โรม (ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

โรม เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ประเภทดราม่าประวัติศาสตร์ โดยความร่วมมือของประเทศอเมริกา อังกฤษ และอิตาลี สร้างสรรค์โดย บรูโน่ เฮลเลอร์, จอห์น มิลเลียส และวิลเลียม เจ แมกโดนัลด์ ซีซั่นแรกเริ่มฉายทางช่อง HBOในประเทศอเมริกา ระว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 20 พฤศจิกายน 2005 และต่อมาก็ถูกนำฉายที่สหราชอาณาจักรทางช่อง BBC2ระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2005 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2006 และช่อง Rai Due ในอิตาลี ระหว่างวันที่ 17 มีนาคม 2006 ถึงวันที่ 28 เมษายน 2006 ซีซั่นสองฉายทางช่อง HBO ในอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2007 ถึงวันที่ 25 มีนาคม 2007

เรื่องราวในโรม บอกเล่าถึงช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งวุ่นวายโกลาหลในการเปลี่ยนแปลงจากระบอบสาธารณรัฐ สู่ระบอบจักรวรรดิ์ นำไปสู่สงครามกลางเมืองระหว่างพวกหัวรุนแรงกับพวกอนุรักษนิยม เนื้อเรื่องดำเนินผ่านตัวละครสองตัวคือ ลูเซียส วอรินัส และไตตัส พุลโล จากการขับไล่พวกกูลโดยซีซ่าร์จูเลียส ซีซาร์ ไปจนถึงการตายของมาร์ค แอนโทนี่มาร์ค แอนโทนี และการขึ้นครองราชบัลลังก์ของจักรพรรดิ์องค์แรก ออกุสตุส เรตติ้งของซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทางช่อง HBO และช่อง BBCอีกทั้งยังได้รับความสนใจจากสื่อเป็นอย่างมากตั้งแต่เริ่มฉาย โรมยังได้รับรางวัลมากมาย และถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลหลากหลายสาขาจากทั้งสองซีซั่น เฮลเลอร์ พูดไว้ในเดือนธันวาคม 2008 ว่า โรม เวอร์ชันภาพยนตร์กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาบท ซีรีส์เรื่องนี้ถูกถ่ายทำในหลายๆสถานที่ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว ถ่ายทำในสตูดิโอซิเนซิตแต้ในอิตาลี

เนื้อเรื่อง[แก้]

นอกจากเรื่องราวในพงศาวดาร บุคคลในประวัติศาสตร์ อำนาจ เงินทองความมั่งคั่ง และความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ซีรีส์ยังได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงชีวิต โชคชะตา ครอบครัว และความสนิทสนมกันของผู้ชายธรรมดาสองคน คือลูเซียส วอรินัส และไตตัส พุลโล สองนายทหารโรมันที่ถูกกล่าวถึงในหน้าประวัติศาสตร์ใน Caesar’s Commentarii de Bello Gallico ว่าเป็นทหารที่เคยได้รับรางวัลจากซีซ่าร์ในการทำความดีคววามชอบบางอย่าง วอรินัสและพุลโลที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของเฮลเลอร์นี้ ได้ร่วมรู้เห็นและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มากมายในโรม ซึ่งถูกนำเสนอผ่านทางซีรีส์ ซีซั่น 1 เล่าถึงสงครามกลางเมืองของจูเลียส ซีซ่าร์ เมื่อ 49 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งถูกต่อต้านจากสภาซีเนตแห่งโรม ด้วยเกรงว่าความรุ่งโรจน์อย่างต่อเนื่องของเขา นับแต่ที่ตีพวกกูลแตกได้ จะนำหายนะมาสู่ระบอบสาธารณะรัฐในที่สุด เพราะสักวันหากซีซ่าร์ลุ่มหลงในอำนาจเต็มที่จนไม่ฟังเสียงสภาอีกต่อไป ก็อาจจะทำให้เขาแต่งตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางสภาไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องราวในซีซั่นนี้จบลงด้วยการถูกลอบสังหารของซีซ่าร์ในวันที่ 15 มีนาคม 44 ปีก่อนคริสตกาล ระหว่างฉากเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เรายังได้เห็นออกเตเวียนในวัยเด็ก ผู้ถูกลิขิตให้เป็นจักรพรรดิ์องค์แรกของกรุงโรม นามว่า ออกุสตุส ในซีซั่น 2 บอกเล่าถึงเรื่องราวการแก่งแย่งอำนาจระหว่างออกเตเวียนหนุ่มกับมาร์ค แอนโทนี่ ภายหลังจากเหตุการณ์การลอบสังการซีซ่าร์ ในส่วนนี้เริ่มตั้งแต่การตายของซีซ่าร์ 44 ปีก่อนคริสตกาล ไปจนถึงชัยชนะครั้งสุดท้ายเหนือแอนโทนี่ของออกเตเวียนที่แอคติอุม 31 ปีก่อนคริสตกาล

การถ่ายทำ[แก้]

โรม เป็นความร่วมมือกันระหว่าง HBO และ BBC ใช้ทุนสร้างมากกว่า 100 – 110 ล้านดอลล่าส์สหรัฐฯ สำหรับถ่ายทำซีซั่นแรก จำนวน 12 ตอน ตอนละ 1 ชั่วโมง HBO ทุ่มงบไป 85 ล้านดอลล่าส์สหรัฐฯ และ BBC อีก 15 ล้านดอลล่าส์สหรัฐฯ[1] โปรดักชั่นของโรม ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรดักชั่นที่แพงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของทีวีซีรีส์เลยทีเดียว ทุนสร้างถูกใช้ไปกับการสร้างฉากอันน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านเรือนของชาวโรมันจำนวนหลายหลัง ฟอรั่ม และเขตเสื่อมโทรมอันกว้างใหญ่ของเมืองโรมโบราณ ส่วนที่สำคัญยิ่งของฉากเหล่านี้ถูกทำลายด้วยเพลิงไฟในเวลาต่อมา ซึ่งเผาไหม้ส่วนหนึ่งของสตูดิโอซิเนตซิตแต้ ไปเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2007 จากการรายงานของ HBO เหตุเพลิงไหม้นี้เริ่มขึ้นหลังจากที่พวกเขาถ่ายทำซีซั่น 2 เสร็จสิ้นแล้ว ในซีรีส์นี้ยังได้ใช้ตัวประกอบมากมายที่ทำงานด้านนั้นเป็นอาชีพจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น นักแสดงที่ปรากฏในซีรีส์ที่ทำงานเป็นคนขายเนื้อบนถนนในกรุงโรม ในชีวิตจริงเขาก็ทำอาชีพเป็นคนขายเนื้อจริงๆ

การตัดต่อ[แก้]

BBC ได้ตัดสินใจตัดต่อ 3 ตอนแรกใหม่ใน season 1 ( กำกับโดยไมเคิล แอบเทด ทั้งหมด ) ให้รวมเหลือเพียง 2 ตอน BBC อ้างว่า เป็นเพราะผู้ชมในอังกฤษคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ของโรมมากกว่าคนอเมริกัน ดังนั้นการปูพื้นเรื่องราวที่มากเกินไปนั้นจึงไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม แอบเทดได้ออกมาอ้างว่า จุดมุ่งหมายที่แท้จริงที่ทำอย่างนั้นคือการเรียกเรตติ้งต่างหาก โดยการเพิ่มฉากรุนแรง และฉากร่วมเพศอย่างโจ๋ครึมเข้าไปมากขึ้น ในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Timesไมเคิล แอบเทดกล่าวว่า[2] “ผมหัวเสียจริงๆเลยกับ BBC ที่ตัดรวมเอาสามตอนแรกของผมให้เหลือแค่สองตอน ทำอย่างนั้นน่ะ เท่ากับตัดเอาเรื่องราวทางการเมืองที่สำคัญๆไปเยอะเลยทีเดียวเชียว และที่ทำให้ผมโมโหอย่างมากก็คือการที่พวกเขาบอกผมว่า การตัดนั้นเป็นการตัดสินใจของ BBC เอง เพราะพวกเขาคิดว่าคนดูอังกฤษมีความรู้พื้นฐานทางประวัติศาสตร์เรียบร้อยแล้ว แต่นั่นมันจะให้คนดูติดตามเนื้อเรื่องได้ยากขึ้นล่ะมากกว่า”

การเผยแพร่[แก้]

โรมเริ่มฉายที่สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2005 ทางช่อง Wadsworth Theatre ในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย HBO นำตอน “The Stolen Eagle” ออกฉาย และในสี่วันต่อมา ในวันที่ 28 สิงหาคม 2005 จากรายงานของระบบเรตติ้งนีลเซ่น ระบุว่า “The Stolen Eagle” มีผู้ชมทั้งสิ้น 3.8 ล้านคน และมากที่สุดคือ 8.9 ล้านคนในการออกฉาย 11 ช่อง และขึ้นไปแตะที่ตัวเลข 9.1 ล้านในวันอาทิตย์[3][4] หลังจากฉายไปได้แค่ 3 ตอนแรกเท่านั้น HBO ก็ออกมาประกาศว่าจะสร้างซีซั่น 2 ในปี 2006 เพื่อนำออกฉายในเดือนมีนาคม 2007 เมื่อซีซั่น 1 จบลง สรุปโดยรวมแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้มีสถิติคนดูมากกว่า 7 ล้านคนต่อสัปดาห์เลยทีเดียวเฉพาะในอเมริกา[5] ซีซั่น 2 พรีเมียร์ในวันที่ 14 มกราคม 2007 ด้วยการฉายตอนแรก เรียกผู้ชมได้ถึง 7.5 ล้านคน และตอนสุดท้ายออกฉายในวันที่ 25 มีนาคม 2007 ในอเมริกา ยอดตัวเลขทั้งหมดที่ HBO ใช้ในการโปรโมตซีรีส์เรื่องโรมคือ 10 ล้านดอลล่าส์สหรัฐฯ HBO ได้รับการสนับสนุนจากอินเทอร์เน็ต เบราว์เซอร์ Mozilla Firefox ในการใช้เครื่องหมายการค้าของซีรีส์เรื่องนี้ในการโปรโมต บริษัทที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง Mozilla กับ HBO ได้ทำสกินให้ดาวน์โหลด สำหรับ Firefox เป็นธีมประจำรูปโรม

การยกเลิก[แก้]

คริส อัลเบรชท์ ประธานกรรมการ HBO ออกมาแถลงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2006 ว่า ซีซั่น 2 ของโรม จะเป็นซีซั่นสุดท้าย โดยกล่าวว่า ซีรีส์เรื่องนี้ ( ซึ่งถูกขนานนามโดย Broadcast & Cable ว่า “แพงหูฉี่” ) อยู่ภายใต้สัญญา 2 ปี กับ BBC ซึ่งคงจะเป็นเรื่องลำบากสำหรับ BBC ที่จะขยายสัญญาต่อไป เนื่องจากทุนสร้างของซีรีส์เรื่องนี้สูงมาก[6][7]

เฮลเลอร์กล่าวว่า “ผมเพิ่งจะมารู้ว่าซีรีส์ถูกยกเลิกตอนที่กำลังเขียนซีซั่นสองมาได้ครึ่งทางแล้ว ที่ผมวางแผนไว้คือ ซีซั่นสองจะจบลงด้วยการตายของบรูตุส ซีซั่นสามกับสี่ เนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปที่อียิปต์ และซีซั่นห้าจะเป็นการลุกฮือของชาวยิวในปาเลสไตน์ แต่เพราะซีซั่นสองถูกตัดเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้ว ผมเลยต้องรวบเอาซีซั่นสามกับสี่มาไว้ในซีซั่นสอง ซึ่งมันรวบรัดมากจริงๆ เมื่อมองว่าที่จริงแล้วยังมีอะไรอีกมากในประวัติศาสตร์ให้พูดถึง”[4]


โรม เวอร์ชันภาพยนตร์[แก้]

ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2008 จากการสัมภาษณ์ของ Movieweb.com นักแสดงเรย์ สตีเวนสัน ( รับบทไตตัส พุลโล ) กล่าวว่า โรมเวอร์ชันภาพยนตร์อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งเฮลเลอร์กำลังเขียนบทอยู่[8] เฮลเลอร์ได้ออกมายืนยันในเรื่องนี้อีกทีในเดือนธันวาคม 2008 ว่ามี “การพูดถึงการสร้างเวอร์ชันภาพยนตร์” จริง[9]

อ้างอิง[แก้]