ป้อมนาหรครห์
ป้อมนาหรครห์ | |
---|---|
नाहरगढ़ का किला Nahargarh Fort | |
ด้านบนของกำแพงป้อมและมุขป้อม | |
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | ป้อมปราการ |
สถาปัตยกรรม | ฮินดู, ราชปุต |
เมือง | ชัยปุระ รัฐราชสถาน |
ประเทศ | อินเดีย |
เริ่มสร้าง | ค.ศ. 1734 |
ปรับปรุง | ค.ศ. 1868 |
ผู้สร้าง | มหาราชาสะหวายจัย สิงห์ที่ 2 |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
โครงสร้าง | หินทรายสีแดง |
ป้อมนาหรครห์ (ราชสถานและฮินดี: नाहरगढ़ का किला; อังกฤษ: Nahagarh Fort) เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขาอะระวัลลี โดยตั้งอยู่สูงตระหง่านเหนือนครชัยปุระ ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย
เมื่อร่วมกันกับป้อมอาเมร์และป้อมชยครห์แล้ว ทั้งสามปราการนี้เคยเป็นเสาหลักในการป้องกันการรุกรานจากข้าศึกต่าง ๆ ต่อชัยปุระ โดยแรกป้อมปราการแห่งนี้มีชื่อว่า "สุทรรศนครห์" (Sudarshangarh) แต่ในภายหลังได้กลายมาเป็น "นาหรครห์" ซึ่งหมายความว่า "ถ้ำเสือ" โดยเชื่อกันว่าที่มาของคำว่า "นาหระ" นั้นมาจาก นาหระ สิงห์ โภมิยา (Nahar Singh Bhomia)[1] ซึ่งวิญญาณนั้นได้หลอกหลอนในระหว่างก่อสร้างและเป็นอุปสรรคสำคัญในการก่อสร้างป้อมแห่งนี้[2] จึงได้มีการสร้างศาลภายในบริเวณวัดเพื่อเป็นที่สถิตวิญญาณภายในป้อมแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อป้อมนาหรครห์[3]
ประวัติ
[แก้]สร้างในปีค.ศ. 1734 โดยมหาราชาสไว ชัย สิงห์ที่ 2 กษัตริย์ผู้ก่อตั้งนครชัยปุระ ซึ่งเป็นเมืองที่ป้อมตั้งตระหง่านอยู่บนบริเวณยอดหน้าผาด้านบนของตัวเมือง โดยมีการสร้างกำแพงเมืองขนาดใหญ่และมีความยาวครอบคลุมไปถึงเขาลูกใกล้เคียง รวมเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่เมื่อเชื่อมกับป้อมชยครห์ ซึ่งตั้งอยู่เหนือเมืองหลวงเก่าที่อาเมร์ ถึงแม้ว่าป้อมปราการแห่งนี้จะไม่ได้ถูกรุกรานโดยศัตรูตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ อาทิเช่น การทำสนธิสัญญาสงบศึกกับจักรวรรดิมราฐาเพื่อยุติสงครามในศตวรรษที่ 18[4] และในเหตุการณ์กบฏอินเดีย ค.ศ. 1857 ชาวยุโรปที่อยู่อาศัยในแถบนี้รวมทั้งชาวอังกฤษได้ถูกเชิญขึ้นไปลี้ภัยบนป้อมแห่งนี้โดยกษัตริย์แห่งชัยปุระ มหาราชาสะหวาย ราม สิงห์ เพื่อเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง[5]
ต่อมาในปี ค.ศ. 1868 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของมหาราชา สะหวาย ราม สิงห์ ได้มีการขยายต่อเติมป้อมปราการแห่งนี้ให้กว้างขวางขึ้นอีก และในปี ค.ศ. 1883–ค.ศ. 1892 ได้มีการสร้างพระตำหนักหลายแห่งภายในป้อม โดยพระบัญชาของมหาราชา สะหวาย มัดโฮ สิงห์ โดยมีมูลค่าการก่อสร้างเกือบ 350,000 รูปี[6] โดยเฉพาะพระตำหนักมธเวนทรภวัน (Madhavendra Bhawan) ซึ่งสร้างโดยมหาราชา สไว มัทโห สิงห์ ประกอบไปด้วยส่วนของพระมเหสีและพระสนม และส่วนสำหรับประทับเป็นการส่วนพระองค์ โดยแต่ละห้องจะเชื่อมต่อกันโดยทางเดินกลางซึ่งตกแต่งด้วยงานเขียนภาพปูนเปียก (fresco) นอกจากจุดประสงค์เพื่อป้องกันการรุกรานแล้ว ป้อมนหาการห์ยังเป็นสถานที่ประทับยามที่มหาราชาเสด็จออกล่าสัตว์อีกด้วย[7]
จนกระทั่งเดือนเมษายน ค.ศ. 1944 รัฐบาลแห่งรัฐราชสถานได้ใช้ป้อมแห่งนี้เป็นสถานที่บอกเวลาที่คำนวณได้จากสัมราฏยันตระ (Samrat Yantra) ซึ่งตั้งอยู่ในชันตระมันตระ และจะมีการยิงปืนใหญ่จากป้อมแห่งนี้เป็นอาณัติสัญญาณอีกด้วย
ระเบียงภาพ
[แก้]-
นครชัยปุระเมื่อมองจากบนป้อมนาหรครห์
-
Stone Railing on Roof Terrace
-
อาคารและพระตำหนักภายในป้อม
-
อาคารและพระตำหนักภายในป้อม
-
อาคารและพระตำหนักภายในป้อม
-
พระตำหนักมธเวนทรภวัน
-
พระตำหนักมธเวนทรภวัน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Naravane, M. S. The Rajputs of Rajputana: a glimpse of medieval Rajasthan.
- ↑ "Nahargarh Fort".
- ↑ Jaipur forts and monuments
- ↑ Naravane, M. S. The Rajputs of Rajputana.
- ↑ Sarkar, Jadunath. A History of Jaipur.
- ↑ R. K. Gupta; S. R. Bakshi (2008). Rajasthan Through The Ages: Jaipur Rulers and Administration. ISBN 9788176258418.
- ↑ "Jaipur Hub". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 October 2006. สืบค้นเมื่อ 28 August 2006.