พายุโซนร้อนกำลังแรงวาชิ (พ.ศ. 2554)
พายุโซนร้อน (JMA) | |||
---|---|---|---|
พายุโซนร้อน (SSHWS) | |||
พายุโซนร้อนวาชิในทะเลซูลู วันที่ 17 ธันวาคม
| |||
ก่อตัว | 13 ธันวาคม 2554 | ||
สลายตัว | 19 ธันวาคม 2554 | ||
ความเร็วลม สูงสุด |
| ||
ความกดอากาศต่ำสุด | 996 เฮกโตปาสกาล (มิลลิบาร์ 29.41 นิ้วปรอท) | ||
ผู้เสียชีวิต | เสียชีวิต 1,257 คน สูญหาย ≥85 คน | ||
ความเสียหาย | 31.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินปี 2011) | ||
พื้นที่ได้รับ ผลกระทบ |
สหพันธรัฐไมโครนีเชีย, ปาเลา, ฟิลิปปินส์ | ||
ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุไต้ฝุ่นแปซิฟิก พ.ศ. 2554 |
พายุโซนร้อนวาชิ เป็นพายุหมุนเขตร้อนมีพลังอยู่ใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์ วาชิ ซึ่งหมายถึงกลุ่มดาวนกอินทรีในภาษาญี่ปุ่น ขึ้นฝั่งที่เกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม หลังพัดผ่านมินดาเนา พายุโซนร้อนวาชิได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวไทยตอนล่างและขึ้นฝั่งที่ประเทศมาเลเซีย จึงทำให้ภาคใต้ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก
ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาขอบเขตความเสียหายทั้งหมดอันเกิดขึ้นจากวาชิ พายุวาชิเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1,257 คน นับเป็นพายุหมุนที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุดในรอบปี พ.ศ. 2554[1]
ประวัติทางอุตุนิยมวิทยา
[แก้]วันที่ 12 ธันวาคม ศูนย์ร่วมการเตือนภัยไต้ฝุ่นรายงานว่า หย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นห่างจากเกาะกวมไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 945 กิโลเมตร ระหว่างวันนั้น หย่อมได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วก่อน JMA และ JTWC รายงานก่อนหน้าในวันเดียวกันว่า หย่อมได้พัฒนาเป็นดีเปรสชันเขตร้อนแล้ว ในอีก 24 ชั่วโมงต่อมา ดีเปรสชันทวีความรุนแรงขึ้นก่อน JTWC รายงานในวันที่ 14 ธันวาคม ว่า ดีเปรสชันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนแล้ว
ผลกระทบ
[แก้]พายุโซนร้อนวาชิขึ้นฝั่งมินดาเนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประสบพายุหมุนเขตร้อนน้อยครั้ง เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม นำมาซึ่งฝนเทกระหน่ำ 10 ชั่วโมงอันเป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก บางพื้นที่ได้รับฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตรในช่วงนี้ในพื้นที่ซึ่งแม่น้ำเพิ่มระดับแล้ว ชาวบ้านหลายพันคนยังอยู่ที่บ้านเมื่อพายุเข้า เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับพายุ ในช่วงกลางคืน มีหลายร้อยคนเสียชีวิตจากน้ำป่าและดินถล่มหลายครั้งได้ทำลายบ้านตามฝั่งภูเขา ในบางพื้นที่ ระดับน้ำสูงขึ้นถึง 3.3 เมตรในเวลาไม่ถึงชั่วโมง[2] ชาวบ้านถูกบีบให้อพยพจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นบนหลังคาท่ามกลางลมที่พัดเร็วกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นายกเทศมนตรีอิลิแกนเรียกอุทกภัยคราวนี้ว่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของนคร[3] มีชาวบ้านมากกว่า 2,000 คนได้รับการช่วยเหลือจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด แม้จะมีรายงานไม่ได้รับการยืนยันจนถึงเช้าวันที่ 17 ธันวาคมว่า ทั้งหมู่บ้านถูกพัดพาไปกับกระแสน้ำ
ตามข้อมูลของกาชาดฟิลิปปินส์ มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 1,257 คน ขณะที่อีก 85 คนยังสูญหาย[1]
เหตุการณ์ภายหลัง
[แก้]จนถึงเช้าวันที่ 17 มีการวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือขนาดใหญ่ซึ่งรวมการอพยพประชากร 100,000 คน ทหารประมาณ 20,000 นายถูกระดมมาช่วยเหลือในความพยายามฟื้นฟูและอพยพ ยามฝั่งฟิลิปปินส์ถูกส่งไปค้นหาชาวบ้านที่สูญหายหลังหลายหมู่บ้านมีรายงานว่าถูกน้ำพัดพาลงทะเลไป มี 120 คนได้รับการช่วยเหลือนอกชายฝั่งเมืองเอลซัลวาดอร์ จังหวัดมีซามิสโอเรียนตัล และอีก 120 คนใกล้กับเมืองโอปอล[4]
อ้างอิง
[แก้]- ผลกระทบจากพายุโซนร้อนเซนดองและปฏิบัติการในสภาวะฉุกเฉิน - จำนวนผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และมูลค่าความเสียหาย เก็บถาวร 2012-05-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, National Disaster Risk Reduction and Management Council, สืบค้นวันที่ 8 มกราคม 2555
- ↑ 1.0 1.1 "Death toll from Philippine storm reaches 569; hundreds missing". CNN. สืบค้นเมื่อ 18 December 2011.
- ↑ "Storm-triggered floods ravage southern Philippines, kill at least 436". Associated Press. The Washington Post. December 17, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-22. สืบค้นเมื่อ December 17, 2011.
- ↑ "Hundreds die as tropical storm Washi sweeps across Philippines". Associated Press. The Telegraph. December 17, 2011. สืบค้นเมื่อ December 17, 2011.
- ↑ "Storms pound Philippines in the thick of night, kill at least 436". MSNBC. December 17, 2011. สืบค้นเมื่อ December 17, 2011.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ Tropical Storm Washi (2011)