เหตุระเบิดที่มัสยิดในกอนดอซ พ.ศ. 2564
| เหตุระเบิดที่มัสยิดในกุนดุซ พ.ศ. 2564 | |
|---|---|
| เป็นส่วนหนึ่งของ เหตุโจมตีในอัฟกานิสถาน พ.ศ. 2564 และความขัดแย้งระหว่างตอลิบาน–รัฐอิสลาม | |
| สถานที่ | มัสยิดกอซาร์–อี–ซายัต อบัต, กุนดุซ, ประเทศอัฟกานิสถาน |
| พิกัด | 36°43′41″N 68°52′35″E / 36.72806°N 68.87639°E |
| วันที่ | 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564 (UTC+04:30) |
| เป้าหมาย | นักแสวงบุญชีอะฮ์ |
| ประเภท | ระเบิดฆ่าตัวตาย |
| ตาย | 50+ คน[1] |
| เจ็บ | 143 คน[1] |
| ผู้ก่อเหตุ | รัฐอิสลาม – จังหวัดโฆรอซอน[2] |
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564 รัฐอิสลาม - จังหวัดโฆรอซอน (IS-KP) กระทำการระเบิดฆ่าตัวตายที่มัสยิดชีอะฮ์ กอซาร์–อี–ซายัต อบัต ในกุนดุซ ซึ่งเป็นเมืองของประเทศอัฟกานิสถาน[3][4] จากเหตุระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 50 คนและบาดเจ็บกว่า 100 คน แต่จากการรายงาน มีการประมาณการโดยคณะทำงานสนับสนุนภารกิจสหประชาชาติในประเทศอัฟกานิสถานว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน[5]
เหตุระเบิด
[แก้]เหตุระเบิดเกิดขึ้นระหว่างละหมาดตอนเที่ยงวันศุกร์ประจำสัปดาห์ภายในมัสยิดกอซาร์–อี–ซายัต อบัต[6] ในขณะที่เกิดเหตุ ผู้ร่วมเหตุการณ์อยู่ในระหว่างการละหมาด จากนั้น พวกเขาจึงอพยพและสังเกตมองโดยมีเลือดและผู้เสียชีวิตอยู่ภายในมัสยิด[7] หลังจากนั้น ได้มีการนำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง โดยมีญาติผู้เสียชีวิตมาเฝ้าคอยที่หน้าโรงพยาบาล ภายหลังเหตุระเบิด ฝูงควันลอยตัวเนือทั่วมัสยิด[1] ภาพและวิดีทัศน์ของผู้เสียชีวิตถูกเผยแพร่ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กโดยเป็นเลือดและผู้เสียชีวิตภายในมัสยิดแพร่หลายในสื่อสาธารณะ[8]
ผู้เสียหาย
[แก้]จากการประเมินเบื้องต้นโดยคณะทำงานสนับสนุนภารกิจสหประชาติในประเทศอัฟกานิสถานประมาณการมีผู้เสียชีวิตราว 100 คน โรงพยาบาลภายในเมืองกุนดุซรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 35 คน และบาดเจ็บกว่า 50 คน องค์การแพทย์ไร้พรมแดนรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 12 คน[9] จากรายงานของทางการตอลิบาน มีผู้เสียหายกว่า 100 คนโดยส่วนใหญ่เสียชีวิต[10] ตามการรายงานจากสื่อทางการ ระบุไว้ว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 50 คน และบาดเจ็บ 143 คน[11][1] เจ้าหน้าที่สาธารณสุขภายในเมือง กล่าวว่า อาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 80 คน[2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "At least 55 killed in Afghanistan mosque attack". Kabul, Afghanistan. The Express Tribune. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ 2.0 2.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อABC_1 - ↑ "Suicide bomber kills scores in Afghan mosque attack". Reuters. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 9 October 2021.
A suicide bomber attacked a mosque in Afghanistan's northeastern Kunduz province on Friday, killing scores of worshippers .... Islamic State claimed responsibility for an attack that state-run Bakhtar news agency said had killed 46 people and wounded 143.
- ↑ "At least 55 killed in Afghanistan's Kunduz mosque blast: Taliban official". Kabul, Afghanistan. WION. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 9 October 2021.
- ↑ "Afghanistan: Dozens killed as blast hits Kunduz mosque". Al Jazeera. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
The United Nations mission to Afghanistan said in a tweet the blast killed and wounded more than 100 people.
- ↑ Kullab, Samya (8 October 2021). "Taliban official: At least 100 dead, wounded in Afghan blast". AP NEWS (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ Aitken, Peter (8 October 2021). "Afghanistan mosque explosion kills, wounds scores of worshippers". Fox News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ "Suicide attack in Afghanistan mosque? What do we know about the blast so far". Hindustan Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ "Shia mosque bombing kills dozens in Afghan city of Kunduz". [ คน[The Guardian]]. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ Kullab, Samya; Akhgar, Tameem (8 October 2021). "At least 100 dead or wounded in blast at Afghan mosque, police say". The Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2021. สืบค้นเมื่อ 8 October 2021.
- ↑ "Afghanistan updates: ISIS-K claims responsibility for suicide bombing at mosque". Kabul, Afghanistan. ABC News. 8 October 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2021. สืบค้นเมื่อ 9 October 2021.