แย้สงขลา
แย้สงขลา | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | สัตว์ |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง |
ชั้น: | Reptilia |
อันดับ: | Squamata |
อันดับย่อย: | Lacertilia |
วงศ์: | Agamidae |
วงศ์ย่อย: | Leiolepidinae |
สกุล: | Leiolepis |
สปีชีส์: | L. boehmei |
ชื่อทวินาม | |
Leiolepis boehmei Darevsky & Kupriyanova, 1993 | |
ช่วงการแพร่กระจายพันธุ์ แย้สงขลา[2] |
แย้สงขลา[3] (อังกฤษ: Böhme’s Butterfly Lizard; ชื่อวิทยาศาสตร์: Leiolepis boehmei) เป็นสัตว์เลี้อยคลานเฉพาะถิ่นของประเทศไทย จัดอยู่ในวงศ์กิ้งก่า มีถิ่นอาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา และไปทางใต้สุดถึงจังหวัดปัตตานี[4][5] มีลักษณะเฉพาะคือ มีเพียงเพศเมียล้วน ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของแย้สองชนิด และแย้สงขลาเป็นแย้ชนิดเดียวในประเทศไทยที่สืบพันธุ์โดยไม่ผสมพันธุ์ ลักษณะโดยทั่วไปของแย้สงขลาคือ ผิวสีน้ำตาลอ่อน ลายจุด กลางหลังมีแถบสีเหลืองอ่อน 2 แถบ และที่สีข้างอีกข้างละ 1-2 แถบ สีข้างที่แบนออกและมีสีิค่อนข้างสด
อนุกรมวิธาน
[แก้]แย้สงขลา (Leiolepis boehmei) ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี พ.ศ. 2536 โดยนักสัตววิทยาชาวรัสเซียอิลยา เซอกีวิช ดาเรฟสกี (Ilya Sergeevich Darevsky) และละริสา อันดรีฟนา คูปริยาโนวา (Larisa Andreevna Kupriyanova)[3] จากมหาวิทยาลัยเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อเป็นเกียรติแก่ Wolfgang Böhme นักสัตววิทยาชาวเยอรมัน[6] สกุลแย้ (Leiolepis) 4 ชนิดที่พบในประเทศไทย คือ แย้ใต้ (L. belliana), แย้มลายู (L. triploida), แย้อีสาน (L. rubritaeniata) และ แย้สงขลา (L. boehmei) จากทั้งหมดอย่างน้อย 9 ชนิดทั่วโลก จากข้อมูลในปัจจุบันแย้สงขลาเป็นแย้ชนิดเดียวในประเทศไทยที่เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นและมีการสืบพันธุ์โดยไม่ผสมพันธุ์ (asexual spicies - การสืบพันธุ์ภายในตัวเอง)[6]
จากการวิเคราะห์ mtDNA พบว่าแย้สงขลา น่าจะเป็นแย้ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ (Hybridization) ของ 2 สายพันธุ์ที่เป็นญาติใกล้ชิดกัน[7] คือ Leiolepis guttata (ต้วเมีย) กับ Leiolepis reevesii (ต้วผู้)[7][6] และมีไมโครโครโมโซมเพียง 11 คู่ (แย้ทั่วไปมี 12 คู่)[8] แย้สงขลาอาจสนับสนุนสมมติฐานของการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เมื่อ 10,500 ปีก่อน ที่สันนิษฐานว่าอ่าวไทยเคยมีขนาดแคบกว่าในปัจจุบัน และสันนิษฐานว่าเกาะไหหลำมีแผ่นดินเชื่อมต่อกับตอนกลางของเวียดนามเมื่อ 18,000 ปีก่อน การเชื่อมต่อของแผ่นดินเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่ของแย้ 2 สายพันธุ์ข้างต้นและเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์เป็น Leiolepis boehmei ซึ่งอพยพข้ามฝั่งอ่าวไทยไปถึงบริเวณที่เป็นสงขลาในปัจจุบัน และเป็น Leiolepis guentherpetersi[9] ที่พบในชายฝั่งทะเลของเวียดนามตอนกลาง ผลของการผสมข้ามสายพันธุ์เกิดเป็น 2 สายพันธุ์หลังซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับโดยเฉพาะการเป็นสัตว์ที่สืบพันธุ์โดยไม่ผสมพันธุ์
การแพร่กระจายพันธุ์และถิ่นที่อยู่
[แก้]พบได้ในประเทศไทยเท่านั้น แพร่กระจายพันธุ์ในช่วงบริเวณภาคใต้ตั้งแต่ นครศรีธรรมราช สงขลา[10] และเขตรอยต่อกับปัตตานี[4][6] อาศัยตามพื้นที่ชายฝั่งทะเล[11] หรือพื้นที่ราบที่มีดินปนทราย โดยเฉพาะตามพื้นทรายที่ดอนในป่าเสม็ดใกล้ทะเล[12]
ลักษณะทางชีววิทยาและพฤติกรรม
[แก้]แย้สงขลา มีลำตัวแบน หางราบ สีข้างที่แบนออกและมีสีิค่อนข้างสด แต่เนื่องจากเป็นเพศเมียล้วน ทำให้ดูทึม ๆ เมื่อเทียบกับแย้ชนิดอื่น[13] ผิวสีน้ำตาลอ่อน ลายจุดสีเหลืองขอบดำ กลางหลังมีแถบสีเหลืองอ่อน 2 แถบ และที่สีข้างอีกข้างละ 1-2 แถบ ความยาวลำตัวประมาณ หางยาวกว่าลำตัวเกินกว่า 2 เท่า โคนหางแบนและแผ่บานออก สีข้างแผ่ขยาย ไม่มีแผงหนามที่สันหลัง
แย้สงขลา เป็นแย้ที่มีเพศเดียว คือ ตัวเมีย เท่านั้น (unisexual)[12][14] ทำให้ไม่มีพังผืดด้านข้างที่กางออกได้ แบบในแย้ตัวผู้ชนิดอื่น
นิเวศวิทยาและการอนุรักษ์
[แก้]มีช่วงการแพร่กระจายพันธุ์ที่แคบ (ประมาณ 17447 ตร.กม.) และเฉพาะถิ่น อีกทั้งจำนวนที่ลดลงจากการสูญเสียถิ่นอาศัยโดยการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการถูกนำไปบริโภคในท้องถิ่น ทำให้ถูกจัดสถานะสิ่งมีชีวิตที่เกือบอยู่ในข่ายใกล้การสูญพันธุ์ (VU)[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ IUCN (2017-05-22). "Leiolepis boehmei: Duengkae, P., Sumontha, M., Trivalarait, P., Cota, M. & Thaksintham, W.: The IUCN Red List of Threatened Species 2018: e.T99931118A99931123" (ภาษาอังกฤษ). doi:10.2305/iucn.uk.2018-2.rlts.t99931118a99931123.en.
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
(help) - ↑ Parks, Creative Commons Attribution-ShareAlike 4 0 International Thai National. "Leiolepis boehmei, Boehme's butterfly lizard". Thai National Parks (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ 3.0 3.1 Parks, Creative Commons Attribution-ShareAlike 4 0 International Thai National. "Leiolepis boehmei, Boehme's butterfly lizard". Thai National Parks (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ 4.0 4.1 4.2 IUCN (2017-05-22). "Leiolepis boehmei: Duengkae, P., Sumontha, M., Trivalarait, P., Cota, M. & Thaksintham, W.: The IUCN Red List of Threatened Species 2018: e.T99931118A99931123" (ภาษาอังกฤษ). doi:10.2305/iucn.uk.2018-2.rlts.t99931118a99931123.en.
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
(help) - ↑ Tanya Chan-ardJarujin NabhitabhataJohn W. K. Parr. A Field Guide to the Reptiles of Thailand. Oxford University Press, มกราคม 2558.
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 "Leiolepis boehmei". The Reptile Database.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ 7.0 7.1 Grismer et al. Multiple origins of parthenogenesis, and a revised species phylogeny for the Southeast Asian butterfly lizards, Leiolepis. Biological Journal of the Linnean Society. 25 พฤษภาคม 2557.
- ↑ วรัญญา อรัญวาลัย. ความหลากหลายของชนิดและลักษณะพื้นที่อาศัยของแย้ในประเทศไทย.[ลิงก์เสีย] 2546.
- ↑ Grismer, Jesse L.; Bauer, Aaron M.; Grismer, L. Lee; Thirakhupt, Kumthorn; Aowphol, Anchelee; Oaks, Jamie R.; Wood, Perry L.; Onn, Chan Kin; Thy, Neang; Cota, Micheal; Jackman, Todd (2014-12-01). "Multiple origins of parthenogenesis, and a revised species phylogeny for the Southeast Asian butterfly lizards, Leiolepis". Biological Journal of the Linnean Society (ภาษาอังกฤษ). 113 (4): 1080–1093. doi:10.1111/bij.12367. ISSN 0024-4066.
- ↑ "Leiolepis boehmei". iNaturalist.
- ↑ กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า, สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า. "แย้สงขลา - สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า". www.thaiwildlife.info.
- ↑ 12.0 12.1 "อนุรักษ์แย้..สัตว์ที่น่ารัก เพาะเลี้ยงไว้ ณ เขาเขียว". www.thairath.co.th. 2009-10-20.
- ↑ "Leiolepis boehmei | Фотобанк ГеоФото/GeoPhoto | GetImages Group". geophoto.ru.[ลิงก์เสีย]
- ↑ ""แย้ " ในโครงการพระราชดำริ "สมเด็จพระเทพฯ"". www.rspg.org.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)