันกาลาคีรี” ชื่อจริงนามสกุลจริงว่า วุฒิชาติ ชุ่มสนิท เกิดที่ภาคใต้ แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ภาคเหนือ เรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ไม่จบ แต่ทำงานหนังสือมาตลอด เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ และเป็นนักเขียนเต็มเวลา เขียนเรื่องสั้น นิยาย วรรณกรรมเยาวชน และสารดคีท่องเที่ยว เรื่องราวส่วนใหญ่ของเขาเป็นเรื่องที่เก็บเกี่ยวจากการเดินทาง (หลายครั้งมีจักรยานเป็นพาหนะ) แต่เขาปฏิเสธแข็งขันว่าไม่ได้เป็นนักเดินทาง ด้วยความที่อยู่ไม่เป็นที่เขาจึงนิยามตนเองว่าเป็น Guest writer นักเขียนผู้มีนิวาสสถานเป็น Guesthouse ซึ่งเขาบอกว่า “ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ปลูกบ้าน เพราะกลัวว่าจะต้องอยู่กับตรงนั้นนานเกินไป มีภาระต้องผ่อน ต้องอดทนกับสิ่งที่แวดล้อมนานเกินไป การที่ผมเช่าบ้านอยู่ผมเปลี่ยนแปลงตนเองง่ายกว่า”
'''บินหลา สันกาลาคีรี''' ชื่อจริงนามสกุลจริงว่า วุฒิชาติ ชุ่มสนิท เกิดที่ภาคใต้ แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ภาคเหนือ เรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ไม่จบ แต่ทำงานหนังสือมาตลอด เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ และเป็นนักเขียนเต็มเวลา เขียนเรื่องสั้น นิยาย วรรณกรรมเยาวชน และสารดคีท่องเที่ยว เรื่องราวส่วนใหญ่ของเขาเป็นเรื่องที่เก็บเกี่ยวจากการเดินทาง (หลายครั้งมีจักรยานเป็นพาหนะ) แต่เขาปฏิเสธแข็งขันว่าไม่ได้เป็นนักเดินทาง ด้วยความที่อยู่ไม่เป็นที่เขาจึงนิยามตนเองว่าเป็น Guest writer นักเขียนผู้มีนิวาสสถานเป็น Guesthouse ซึ่งเขาบอกว่า “ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ปลูกบ้าน เพราะกลัวว่าจะต้องอยู่กับตรงนั้นนานเกินไป มีภาระต้องผ่อน ต้องอดทนกับสิ่งที่แวดล้อมนานเกินไป การที่ผมเช่าบ้านอยู่ผมเปลี่ยนแปลงตนเองง่ายกว่า”

นิยายมันเป็นการทำงานของความคิด แล้วเราก็เลือกรูปแบบการนำเสนอ ตั้งใจว่าภายใน 2 ปีนี้ผมคงไม่ทำอย่างอื่น นอกจากนิยาย เวลามีความคิดสิ่งใดขึ้นมาก็จะมองหาแต่รูปแบบนิยายมาถ่ายทอดความคิดนั้น ผมเชื่อมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนว่า อยากจะเป็นนักข่าว ผมเขียนเรื่องสั้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมฯ แต่เรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ครั้งแรกตอนปี 1 พ.ศ 2527 ก็ค่อนข้างจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้เกิดความเชื่อมั่นว่าน่าจะเขียนหนังสือได้ เป็นความเข้าใจผิดไปเอง เพราะกว่าที่ผมจะได้เขียนหนังสือจริงๆ ก็หลายปีต่อมา เรื่องสั้นเรื่องแรกของผมรวมเล่มปี 2533 ประมาณ 7 ปีหลังจากเขียนหนังสือ ขณะนั้นเป็นนักข่าว เริ่มถามตนเองว่าอยากเป็นนักข่าวหรือนักเขียนกันแน่ เพราะนักเขียนกับนักข่าวจะไปคนละทาง แม้จะใช้ปากกาเหมือนกัน นักข่าวเป็นคนนำเสนอความจริงที่ถูกคนอื่นสร้างขึ้นในนาทีนั้น ไม่สามารถกำหนดการเสนอเองได้ ผู้อื่นเป็นคนกำหนด สำหรับนักเขียนนำเสนอความจริงที่เรากำหนด อาจจะเป็นความจริงเมื่อ 5 ปีที่แล้วหรือ 10 ปีที่แล้ว หรือ 50 ปีข้างหน้า ที่เรานำมาเสนอในวันนี้
"นิยายมันเป็นการทำงานของความคิด แล้วเราก็เลือกรูปแบบการนำเสนอ ตั้งใจว่าภายใน 2 ปีนี้ผมคงไม่ทำอย่างอื่น นอกจากนิยาย เวลามีความคิดสิ่งใดขึ้นมาก็จะมองหาแต่รูปแบบนิยายมาถ่ายทอดความคิดนั้น ผมเชื่อมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนว่า อยากจะเป็นนักข่าว ผมเขียนเรื่องสั้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมฯ แต่เรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ครั้งแรกตอนปี 1 พ.ศ 2527 ก็ค่อนข้างจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้เกิดความเชื่อมั่นว่าน่าจะเขียนหนังสือได้ เป็นความเข้าใจผิดไปเอง เพราะกว่าที่ผมจะได้เขียนหนังสือจริงๆ ก็หลายปีต่อมา เรื่องสั้นเรื่องแรกของผมรวมเล่มปี 2533 ประมาณ 7 ปีหลังจากเขียนหนังสือ ขณะนั้นเป็นนักข่าว เริ่มถามตนเองว่าอยากเป็นนักข่าวหรือนักเขียนกันแน่ เพราะนักเขียนกับนักข่าวจะไปคนละทาง แม้จะใช้ปากกาเหมือนกัน นักข่าวเป็นคนนำเสนอความจริงที่ถูกคนอื่นสร้างขึ้นในนาทีนั้น ไม่สามารถกำหนดการเสนอเองได้ ผู้อื่นเป็นคนกำหนด สำหรับนักเขียนนำเสนอความจริงที่เรากำหนด อาจจะเป็นความจริงเมื่อ 5 ปีที่แล้วหรือ 10 ปีที่แล้ว หรือ 50 ปีข้างหน้า ที่เรานำมาเสนอในวันนี้
ความจริงของผมไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นสัจจะ เป็นกระบวนการคิดที่ต้องจริง สมมติถามว่านิยายวิทยาศาตร์เป็นความจริงไหม ผมว่าจริง เรื่องเพ้อฝันนั้นไม่จริง แต่เรื่องจินตนาการน่ะจริง เส้นแบ่งเรื่องนี้ละเอียดอ่อนแต่ที่สุดแล้ว นักเขียนจะเป็นผู้นำเสนอความจริงออกมาไม่ใช่ส่วนเพ้อฝัน” บินหลาพูดถึงแนวคิดการทำงานของเ

ความจริงของผมไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นสัจจะ เป็นกระบวนการคิดที่ต้องจริง สมมติถามว่านิยายวิทยาศาตร์เป็นความจริงไหม ผมว่าจริง เรื่องเพ้อฝันนั้นไม่จริง แต่เรื่องจินตนาการน่ะจริง เส้นแบ่งเรื่องนี้ละเอียดอ่อนแต่ที่สุดแล้ว นักเขียนจะเป็นผู้นำเสนอความจริงออกมาไม่ใช่ส่วนเพ้อฝัน” บินหลาพูดถึงแนวคิดการทำงานของเ

{{โครงชีวประวัติ}}

[[หมวดหมู่:นักประพันธ์ไทย]]
[[หมวดหมู่:รางวัลซีไรต์]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:43, 9 กรกฎาคม 2549

บินหลา สันกาลาคีรี ชื่อจริงนามสกุลจริงว่า วุฒิชาติ ชุ่มสนิท เกิดที่ภาคใต้ แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ภาคเหนือ เรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ไม่จบ แต่ทำงานหนังสือมาตลอด เป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ หัวหน้ากองบรรณาธิการ และเป็นนักเขียนเต็มเวลา เขียนเรื่องสั้น นิยาย วรรณกรรมเยาวชน และสารดคีท่องเที่ยว เรื่องราวส่วนใหญ่ของเขาเป็นเรื่องที่เก็บเกี่ยวจากการเดินทาง (หลายครั้งมีจักรยานเป็นพาหนะ) แต่เขาปฏิเสธแข็งขันว่าไม่ได้เป็นนักเดินทาง ด้วยความที่อยู่ไม่เป็นที่เขาจึงนิยามตนเองว่าเป็น Guest writer นักเขียนผู้มีนิวาสสถานเป็น Guesthouse ซึ่งเขาบอกว่า “ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ปลูกบ้าน เพราะกลัวว่าจะต้องอยู่กับตรงนั้นนานเกินไป มีภาระต้องผ่อน ต้องอดทนกับสิ่งที่แวดล้อมนานเกินไป การที่ผมเช่าบ้านอยู่ผมเปลี่ยนแปลงตนเองง่ายกว่า”

"นิยายมันเป็นการทำงานของความคิด แล้วเราก็เลือกรูปแบบการนำเสนอ ตั้งใจว่าภายใน 2 ปีนี้ผมคงไม่ทำอย่างอื่น นอกจากนิยาย เวลามีความคิดสิ่งใดขึ้นมาก็จะมองหาแต่รูปแบบนิยายมาถ่ายทอดความคิดนั้น ผมเชื่อมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนว่า อยากจะเป็นนักข่าว ผมเขียนเรื่องสั้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมฯ แต่เรื่องสั้นได้ตีพิมพ์ครั้งแรกตอนปี 1 พ.ศ 2527 ก็ค่อนข้างจะเป็นแรงกระตุ้นที่ดีให้เกิดความเชื่อมั่นว่าน่าจะเขียนหนังสือได้ เป็นความเข้าใจผิดไปเอง เพราะกว่าที่ผมจะได้เขียนหนังสือจริงๆ ก็หลายปีต่อมา เรื่องสั้นเรื่องแรกของผมรวมเล่มปี 2533 ประมาณ 7 ปีหลังจากเขียนหนังสือ ขณะนั้นเป็นนักข่าว เริ่มถามตนเองว่าอยากเป็นนักข่าวหรือนักเขียนกันแน่ เพราะนักเขียนกับนักข่าวจะไปคนละทาง แม้จะใช้ปากกาเหมือนกัน นักข่าวเป็นคนนำเสนอความจริงที่ถูกคนอื่นสร้างขึ้นในนาทีนั้น ไม่สามารถกำหนดการเสนอเองได้ ผู้อื่นเป็นคนกำหนด สำหรับนักเขียนนำเสนอความจริงที่เรากำหนด อาจจะเป็นความจริงเมื่อ 5 ปีที่แล้วหรือ 10 ปีที่แล้ว หรือ 50 ปีข้างหน้า ที่เรานำมาเสนอในวันนี้

ความจริงของผมไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็นสัจจะ เป็นกระบวนการคิดที่ต้องจริง สมมติถามว่านิยายวิทยาศาตร์เป็นความจริงไหม ผมว่าจริง เรื่องเพ้อฝันนั้นไม่จริง แต่เรื่องจินตนาการน่ะจริง เส้นแบ่งเรื่องนี้ละเอียดอ่อนแต่ที่สุดแล้ว นักเขียนจะเป็นผู้นำเสนอความจริงออกมาไม่ใช่ส่วนเพ้อฝัน” บินหลาพูดถึงแนวคิดการทำงานของเ