งานศึกษาตามรุ่นย้อนหลัง
งานศึกษาตามรุ่นย้อนหลัง[2] (อังกฤษ: retrospective cohort study, historic cohort study) เป็นการศึกษาที่โดยทั่ว ๆ ไป สำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ยกตัวอย่างเช่น เมื่อใช้ในการแพทย์ เป็นงานที่ตรวจสอบประวัติคนไข้ หรือประวัติการใช้ชีวิต การศึกษาตามรุ่นย้อนหลังมีประวัติเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับการศึกษาตามรุ่นตามแผน (prospective cohort studies)[3]
การออกแบบ
[แก้]งานศึกษาประเภทนี้เป็นงานวิจัยทางการแพทย์ ที่ตรวจสอบประวัติการแพทย์ของกลุ่มบุคคลที่คล้ายคลึงกันในหลาย ๆ ด้าน แต่ต่างกันตรงลักษณะที่เป็นประเด็นการศึกษา (ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มนางพยาบาลที่สูบหรือไม่สูบบุหรี่) เพื่อหาความสัมพันธ์กับผลทางสุขภาพ (เช่นโรคมะเร็ง)[4] ค่า risk ratio (อัตราความเสี่ยง) และ odds ratio จะสามารถใช้ประเมินความเสี่ยงสัมพัทธ์ (relative risk) ได้[5]
ในงานศึกษาประเภทนี้ นักวิจัยจะเก็บข้อมูลที่บันทึกไว้ในอดีต และจะไม่ติดตามคนไข้เหมือนกับที่ทำในการศึกษาตามแผน แต่ว่า จุดเริ่มต้นของงานศึกษา คือการกำหนดกลุ่มการศึกษาที่ได้รับหรือไม่ได้รับปัจจัยที่เป็นประเด็น จะเหมือนกันในงานศึกษาตามรุ่นทุกรูปแบบ เพียงแต่งานศึกษาย้อนหลังจะตรวจดูการเกิดโรคซึ่งเป็นข้อมูลที่มีบันทึกไว้แล้ว ส่วนงานศึกษาตามแผนจะติดตามคนไข้เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเกิดของโรคที่จะมีต่อไปในอนาคต
ฉะนั้น ในงานศึกษาย้อนหลัง เหตุการณ์ทุกอย่างคือ การได้รับปัจจัยที่เป็นประเด็น ช่วงเวลาที่ยังไม่ปรากฏโรค และผลที่เกี่ยวกับโรค (เช่นการเกิดขึ้นของโรค) ล้วนแต่ได้เกิดแล้วในอดีต ดังนั้น จึงเป็นการเก็บข้อมูลที่มีอยู่แล้ว แล้วตรวจสอบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยความเสี่ยงที่เป็นประเด็นการศึกษา กับการเกิดโรคหรือไม่ ส่วนงานศึกษาตามแผนเริ่มจากกลุ่มสองกลุ่มในปัจจุบัน แล้วติดตามในอนาคตต่อไปว่าจะเกิดโรคหรือไม่
มีความสำคัญที่จะเข้าใจว่า ระเบียบวิธีของทั้งการศึกษาตามแผนและการศึกษาย้อนหลังต่างก็เป็นแบบเดียวกัน แต่การศึกษาย้อนหลังทำหลังจากเกิดเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว (post-hoc) ส่วนการศึกษาตามแผนทำไปตามแผน (หรือทำต่อไปในอนาคต) แต่ว่า งานศึกษาย้อนหลังจะใช้เวลาเพียงแค่รวบรวมข้อมูลที่มีอยู่ แล้วตีความข้อมูลเหล่านั้นเท่านั้น[6] เป็นการตรวจสอบปัจจัยความเสี่ยงและปัจจัยความคุ้มครอง เปรียบเทียบกับผลที่เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงเวลาที่เริ่มงานศึกษา[5]
แต่ว่าเป็นการศึกษาที่ต้องอาศัยความระมัดระวังมาก เพราะว่า ข้อผิดพลาดเนื่องจากตัวแปรสับสน (confounding) และความเอนเอียง (bias) ในงานศึกษาย้อนหลัง สามัญกว่าในงานศึกษาตามแผน[5]
ข้อดี
[แก้]งานศึกษาย้อนหลังมีข้อดีเมื่อเทียบกับงานศึกษาตามแผนคือ
- เป็นงานขนาดเล็กกว่า[7]
- ใช้เวลาน้อยกว่า[7]
- ดีกว่าเมื่อต้องวิเคราะห์ผลที่เกิดขึ้นหลายอย่าง[8]
- ในการแพทย์ สามารถใช้ศึกษาโรคหายาก ซึ่งถ้าจะทำในงานตามแผน จะต้องเป็นกลุ่มรุ่นที่ใหญ่มาก[7] เพราะว่าในงานแบบย้อนหลัง คนที่มีโรคชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้น จึงช่วยการศึกษาโรคหายากได้ดีเป็นอย่างยิ่ง[9]
- โดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่างานตามแผน[8] เพราะว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งการได้รับปัจจัยและการเกิดโรคหรือผลอย่างอื่น ได้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น จึงสามารถทุ่มทรัพยากรเพื่อเก็บข้อมูลอย่างเดียว[8]
- มีประโยชน์ทั่ว ๆ ไปเหมือนกับงานศึกษาตามรุ่นทุกอย่าง
ข้อเสีย
[แก้]งานย้อนหลังมีข้อเสียเมื่อเทียบกับงานตามแผน ที่สำคัญรวมทั้ง
- ค่าทางสถิติบางอย่างไม่สามารถวัดได้ และอาจจะเกิดความเอนเอียงอย่างมีนัยสำคัญ ในการเลือกกลุ่มควบคุม[7]
- ความเอนเอียงอย่างอื่น ๆ สามารถมีผลต่อการระลึกข้อมูลการได้รับปัจจัยความเสี่ยงที่เป็นประเด็นการศึกษา ที่ตรงกับความจริง[7] ความเอนเอียงรวมทั้ง ความเอนเอียงโดยการคัดเลือก (selection bias) และ information bias (การวัดค่าผิดจากความจริง) ที่เกิดเพราะทำการย้อนหลัง[10]
- ลำดับเวลาที่ได้รับปัจจัยกับการเกิดของโรค บ่อยครั้งยากที่จะประเมิน[8]
- ผู้วิจัยไม่สามารถควบคุมการประเมินค่าการรับปัจจัย (exposure) และผลที่เกิดขึ้น แต่ต้องอาศัยผู้อื่นในการวัดและการบันทึกค่าที่ถูกต้อง[8] ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาที่สำคัญ เพราะอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำการเปรียบเทียบที่ถูกต้อง ระหว่างการได้รับปัจจัยกับการไม่ได้รับ[8]
- งานย้อนหลังอาจจะต้องมีตัวอย่างมาก ในการศึกษาผลที่หายาก[8]
เชิงอรรถและอ้างอิง
[แก้]- ↑ Meirik, O. "Cohort and Case-Control Studies". ใน Campana, Aldo (บ.ก.). Reproductive Health. Geneva Foundation for Medical Education and Research.
- ↑ "ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑", ให้ความหมายของ "cohort" ว่า "ตามรุ่น" เช่น "cohort analysis" แปลว่า "การวิเคราะห์ตามรุ่น", และ "retrospective study" ว่า "การศึกษาย้อนหลัง"
- ↑ Doll, Richard. "Cohort studies: history of the method II. Retrospective cohort studies" (PDF). History of epidemiology.
- ↑ "Definition of historic cohort study - NCI Dictionary of Cancer Terms".
- ↑ 5.0 5.1 5.2 "Prospective vs. retrospective studies". StatsDirect Limited. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-02. สืบค้นเมื่อ 2015-05-06.
- ↑ doi:10.1136/emj.20.1.54
This citation will be automatically completed in the next few minutes. You can jump the queue or expand by hand บทความเต็มPDF (233 KB) - ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 "retrospective study". สืบค้นเมื่อ 2015-05-06.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 8.5 8.6 Hyde, James N. "Retrospective Cohort Study: Strengths and Weaknesses". Epidemiology and Biostatistics - Lecture 2: Observational Studies. Tufts University. สืบค้นเมื่อ 2015-05-06.
- ↑ "4. The epidemiological approach to investigating disease problems". Food and Agriculture Organization. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-06. สืบค้นเมื่อ 2015-05-06.
- ↑ "Lesson 9: Cohort Study Design; Sample Size and Power Considerations for Epidemiologic Studies". STAT 507: Epidemiological Research Methods. The Pennsylvania State University. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-20. สืบค้นเมื่อ 2015-05-06.